เปิดใจ “เอ ศุภชัย” นักปั้นมือทองกระแสแผ่ว ปั้นใครก็ไม่เป็นซุป’ตาร์ ลั่นทีเด็ดมีเพียบ รอปล่อยแล้วตะลึง สุดซาดิสต์ปล่อย “ริชชี่” นอยด์แตก หลังโดนผู้จัดติงการแสดง ลั่นอีกฝ่ายบริสุทธิ์เหมือนผ้าขาวเกินไป เตรียมหาวิธีเพิ่มอารมณ์การแสดงและผลักดันให้ทะเยอทะยานกว่าเดิม
โดนเมาท์ว่าชอบเจ้ากี้เจ้าการจัดแจงเรื่องของเด็กในสังกัดทุกอย่างแม้กระทั้งการเลือกคนมาร่วมงานด้วยจนบางครั้งข้ามหน้าข้ามตาผู้หลักผู้ใหญ่ ล่าสุดก็มีกระแสลือว่าเหตุที่ “เดียร์น่า ฟลีโป” ต้องร่วงจากตำแหน่งนางเอกละครเรื่อง “ห้องหุ่น” ทั้งที่ช่อง 3 วางให้ประกบ “ท็อป จรณ โสรัตน์” เป็นเพราะผู้จัดการคนดัง “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ไม่อยากให้สาวเดียร์น่าร่วมงานกับหนุ่มท็อปเพราะมองว่าอีกฝ่ายยังดังไม่พอ และไม่มั่นใจในทีมงานว่าจะทำให้เด็กในสังกัดดังได้ เท่ากับละครเรื่อง “ตามรักคืนใจ” ที่ฟอร์มดีกว่า อีกทั้งยังได้ร่วมงานกับพระเอกหนุ่ม “ณเดชน์ คูกิมิยะ” เมื่อเจอเจ้าตัวจึงสอบถามเรื่องดังกล่าว ซึ่งเอกบอกว่าตนรู้สึกซีเรียสกับข่าวนี้มาก หวั่นหนุ่มท็อปเข้าใจผิดถึงขั้นต้องให้เดียร์น่าช่วยอธิบายให้พระเอกหนุ่มเข้าใจตน นอกจากนี้ยังขอเปิดใจหลัง “ริชชี่ อรเณศ ดีคาบาเลส” โดนผู้จัดดัง “ยุวดี ไทยหิรัญ” ตำหนิว่าไม่ใช้ใจเล่นละครจนฮือฮา พร้อมกระแสปั้นซุป’ตาร์แผ่ว
“เรื่องน้องท็อปพี่เอได้อ่านข่าวแล้วตกใจ พี่เอไม่เคยพูดแบบนี้เลย ข่าวออกมายังไงก็ไม่ทราบ สำหรับเราน้องเราจะเล่นกับใครก็ได้หมดเลย เป็นเรื่องที่ช่องเห็นสมควร บทบาทไหนก็รับได้หมด รับได้หมดทุกบทบาท มันเป็นเรื่องที่เซ้นซิทีฟมาก พี่เอไม่แคร์หรอกถ้าใครจะว่าพี่เอ แต่เราแคร์บุคคลที่สามที่ตกเป็นข่าวที่เขาไม่ทราบเรื่อง อย่างเรื่องนี้พี่เอไม่ได้พูด น้องท็อปก็ถูกโยงเข้ามาว่าพี่เอไม่ชอบเขา แบบนี้แฟนคลับเขาก็เข้าใจผิด แล้วถ้าเขาเข้าใจแบบนั้นแล้วมาอะไรกับพี่เอพี่เอจะทำยังไง พี่เอเลยให้เดียร์น่าช่วยคุยกับท็อปให้หน่อยเพราะโดยส่วนตัวพี่เอไม่เคยคุยกับท็อปเลย ซึ่งสิ่งที่เป็นข่าวไม่เคยออกมาจากคำพูด จากปากของพี่เอเลย”
“เรื่องนี้พี่เอซีเรียสนะครับ เพราะมันเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อหลายบุคคล ถ้าเป็นพี่เอคนเดียวไม่แคร์หรอก จะออกมาแก้ตัวเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เรื่องนี้พี่เอรู้สึกว่ามันส่งผลกระทบต่อตัวน้องทั้งสองคน พี่เอร้อนใจต้องรีบยกหูให้เดียร์น่าช่วยเคลียร์ให้ ตอนนั้นเดียร์น่าเรียนอยู่ด้วยซ้ำพี่เอก็บอกให้ออกมาคุยข้างนอกหน่อยได้ไหมเพราะพี่เอใจร้อนมากสำหรับเรื่องนี้ น้องก็บอกได้ค่ะพี่เอ ก็ฝากเดียร์น่าให้ช่วยเคลียร์กับท็อปให้หน่อย เดียร์น่าก็จัดการไลน์ไปคุยให้ แล้วเดียร์น่าก็โทร.กลับมาบอกว่าพี่ท็อปเข้าใจไม่ได้ว่าอะไรเลย กับเรื่องนี้พี่เอว่าอาจจะเพราะว่าก่อนหน้านี้เดียร์น่าอาจจะเคยมีข่าวได้เล่นละครกับน้องท็อป แต่พอผังเปลี่ยน ปรับบท คนเลยคิดว่าอาจเป็นเพราะพี่เอก็ได้ แต่จริงๆ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ช่องกำหนดและดูเรื่องคิวของนักแสดง พี่เอห่วงในเรื่องเขาทำงาน พี่เอเป็นคนหลังงาน ส่งน้องๆ ไปแสดงหน้างานที่ต่างๆ เวลาทำงานตัวเราเองก็เคยออกงานอยู่บ่อยๆ เวลาเราเจอคนที่มีปัญหา มันก็จะเกิดความไม่สบายใจ เพราะฉะนั้นในฐานะที่เราเป็นคนที่อยู่ที่บ้านพี่เอคิดว่าเราต้องเคลียร์หน้างานให้ดีที่สุด ให้เขาสบายใจที่สุด การที่มันเกิดเรื่องแบบนี้จากตัวเรา เราก็ยิ่งต้องรีบเคลียร์ทันที ให้เวลาที่น้องๆ ออกไปทำงานนอกบ้านได้อย่างมีความสุขที่สุด”
“แล้วที่เดียร์น่าไม่ได้เล่นเรื่องนั้นเป็นเพราะเรื่องของเวลาและความเหมาะสม ตอนนี้เดียร์น่ากำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ต้องเรียนหนัก เราให้ความสำคัญกับเรื่องของการเรียนก่อนเป็นหลัก เรียนจบเมื่อไหร่น้องถึงจะรับละคร 2 เรื่องได้ พี่เอบอกเสมอห้ามทิ้งเรื่องเรียนเพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่ถ้าเรียนเสร็จน้องสามารถรับละคร 2 เรื่องได้ แต่ตอนนี้ยังเรียนอยู่ เลยรับเรื่องเดียวไปก่อน เหมือนกับณเดชน์(ณเดชน์ คูกิมิยะ) ที่ตอนนี้เรียนจบแล้วพี่เอก็ให้เขารับละครปีละ 2 เรื่องตามสัญญา การที่น้องจะได้เล่นเรื่องไหนนั้นทางช่องเป็นคนตัดสินใจว่าคนไหนเหมาะสมกับเรื่องไหนยังไง แต่สุดท้ายช่องก็ต้องดูเรื่องภาวะจำเป็นของเด็กทุกคนก็คือเรื่องของการเรียน เขาจะช่วยดูให้นักแสดงว่าควรจะรับงานยังไงให้นักแสดงของเขายังเรียนหนังสือได้”
ส่วนกรณ “ริชชี่ อรเณศ ดีคาบาเลส” ถูกผู้จัดละคร “ยุ ยุวดี ไทยหิรัญ” ติงเรื่องไม่ใช้ใจทำงาน นักปั้นมือทองบอกน้อมรับในคำติดังกล่าว พร้อมเผยนางเอกใหม่ใสบริสุทธิ์เกินไป ซึ่งตนจะเร่งฝึกให้นางเอกสาวได้มีประสบการณ์ที่หลากหลายมากกว่านี้
“พี่เอคิดว่าอายุน่าจะพูดไปในทางสอนน้อง คือจะอธิบายว่าน้องริชชี่นี่ทางยูม่าได้ขอเราไว้ตั้งแต่เรื่องที่แล้วว่าจะเอาไปเล่นละคร ซึ่งเราก็ได้บอกเขาไปว่าน้องยังไม่พร้อมนะคะ ขอเวลาเรียนแอ็กติ้งก่อน พอเรื่องล่าสุดเราก็บอกว่าเอาไปดู ให้ลองแคสติ้งทุกอย่างทางนั้นก็บอกมาว่าชอบมาก แต่จะบอกว่าการแคสติ้งมันก็ไม่ได้เห็นทุกบทบาทที่ต้องใช้แสดงจริง อย่างฉากเลิฟซีน น้องไม่เคยก็ทำไม่เป็น ในวันแสดงจริงน้องอาจจะทำไม่ได้หรือาจจะไม่ทำในบางเรื่อง ที่บ้านพี่เอสอนเรียนแอ็กติ้งจริงแต่ไม่เคยสอนให้เรียนแอ็กติ้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ พี่เอก็กำลังพิจารณาอยู่ว่าพี่เอควรจะทำยังไงกับเด็กที่มันบริสุทธิ์จริงๆ พี่เอจะบอกกับทุกคนว่าถ้ามันขาวเกินอยู่วงการบันเทิงมันก็ค่อนข้างลำบากเพราะบทบาทมันมีหลากหลาย แต่บางบทที่เหมาะกับเขา เขาก็ทำได้ พี่เอก็มีโอกาสได้คุยกับน้อง น้องก็บอกว่าพยายามเต็มที่ในการทำงานแต่ขอช่วงจังหวะบางเวลางานในบางบทบาทเพื่อให้น้องได้เรียนรู้ ได้มีประสบการณ์ไปเรื่อยๆ”
“อย่างบทถึงเนื้อถึงตัวกันมาก บางทีน้องอาจจะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมของนักกีฬา น้องก็ขอโทษที่ทำให้พี่เอไม่สบายใจ พี่ก็บอกไม่ใช่เลย พี่เอไม่ได้ไม่สบายใจ แต่แค่อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรกันขึ้น เพราะที่ผ่านมาก็มาจะมีแต่คนชมน้องตลอด ทุกคนบอกหมดว่าน้องเป็นเด็กน่ารัก โอเคเลย แต่พอวันสุดท้ายมีเลิฟซีนมันเกิดอะไรกันขึ้น พี่เอก็โทร.ไปหาทางทีมงานแต่ยังไม่ได้คุยกัน แต่กับอายุพี่เอไม่กล้าโทร.ไป พี่เอเกรงใจ พี่เอมองว่าสิ่งที่อายุวดีพูดทำให้น้องได้ไปปรับพัฒนาตัวเอง พี่เอไม่ได้เข้าข้างน้องตัวเองเลย พี่ว่าถ้าใครพูดแล้วเราไม่ฟังเลยคงจะไม่ดี พี่เอก็เรียกมาดุและตักเตือนด้วย ว่าเห็นไหมที่เราให้เรียนไปมันยังไม่พอ กับริชชี่พี่เอก็มองว่าน้องต้องเพิ่มอารมณ์กิเลส รัก โลภ โกรธ หลง ให้มากกว่านี้ ซึ่งน้องเขายังใสไป นางเป็นผู้หญิงใสบริสุทธิ์ เป็นลูกสาวชาววัง นั่งพับเพียบ ร้อยพวงมาลัยที่บ้าน พี่เอว่าริชชี่ก็ต้องทำอย่างอื่นบ้าง ก็คงต้องฝึกน้องอีกไม่มีพ่อแม่คนไหนที่จะทิ้งลูกตัวเองได้หรอกถ้าเขาคลอดมาแล้ว น้องก็เหมือนลูกพี่เอคนหนึ่งเพียงแต่พี่เอไม่ได้คลอดแค่นั้นเอง เราก็พยายามหาแขนงงานที่ตรงและใช่กับเขาให้ดีที่สุด”
“น้องก็นอยด์อยู่แล้วครับ พี่เอก็อยากให้เขานอยด์เพราะเราเลี้ยงลูกแบบซาดิสต์ อยากให้นอยด์มากๆ จะได้เป็นแรงกดดัน ให้ตัวเองทะเยอทะยานเอามาพัฒนาฝีมือในสิ่งที่ตัวเองต้องทำ ไม่ให้หยุดอยู่กับที่ครับอย่างตอนนี้น้องว่าง พักละครอยู่ เราก็พยายามฝึกเขาทุกอย่าง เดินแบบ ถ่ายแบบ ก็จะฝึกเขาไปเรื่อยๆ ถ้าเขายังมีใบหน้าที่สวยงาม มีนิสัยที่ดี และไม่มีข่าวเสื่อมเสียเรื่องยาเสพติด ซึ่งพี่เอจะเน้นชัดมากๆ ว่าเด็กพี่เอจะต้องไม่มีเรื่องเสื่อมเสียเรื่องของยาเสพติด พี่อยากมีคนที่เรียนเก่ง นิสัยดีอยู่ในสังกัดพี่เอ เรื่องความสามารถเดี๋ยวเราก็จะค่อยๆ หากันว่าเขามีความสามารถทางด้านไหนบ้าง”
ปัดพักหลังแผ่วปั้นเด็กไม่ถึงระดับซูเปอร์สตาร์ บอกขอเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ โวทีเด็ดมีเพียบรอปล่อยทีเดียว
“จริงๆ พี่เอว่าซูเปอร์สตาร์ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน พี่เอจะบอกกับทุกคนว่าการที่เราเจอซุปเปอร์สตาร์มันเหมือนเป็นอุบัติเหตุ อย่างรถวิ่งบนท้องถนนมีเป็นล้านคัน แต่จะเกิดอุบัติเหตุเพียงสิบคันถึงร้อยคันต่อหนึ่งวันบนโลกใบนี้ ซูเปอร์สตาร์ก็เหมือนกัน พี่เอพูดเลยว่าทุกวันนี้คนเดินมาหาพี่เอเยอะมากแต่ไม่เอา เพราะรู้สึกว่าถ้ามาตรฐานด้อยกว่าเดิมหรือไม่ได้เท่าเดิมก็อยู่บ้านเฉยๆ ดีกว่า ไม่ก็เอาตัวเองไปออกงานโชว์ตัวยังได้เงินมากกว่า พี่เอรู้สึกว่ารอให้มันใช่จริงๆ ก่อน บางทีอาจจะยังไม่จุติลงมาเกิดเลยก็ได้ บางทีอาจจะต้องจองตั้งแต่อยู่ท้องพ่อท้องแม่ ก็ยังรอได้อยู่ แต่ถ้าปั้นออกมาปริมาณเด็กแต่ไม่มีคุณภาพก็ไม่ใช่ พี่เออยู่ตรงนี้มาสิบกว่าปี พี่เอรู้ว่าการจะทำรายได้มหาศาลให้ตัวเอง เราวางตัวเด็กไว้แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าคนนี้จะดังกว่าคนนี้ จะดังเท่าคนนี้ก็ไม่ได้ต้องทำวิธีไหน บอกได้แค่ว่าตอนนี้เรามีอาวุธอยู่ในมือพร้อมรบค่ะ เรามีเตรียมไว้แล้ว แต่ยังไม่อยากเปิดตัวออกมา พี่ว่ายิงแบบปืนแก๊ปมันไม่สนุกต้องยิงแบบปืนใหญ่ รอให้พร้อมทุกอย่างแล้วปล่อยตู้มทีเดียวดีกว่า คนเห็นแล้วมาจากไหน จุติมาได้ยังไงบนโลกใบนี้ พี่เอไปหามาจากไหน ตอนนี้ก็เลี้ยงอยู่ในบ้าน ว่างๆ ก็ถ่ายภาพนิ่งไว้ เอาไปเรียนหนังสือ เรียนแอ็กติ้ง ดูแลตัวเองให้ดีก่อนดีกว่าเอามาออกงานกะปริบกะปรอยแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
ข่าวจาก : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9570000113167
“เอ” ซาดิสต์ ปล่อย “ริชชี่” นอยด์แตก! ลั่นอีกฝ่ายบริสุทธิ์เกินไปสำหรับโลกมายา
เปิดใจ “เอ ศุภชัย” นักปั้นมือทองกระแสแผ่ว ปั้นใครก็ไม่เป็นซุป’ตาร์ ลั่นทีเด็ดมีเพียบ รอปล่อยแล้วตะลึง สุดซาดิสต์ปล่อย “ริชชี่” นอยด์แตก หลังโดนผู้จัดติงการแสดง ลั่นอีกฝ่ายบริสุทธิ์เหมือนผ้าขาวเกินไป เตรียมหาวิธีเพิ่มอารมณ์การแสดงและผลักดันให้ทะเยอทะยานกว่าเดิม
โดนเมาท์ว่าชอบเจ้ากี้เจ้าการจัดแจงเรื่องของเด็กในสังกัดทุกอย่างแม้กระทั้งการเลือกคนมาร่วมงานด้วยจนบางครั้งข้ามหน้าข้ามตาผู้หลักผู้ใหญ่ ล่าสุดก็มีกระแสลือว่าเหตุที่ “เดียร์น่า ฟลีโป” ต้องร่วงจากตำแหน่งนางเอกละครเรื่อง “ห้องหุ่น” ทั้งที่ช่อง 3 วางให้ประกบ “ท็อป จรณ โสรัตน์” เป็นเพราะผู้จัดการคนดัง “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ไม่อยากให้สาวเดียร์น่าร่วมงานกับหนุ่มท็อปเพราะมองว่าอีกฝ่ายยังดังไม่พอ และไม่มั่นใจในทีมงานว่าจะทำให้เด็กในสังกัดดังได้ เท่ากับละครเรื่อง “ตามรักคืนใจ” ที่ฟอร์มดีกว่า อีกทั้งยังได้ร่วมงานกับพระเอกหนุ่ม “ณเดชน์ คูกิมิยะ” เมื่อเจอเจ้าตัวจึงสอบถามเรื่องดังกล่าว ซึ่งเอกบอกว่าตนรู้สึกซีเรียสกับข่าวนี้มาก หวั่นหนุ่มท็อปเข้าใจผิดถึงขั้นต้องให้เดียร์น่าช่วยอธิบายให้พระเอกหนุ่มเข้าใจตน นอกจากนี้ยังขอเปิดใจหลัง “ริชชี่ อรเณศ ดีคาบาเลส” โดนผู้จัดดัง “ยุวดี ไทยหิรัญ” ตำหนิว่าไม่ใช้ใจเล่นละครจนฮือฮา พร้อมกระแสปั้นซุป’ตาร์แผ่ว
“เรื่องน้องท็อปพี่เอได้อ่านข่าวแล้วตกใจ พี่เอไม่เคยพูดแบบนี้เลย ข่าวออกมายังไงก็ไม่ทราบ สำหรับเราน้องเราจะเล่นกับใครก็ได้หมดเลย เป็นเรื่องที่ช่องเห็นสมควร บทบาทไหนก็รับได้หมด รับได้หมดทุกบทบาท มันเป็นเรื่องที่เซ้นซิทีฟมาก พี่เอไม่แคร์หรอกถ้าใครจะว่าพี่เอ แต่เราแคร์บุคคลที่สามที่ตกเป็นข่าวที่เขาไม่ทราบเรื่อง อย่างเรื่องนี้พี่เอไม่ได้พูด น้องท็อปก็ถูกโยงเข้ามาว่าพี่เอไม่ชอบเขา แบบนี้แฟนคลับเขาก็เข้าใจผิด แล้วถ้าเขาเข้าใจแบบนั้นแล้วมาอะไรกับพี่เอพี่เอจะทำยังไง พี่เอเลยให้เดียร์น่าช่วยคุยกับท็อปให้หน่อยเพราะโดยส่วนตัวพี่เอไม่เคยคุยกับท็อปเลย ซึ่งสิ่งที่เป็นข่าวไม่เคยออกมาจากคำพูด จากปากของพี่เอเลย”
“เรื่องนี้พี่เอซีเรียสนะครับ เพราะมันเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อหลายบุคคล ถ้าเป็นพี่เอคนเดียวไม่แคร์หรอก จะออกมาแก้ตัวเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เรื่องนี้พี่เอรู้สึกว่ามันส่งผลกระทบต่อตัวน้องทั้งสองคน พี่เอร้อนใจต้องรีบยกหูให้เดียร์น่าช่วยเคลียร์ให้ ตอนนั้นเดียร์น่าเรียนอยู่ด้วยซ้ำพี่เอก็บอกให้ออกมาคุยข้างนอกหน่อยได้ไหมเพราะพี่เอใจร้อนมากสำหรับเรื่องนี้ น้องก็บอกได้ค่ะพี่เอ ก็ฝากเดียร์น่าให้ช่วยเคลียร์กับท็อปให้หน่อย เดียร์น่าก็จัดการไลน์ไปคุยให้ แล้วเดียร์น่าก็โทร.กลับมาบอกว่าพี่ท็อปเข้าใจไม่ได้ว่าอะไรเลย กับเรื่องนี้พี่เอว่าอาจจะเพราะว่าก่อนหน้านี้เดียร์น่าอาจจะเคยมีข่าวได้เล่นละครกับน้องท็อป แต่พอผังเปลี่ยน ปรับบท คนเลยคิดว่าอาจเป็นเพราะพี่เอก็ได้ แต่จริงๆ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ช่องกำหนดและดูเรื่องคิวของนักแสดง พี่เอห่วงในเรื่องเขาทำงาน พี่เอเป็นคนหลังงาน ส่งน้องๆ ไปแสดงหน้างานที่ต่างๆ เวลาทำงานตัวเราเองก็เคยออกงานอยู่บ่อยๆ เวลาเราเจอคนที่มีปัญหา มันก็จะเกิดความไม่สบายใจ เพราะฉะนั้นในฐานะที่เราเป็นคนที่อยู่ที่บ้านพี่เอคิดว่าเราต้องเคลียร์หน้างานให้ดีที่สุด ให้เขาสบายใจที่สุด การที่มันเกิดเรื่องแบบนี้จากตัวเรา เราก็ยิ่งต้องรีบเคลียร์ทันที ให้เวลาที่น้องๆ ออกไปทำงานนอกบ้านได้อย่างมีความสุขที่สุด”
“แล้วที่เดียร์น่าไม่ได้เล่นเรื่องนั้นเป็นเพราะเรื่องของเวลาและความเหมาะสม ตอนนี้เดียร์น่ากำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ต้องเรียนหนัก เราให้ความสำคัญกับเรื่องของการเรียนก่อนเป็นหลัก เรียนจบเมื่อไหร่น้องถึงจะรับละคร 2 เรื่องได้ พี่เอบอกเสมอห้ามทิ้งเรื่องเรียนเพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่ถ้าเรียนเสร็จน้องสามารถรับละคร 2 เรื่องได้ แต่ตอนนี้ยังเรียนอยู่ เลยรับเรื่องเดียวไปก่อน เหมือนกับณเดชน์(ณเดชน์ คูกิมิยะ) ที่ตอนนี้เรียนจบแล้วพี่เอก็ให้เขารับละครปีละ 2 เรื่องตามสัญญา การที่น้องจะได้เล่นเรื่องไหนนั้นทางช่องเป็นคนตัดสินใจว่าคนไหนเหมาะสมกับเรื่องไหนยังไง แต่สุดท้ายช่องก็ต้องดูเรื่องภาวะจำเป็นของเด็กทุกคนก็คือเรื่องของการเรียน เขาจะช่วยดูให้นักแสดงว่าควรจะรับงานยังไงให้นักแสดงของเขายังเรียนหนังสือได้”
ส่วนกรณ “ริชชี่ อรเณศ ดีคาบาเลส” ถูกผู้จัดละคร “ยุ ยุวดี ไทยหิรัญ” ติงเรื่องไม่ใช้ใจทำงาน นักปั้นมือทองบอกน้อมรับในคำติดังกล่าว พร้อมเผยนางเอกใหม่ใสบริสุทธิ์เกินไป ซึ่งตนจะเร่งฝึกให้นางเอกสาวได้มีประสบการณ์ที่หลากหลายมากกว่านี้
“พี่เอคิดว่าอายุน่าจะพูดไปในทางสอนน้อง คือจะอธิบายว่าน้องริชชี่นี่ทางยูม่าได้ขอเราไว้ตั้งแต่เรื่องที่แล้วว่าจะเอาไปเล่นละคร ซึ่งเราก็ได้บอกเขาไปว่าน้องยังไม่พร้อมนะคะ ขอเวลาเรียนแอ็กติ้งก่อน พอเรื่องล่าสุดเราก็บอกว่าเอาไปดู ให้ลองแคสติ้งทุกอย่างทางนั้นก็บอกมาว่าชอบมาก แต่จะบอกว่าการแคสติ้งมันก็ไม่ได้เห็นทุกบทบาทที่ต้องใช้แสดงจริง อย่างฉากเลิฟซีน น้องไม่เคยก็ทำไม่เป็น ในวันแสดงจริงน้องอาจจะทำไม่ได้หรือาจจะไม่ทำในบางเรื่อง ที่บ้านพี่เอสอนเรียนแอ็กติ้งจริงแต่ไม่เคยสอนให้เรียนแอ็กติ้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ พี่เอก็กำลังพิจารณาอยู่ว่าพี่เอควรจะทำยังไงกับเด็กที่มันบริสุทธิ์จริงๆ พี่เอจะบอกกับทุกคนว่าถ้ามันขาวเกินอยู่วงการบันเทิงมันก็ค่อนข้างลำบากเพราะบทบาทมันมีหลากหลาย แต่บางบทที่เหมาะกับเขา เขาก็ทำได้ พี่เอก็มีโอกาสได้คุยกับน้อง น้องก็บอกว่าพยายามเต็มที่ในการทำงานแต่ขอช่วงจังหวะบางเวลางานในบางบทบาทเพื่อให้น้องได้เรียนรู้ ได้มีประสบการณ์ไปเรื่อยๆ”
“อย่างบทถึงเนื้อถึงตัวกันมาก บางทีน้องอาจจะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมของนักกีฬา น้องก็ขอโทษที่ทำให้พี่เอไม่สบายใจ พี่ก็บอกไม่ใช่เลย พี่เอไม่ได้ไม่สบายใจ แต่แค่อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรกันขึ้น เพราะที่ผ่านมาก็มาจะมีแต่คนชมน้องตลอด ทุกคนบอกหมดว่าน้องเป็นเด็กน่ารัก โอเคเลย แต่พอวันสุดท้ายมีเลิฟซีนมันเกิดอะไรกันขึ้น พี่เอก็โทร.ไปหาทางทีมงานแต่ยังไม่ได้คุยกัน แต่กับอายุพี่เอไม่กล้าโทร.ไป พี่เอเกรงใจ พี่เอมองว่าสิ่งที่อายุวดีพูดทำให้น้องได้ไปปรับพัฒนาตัวเอง พี่เอไม่ได้เข้าข้างน้องตัวเองเลย พี่ว่าถ้าใครพูดแล้วเราไม่ฟังเลยคงจะไม่ดี พี่เอก็เรียกมาดุและตักเตือนด้วย ว่าเห็นไหมที่เราให้เรียนไปมันยังไม่พอ กับริชชี่พี่เอก็มองว่าน้องต้องเพิ่มอารมณ์กิเลส รัก โลภ โกรธ หลง ให้มากกว่านี้ ซึ่งน้องเขายังใสไป นางเป็นผู้หญิงใสบริสุทธิ์ เป็นลูกสาวชาววัง นั่งพับเพียบ ร้อยพวงมาลัยที่บ้าน พี่เอว่าริชชี่ก็ต้องทำอย่างอื่นบ้าง ก็คงต้องฝึกน้องอีกไม่มีพ่อแม่คนไหนที่จะทิ้งลูกตัวเองได้หรอกถ้าเขาคลอดมาแล้ว น้องก็เหมือนลูกพี่เอคนหนึ่งเพียงแต่พี่เอไม่ได้คลอดแค่นั้นเอง เราก็พยายามหาแขนงงานที่ตรงและใช่กับเขาให้ดีที่สุด”
“น้องก็นอยด์อยู่แล้วครับ พี่เอก็อยากให้เขานอยด์เพราะเราเลี้ยงลูกแบบซาดิสต์ อยากให้นอยด์มากๆ จะได้เป็นแรงกดดัน ให้ตัวเองทะเยอทะยานเอามาพัฒนาฝีมือในสิ่งที่ตัวเองต้องทำ ไม่ให้หยุดอยู่กับที่ครับอย่างตอนนี้น้องว่าง พักละครอยู่ เราก็พยายามฝึกเขาทุกอย่าง เดินแบบ ถ่ายแบบ ก็จะฝึกเขาไปเรื่อยๆ ถ้าเขายังมีใบหน้าที่สวยงาม มีนิสัยที่ดี และไม่มีข่าวเสื่อมเสียเรื่องยาเสพติด ซึ่งพี่เอจะเน้นชัดมากๆ ว่าเด็กพี่เอจะต้องไม่มีเรื่องเสื่อมเสียเรื่องของยาเสพติด พี่อยากมีคนที่เรียนเก่ง นิสัยดีอยู่ในสังกัดพี่เอ เรื่องความสามารถเดี๋ยวเราก็จะค่อยๆ หากันว่าเขามีความสามารถทางด้านไหนบ้าง”
ปัดพักหลังแผ่วปั้นเด็กไม่ถึงระดับซูเปอร์สตาร์ บอกขอเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ โวทีเด็ดมีเพียบรอปล่อยทีเดียว
“จริงๆ พี่เอว่าซูเปอร์สตาร์ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน พี่เอจะบอกกับทุกคนว่าการที่เราเจอซุปเปอร์สตาร์มันเหมือนเป็นอุบัติเหตุ อย่างรถวิ่งบนท้องถนนมีเป็นล้านคัน แต่จะเกิดอุบัติเหตุเพียงสิบคันถึงร้อยคันต่อหนึ่งวันบนโลกใบนี้ ซูเปอร์สตาร์ก็เหมือนกัน พี่เอพูดเลยว่าทุกวันนี้คนเดินมาหาพี่เอเยอะมากแต่ไม่เอา เพราะรู้สึกว่าถ้ามาตรฐานด้อยกว่าเดิมหรือไม่ได้เท่าเดิมก็อยู่บ้านเฉยๆ ดีกว่า ไม่ก็เอาตัวเองไปออกงานโชว์ตัวยังได้เงินมากกว่า พี่เอรู้สึกว่ารอให้มันใช่จริงๆ ก่อน บางทีอาจจะยังไม่จุติลงมาเกิดเลยก็ได้ บางทีอาจจะต้องจองตั้งแต่อยู่ท้องพ่อท้องแม่ ก็ยังรอได้อยู่ แต่ถ้าปั้นออกมาปริมาณเด็กแต่ไม่มีคุณภาพก็ไม่ใช่ พี่เออยู่ตรงนี้มาสิบกว่าปี พี่เอรู้ว่าการจะทำรายได้มหาศาลให้ตัวเอง เราวางตัวเด็กไว้แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าคนนี้จะดังกว่าคนนี้ จะดังเท่าคนนี้ก็ไม่ได้ต้องทำวิธีไหน บอกได้แค่ว่าตอนนี้เรามีอาวุธอยู่ในมือพร้อมรบค่ะ เรามีเตรียมไว้แล้ว แต่ยังไม่อยากเปิดตัวออกมา พี่ว่ายิงแบบปืนแก๊ปมันไม่สนุกต้องยิงแบบปืนใหญ่ รอให้พร้อมทุกอย่างแล้วปล่อยตู้มทีเดียวดีกว่า คนเห็นแล้วมาจากไหน จุติมาได้ยังไงบนโลกใบนี้ พี่เอไปหามาจากไหน ตอนนี้ก็เลี้ยงอยู่ในบ้าน ว่างๆ ก็ถ่ายภาพนิ่งไว้ เอาไปเรียนหนังสือ เรียนแอ็กติ้ง ดูแลตัวเองให้ดีก่อนดีกว่าเอามาออกงานกะปริบกะปรอยแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
ข่าวจาก : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9570000113167