สวัสดีครับ วันนี้ผมอยากมาตั้งกระทู้ระบายซะหน่อย เริ่มเลยละกัน คือผมกับแฟนเพิ่งจบป.ตรีกันมาเมื่อช่วงเดือนมีนาครับ แฟนผมเรียนเกี่ยวกับการเงิน เลยไปสมัครงานเป็น "เจ้าหน้าที่การเงิน" ของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง โดยรพ.มีชื่อคำแรกเป็นอวัยวะที่เรียกว่าศีรษะ ผมไม่ขอเอ่ยชื่อแล้วกันนะครับ โดยทางรพ.รับแฟนผมเข้าทำงานด้วยเงินเดือน 12,000บาท โดยให้เหตุผลที่ให้เงินเดือนน้อยว่า "โรงพยาบาลเราเป็นมูลนิธิ" (แต่แฟนกรูไม่ใช่มูลนิธิไอ่ซั๊ซ)
ทีแรกผมไม่เห็นด้วยมากที่แฟนจะทำงานที่นี่ เพราะไกลบ้านแฟนมาก(บ้านแฟนอยู่เกือบพระประแดง)และเงินโคตรน้อย แต่เนื่องจากผมกับแฟนก็ไม่ได้จบม.ดัง แถมสาขาการเงินงานน้อยคนจบเยอะ แฟนเลยตัดสินใจทำงานที่นี่ไป
อย่างที่บอกครับ แฟนผมทำงานรพ.เอกชนที่บอกลูกจ้างว่า"เราเป็นมูลนิธินะ"เพื่อกดเงินเดือน แต่จริงๆค่าบริการก็ไม่ได้ถูก ราคาพอๆกับรพ.เอกชนหรูดีๆตามต่างจังหวัดที่ผมเคยอยู่มาเลย นอกจากรายได้อันต่ำเตี้ยเรี่ยดินแล้ว ที่ผมหงุดหงิดกับที่นี่มากที่สุดคือระบบครับ แฟนผมเป็น"เจ้าหน้าที่การเงิน" หรือเรียกกันอีกอย่างว่าแคชเชียร์ แต่คือว่า ไม่มีเครื่องเก็บตังเหมือนตามเซเว่นนะครับ ใช้เครื่องคิดเลข แล้วการเงิน3คน มีคอมเครื่องเดียว คิดตังเสร็จต้องเอามากรอกลงในคอม คือต้องเวียนคอมกันใช้ แถมระบบสารสนเทศที่ใช้ก็โคตรห่วย ผมจำรายละเอียดไม่ค่อยได้ละแต่มันห่วยเหมือนโปรเจ็กต์จบนศ.ที่ไม่ตั้งใจเรียนอะ
แล้วพออุปกรณ์มันห่วยขนาดนี้ โหลดงานทั้งหมดก็ตกมาอยู่กับตัวคนสิครับ แล้วคนเราทำงานไปนานๆก็เบลอ ทอนตังผิดๆถูก ขาดบ้างเกินบ้าง เพราะไม่มีเครื่องคอยช่วยเช็ค ทีนี้ถ้าทอนตังขาดไปทำไง ตัวจนท.ต้องรับผิดชอบ ล่าสุดวันนี้แฟนผมรวมยอดแล้วเงินขาดไปเกือบ800บาท แฟนก็ต้องเอาเงินเดือนอันน้อยนิดจ่ายไปให้ครบ แล้วคิดดูว่าพลาดทุกวันนะครับ น้อยวันมากที่จะไม่พลาด วันไหนเกินก็ไม่เท่าไร เก็บไว้โปะวันต่อไปที่ขาด แต่คือถ้าวันไหนขาดมากๆเช่นวันนี้ เงินเดือนไม่หมดเลยเหรอวะ
คือรพ.เอาเงินไปไหนหมดอะ อยากรู้มาก คือแฟนผมรวบรวมเงินให้โรงพยาบาลคุณต่อวันเนี่ยหลักหมื่นหลักแสน แต่คุณไม่สามารถสละเงินไม่กี่พันซื้ออุปกรณ์ช่วยในการทำงานของเจ้าหน้าที่ระดับล่างได้เชียวเหรอ เงินเดือนก็น้อยมากๆอยู่แล้ว งานก็กดดัน เจอมนุษย์ป้าจนเป็นกิจวัตร มีทั้งมนุษย์ป้าลูกค้า มนุษย์ป้าพยาบาล มนุษย์ป้ารุ่นพี่ มนุษย์ป้าเภสัช อีกเป็นร้อยสปีชีส์ ใช้งานหนักยังกะทาส วันหยุดไม่ได้หยุด แต่ถ้าจะลาบ้างโดนหักเงินนะ
ผมยุให้แฟนออกทุกวัน แต่คือเค้าไม่ออกไง เค้ามีมุมที่มีความสุขกับการทำงาน ได้เจอเด็กๆเล็กๆน่ารักๆ และยังเป็นห่วงว่า ถ้าเค้าออกไป แล้วใครจะมาทำงานแทนเค้า เพราะทุกวันนี้คนก็น้อยมากอยู่แล้ว ถ้าเค้าออกไปอีก เพื่อนๆร่วมงานคนเหนื่อยกันแย่ รพ.ก็จะบริการได้แย่ลงไปด้วย เห็นมั๊ย พวกทั่นผู้เจริญแล้วที่นั่งเก้าอี้ระดับสูงของรพ.นี้ รู้สึกอะไรบ้างมั๊ยครับ แฟนผมเสียสละตัวเองทำงานมากๆ พวกทั่นที่นอนบนกองเงินกองทองเคยคิดจะแหกตาลงมาดูกันบ้างไหม ได้แต่รักษาผลประโยชน์ของตัวเอง แล้วใช้คำว่ากูเป็นมูลนิธิมาคอยกดหัวลูกจ้าง เหอะ ซักวันถ้าไม่ใครทนไหวแล้วออกกันหมด อยากรู้ว่าทั่นผู้เจริญแล้วทั้งหลายจะทำยังไง ถ้าไม่มีคนคอยเก็บเงินใส่กระเป๋าตังให้พวกทั่น เหอะๆ
อย่าหาว่าผมงั้นงี้เลยนะครับ ผมกับแฟนจบมาพร้อมกัน คือจบใหม่เหมือนกัน ผมจบมาเกรด2.5นิดๆ แฟนจบมา3กว่า คนละสาขากัน แต่ผมได้เงินเดือนสตาร์ท18000บาท ทำงาน40ชม.ต่อสัปดาห์ วันหยุดได้หยุดเหมือนคนปกติ แต่แฟนผมทำงานสัปดาห์ละประมาณ50-60ชม. วันหยุดไม่ได้หยุด ลองคิดดูเล่นๆ ผมทำงานได้เงินชม.ละประมาณ110บาท ส่วนแฟนได้ชม.ละ60บาท ผมไม่ได้อะไรหรอก แต่ผมคิดว่าแฟนผมคงน้อยใจอยู่ เพราะเรา2คนเปรียบเทียบกันได้แบบเห็นชัดมากๆตั้งแต่สมัยเรียน ผมเรียนแบบเรื่อยเฉื่อยมาก หนังสือหนังหาไม่เคยอ่าน หลับหูหลับตาจบมาได้ ส่วนแฟนเป็นคนหัวไม่ค่อยดีแต่ตั้งใจเรียนมากๆ คือเค้าพยายามอย่างหนักมา แล้วจบมาได้ค่าตอบแทนต่างกับผมมากเกือบเท่าตัวงี้ เป็นใครๆก็ท้อ
ขอบคุณที่อ่านกันครับ เรื่องนี้ผมอยากให้หลายๆท่าน ที่เป็นเจ้าคนนายคนแล้วได้คิดบ้าง ว่าชีวิตลูกจ้างมันเหนื่อยยากนักล่ะ คุณอาจจะบอกว่าฉันก็เคยผ่านจุดนั้นมาก่อน แต่จุดนั้นของคุณไม่ได้อยู่ในยุคที่ข้าวแกงจานละ40บาทนะครับ คือยุคสมัยมันเปลี่ยนไป คนเราต้องดินต้องจ่ายกันมากขึ้น การทำงานแบบไม่เห็นอนาคต ใช้เงินเดือนต่อชีวิตไปอีกเดือนเรื่อยๆแบบนี้ ใครมันจะไปมีกำลังใจทำงานกันล่ะครับ คุณอยากงกไปหน่อยเลย เงินอีกไม่ถึงแสนต่อเดือน หารเฉลี่ยเพิ่มเงินเดือนให้คนเหล่านี้ ให้พวกเขามีกำลังใจในการทำงานกันบ้าง ขนหน้าแข้งคุณไม่น่าจะร่วงหรอกมั้งเพราะแฟนผมเก็บเงินได้วันหนึ่งก็เป็นแสนละ
อยากระบาย ที่ทำงานแฟนห่วยมาก
ทีแรกผมไม่เห็นด้วยมากที่แฟนจะทำงานที่นี่ เพราะไกลบ้านแฟนมาก(บ้านแฟนอยู่เกือบพระประแดง)และเงินโคตรน้อย แต่เนื่องจากผมกับแฟนก็ไม่ได้จบม.ดัง แถมสาขาการเงินงานน้อยคนจบเยอะ แฟนเลยตัดสินใจทำงานที่นี่ไป
อย่างที่บอกครับ แฟนผมทำงานรพ.เอกชนที่บอกลูกจ้างว่า"เราเป็นมูลนิธินะ"เพื่อกดเงินเดือน แต่จริงๆค่าบริการก็ไม่ได้ถูก ราคาพอๆกับรพ.เอกชนหรูดีๆตามต่างจังหวัดที่ผมเคยอยู่มาเลย นอกจากรายได้อันต่ำเตี้ยเรี่ยดินแล้ว ที่ผมหงุดหงิดกับที่นี่มากที่สุดคือระบบครับ แฟนผมเป็น"เจ้าหน้าที่การเงิน" หรือเรียกกันอีกอย่างว่าแคชเชียร์ แต่คือว่า ไม่มีเครื่องเก็บตังเหมือนตามเซเว่นนะครับ ใช้เครื่องคิดเลข แล้วการเงิน3คน มีคอมเครื่องเดียว คิดตังเสร็จต้องเอามากรอกลงในคอม คือต้องเวียนคอมกันใช้ แถมระบบสารสนเทศที่ใช้ก็โคตรห่วย ผมจำรายละเอียดไม่ค่อยได้ละแต่มันห่วยเหมือนโปรเจ็กต์จบนศ.ที่ไม่ตั้งใจเรียนอะ
แล้วพออุปกรณ์มันห่วยขนาดนี้ โหลดงานทั้งหมดก็ตกมาอยู่กับตัวคนสิครับ แล้วคนเราทำงานไปนานๆก็เบลอ ทอนตังผิดๆถูก ขาดบ้างเกินบ้าง เพราะไม่มีเครื่องคอยช่วยเช็ค ทีนี้ถ้าทอนตังขาดไปทำไง ตัวจนท.ต้องรับผิดชอบ ล่าสุดวันนี้แฟนผมรวมยอดแล้วเงินขาดไปเกือบ800บาท แฟนก็ต้องเอาเงินเดือนอันน้อยนิดจ่ายไปให้ครบ แล้วคิดดูว่าพลาดทุกวันนะครับ น้อยวันมากที่จะไม่พลาด วันไหนเกินก็ไม่เท่าไร เก็บไว้โปะวันต่อไปที่ขาด แต่คือถ้าวันไหนขาดมากๆเช่นวันนี้ เงินเดือนไม่หมดเลยเหรอวะ
คือรพ.เอาเงินไปไหนหมดอะ อยากรู้มาก คือแฟนผมรวบรวมเงินให้โรงพยาบาลคุณต่อวันเนี่ยหลักหมื่นหลักแสน แต่คุณไม่สามารถสละเงินไม่กี่พันซื้ออุปกรณ์ช่วยในการทำงานของเจ้าหน้าที่ระดับล่างได้เชียวเหรอ เงินเดือนก็น้อยมากๆอยู่แล้ว งานก็กดดัน เจอมนุษย์ป้าจนเป็นกิจวัตร มีทั้งมนุษย์ป้าลูกค้า มนุษย์ป้าพยาบาล มนุษย์ป้ารุ่นพี่ มนุษย์ป้าเภสัช อีกเป็นร้อยสปีชีส์ ใช้งานหนักยังกะทาส วันหยุดไม่ได้หยุด แต่ถ้าจะลาบ้างโดนหักเงินนะ
ผมยุให้แฟนออกทุกวัน แต่คือเค้าไม่ออกไง เค้ามีมุมที่มีความสุขกับการทำงาน ได้เจอเด็กๆเล็กๆน่ารักๆ และยังเป็นห่วงว่า ถ้าเค้าออกไป แล้วใครจะมาทำงานแทนเค้า เพราะทุกวันนี้คนก็น้อยมากอยู่แล้ว ถ้าเค้าออกไปอีก เพื่อนๆร่วมงานคนเหนื่อยกันแย่ รพ.ก็จะบริการได้แย่ลงไปด้วย เห็นมั๊ย พวกทั่นผู้เจริญแล้วที่นั่งเก้าอี้ระดับสูงของรพ.นี้ รู้สึกอะไรบ้างมั๊ยครับ แฟนผมเสียสละตัวเองทำงานมากๆ พวกทั่นที่นอนบนกองเงินกองทองเคยคิดจะแหกตาลงมาดูกันบ้างไหม ได้แต่รักษาผลประโยชน์ของตัวเอง แล้วใช้คำว่ากูเป็นมูลนิธิมาคอยกดหัวลูกจ้าง เหอะ ซักวันถ้าไม่ใครทนไหวแล้วออกกันหมด อยากรู้ว่าทั่นผู้เจริญแล้วทั้งหลายจะทำยังไง ถ้าไม่มีคนคอยเก็บเงินใส่กระเป๋าตังให้พวกทั่น เหอะๆ
อย่าหาว่าผมงั้นงี้เลยนะครับ ผมกับแฟนจบมาพร้อมกัน คือจบใหม่เหมือนกัน ผมจบมาเกรด2.5นิดๆ แฟนจบมา3กว่า คนละสาขากัน แต่ผมได้เงินเดือนสตาร์ท18000บาท ทำงาน40ชม.ต่อสัปดาห์ วันหยุดได้หยุดเหมือนคนปกติ แต่แฟนผมทำงานสัปดาห์ละประมาณ50-60ชม. วันหยุดไม่ได้หยุด ลองคิดดูเล่นๆ ผมทำงานได้เงินชม.ละประมาณ110บาท ส่วนแฟนได้ชม.ละ60บาท ผมไม่ได้อะไรหรอก แต่ผมคิดว่าแฟนผมคงน้อยใจอยู่ เพราะเรา2คนเปรียบเทียบกันได้แบบเห็นชัดมากๆตั้งแต่สมัยเรียน ผมเรียนแบบเรื่อยเฉื่อยมาก หนังสือหนังหาไม่เคยอ่าน หลับหูหลับตาจบมาได้ ส่วนแฟนเป็นคนหัวไม่ค่อยดีแต่ตั้งใจเรียนมากๆ คือเค้าพยายามอย่างหนักมา แล้วจบมาได้ค่าตอบแทนต่างกับผมมากเกือบเท่าตัวงี้ เป็นใครๆก็ท้อ
ขอบคุณที่อ่านกันครับ เรื่องนี้ผมอยากให้หลายๆท่าน ที่เป็นเจ้าคนนายคนแล้วได้คิดบ้าง ว่าชีวิตลูกจ้างมันเหนื่อยยากนักล่ะ คุณอาจจะบอกว่าฉันก็เคยผ่านจุดนั้นมาก่อน แต่จุดนั้นของคุณไม่ได้อยู่ในยุคที่ข้าวแกงจานละ40บาทนะครับ คือยุคสมัยมันเปลี่ยนไป คนเราต้องดินต้องจ่ายกันมากขึ้น การทำงานแบบไม่เห็นอนาคต ใช้เงินเดือนต่อชีวิตไปอีกเดือนเรื่อยๆแบบนี้ ใครมันจะไปมีกำลังใจทำงานกันล่ะครับ คุณอยากงกไปหน่อยเลย เงินอีกไม่ถึงแสนต่อเดือน หารเฉลี่ยเพิ่มเงินเดือนให้คนเหล่านี้ ให้พวกเขามีกำลังใจในการทำงานกันบ้าง ขนหน้าแข้งคุณไม่น่าจะร่วงหรอกมั้งเพราะแฟนผมเก็บเงินได้วันหนึ่งก็เป็นแสนละ