สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ใช้คำว่าโดยส่วนใหญ่นะครับ
1. เกรดดีแปลว่ามีความรับผิดชอบสูงกว่าเกรดไม่ดี
2. เกรดดีแปลว่าหัวไว ฉลาด เข้าใจกระบวนการทำงานดีกว่า
3. เกรดดีแปลว่าหัวอ่อน ว่านอนสอนง่าย ฟังครูอาจารย์
พวกนี้เป็นคุณสมบัติที่เหมาะทำงานในองค์กรใหญ่
คนเกรดไม่ดีแต่เก่งขั้นเทพก็มี แต่ฝ่ายสรรหาบุคลากร
ไม่อยากมานั่งลุ้นว่าคนนั้นจะเป็นใคร เพราะมันก็หายาก
1. เกรดดีแปลว่ามีความรับผิดชอบสูงกว่าเกรดไม่ดี
2. เกรดดีแปลว่าหัวไว ฉลาด เข้าใจกระบวนการทำงานดีกว่า
3. เกรดดีแปลว่าหัวอ่อน ว่านอนสอนง่าย ฟังครูอาจารย์
พวกนี้เป็นคุณสมบัติที่เหมาะทำงานในองค์กรใหญ่
คนเกรดไม่ดีแต่เก่งขั้นเทพก็มี แต่ฝ่ายสรรหาบุคลากร
ไม่อยากมานั่งลุ้นว่าคนนั้นจะเป็นใคร เพราะมันก็หายาก
สมาชิกหมายเลข 4071579 ถูกใจ, ถอดอวตารยังไงหว่า ถูกใจ, เด็กหญิงสีเหลือง ถูกใจ, Sassy Mink * ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1204761 ถูกใจ, บ้านดอกชวนชมสารพัดสี ถูกใจ, SeVeNGhoST ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1681812 ถูกใจ, thisistotallycrazy ถูกใจ, KiTaNo ถูกใจรวมถึงอีก 90 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 4
คนเก่งเขาไม่บ่นเรื่องพวกนี้หรอก
ในเมื่อเกรดไม่สำคัญกับชีวิตเค้า ทำไมเค้าต้องไปสนใจ งานที่ต้องใช้เกรดด้วย
พวกที่บ่นๆคือพวกที่ห่วยแต่ดันคิดว่าตัวเองเก่งมากกว่า
ในเมื่อเกรดไม่สำคัญกับชีวิตเค้า ทำไมเค้าต้องไปสนใจ งานที่ต้องใช้เกรดด้วย
พวกที่บ่นๆคือพวกที่ห่วยแต่ดันคิดว่าตัวเองเก่งมากกว่า
สมาชิกหมายเลข 4071579 ขำกลิ้ง, scuba734 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5752000 ถูกใจ, คนคนหนึ่งเอง ถูกใจ, ถอดอวตารยังไงหว่า ถูกใจ, แมวเหล็ก ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1754350 ถูกใจ, เด็กหญิงสีเหลือง ถูกใจ, Sassy Mink * ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 999885 ถูกใจรวมถึงอีก 78 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 47
เอาจากประสบการณ์ตรงๆ นะคะ
จากที่ได้สัมภาษณ์คนมา...เราเปิดกว้างพอตัวนะ
คนเกรด 2 กว่าๆ ประมาณ 2.10 - 2.50 ก็เรียกมาสัมภาษณ์บ้างแล้ว เพราะเห็นเรียนตรงสาย มีประสบการณ์ฝึกงานเล็กๆน้อยๆมาบ้าง และเกรดอาจวัดค่าไม่ได้จริงๆ..แต่เชื่อมั้ยว่า พอได้สัมภาษณ์ บุคคลเหล่านี้กลับมาสัมภาษณ์แบบไม่ค่อยเตรียมตัว เอาง่ายๆ แค่ชุดมาสัมภาษณ์ก็ไม่ผ่านละ ไม่เรียบร้อย ไม่ Professional เลย..พอเราถามคำถามง่ายๆ ตรงสาย ให้แสดงความเห็น ลองคิดว่าจะแก้ปัญหายังไง ก็ตอบได้ไม่ดี นั่ง เอิ่มๆๆ ไม่รู้ดิครับพี่ แล้วพี่จะทำยังไงอ่ะครับ (อ่าว สัมภาษณ์ย้อนตูกลับซะอีก) ทำเหมือนการสัมภาษณ์เป็นเรื่องเล่นๆ นั่งหัวเราะแหะๆ หลังๆ พอถามเพิ่มเติมมากเข้า ก็ตอบแต่ไม่รู้ครับ ไม่ทราบ ไม่ก็แถออกทะเลไม่ตรงคำถาม (เฮ้ย คิดบ้างมั้ยว่าบริษัทระดับโลกเรียกมาสัมภาษณ์เนี่ย ถ้าเตรียมตัวมาดีๆ ได้งานที่นี่ทำ สบายไปเลยนะเว้ย!?) มันแบบว่า เอิ่ม...มันน่าให้เข้ารอบมั้ยเนี่ย ถ้าสงสารรับทำงานแล้วจะไว้ใจให้ทำเองมั้ยเนี่ย ดูท่าทางไม่กระตือรือร้นเลย ปากน่ะบอกอยากทำ แต่ประเมินศักยภาพคุณแล้วมันไม่ผ่านจริงๆ คือ ไม่มีความน่าเชื่อถือเลย
ส่วนคนที่ได้งานไป เค้าเกรดประมาณ 3 กว่าๆ เค้าเตรียมตัวมา เป็นขั้นตอน ความรู้พื้นฐานค่อนข้างแน่น ตอบคำถามและไหวพริบดี เราไม่ได้ต้องการคำตอบแบบชมบริษัท เลียแข้งขาคนสัมภาษณ์ เราต้องการคำตอบว่าคุณมีทัศนะคติในการทำงานอย่างไร ยกตัวอย่างหากเกิดเหตุกาณณ์ต่างๆ จะแก้ได้มั้ย อย่างไร โดยอิงตามความเป็นจริงและเป็นไปได้...และเค้าตอบได้เป็นที่น่าพอใจ ดูแล้วมีความกระตือรือร้นและวางใจได้
เราเลยคิดว่า ส่วนมากเลยนะ เกรดช่วยแบ่งระดับความคิด ความรับผิดชอบคนได้ระดับนึง...หลังๆ เราก็คัดตามเกรดระดับนึงเหมือนกัน จะได้ไม่เสียเวลามาสัมภาษณ์คนที่จะทำให้เราเสียเวลาไปเปล่าๆ (ปล..แต่ถ้าคนที่เกรดไม่ค่อยดี เราก็จะพิจารณาจาก ปสก. การทำงานที่มีมาบ้างประกอบด้วย ถ้าดูน่าสนใจ หรือตรงตามต้องการ ก็จะเรียกค่ะ) ลองนึกกลับไปสมัยเราเรียนสิ พวกที่เรียนเกรดไม่ดีส่วนใหญ่เค้าทำตัวยังไงบ้าง ที่เราเห็นๆ ก็คือ โดดเรียน นั่งหลังห้องเล่นกัน คุยกัน ไม่ทำงานส่งอาจารย์ พฤติกรรมไม่ค่อยดี มีเรื่องมีราวบ่อยๆ เห็นมั้ยว่า เกรด มันเป็นส่วนนึงที่บ่งบอกลักษณะคนๆ นึงได้เหมือนกัน..
จากที่ได้สัมภาษณ์คนมา...เราเปิดกว้างพอตัวนะ
คนเกรด 2 กว่าๆ ประมาณ 2.10 - 2.50 ก็เรียกมาสัมภาษณ์บ้างแล้ว เพราะเห็นเรียนตรงสาย มีประสบการณ์ฝึกงานเล็กๆน้อยๆมาบ้าง และเกรดอาจวัดค่าไม่ได้จริงๆ..แต่เชื่อมั้ยว่า พอได้สัมภาษณ์ บุคคลเหล่านี้กลับมาสัมภาษณ์แบบไม่ค่อยเตรียมตัว เอาง่ายๆ แค่ชุดมาสัมภาษณ์ก็ไม่ผ่านละ ไม่เรียบร้อย ไม่ Professional เลย..พอเราถามคำถามง่ายๆ ตรงสาย ให้แสดงความเห็น ลองคิดว่าจะแก้ปัญหายังไง ก็ตอบได้ไม่ดี นั่ง เอิ่มๆๆ ไม่รู้ดิครับพี่ แล้วพี่จะทำยังไงอ่ะครับ (อ่าว สัมภาษณ์ย้อนตูกลับซะอีก) ทำเหมือนการสัมภาษณ์เป็นเรื่องเล่นๆ นั่งหัวเราะแหะๆ หลังๆ พอถามเพิ่มเติมมากเข้า ก็ตอบแต่ไม่รู้ครับ ไม่ทราบ ไม่ก็แถออกทะเลไม่ตรงคำถาม (เฮ้ย คิดบ้างมั้ยว่าบริษัทระดับโลกเรียกมาสัมภาษณ์เนี่ย ถ้าเตรียมตัวมาดีๆ ได้งานที่นี่ทำ สบายไปเลยนะเว้ย!?) มันแบบว่า เอิ่ม...มันน่าให้เข้ารอบมั้ยเนี่ย ถ้าสงสารรับทำงานแล้วจะไว้ใจให้ทำเองมั้ยเนี่ย ดูท่าทางไม่กระตือรือร้นเลย ปากน่ะบอกอยากทำ แต่ประเมินศักยภาพคุณแล้วมันไม่ผ่านจริงๆ คือ ไม่มีความน่าเชื่อถือเลย
ส่วนคนที่ได้งานไป เค้าเกรดประมาณ 3 กว่าๆ เค้าเตรียมตัวมา เป็นขั้นตอน ความรู้พื้นฐานค่อนข้างแน่น ตอบคำถามและไหวพริบดี เราไม่ได้ต้องการคำตอบแบบชมบริษัท เลียแข้งขาคนสัมภาษณ์ เราต้องการคำตอบว่าคุณมีทัศนะคติในการทำงานอย่างไร ยกตัวอย่างหากเกิดเหตุกาณณ์ต่างๆ จะแก้ได้มั้ย อย่างไร โดยอิงตามความเป็นจริงและเป็นไปได้...และเค้าตอบได้เป็นที่น่าพอใจ ดูแล้วมีความกระตือรือร้นและวางใจได้
เราเลยคิดว่า ส่วนมากเลยนะ เกรดช่วยแบ่งระดับความคิด ความรับผิดชอบคนได้ระดับนึง...หลังๆ เราก็คัดตามเกรดระดับนึงเหมือนกัน จะได้ไม่เสียเวลามาสัมภาษณ์คนที่จะทำให้เราเสียเวลาไปเปล่าๆ (ปล..แต่ถ้าคนที่เกรดไม่ค่อยดี เราก็จะพิจารณาจาก ปสก. การทำงานที่มีมาบ้างประกอบด้วย ถ้าดูน่าสนใจ หรือตรงตามต้องการ ก็จะเรียกค่ะ) ลองนึกกลับไปสมัยเราเรียนสิ พวกที่เรียนเกรดไม่ดีส่วนใหญ่เค้าทำตัวยังไงบ้าง ที่เราเห็นๆ ก็คือ โดดเรียน นั่งหลังห้องเล่นกัน คุยกัน ไม่ทำงานส่งอาจารย์ พฤติกรรมไม่ค่อยดี มีเรื่องมีราวบ่อยๆ เห็นมั้ยว่า เกรด มันเป็นส่วนนึงที่บ่งบอกลักษณะคนๆ นึงได้เหมือนกัน..
สมาชิกหมายเลข 4071579 ถูกใจ, S80 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1021414 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 980028 ถูกใจ, Rhapsodies ถูกใจ, ถอดอวตารยังไงหว่า ถูกใจ, บ้านดอกชวนชมสารพัดสี ถูกใจ, Happy ending ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1681812 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1386205 ถูกใจรวมถึงอีก 8 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 17
บอกเลยว่าเรียนเอาเกรดครับ แล้วไม่ได้เอาเกรดไปสมัครงานด้วยครับ เพราะอยากทำธุรกิจส่วนตัว
แต่ที่เรียนเอาเกรดเพราะมีทัศนะคติที่ว่าทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุดครับ ไม่ใช่คนเกี่ยงว่าอะไรชอบ
ไม่ชอบ หรือเรียนไปก็ไม่ได้ใช้ เพราะเวลาทำงานแม้ได้ทำงานที่รักก็อาจเจอส่วนที่ไม่ชอบบ้างในเนื้องานได้
อย่ามาอ้างว่าเกรดแย่เพราะเป็นเด็กกิจกรรมครับ ทำกิจกรรมก็ต้องรับผิดชอบหน้าที่หลักคือการเรียนได้ด้วย
เพราะเด็กกิจกรรมในคณะที่พี่เรียนเกรดสูงๆทั้งนั้น
ผู้บริหารระดับสูงๆหลายคนเขามีประสบการณ์ครับ ถ้าเกรดมันไม่เกี่ยวซักด้านเขาคงไม่กำหนดมา
แต่ที่เรียนเอาเกรดเพราะมีทัศนะคติที่ว่าทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุดครับ ไม่ใช่คนเกี่ยงว่าอะไรชอบ
ไม่ชอบ หรือเรียนไปก็ไม่ได้ใช้ เพราะเวลาทำงานแม้ได้ทำงานที่รักก็อาจเจอส่วนที่ไม่ชอบบ้างในเนื้องานได้
อย่ามาอ้างว่าเกรดแย่เพราะเป็นเด็กกิจกรรมครับ ทำกิจกรรมก็ต้องรับผิดชอบหน้าที่หลักคือการเรียนได้ด้วย
เพราะเด็กกิจกรรมในคณะที่พี่เรียนเกรดสูงๆทั้งนั้น
ผู้บริหารระดับสูงๆหลายคนเขามีประสบการณ์ครับ ถ้าเกรดมันไม่เกี่ยวซักด้านเขาคงไม่กำหนดมา
สมาชิกหมายเลข 4071579 ถูกใจ, เด็กหญิงสีเหลือง ถูกใจ, แมวเหล็ก ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1681812 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1386205 ถูกใจ, สามแสนคำ ถูกใจ, ปีศาจในพุ่มไม้ ถูกใจ, *~ Chocolate Factory ~* ถูกใจ, tachycardia ถูกใจ, Pink_Hyacinth ถูกใจรวมถึงอีก 12 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 33
ผลการเรียน >>ชี้วัด>> ความรู้ (knowledge)
การตอบคำถาม >>ชี้วัด>> ทัศนคติ (attitude)
ประสบการณ์ทำงาน >>ชี้วัด>> ทักษะ (skill)
การจะเลือกคนเข้าทำงาน ส่วนมากพิจารณาจาก 3 อย่างนี้ เป็นตัวชี้วัดที่ง่ายและเป็นรูปธรรมมากที่สุด
คนสมัครงาน ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งหรืออีกสองอย่างไป ต้องพยายามแสดงด้านดีที่มีอยู่ในตัวเองออกมาให้โดดเด่น
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจในมุมของผู้รับสมัครด้วย
เกรดดี + ตอบคำถามดี + ประสบการณ์ดี.....มีไหม ตอบเลยว่า มี
เกรดน้อย + ตอบคำถามดี + ประสบการณ์ดี....มีไหม ตอบเลยว่า เยอะ
คุณมีจุดด้อย เท่ากับพ่ายเขาไป 1 คะแนน อันนี้ก็ต้องยอมรับ ถือว่าเป็นกรรมเก่าที่เราไม่ตั้งใจเรียน
แต่ก็ยังมีโอกาสสร้างกรรมใหม่อยู่เรื่อยๆ เพื่อชดเชยจุดด้อย สร้างจุดเด่น โดยการตั้งใจเรียนรู้หาประสบการณ์
ส่วนมากคนเกรดน้อยๆ ที่เห็นบ่นๆ ก็เพราะกลัวสู้คนอื่นเขาไม่ได้ ไม่มั่นใจในด้านดีที่มีอยู่ในตัวเอง
ถ้าให้พิจารณาคร่าวๆ คนแบบนี้ ก็ไม่เหมาะรับเข้าทำงาน เพราะทัศนคติการมองตนเอง และผู้อื่นไม่กว้างพอ
คนเก่ง คนมีความสามารถจริง ถึงแม้เกรดไม่ดี ถ้าหากมีความมั่นใจ เขาก็จะไม่เปรียบเทียบกับใคร
การเปรียบเทียบกับคนอื่น นอกจากทำให้มองตัวเองต่ำต้อยแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงทัศนคติการไม่ยอมรับผู้อื่น
ทำให้ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ยาก เช่น คิดว่าคนอื่นเก่งแต่เรียน เนิร์ด ทำกิจกรรมไม่เท่าเรา ทำงานไม่เก่งเหมือนเรา
ซึ่งเป็นทัศนคติการมองผู้อื่นลบกดต่ำลง เพื่อยกตัวเองให้ดูสูงขึ้น
ถ้าคุณเป็นคนเกรดน้อย....
การเปรียบเทียบจุดด้อยของตัวเอง เช่น เกรด มีกรณีเดียวที่น่ารับเข้าทำงาน
คือ เปรียบเทียบเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องของตัวเอง เพื่อพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้น
ยอมรับว่าคนอื่นที่เหนือกว่าเราก็มีจริงๆ และวันหนึ่งเราต้องพัฒนาให้เป็นอย่างนั้น หรือดียิ่งกว่านั้นให้ได้
การตอบคำถาม >>ชี้วัด>> ทัศนคติ (attitude)
ประสบการณ์ทำงาน >>ชี้วัด>> ทักษะ (skill)
การจะเลือกคนเข้าทำงาน ส่วนมากพิจารณาจาก 3 อย่างนี้ เป็นตัวชี้วัดที่ง่ายและเป็นรูปธรรมมากที่สุด
คนสมัครงาน ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งหรืออีกสองอย่างไป ต้องพยายามแสดงด้านดีที่มีอยู่ในตัวเองออกมาให้โดดเด่น
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจในมุมของผู้รับสมัครด้วย
เกรดดี + ตอบคำถามดี + ประสบการณ์ดี.....มีไหม ตอบเลยว่า มี
เกรดน้อย + ตอบคำถามดี + ประสบการณ์ดี....มีไหม ตอบเลยว่า เยอะ
คุณมีจุดด้อย เท่ากับพ่ายเขาไป 1 คะแนน อันนี้ก็ต้องยอมรับ ถือว่าเป็นกรรมเก่าที่เราไม่ตั้งใจเรียน
แต่ก็ยังมีโอกาสสร้างกรรมใหม่อยู่เรื่อยๆ เพื่อชดเชยจุดด้อย สร้างจุดเด่น โดยการตั้งใจเรียนรู้หาประสบการณ์
ส่วนมากคนเกรดน้อยๆ ที่เห็นบ่นๆ ก็เพราะกลัวสู้คนอื่นเขาไม่ได้ ไม่มั่นใจในด้านดีที่มีอยู่ในตัวเอง
ถ้าให้พิจารณาคร่าวๆ คนแบบนี้ ก็ไม่เหมาะรับเข้าทำงาน เพราะทัศนคติการมองตนเอง และผู้อื่นไม่กว้างพอ
คนเก่ง คนมีความสามารถจริง ถึงแม้เกรดไม่ดี ถ้าหากมีความมั่นใจ เขาก็จะไม่เปรียบเทียบกับใคร
การเปรียบเทียบกับคนอื่น นอกจากทำให้มองตัวเองต่ำต้อยแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงทัศนคติการไม่ยอมรับผู้อื่น
ทำให้ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ยาก เช่น คิดว่าคนอื่นเก่งแต่เรียน เนิร์ด ทำกิจกรรมไม่เท่าเรา ทำงานไม่เก่งเหมือนเรา
ซึ่งเป็นทัศนคติการมองผู้อื่นลบกดต่ำลง เพื่อยกตัวเองให้ดูสูงขึ้น
ถ้าคุณเป็นคนเกรดน้อย....
การเปรียบเทียบจุดด้อยของตัวเอง เช่น เกรด มีกรณีเดียวที่น่ารับเข้าทำงาน
คือ เปรียบเทียบเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องของตัวเอง เพื่อพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้น
ยอมรับว่าคนอื่นที่เหนือกว่าเราก็มีจริงๆ และวันหนึ่งเราต้องพัฒนาให้เป็นอย่างนั้น หรือดียิ่งกว่านั้นให้ได้
แสดงความคิดเห็น
คิดยังไงคะ กับการสมัครงานบางแห่ง แล้วมีการกำหนดเรื่องเกรดเฉลี่ย
เข้าใจค่ะ ว่าบางคนเกรดไม่ถึง แต่อยากได้งานดีๆ (ซึ่งงานสุจริตมันก็ดีหมดแหละ) หนูแค่อยากฟังความคิดเห็นคนอื่นๆบ้าง โดยเฉพาะคนที่จบด้วยเกรดเฉลี่ยสูงๆ ว่าเค้าประสบความสำเร็จในการทำงานหรือไม่ค่ะ ^__^ ขอบคูณค่ะ