1 คืน 2 วัน แทนรัก ทะเลหมอก @ เขาค้อ

@@@ สวัสดีคร๊า…มาแล้วสำหรับใครที่รักในการพักผ่อน รักในบรรยากาศที่โอบกอดไปด้วยธรรมชาติ รักในความสงบ ไร้เสียงอึกทึกครึกโครม เรามีทริปสุดแสนจะพิเศษ ที่เหมาะมากสำหรับคนธรรมดาที่มีชีวิตการทำงานในช่วงวันจันทร์- ศุกร์ที่แสนจะยุ่งเหยิง หรือเรียกได้ว่าวุ่นวายมหาศาลอย่างบ้าคลั่งเลยทีเดียวเชียว ถ้าหลายคนยังโชคดีที่ยังพอมีวันเสาร์-อาทิตย์ไว้พักผ่อน ลองใช้สองวันที่มีนี้ ออกตามหา สิ่งที่หัวใจเรียกร้อง คุณอาจจะพบความว่า “ใช่”…แบบเราก็เป็นได้

ก่อนอื่น เราต้องมาดูกันก่อนว่า เราอยากไปแบบไหน? เราอยากได้อะไรจากทริปนี้? ซึ่งข้อจำกัดของเราคือ เรามีเวลาเพียงวันเสาร์ช่วงบ่าย และวันอาทิตย์เท่านั้น และสิ่งที่เราต้องการคือ เราอยากพักผ่อน ไม่วุ่นวาย ได้อยู่ธรรมชาติที่ Amazing (เพราะที่สำคัญคือ เราเน้นอยู่กับคนที่ใช่ ^^)
เมื่อเราทราบข้อจำกัดเรื่องเวลา และสิ่งที่เราต้องการแล้ว เราก็ได้ข้อสรุปของทริปนี้ นั่นคือ “เขาค้อ เพชรบูรณ์” หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันดีกับ  “สวิสเซอร์แลนด์ เมืองไทย” นั่นเอง


เราออกจากขอนแก่นกันประมาณบ่ายโมงกว่า ๆ ขับไปเล่นๆ ชิวๆ ไม่รีบไม่ร้อน เหนื่อยเราก็พัก เราใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่า เส้นทางนี้ เป็นครั้งแรกของพวกเรา ดังนั้น พี่ GPS คือตัวช่วยที่สำคัญของเราในงานนี้ เราจึง search หาคำว่า “แทนรัก ทะเลหมอก เขาค้อ เพชรบูรณ์” ซึ่งเป็นที่พักที่เราได้จองไว้ และเราก็ได้เลือกเส้นทางที่ใกล้ที่สุดในการเดินทาง
เริ่มต้นคือเรามุ่งไปทางชุมแพ ผ่าน อ.คอนสาร , อช. น้ำหนาว ขับตรงไปเรื่อยๆทาง อ.หล่มสัก และแล้วเมื่อถึงสี่แยกอนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง พี่ GPS ก็ร้องเรียกให้เราเลี้ยวซ้าย  แล้วเราก็ไปตามนั้น ทางเริ่มซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด พี่ GPS ก็บอกให้เราวิ่งบนถนน 2302 (ขอบอกเลยว่าก่อนที่เราจะเข้าไปในถนนสายนี้แบบจริงจัง แอบมีป้ายเขียนกำกับไว้ว่า หากไม่ชำนาญทาง ให้ใช้เส้นทางอื่น) แต่เราก็ตัดสินใจแล้ว ที่จะเลือกใช้เส้นทางนี้
เมื่อเราเข้าไปก็มีป้ายระบุว่า อีก 28 กิโลเมตร จะถึงที่หมายของเรา นั่นคือ “เขาค้อ” ซึ่งเราไม่คิดเลยว่า 28 กิโลเมตรนี้ เราใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะหลุดออกมาได้ เนื่องจากมันเป็นทางลัดที่มีเขาชันทางขรุขระ ปนหวาดเสียวกันไป เรียกได้ว่า ถ้าจะไปครั้งหน้า เราขอเลือกเส้นทางปกติน่าจะดีกว่า แต่ในที่สุด เราก็ออกมาจากถนนสาย 2302 ได้อย่างปลอดภัย และเริ่มพบวิวทิวเขา ธรรมชาติ สองข้างทางที่ดูสวยงาม เราเริ่มยิ้มไปกับสิ่งที่เราเห็นอยู่ตรงหน้านี้ อย่างไม่รู้ตัว


ไม่นานเราก็พบกับที่พักของเรา ซึ่งอยู่ติดริมถนน เป็นบ้านสีส้มเห็นเด่นชัด และมีป้าย “แทนรัก ทะเลหมอก” ที่ทำให้เรามั่นใจได้ว่า เรามาไม่ผิดที่แน่ๆ เราขับรถลงไปจอดในที่จอดรถทันทีทันใด ระหว่างทางที่เราเดินตามหา Reception เราก็พบว่า รีสอร์ทนี้
ช่างใส่ใจกับรายละเอียดของทุกสถานที่เหลือเกิน เริ่มตั้งแต่ทางเข้าระหว่างทางมีน้ำตก มีการแต่งสวนหย่อม มีวิวที่สวยงาม แม้แต่มุมบันได ก็ยังมีต้นไม้ ดอกไม้ประดับอยู่ทุกที่ เมื่อเรา Check in กันแล้ว ก็ได้เข้าห้องพัก ยิ่งประทับใจใหญ่ เพราะเมื่อเปิดเข้าไปห้องนอนดูใหม่ สะอาด และที่สำคัญเมื่อเราเปิดระเบียง เราเจอวิวที่เรียกว่า “ใช่” ยืนยิ้มแบบไม่รู้จะพูดอะไรประมาณ 3 นาทีได้ จึงได้ปรึกษากันว่า เราทานข้าวที่นี่แหละ เพราะรีสอร์ทนี้มีร้านอาหาร และมีโต๊ะที่สามารถชมวิวของธรรมชาติได้เพลินๆ

เมื่อเราฟินกับบรรยากาศรอบข้างเราแล้ว รสชาดของอาหารที่นี่ ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง เราสั่งอาหารไป 3 อย่าง อันได้แก่ ไข่เจียวหมูสับเห็ดหอม ต้มแซ่บเอ็นแก้วและเมนูเด็ดที่ทางร้าน Recommended เราคือ ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ก็สมกับที่แนะนำ เพราะอร่อยจริงๆค่ะ ส่วนของหวานเราก็สั่งไป 2 อย่างคือ บัวลอยเผือก และ บงกช 3 สีก็ทำให้เราประทับใจจนต้องเอ่ยปากชมกันทั้งคู่ สรุปทริปช่วงเย็นของเราวันนี้ ไม่มีอะไรหวือหวา แต่บอกได้คำเดียว “มันเจ๋งที่สุดเลยค่ะ” ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่