คิดว่าน่าจะจบกันไปหมดแล้วนะ สำหรับอนิเมหน้าร้อน (ยกเว้นพวก 24 ตอน+ นะ)

มารีวิวกันหน่อยละกันครับ ใครขี้เกียจก็ให้แต่คะแนนก็ได้นะ

ของผมก็ตามนี้ละกัน เรียงตามความชอบจากน้อยไปมาก โดยทั้งหมด ยกเว้น Prisma Illya ผมไม่เคยอ่านตัวงานต้นฉบับมาก่อนนะครับ (ยกเว้น Sailor moon ที่ดองไว้อยู่)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Jinsei (6.5/10)



เรื่องนี้ยังไม่จบ น่าจะเหลืออีกตอน แต่ปัญหาคือซับออกช้าโคตรๆ ก็เลยทำให้ตอนนี้ยังดูไม่ถึงตอนล่าสุดเลย (มีทำเจ้าเดียวคือ fff) แต่ก็เขียนเลยละกัน

เป็นเรื่องเกี่ยวกับชมรมปรึกษาปัญหาต่างๆ ในชีวิต แล้วก็จะได้คำตอบแปลกๆ (แต่บางทีก็ดูเข้าท่า) จากสมาชิกชมรม เป็นแนว Comedy ที่พูดเยอะมากกกกก (ซับก็เยอะตามด้วย) ความฮาก็ฮาบ้างแป้กบ้าง เซอร์วิสก็เรียกว่าเยอะแหละ แถมบางทีดูไปยังงงไปซะอีก โดยในตอนตอนนึงจะมีปัญหามาประมาณ 2-3 เรื่อง เรียกว่าตอนนึง = 3 ตอนสั้นก็ว่าได้


Rail Wars! (6.5/10)



สั้นๆ ก็ฮาเร็มสับราง เซอรวิสเยอะ สาวๆ แต่ละคนก็น่ารัก แต่ถ้าไม่ปอดบวมนี่อยู่เรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ แอ็คชั่นทำท่าจะเยอะ แต่ก็ดันมีนิดเดียว (ทั้งที่ถ้าทำจริงๆ นี่จะเจ๋งมากๆ เลย แถมเห็นว่านิยายกับมังงะแอ็คชั่นเยอะด้วย) แถมเผาเป็นว่าเล่นอีก

เป็นเกี่ยวกับการรถไฟที่ญี่ปุ่น ถ้าดูเอาความรู้แบบเมินเรื่องเซอร์วิสก็ถือว่าใช้ได้เลย ดูเพลินดีเหมือนกัน

ปล. ถึงคุณ ToxinEye ที่ทำสปอยล์ ช่วยบอกเหตุผลลับๆ ที่มาทำสปอยล์ได้แล้วครับ


Sabagebu! (7/10)



ถ้าให้คำจำกัดความสั้นๆ ก็ Brutal Comedy แหละครับ จะคล้ายกับ Jinsei ตรงที่ตอนนึงจะแยกเป็นตอนย่อยลงไปอีก

เป็นเรื่องเกี่ยวกับชมรม Survival (ในรูปแบบ BB Gun) หลังจากที่เคยผิดหวังจาก C-3 bu มาผมก็ยังไม่เข็ด แต่เรื่องนี้ถือว่าดีกว่าเยอะ ยิงกันสนั่น เลือดสาดคาจอ ด้านงานภาพไม่ต้องพูดถึง ไม่ได้สวยอะไรเลยซักนิด แต่รายละเอียดบางจุดนี่ทำออกมาใส่ใจดี (อย่างตอนเปลี่ยนแมกกาซีนปืนนี่ทำผมต้องดูซ้ำทุกที) ความฮาไม่ใข่แบบฮาแตก แต่จะเป็นแบบ WTF! ซะมากมากกว่า ที่ได้ใจ(?)คือตัวเอกที่กล้ามากที่เอาตัวละครสันดานแบบนี้มา (ต้องใช้ว่า สันดาน แบบจริงจังครับ )


Fate/Kaleid Liner PRISMA ILLYA 2wei (7.5/10)



ภาคต่อ ก็ทำตามมังงะแทบจะเป๊ะๆ เลย เนื้อเรื่องเอื่อยๆ ยิ่งกว่าภาคแรก แต่ฉากสู้กันก็เรียกว่าไม่แพ้เรื่องที่บู๊กันหนักๆ เหมือนกัน โดยเฉพาะตอนเจอ บาเซ็ต นี่สนุกมากๆ อารมณ์ประมาณเจ๊แกเป็นฮะกุเม็ง ที่ต้องขนตัวละครมารุมตีเลยล่ะ (เปรียบเทียบเฉยๆ นะ จริงๆ ไม่ถึงขั้นนั้นหรอกครับ)

โดยรวมสนุกน้อยกว่าภาคแรก (แต่ถ้าดูปลุกหมี+ความวายนี่เรียกว่าดีกว่าภาคแรกนะ) และพอดีว่ามันยังไม่จบตามมังงะภาค 2wei ดี ก็ต้องไปต่อกันอีกภาค ซึ่งช่วงหลังสนุกกว่านี้เยอะแน่ๆ


Barakamon (8/10)



เข้าสู่โซนที่รู้สึกว่าสนุกพอๆ กันละ ทีแรกไม่ได้ดูเรื่องนี้ แต่เห็นคนดูกันเยอะ ก็เลยลองดูบ้าง พึ่งดูจบไปเมื่อกี้เลย เป็นแนวฮีลลิ่งดูเพลินๆ โดนใจตั้งแต่ 5 นาทีแรกที่ตะบันหน้ากันนี่แหละ (สัตว์เลื้อยคลานถึงกับหลุดออกจากปาก) พระเอกเห็นหน้าทีแรกทำให้นึกถึงเจ้า 8 หมื่นจาก Oregairu เวอร์ชั่นโตขึ้นมาหน่อย นิสัยก็ใกล้เคียงกันอีก

เป็นเรื่องที่ตัวเอกต้องมาอยู่เกาะ หาแรงบันดาลใจในการเขียนลายพู่กันของตัวเอง เนื้อเรื่องก็จะเป็นพระเอกโดนพวกเด็กๆ บนเกาะปั่นหัวทุกวัน ในขณะที่ตัวเองก็ต้องพยายามทำงานเขียนพู่กันของตัวเองไปด้วย ความฮาจะเป็นแบบน่ารักๆ ซะส่วนมาก ดูได้เพลินๆ

ถ้าลองเทียบกับแนวเดียวกันอย่าง Non Non Biyori แล้ว เรื่องนี้จะมีความจริงจังในเนื้อเรื่องมากกว่าซะจนไม่น่าเรียกว่าแนวฮีลลิ่งเลย (แต่ผมชอบ Non Non มากกว่านะ ดูได้แบบไม่คิดอะไรเลย)


SAO II (8/10)



ยังไม่จบ แต่ก็เขียนๆ ไปเหอะ ภาคต่อของอนิเมจากนิยายที่ดังระเบิดระเบ้อ แต่ตัวผมนั้นไม่ได้รู้สึกว่ามันยอดเยี่ยมกระเทียมเจียวอะไรนัก ก็เป็นเรื่องที่ดูสนุกเรื่องนึงฉยๆ มาภาคนี้ก็ยังเหมือนเดิม แต่สนุกกว่าครึ่งหลังของภาคแรก (SAO > GGO > ALO) ฉากแอ็คชั่นทำออกมาได้ดีไม่เปลี่ยน ที่น่าเบื่อคือคิริโตะคิริโกะที่ยังเทพอยู่คนเดียวไม่เปลี่ยนนี่แหละ ทำให้ไม่รู้สึกลุ้นอะไรในการต่อสู้เลยซักนิด บางทีก็นึกนะว่าถ้าเรื่องนี้ไม่มีความเป็นเกมออนไลน์คนจะตามดู/อ่านกันเยอะขนาดนี้รึเปล่า

ยิ่งพอดูถึงตอนล่าสุดช่วงท้าย รู้สึกเดจาวูตอนท้ายๆ ของ ALO เลยว่า มาแบบนี้อีกแล้วเหรอ?

เขียนออกมาดูบ่นเยอะ เพราะค่อนข้างอคติกับเรื่องนี้หน่อยๆ แต่ผมก็ยังรู้สึกสนุกไปกับเรื่องอยู่นะ (SS หน้าก็ได้ชนกับ LH (โดย Deen.....) ละ แฟนๆ คงถล่มกันสนุก )


Aldnoah.Zero (8/10)



อันนี้เป็นความเห็นของผมที่ปกติไม่ดูแนวหุ่นยนต์ + ไม่ได้ปลื้มกับงานที่ลุงเก็นมีส่วนร่วม (ยกเว้น Fate 0 ที่โครงเรื่องจาก Type-Moon ปูมาให้ดีแล้ว กับ Psycho-Pass ที่รู้สึกว่าสนุกจริง) นะครับ เพราะงั้นก็มีบ่นเยอะกว่าแน่ๆ ล่ะ

ทีแรกไม่กะดูเรื่องนี้ แต่เพราะกระแสที่ไม่รู้จะมากมายอะไรนักหนา เลยลองหามาดู ก็สนุกดี + กับเป็นงานออริจินัล แต่ดูไปดูมากก็แค่นั้น เน้นขายหุ่นซะมากกว่า (ก็มันแนวหุ่นยนต์นี่นะ) ความสนุกก็ไม่ห่างจาก SAO เท่าไร ถ้าเป็นคนชอบแนวหุ่นอยู่แล้วก็คงคะแนน 9-10 เลยแหละมั้ง

ที่ถูกใจก็การใช้สมองเข้าสู้ของอินาโฮะ อย่างตอนสู้กับตัวแรกนี่ ผมรู้สึกว่ามันเจ๋งเลยนะ วิเคราะห์ออกมาเป็นฉากๆ แต่หลังจากนั้นนี่ฉากสู้กันคือเฉยมากๆ มาสนุกอีกทีก็ตอนสุดท้ายโน่นเลย ที่จัดเต็มสุดๆ (ยังแปลกใจว่าหุ่นอินาโฮะมีดัดแปลงโน่นนี่ คนอื่นไม่คิดจะลองดัดแปลงบ้างเลย?)

การเกลี่ยบท ก็เน้นแต่ความเทพของอินาโฮะอย่างเดียว จริงๆ น่าแบ่งบทไปให้อย่างไรเอ หรือใครก็ได้โชว์ให้เห็นชัดๆ กันซักหน่อยก็ยังดี ดีหน่อยที่มันไม่เป็นประเภท "ข้ามาคนเดียว" ซะขนาดนั้น

จะไม่พูดเรื่องตอนจบก็ยังไงอยู่ แต่คิดว่าไม่สปอยล์ตรงนี้จะดีกว่า จะบอกว่า มักง่ายไปหน่อย ที่เล่นจบภาคไปแบบนี้ แต่พอคิดไปคิดมาหลายตลบแล้ว เรื่องแนวนี้ คงมีแต่ต้องจบแบบนี้ เพื่อให้คนอยากดูต่อนั่นแหละ (ซึ่งจริงๆ ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องจบแบบไปบังคับความอยากคนให้ดูต่อขนาดนั้นก็ได้)

ที่ชอบมากคือเพลง ED aLIEz เป็น ED ที่ชอบที่สุดใน SS นี้ เพลงประกอบในเรื่องก็สนุกดี แต่ที่สนุกที่สุดคือกองอวยอินาโฮะ-สเลนถล่มกันนี่แหละ


Ao Haru Ride (8/10)



อนิเมจากมังงะแนวโชโจที่เคยดูผ่านมายังไม่โดนซักเรื่อง มีเรื่องนี้ที่พอโอเคหน่อย ระดับความฟินได้พอตัว เพียงแต่บางทีรู้สึกเรื่องมันโดดข้ามไปข้ามมานิดหน่อย

เกี่ยวกับคู่พระนางที่จากกันไปหลังจบม. ต้น แล้วมาเจอกันอีกครั้งตอนม. 5 โดยต่างฝ่ายต่างก็เปลี่ยนไป ทางนางเอกอยากที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นตัวของตัวเองให้มากขึ้น ไม่เสแสร้ง ตัวพระเอกก็มีปมให้ดราม่าท้ายๆ เหมือนกัน เนื้อเรื่องก็ไปเรื่อยๆ ไม่หวือหวาอะไร ที่ขัดใจ+รำคาญที่สุดคือการกระทำหลายๆ อย่างของตัว โค ที่มีต่อ ฟุตาบะ นี่แหละ คือแบบ เอ็งซึนเดเระใช่มั้ย? ซึนโคตรๆ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ยิ่งตอนเอานิ้วลบลิปสติกจากปากฟุตาบะด้วยท่าทางเฉยๆ นี่ ถึงกับถามเลยว่า เอ็งไม่รู้สึกอะไรจริงๆ น่ะเฮ้ย !?!?

ตอนจบก็ทำได้ดี อยากให้มีภาคต่อ ก็ต้องรอดู เพราะอยากเห็นคู่รองว่าจะเป็นยังไงต่อ (ว่างๆ คงลองอ่านมังงะแหละ)


Gekkan Shoujo Nozaki-kun (8.5)



ทีแรกมองข้ามเรื่องนี้ไป เพราะเข้าใจว่าเป็นแนวโชโจจ๋า+ผิดหวังจาก Manga-ka san ของซีซั่นก่อนมา แต่พอลองเอามาดู ผมว่าเป็น Comedy ที่สนุกสุดในซีซั่นนี้ละ เรียกว่าเป็นม้ามืดของผมเลยก็ได้

พระเอกเป็นนักวาดมังงะโชโจ แล้วนางเอกที่ชอบพระเอกก็จับพลัดจับผลู กลายเป็นผู้ช่วยซะงั้น ดีไซน์ตัวละครก็ทำออกมาแบบผู้ชายดูได้ ผู้หญิงดูดี (ตัวละครหน้าตาตามแบบแนวโชโจ? ตัวละครหญิงดูน่ารัก) ที่ฮาเพราะความไม่เต็มเต็งของแต่ละคนนี่แหละ แต่หลังๆ ชักจะเดาทางออกบ้าง ก็เลยสนุกน้อยลงไปเหมือนกัน

นางเอกที่แขวนโบว์ที่ดูจะปกติที่สุดก็ดูจะเป็นนางเอกที่น่าสงสารที่สุดในซีซั่นละ ที่เจ็บใจที่สุดคือ ผมโดนภาพสปอยล์ตอนสุดท้ายนี่แหละ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่คนแคปภาพมาตอนโนซากิจะกระซิบข้างหู ไอ้ผมก็นึกว่าจูบกัน ที่ไหนได้ ถ้าจะคาดหวังความฟินอะไร บอกได้อย่างเดียวว่าอย่าหวังเลยครับ เหนื่อยเปล่าๆ

อ้อ ผมชอบ เซโอะ ยุซุกิ นะ บ้าดี รู้สึกฮาที่สุดเวลาเธอโผล่มา รองลงมาก็นางเอกมิโครินนี่ล่ะ


Akame ga KILL! (9/10)



ต้องบอกว่าดีที่ผมไม่เคยอ่านเรื่องนี้มาก่อน ทำให้สนุกได้เต็มที่ แถมเห็นคนที่อ่านมังงะบางคนบอกว่าอนิเมทำออกมาไม่ค่อยดีด้วย

เนื้อเรื่องเป็นแนวต่อสู้เพื่อการปฏิวัติ และก็เดินเรื่องแบบนั้นมาตลอด ไม่มีอะไรซับซ้อน สารภาพว่าตอนดูตอนแรก ครึ่งแรกรู้สึกเลยว่ามันสนุกตรงไหน? พอธาตุแท้ของเรื่องเผยเท่านั้นแหละ

เป็นเพราะเนื้อเรื่องง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ก็เลยไม่มีอะไรให้เขียนเท่าไร แต่ถ้าชอบแนวต่อสู้แล้ว เรื่องนี้ไม่ผิดหวังแน่ๆ ล่ะ (ไว้งานหนังสือจะไปสอยมังงะละ)


Hanamonogatari (9/10)



บทล่าสุดจากซีรี่ส์ Monogatari ทำออกมา 5 ตอน ซึ่งก็มาแพทเทิร์นเดิม แล้วผมดูแต่ละบททีไรก็ไม่เคยจำซักที คือ ช่วงแรกๆ ของบทจะค่อนข้างงงๆ ปนน่าเบื่อนิดหน่อย พอเข้าครึ่งหลังของบทนี่ทุกอย่างกระจ่าง ทำให้ทึ่งได้ทุกครั้ง

จุดเด่นของเรื่องนี้ก็เหมือนเดิมคือบทสนทนาที่มีชั้นเชิง และการตบมุก ยิงมุกที่มีอารารารารารารากิร่วมด้วย ที่ให้ฮาได้ตลอด

ไม่มีอะไรให้เขียนมากเลยแฮะ แต่ก็สนุกทุกครั้งที่ได้ดู และจากการดูครั้งนี้ ทำให้ผมรู้ว่า การรอให้จบบท แล้วค่อยดูรวดเดียว จะเข้าใจง่ายกว่าดูทีละตอนแฮะ

ปล. Shaft....เมื่อไร Kizumonogatari จะมา??


Zankyou no Terror (9.5/10)



เรื่องนี้ถูกใจตั้งแต่เรื่องย่อแล้ว เป็นงานออริจินัลอีกเรื่อง โดยรวมอาจจะไม่ได้หวือหวา หนักแอ็คชั่น เร้าใจ อะไรขนาดนั้น แต่ด้านอารมณ์ร่วมนี่สุดๆ เลยจริงๆ โทนเรื่องเป็นเรื่องที่ดูแล้วเครียดที่สุดในหลายๆ เรื่องที่เคยดูมาเลย

เนื้อเรื่องเป็นการก่อการร้ายของเด็กหนุ่ม 2 คนในโตเกียว ซึ่งเหตุผลที่ทำก็ต้องไปดูกันเอง เพราะเป็นเรื่องประเภทที่ถ้าโดนสปอยล์แล้วความสนุกหายหมดแน่ๆ แถมเป็นเรื่องแบบที่ดูสนุกได้แค่รอบแรกรอบเดียวด้วย

โครงเรื่องโดยรวม เนื้อหาแต่ละอย่างนี่ต้องบอกว่าไม่กะขายเลยจริงๆ เกือบทุกอย่างในเรื่องมีเหตุผลรองรับหมด (แต่ไม่ทุกเรื่องนะ) ความสนุกส่วนตัวชอบในช่วงแรก มาดรอปลงหน่อยๆ ที่กลางเรื่อง ก่อนจะทะลุขีดในช่วงท้ายๆ เสียดายที่ทำออกมาแค่ 11 ตอน อย่างน้อยยังอยากให้ได้เพิ่มอีกซักตอน แล้วเรื่องคงจะดูสมบูรณ์ยิ่งกว่านี้

จุดเด่นอีกอย่างของเรื่องนี้คือ Ost ถ้าเทียบว่า Ost ของ Aldnoah.Zero นั้นสนุก เร้าใจ ของเรื่องนี้ก็จะเป็นแนวหม่นๆ ซึ่งผมว่าเข้ากับเนื้อเรื่องอย่างสุดๆ

ถ้าเบื่อโมเอะ กะดูเอาเนื้อเรื่องเน้นๆ แนะนำเรื่องนี้เลยครับ ส่วนจะถูกใจมั้ย อันนี้ก็ต้องแล้วแต่คนล่ะครับ


ที่ผมดูมีเท่านี้ครับ ของคนอื่นๆ ว่าไงมั่งเอ่ย? เอาแค่คะแนนก็ได้นะ ไม่ต้องเขียนยาว

ถ้าจะสปอยล์จุดสำคัญอะไร รบกวนครอบไว้ด้วยนะครับ