ถ้าพูดถึงหนัง Thriller / Horror ที่มีเนื้อหาแหวกแนวซักเรื่อง คงไม่พ้น The Purge ซึ่งเป็นหนังเกี่ยวกับการลดอาชญากรรมโดยใช้ 1 คืน เป็นวันปลดปล่อย ให้คนได้ "ล้างบาปด้วยการฆ่า" ภายในเวลาไม่เกิน 7 โมงเช้าของอีกวัน โดยไม่ผิดกฏหมาย โดยมีจุดประสงค์คือ ควบคุมจำนวนประชากร และลดอาชญากรรม โดยเป้าหมายหลักคือเหยื่อมักจะไปอยู่ที่ คนเร่ร่อนไม่มีบ้าน และคนจนที่ไม่สามารถหาอุปกรณ์ป้องกันตนเองได้.
ภาคแรกของ The Purge ก็ทำออกมาได้ดี จบได้ "ไม่" สะใจคนดู แต่เรียกได้ว่าจบได้สวย
แม้ว่านี่จะเป็นภาคต่อของหนัง แต่ผมก็คิดว่าควรเกริ่นเรื่องนี้ก่อน คือเนื้อหาโครงเรื่องข้างต้น เป็นอะไรที่ขัดใจหรือขัดหลักเหตุผลมนุษยธรรมมากพอควร คือมันจะเป็นไปได้ไงที่คนมากมายจะยอมรับการฆ่าคนบางส่วนเพื่อทำให้คุณภาพชีวิตคนอีกกลุ่มนึงดีขึ้น หรือเชื่อว่าดีขึ้น ... แนวความคิดนี้ก็เหมือนเป็นโจทย์หรือเงื่อนไขที่หนังได้สร้างขึ้นมา ก็เเล้วแต่ว่าเรายอมรับตรงนี้ได้ไหม ถ้าคิดว่ายอมรับเหตุผลนี้ไม่ได้ หนังเรื่องนี้ก็ไร้เหตุผล ผมแนะนำว่าคุณควรหยุดอ่านซะตรงบรรทัดนี้ได้เลยครับ ไม่งั้นจะกลายเป็นว่าผมเอาเรื่องที่ไม่น่ามีเหตุผลมาวิเคราะห์ แล้วจะไม่ชอบหนังเรื่องนี้ซะเปล่า ๆ ... ตอนก่อนดูภาคแรกผมก็ไม่ยอมรับ แต่พอได้ดูหนัง ผมกลับ ชอบนิดนึง !!! ซะงั้น ... เอาล่ะ ถ้าคุณคิดว่ายอมรับเงื่อนไขของหนังได้ เราก็จะมาดูในการนำเสนอของภาคนี้ต่อเลย.
หนังเริ่มมาก็ปูพื้นคนโน้นคนนี้นิดหน่อย ไม่ได้ปูลึกมาก ซึ่งก็ดีกับตัวหนังเพราะมันจะได้ไม่เยิ่นเย้อเกินไป ซึ่งตรงนี้ผมว่าการปูพื้นน้อย ๆ กระชับก็ดี มันไม่น่าเบื่อ จากนั้น หนังแสดงถึงพระเอก ในเรื่องชื่อ "LEO" ลีโอ ซึ่งในวันที่จะมีการล้างบาปคนอื่นเตรียมตัวหาทางกลับบ้าน ล็อคบ้าน แต่ลีโอกลับทำตรงกันข้าม เขาเตรียมออกไปข้างนอก เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ระหว่างทางที่จะไปนั้น ได้พบเจอกับการฆ่าหลายคนโดนฆ่า เขาจำต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเหตุการณ์เหล่านั้น จนในที่สุดก็ต้องมาเกี่ยวพันกับคนบางกลุ่ม เหมือนตกกระไดพลอยโจน กลายเป็นการเดินทางร่วมกัน ต้องพึ่งพากัน นำมาสู่มิตรภาพและการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในขณะที่ต้องผ่านเหตุการณ์ที่โหดร้ายและไม่น่าไว้วางใจ เส้นทางเดียวกันแต่จุดประสงค์ต่างกัน อีกคนจะไปฆ่า อีกคนต้องการผ่านคืนนี้ไปให้ได้อย่างปลอดภัย.
หนังดำเนินเรื่องโดยใช้ ลีโอ เป็นแกนหลักของเรื่องซึ่งผมว่าเขาเลือกตัวนักเเสดงได้ดี ผมไม่รู้จักนักแสดงคนนี้มาก่อน เขาคือ Frank Grillo หน้าตาจะหล่อก็ไม่ถึงขั้นมากแต่ดูแบบเข้ม ๆ หน้าออกแนวเถื่อน ๆ หน่อย เห็นหน้าและบุคคลิกแล้วนึกไปถึง บทริกส์ พระเอกหนัง Series เรื่อง The Walking Dead เลย สไตล์คล้ายกันมาก [ปกติผมก็คลั่งหนังซอมบี้ The Walking Dead อยู่แล้ว] ผมว่าบท ลีโอ ดูมีความมุ่งมั่งบวกกับความแค้นในใจ และมีลักษณะของความเป็นผู้นำ และที่สำคัญคือ มีความเป็นคนดีเสียสละอยู่ในแววตาของเขาจริง ๆ นี่ทำให้หนังเรื่องนี้ดูน่าติดตามขึ้นอีกเยอะ ... คือถ้าพระเอกออกแนวชั่ว ๆ ไปเลย ผมว่าคนดูคงไม่ลุ้นช่วยเท่าไร.
จังหวะของหนังตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่องมีความสม่ำเสมอดี ไม่ช้าเนิบบ้างเร็วเกินบ้าง ผมว่าเรื่องนี้ควบคุมจังหวะในการเดินเรื่องได้ดี.
โทนหนังไม่อึมครึมเกินไป ทั้ง ๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นเหตุการณ์ช่วงกลางคืนซึ่งถ้าถ่ายทำ จัดแสงไม่ดี มันจะน่ารำคาญไปเลย แต่เรื่องนี้จัดแสงและภาพได้ดี ดูแล้วไม่ทำให้เหตุการณ์มืด ๆ เป็นอุปสรรคในการดูเลย.
The Purge Anachy ได้เสียดสีเรื่องของชนชั้น คนจน คนรวย การแบ่งแยก เลือกปฏิบัติ ความไม่เท่าเทียมกัน หลาย ๆ อย่างที่หนังได้กัดจิกสังคมมันสะใจสำหรับคนจน คนที่ไม่มีสิทธิ์เลือก คนที่ไม่ได้เกิดมามีโอกาส คนที่ไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง คนที่ไม่มีบ้าน คนที่มีรายได้จำกัด ... คนที่ไม่มีทางเลือก ... ผมว่าหนังได้เสียดสีอย่างแรง และผมรู้สึกครับ ผมสะใจกับเนื้อหาในส่วนนี้ ใช่ครับ เพราะผมไม่ใช่คนรวย ถ้าผมเข้าไปอยู่ในเรื่อง ผมคงต้องถูกทิ้งอยู่บนถนนท่ามกลางพวกที่กระหายจะ "ฆ่า" .
นอกจากนั้นหนังยังพูดถึงการแก้แค้น การให้อภัย และผลของการให้อภัย สิ่งที่ดีอีกอย่างคือมิตรภาพที่เกิดจากการผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมาด้วยกัน คงจะจริงสินะ สำหรับคำพูดที่ว่า เมื่อเผชิญเหตุการณ์ร้าย ๆ เราจะเห็นว่าใครเป็นยังไง อันนี้ไม่เกี่ยวกับหนัง เป็นความคิดเห็นที่เกิดขึ้นหลังจากได้ดูหนังจบแล้ว.
การล่าและฆ่า ในหนังไม่ได้เน้นความโหดสะอิดสะเอียน กระซวกไส้ กรีดหน้า เชือดคอ พวกนี้ไม่มี แต่หนังแค่แสดงให้เห็นการฆ่าตามเนื้อเรื่องเท่านั้น ไม่ได้ขายฉากโหด ใครอยากดูฉากโหดซาดิสต์ข้ามเรื่องนี้ไปเลยครับ.
นี่เป็นหนึ่งในหนังดีที่ดูสนุก มีสาระชัดเจน ไม่ว่อกแวกในแนวทางของตนเอง ประเด็นหลัก ประเด็นย่อย คล้อยตามกัน มีความกลมกลืนสอดคล้องของแต่ละเหตุการณ์ และที่สำคัญคือหนังได้ตอกย้ำสิ่งที่จะบอกคนดูให้หนักแน่นขึ้นกว่าภาคแรกด้วยซ้ำ ... แนะนำให้ชมครับ.
อย่าลืมล๊อคประตูบ้านให้แน่นหนานะครับ เพราะพวกมันพร้อมอาวุธครบมือ อาจกำลังเดินทางมาที่บ้าน คุณ !!!
ที่มา
http://thailandthinkingofmovies.blogspot.com/2014/09/2014-purge-anarchy_27.html
http://thailandthinkingofmovies.blogspot.com/2014/09/2014-purge-anarchy_27.html
http://thailandthinkingofmovies.blogspot.com/2014/09/2014-purge-anarchy_27.html
http://thailandthinkingofmovies.blogspot.com/2014/09/2014-purge-anarchy_27.html
http://thailandthinkingofmovies.blogspot.com/2014/09/2014-purge-anarchy_27.html
==========================================
วิจารณ์หนัง The Purge Anarchy คืนอำมหิต คืนล่าฆ่าไม่ผิด [2014]
ภาคแรกของ The Purge ก็ทำออกมาได้ดี จบได้ "ไม่" สะใจคนดู แต่เรียกได้ว่าจบได้สวย
แม้ว่านี่จะเป็นภาคต่อของหนัง แต่ผมก็คิดว่าควรเกริ่นเรื่องนี้ก่อน คือเนื้อหาโครงเรื่องข้างต้น เป็นอะไรที่ขัดใจหรือขัดหลักเหตุผลมนุษยธรรมมากพอควร คือมันจะเป็นไปได้ไงที่คนมากมายจะยอมรับการฆ่าคนบางส่วนเพื่อทำให้คุณภาพชีวิตคนอีกกลุ่มนึงดีขึ้น หรือเชื่อว่าดีขึ้น ... แนวความคิดนี้ก็เหมือนเป็นโจทย์หรือเงื่อนไขที่หนังได้สร้างขึ้นมา ก็เเล้วแต่ว่าเรายอมรับตรงนี้ได้ไหม ถ้าคิดว่ายอมรับเหตุผลนี้ไม่ได้ หนังเรื่องนี้ก็ไร้เหตุผล ผมแนะนำว่าคุณควรหยุดอ่านซะตรงบรรทัดนี้ได้เลยครับ ไม่งั้นจะกลายเป็นว่าผมเอาเรื่องที่ไม่น่ามีเหตุผลมาวิเคราะห์ แล้วจะไม่ชอบหนังเรื่องนี้ซะเปล่า ๆ ... ตอนก่อนดูภาคแรกผมก็ไม่ยอมรับ แต่พอได้ดูหนัง ผมกลับ ชอบนิดนึง !!! ซะงั้น ... เอาล่ะ ถ้าคุณคิดว่ายอมรับเงื่อนไขของหนังได้ เราก็จะมาดูในการนำเสนอของภาคนี้ต่อเลย.
หนังเริ่มมาก็ปูพื้นคนโน้นคนนี้นิดหน่อย ไม่ได้ปูลึกมาก ซึ่งก็ดีกับตัวหนังเพราะมันจะได้ไม่เยิ่นเย้อเกินไป ซึ่งตรงนี้ผมว่าการปูพื้นน้อย ๆ กระชับก็ดี มันไม่น่าเบื่อ จากนั้น หนังแสดงถึงพระเอก ในเรื่องชื่อ "LEO" ลีโอ ซึ่งในวันที่จะมีการล้างบาปคนอื่นเตรียมตัวหาทางกลับบ้าน ล็อคบ้าน แต่ลีโอกลับทำตรงกันข้าม เขาเตรียมออกไปข้างนอก เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ระหว่างทางที่จะไปนั้น ได้พบเจอกับการฆ่าหลายคนโดนฆ่า เขาจำต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเหตุการณ์เหล่านั้น จนในที่สุดก็ต้องมาเกี่ยวพันกับคนบางกลุ่ม เหมือนตกกระไดพลอยโจน กลายเป็นการเดินทางร่วมกัน ต้องพึ่งพากัน นำมาสู่มิตรภาพและการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในขณะที่ต้องผ่านเหตุการณ์ที่โหดร้ายและไม่น่าไว้วางใจ เส้นทางเดียวกันแต่จุดประสงค์ต่างกัน อีกคนจะไปฆ่า อีกคนต้องการผ่านคืนนี้ไปให้ได้อย่างปลอดภัย.
หนังดำเนินเรื่องโดยใช้ ลีโอ เป็นแกนหลักของเรื่องซึ่งผมว่าเขาเลือกตัวนักเเสดงได้ดี ผมไม่รู้จักนักแสดงคนนี้มาก่อน เขาคือ Frank Grillo หน้าตาจะหล่อก็ไม่ถึงขั้นมากแต่ดูแบบเข้ม ๆ หน้าออกแนวเถื่อน ๆ หน่อย เห็นหน้าและบุคคลิกแล้วนึกไปถึง บทริกส์ พระเอกหนัง Series เรื่อง The Walking Dead เลย สไตล์คล้ายกันมาก [ปกติผมก็คลั่งหนังซอมบี้ The Walking Dead อยู่แล้ว] ผมว่าบท ลีโอ ดูมีความมุ่งมั่งบวกกับความแค้นในใจ และมีลักษณะของความเป็นผู้นำ และที่สำคัญคือ มีความเป็นคนดีเสียสละอยู่ในแววตาของเขาจริง ๆ นี่ทำให้หนังเรื่องนี้ดูน่าติดตามขึ้นอีกเยอะ ... คือถ้าพระเอกออกแนวชั่ว ๆ ไปเลย ผมว่าคนดูคงไม่ลุ้นช่วยเท่าไร.
จังหวะของหนังตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่องมีความสม่ำเสมอดี ไม่ช้าเนิบบ้างเร็วเกินบ้าง ผมว่าเรื่องนี้ควบคุมจังหวะในการเดินเรื่องได้ดี.
โทนหนังไม่อึมครึมเกินไป ทั้ง ๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นเหตุการณ์ช่วงกลางคืนซึ่งถ้าถ่ายทำ จัดแสงไม่ดี มันจะน่ารำคาญไปเลย แต่เรื่องนี้จัดแสงและภาพได้ดี ดูแล้วไม่ทำให้เหตุการณ์มืด ๆ เป็นอุปสรรคในการดูเลย.
The Purge Anachy ได้เสียดสีเรื่องของชนชั้น คนจน คนรวย การแบ่งแยก เลือกปฏิบัติ ความไม่เท่าเทียมกัน หลาย ๆ อย่างที่หนังได้กัดจิกสังคมมันสะใจสำหรับคนจน คนที่ไม่มีสิทธิ์เลือก คนที่ไม่ได้เกิดมามีโอกาส คนที่ไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง คนที่ไม่มีบ้าน คนที่มีรายได้จำกัด ... คนที่ไม่มีทางเลือก ... ผมว่าหนังได้เสียดสีอย่างแรง และผมรู้สึกครับ ผมสะใจกับเนื้อหาในส่วนนี้ ใช่ครับ เพราะผมไม่ใช่คนรวย ถ้าผมเข้าไปอยู่ในเรื่อง ผมคงต้องถูกทิ้งอยู่บนถนนท่ามกลางพวกที่กระหายจะ "ฆ่า" .
นอกจากนั้นหนังยังพูดถึงการแก้แค้น การให้อภัย และผลของการให้อภัย สิ่งที่ดีอีกอย่างคือมิตรภาพที่เกิดจากการผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมาด้วยกัน คงจะจริงสินะ สำหรับคำพูดที่ว่า เมื่อเผชิญเหตุการณ์ร้าย ๆ เราจะเห็นว่าใครเป็นยังไง อันนี้ไม่เกี่ยวกับหนัง เป็นความคิดเห็นที่เกิดขึ้นหลังจากได้ดูหนังจบแล้ว.
การล่าและฆ่า ในหนังไม่ได้เน้นความโหดสะอิดสะเอียน กระซวกไส้ กรีดหน้า เชือดคอ พวกนี้ไม่มี แต่หนังแค่แสดงให้เห็นการฆ่าตามเนื้อเรื่องเท่านั้น ไม่ได้ขายฉากโหด ใครอยากดูฉากโหดซาดิสต์ข้ามเรื่องนี้ไปเลยครับ.
นี่เป็นหนึ่งในหนังดีที่ดูสนุก มีสาระชัดเจน ไม่ว่อกแวกในแนวทางของตนเอง ประเด็นหลัก ประเด็นย่อย คล้อยตามกัน มีความกลมกลืนสอดคล้องของแต่ละเหตุการณ์ และที่สำคัญคือหนังได้ตอกย้ำสิ่งที่จะบอกคนดูให้หนักแน่นขึ้นกว่าภาคแรกด้วยซ้ำ ... แนะนำให้ชมครับ.
อย่าลืมล๊อคประตูบ้านให้แน่นหนานะครับ เพราะพวกมันพร้อมอาวุธครบมือ อาจกำลังเดินทางมาที่บ้าน คุณ !!!
ที่มา
http://thailandthinkingofmovies.blogspot.com/2014/09/2014-purge-anarchy_27.html
http://thailandthinkingofmovies.blogspot.com/2014/09/2014-purge-anarchy_27.html
http://thailandthinkingofmovies.blogspot.com/2014/09/2014-purge-anarchy_27.html
http://thailandthinkingofmovies.blogspot.com/2014/09/2014-purge-anarchy_27.html
http://thailandthinkingofmovies.blogspot.com/2014/09/2014-purge-anarchy_27.html
==========================================