ก่อนอื่นต้องขออภัยก่อนเลยนะครับ ที่กระทู้แนวนี้ถือว่าค่อนข้างซ้ำและออกมาให้เห็นบ่อยมาก ผมศึกษาค้นคว้ามาแล้วครับก่อนหน้านี้ จากแทบทุกกระทู้ที่เคยมีในบอร์ดพันทิปนี่แหละ แต่ยังคงอึมครึมไม่ชัดเจนและสับสนพอสมควรครับ เลยตั้งใจตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจ (ยาวหน่อยนะครับ)
ผมเรียนสายวิทย์-คณิตครับ เข้ามหาวิทยาลัยเสียดายสายที่เลือกมาก็เลยเรียนวิทยาศาสตร์ทั้งๆที่ตัวเองหัวศิลป์มากๆ หัวศิลป์ในที่นี้คือ เรียนได้ดีและมีความชอบในวิชาทางด้านสายศิลป์สูงครับ สังคม ภาษา ปรัชญา ฯลฯ ทำให้ปัจจุบันต้องทนฝืนเรียนและพร้อมจะจบออกไปแบบฉิวเฉียดและไม่มีความรู้ในอาชีพเลยอย่างที่มนุษย์ส่วนใหญ่ประสบพบเจอกัน
หลายคนอาจคิดว่าทำไมผมไม่ซิ่วแล้วไปเลือกเรียนอะไรที่เป็นทางของตัวเอง
ผมเคยพยายามซิ่วแล้วครับแต่ไม่ได้ในคณะที่หวังประจวบกับเวลาที่ค่อยๆผ่านไปจนตอนนี้เรียนใกล้จบแล้วเพิ่งคิดได้ว่าไม่อยากเดินในเส้นทางที่ไม่เกิดความสุข และปัจจุบันก็ไม่ได้มองว่าสายเกินไปที่จะเริ่มต้นใหม่กับสิ่งที่ใช่กว่าเดิม เลยคิดที่จะฝึกภาษาที่สาม ที่สี่ ตามความเหมาะสมครับ เข้าใจว่าการเรียนภาษามันยาก ต้องอาศัยความชอบ ความเพียร และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเรียนให้ได้หลายๆภาษาอย่างที่คิด ผมเลยโฟกัสที่ภาษาที่สามก่อนครับ บวกกับขัดเกลาฝึกปรือภาษาอังกฤษไปด้วย
ผมเรียนภาษาอังกฤษได้ดีในระดับหนึ่งอยู่แล้วครับ แต่เรียนได้ดีไม่ได้แปลว่าจะใช้การได้ดีหรือเก่งภาษาอังกฤษ ตรงกันข้าม การเรียนดีทำให้ผมไม่ประสบความสำเร็จในการนำไปใช้เลย พูดจะตะกุกตะกัก เรียบเรียงไม่ได้ ห่วงแกรมม่า จากที่มีความรู้เมื่อเจอเจ้าของภาษาโดยตรงจริงๆกลับทำอะไรไม่ถูกครับ เรื่องง่ายๆคิดไม่ได้ นำมาใช้ไม่ถูก ซึ่งในส่วนนี้ผมถือว่าตัวเองยังไม่ประสบความสำเร็จในภาษาอังกฤษเท่าที่ควร และจะศึกษาต่อไป
ในส่วนของภาษาที่สาม ผมเล็งไว้สามภาษาคือภาษาสเปน เยอรมัน และญี่ปุ่นครับ
ภาษาสเปน - ไม่ได้สนใจในภาษาและวัฒนธรรมเป็นพิเศษ อยู่ในตัวเลือกเพราะสาวๆแถบนั้นหน้าตาดี(ฮา)
จริงๆแล้วก็มองๆเพราะแทบจะเป็นภาษาระดับโลกไปแล้วครับ ปัจจุบันดูหนังหรือซีรีย์หลายๆเรื่องจะต้องเจอภาษาสเปน คือใช้กันอย่างแพร่หลายจนเป็นที่น่าจับตามองในอนาคตข้างหน้า
ภาษาเยอรมัน - สนใจพอสมควรครับ มีคนใช้มากในระดับหนึ่ง เป็นภาษาเศรษฐกิจ ระยะหลังๆมีคนเยอรมันเข้ามาในประเทศไทยก็มาก ทำให้เป็นภาษาที่น่าสนใจเป็นพิเศษ แต่ติดตรงความยากของภาษา โดยเฉพาะในส่วนของแกรมม่าซึ่งเป็นอย่างท้ายๆเลยที่ผมถนัด มักทำได้ไม่ค่อยดีในส่วนนี้
ภาษาญี่ปุ่น - สนใจในระดับเดียวกับภาษาเยอรมัน คิดว่าอาจจะได้ใช้และฝึกง่ายกว่าเพราะสื่อต่างๆสามารถเข้าถึงได้ง่าย และคนญี่ปุ่นโดยมากใช้ภาษาญี่ปุ่นทั้งการพูดการเขียนและตามเว็บบอร์ด ตามหน้าเพจต่างๆ ในขณะที่คนเยอรมันมักใช้ภาษาอังกฤษ มีความรู้ในภาษาอังกฤษดีอยู่แล้วในระดับหนึ่ง ติดตรงที่ภาษาญี่ปุ่นไม่ได้มีความคล้ายคลึงกันเลยแม้แต่นิดเดียวกับภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาหลักที่ผมกำลังเรียนรู้ด้วยตนเองอยู่ขณะนี้ ต้องเริ่มเรียนตั้งแต่ตัวอักษร จำการเรียงประโยค สำเนียงต่างๆใหม่หมด ผมเองไม่ทราบว่าความคล้ายคลึงของภาษาอังกฤษกับเยอรมันจะทำให้การเรียนควบคู่กันไปนั้นยากขึ้นหรือเปล่า แต่หากเรียนญี่ปุ่นอาจจะแยกแยะได้ง่ายกว่าในส่วนนี้ และในเรื่องการใช้ชีวิต การทำงาน และเรื่องต่างๆ คนเอเชียคงไม่เหยียดเอเชียด้วยกันเองเท่าไรนัก(ยกเว้นคนไทย) ทั้งนี้ผมเองยังมองว่าภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่น่ารัก ฟังแล้วไพเราะผิดกับภาษาเยอรมันที่ฟังแล้วตะกุกตะกัก กระแทกกระทั้น เหมือนมีของแข็งค้างในลำคอ แต่ผมอาจจะมีความสนใจในวัฒนธรรมฝรั่งฝั่งยุโรปมากกว่าเพราะคุ้นชินกับความเป็นเอเชียและตื่นตาตื่นใจกับความเป็นฝรั่งที่ค่อนข้างสากล
จากที่กล่าวมาข้างต้นเพื่อนๆว่าผมควรศึกษาภาษาอะไรเป็นภาษาที่สามต่อจากภาษาอังกฤษดีครับ ถ้ามองในเรื่องของการใช้ชีวิตในประเทศ มองอาเซียนที่กำลังจะมา มองความก้าวหน้าในอนาคต ทำงาน เรียนต่อ ฯลฯ ผมจะเริ่มเรียนรู้ควบคู่กันไปเลยเพราะผมคงไม่ทิ้งภาษาอังกฤษแน่ๆ
เรียนภาษาอังกฤษควบคู่กับภาษาอะไรไม่ทำให้สับสนและส่งผลกับการใช้ชีวิตในประเทศมากกว่ากันครับครับ เยอรมัน, ญี่ปุ่น, สเปน
ผมเรียนสายวิทย์-คณิตครับ เข้ามหาวิทยาลัยเสียดายสายที่เลือกมาก็เลยเรียนวิทยาศาสตร์ทั้งๆที่ตัวเองหัวศิลป์มากๆ หัวศิลป์ในที่นี้คือ เรียนได้ดีและมีความชอบในวิชาทางด้านสายศิลป์สูงครับ สังคม ภาษา ปรัชญา ฯลฯ ทำให้ปัจจุบันต้องทนฝืนเรียนและพร้อมจะจบออกไปแบบฉิวเฉียดและไม่มีความรู้ในอาชีพเลยอย่างที่มนุษย์ส่วนใหญ่ประสบพบเจอกัน
หลายคนอาจคิดว่าทำไมผมไม่ซิ่วแล้วไปเลือกเรียนอะไรที่เป็นทางของตัวเอง
ผมเคยพยายามซิ่วแล้วครับแต่ไม่ได้ในคณะที่หวังประจวบกับเวลาที่ค่อยๆผ่านไปจนตอนนี้เรียนใกล้จบแล้วเพิ่งคิดได้ว่าไม่อยากเดินในเส้นทางที่ไม่เกิดความสุข และปัจจุบันก็ไม่ได้มองว่าสายเกินไปที่จะเริ่มต้นใหม่กับสิ่งที่ใช่กว่าเดิม เลยคิดที่จะฝึกภาษาที่สาม ที่สี่ ตามความเหมาะสมครับ เข้าใจว่าการเรียนภาษามันยาก ต้องอาศัยความชอบ ความเพียร และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเรียนให้ได้หลายๆภาษาอย่างที่คิด ผมเลยโฟกัสที่ภาษาที่สามก่อนครับ บวกกับขัดเกลาฝึกปรือภาษาอังกฤษไปด้วย
ผมเรียนภาษาอังกฤษได้ดีในระดับหนึ่งอยู่แล้วครับ แต่เรียนได้ดีไม่ได้แปลว่าจะใช้การได้ดีหรือเก่งภาษาอังกฤษ ตรงกันข้าม การเรียนดีทำให้ผมไม่ประสบความสำเร็จในการนำไปใช้เลย พูดจะตะกุกตะกัก เรียบเรียงไม่ได้ ห่วงแกรมม่า จากที่มีความรู้เมื่อเจอเจ้าของภาษาโดยตรงจริงๆกลับทำอะไรไม่ถูกครับ เรื่องง่ายๆคิดไม่ได้ นำมาใช้ไม่ถูก ซึ่งในส่วนนี้ผมถือว่าตัวเองยังไม่ประสบความสำเร็จในภาษาอังกฤษเท่าที่ควร และจะศึกษาต่อไป
ในส่วนของภาษาที่สาม ผมเล็งไว้สามภาษาคือภาษาสเปน เยอรมัน และญี่ปุ่นครับ
ภาษาสเปน - ไม่ได้สนใจในภาษาและวัฒนธรรมเป็นพิเศษ อยู่ในตัวเลือกเพราะสาวๆแถบนั้นหน้าตาดี(ฮา)
จริงๆแล้วก็มองๆเพราะแทบจะเป็นภาษาระดับโลกไปแล้วครับ ปัจจุบันดูหนังหรือซีรีย์หลายๆเรื่องจะต้องเจอภาษาสเปน คือใช้กันอย่างแพร่หลายจนเป็นที่น่าจับตามองในอนาคตข้างหน้า
ภาษาเยอรมัน - สนใจพอสมควรครับ มีคนใช้มากในระดับหนึ่ง เป็นภาษาเศรษฐกิจ ระยะหลังๆมีคนเยอรมันเข้ามาในประเทศไทยก็มาก ทำให้เป็นภาษาที่น่าสนใจเป็นพิเศษ แต่ติดตรงความยากของภาษา โดยเฉพาะในส่วนของแกรมม่าซึ่งเป็นอย่างท้ายๆเลยที่ผมถนัด มักทำได้ไม่ค่อยดีในส่วนนี้
ภาษาญี่ปุ่น - สนใจในระดับเดียวกับภาษาเยอรมัน คิดว่าอาจจะได้ใช้และฝึกง่ายกว่าเพราะสื่อต่างๆสามารถเข้าถึงได้ง่าย และคนญี่ปุ่นโดยมากใช้ภาษาญี่ปุ่นทั้งการพูดการเขียนและตามเว็บบอร์ด ตามหน้าเพจต่างๆ ในขณะที่คนเยอรมันมักใช้ภาษาอังกฤษ มีความรู้ในภาษาอังกฤษดีอยู่แล้วในระดับหนึ่ง ติดตรงที่ภาษาญี่ปุ่นไม่ได้มีความคล้ายคลึงกันเลยแม้แต่นิดเดียวกับภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาหลักที่ผมกำลังเรียนรู้ด้วยตนเองอยู่ขณะนี้ ต้องเริ่มเรียนตั้งแต่ตัวอักษร จำการเรียงประโยค สำเนียงต่างๆใหม่หมด ผมเองไม่ทราบว่าความคล้ายคลึงของภาษาอังกฤษกับเยอรมันจะทำให้การเรียนควบคู่กันไปนั้นยากขึ้นหรือเปล่า แต่หากเรียนญี่ปุ่นอาจจะแยกแยะได้ง่ายกว่าในส่วนนี้ และในเรื่องการใช้ชีวิต การทำงาน และเรื่องต่างๆ คนเอเชียคงไม่เหยียดเอเชียด้วยกันเองเท่าไรนัก(ยกเว้นคนไทย) ทั้งนี้ผมเองยังมองว่าภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่น่ารัก ฟังแล้วไพเราะผิดกับภาษาเยอรมันที่ฟังแล้วตะกุกตะกัก กระแทกกระทั้น เหมือนมีของแข็งค้างในลำคอ แต่ผมอาจจะมีความสนใจในวัฒนธรรมฝรั่งฝั่งยุโรปมากกว่าเพราะคุ้นชินกับความเป็นเอเชียและตื่นตาตื่นใจกับความเป็นฝรั่งที่ค่อนข้างสากล
จากที่กล่าวมาข้างต้นเพื่อนๆว่าผมควรศึกษาภาษาอะไรเป็นภาษาที่สามต่อจากภาษาอังกฤษดีครับ ถ้ามองในเรื่องของการใช้ชีวิตในประเทศ มองอาเซียนที่กำลังจะมา มองความก้าวหน้าในอนาคต ทำงาน เรียนต่อ ฯลฯ ผมจะเริ่มเรียนรู้ควบคู่กันไปเลยเพราะผมคงไม่ทิ้งภาษาอังกฤษแน่ๆ