การพากย์กีฬานี่มันคือ งาน อาชีพ ของหน้านะครับ ก่อนจะทำงานน้าไม่หาข้อมูลไม่ทำการบ้านมาก่อนเหรอ? เรื่องเรียกชื่อนักกีฬาผิดนี่ทำไมมันผิดซ้ำผิดซากไม่ว่าจะชุดเล็กหรือชุดใหญ่ เหมือนน้าอาศัยความคุ้นเคยแบบผิวเผินแล้วขานชื่อนักกีฬาไปแบบส่งๆ เรื่องแซวนักกีฬาฝั่งตรงข้ามก็เหมือนกันไอ้ประเภท โหยยยยย ยัยป้า, ดูจากรูปร่างแล้วไม่น่าจะโดดขึ้น อะไรพวกนี้มันสมควรพูดออกมาระหว่างพากย์กีฬาเหรอครับ? เรื่องขานชื่อนักกีฬาว่ามั่วแล้ว เรื่องขานเรียกสูตรบอลยิ่งมั่วพอๆกับสายไฟ สายโทรศัพท์ สายเคเบิ้ลอินเตอร์เน็ตตามเสาไฟฟ้าซะอีก คือบางครั้งถ้าน้าไม่รู้จริงๆว่าบอลนั้นรุกด้วยบอลสูตรอะไรจากตำแหน่งไหน ลูกเสิร์ฟลูกนั้นมาหน้าใครตำแหน่งใครรับบอลแรกน้าก็ไม่ควรพากย์แบบมั่วนะครับ เพราะกลุ่มที่เขาเพิ่งจะติดตามกีฬาวอลเล่ย์บอลก็จะได้รับข้อมูลที่ผิดๆไปจากน้า ทีนี่พอกลุ่มนี้มาวิพากษ์วิจารณ์ก็จะพูดไปด้วยความไม่เข้าใจเพราะเขาได้รับข้อมูลที่ผิดๆมาจากน้า มันมีผลตามมานะครับ มีหลายครั้งที่ดราม่าจุติเพราะความไม่เข้าใจเกมของคนดู ไหนจะเรื่องชิงขานแต้มก่อนอีก บอลทัชไม่ทัช เสียแต้มเพราะไปฟาวล์ขอบเน็ต ถ้าน้าดูไม่ทันก็รอดูจากสัญญาณมือกรรมการที่ 1 ที่ 2 ก่อนก็ได้ เพราะถ้าน้าชิงขานแต้มไปก่อนแล้วขานผิดแล้วต้องกลับมาพูดแก้บ่อยๆมันน่ารำคาญ ไอ้เรื่องฮาบางทีมันก็ฮาอยู่หรอกแต่ถ้ามันมากเกินไปมันก็กลายเป็นไร้สาระ น้าพากย์กีฬาระดับนี้แล้วนะครับไม่ใช่พากย์กีฬา อบต.ตามรายการรวมเด็ดสะเก็ดข่าว คือน้าต้องแยกให้ออกนะครับว่าพากย์เอาฮาเอามันส์มันเรื่องนึงส่วนพากย์ให้ข้อมูลที่ถูกต้องมันอีกเรื่องนึง พากย์แบบแรกน้ามีพรสวรรค์อยู่แล้ว แต่แบบที่สองต้องอาศัยการหาข้อมูลทำการบ้านก่อนซึ่งมันพัฒนาปรับปรุงกันได้แต่เหมือนน้าไม่ค่อยใส่ใจทำ

ปล.ใครชอบไม่ชอบยังไงยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นแต่ ตรรกะศูนย์กลางจักรวาล ประเภท เก่งมากก็ไปพากย์เองสิ ไม่ชอบก็ปิดเสียงปิดทีวีไปสิ ทำได้อย่างเขาหรือเปล่า ความเห็นจำพวกนี้ขอปล่อยผ่านเพราะไม่รู้จะเอาเหตุผลอะไรไปแย้ง ถ้ามีปุ่มไว้ปิดเสียงคนพากย์แล้วได้ยินแต่เสียงในสนามก็กดไปแล้ว