จังหวัดกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลอันดามัน หรือด้านฝั่งตะวันตกของประเทศไทย ที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยสภาพภูมิประเทศที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทะเลที่สวยใสราวมรกต ป่าเขา น้ำตก ที่อุดมไปด้วยพรรณพืชและสัตว์ป่า น้ำพุร้อนทั้งจืดและเค็ม อาหารการกินรวมถึงผลไม้ที่ถูกปากทุกชนชาติ ศิลปวัฒนธรรมที่ ผสมกลมกลืนในหลากหลายชนเผ่า นั่นเป็นมนต์เสน่ห์ประการสำคัญของจังหวัดกระบี่ก็ว่าได้
หากจะมองหาจุดเด่นของการท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่แล้วละก็ คงเป็นการยากที่จะตัดสินว่า ส่วนใดเป็นจุดเด่นที่สุด ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนจึงขอหยิบยกเรื่องราวของความสวยงาม และน่ามหัศจรรย์ของจังหวัดกระบี่ มาให้ท่านผู้อ่าน ได้ตัดสิน ตามวิจารณญาณของท่านเองก็แล้วกัน
อันดับแรก มหัศจรรย์แห่งเขาหินปูน จังหวัดกระบี่ มีภูมิประเทศที่ เชื่อกันว่า เคยอยู่ใต้ท้องทะเลเมื่อหลายพันปีก่อน ดังจะเนถึง ภาพเขียนสีโบราณตามหลืบถ้ำต่างๆ ที่หากระดับน้ำทะเลเท่ากับปัจจุบัน มนุษย์โบราณทั้งหลายในยุคนั้น คงต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างสูงในการปีนขึ้นไปเขียนภาพบนผนังถ้ำ ให้เป็นที่ปรากฎแก่ชนรุ่นหลังอย่างเราๆท่านๆเป็นแน่ อีกหลักฐานหนึ่งก็คือ ซากเปลือกหอยที่ทับถมกันอยู่ในถ้ำต่างๆบ้างก็จมติดอยู่กับผนังถ้ำ ทำให้เชื่อได้ว่า แต่ก่อนเป็นที่ๆน้ำทะเลท่วมถึงอย่างแน่นอน นั่นคือต้นเหตุของความมหัศจรรย์ของเขาหินปูนตามแหล่งต่าง อาทิเช่น ถ้ำผีหัวโตที่อำเภออ่าวลึก ที่ปรากฎหลักฐานว่าเคยมีมนุษย์ อาศัยอยู่ในถ้ำแห่งนี้เมื่อราว สี่ถึงห้าพันปีก่อน เล่ากันว่ามีผู้พบหัวกระโหลกมนุษย์ในถ้ำแห่งนี้ จึงได้เรียกขานกันว่าถ้ำผีหัวโต แต่จะโตสักเท่าใด คงบอกไม่ได้เนื่องจากหลักฐานชิ้นนี้ ถูกนำไปไว้ที่อื่นและยังหาไม่พบจนทุกวันนี้ นอกจากนั้น ในจังหวัดกระบี่ยังมีเขาหินปูนและถ้ำที่สวยงาม อยู่อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นถ้ำคลัง ที่เมื่อเข้าไปสำรวจ ก็จะพบกับ ผนังหินปูนและแร่ธาตุต่าง ที่เปล่งประกายระยิบระยับ อีกทั้งหินงอก หินย้อย ที่สวยงามราวประติมากรฝีมือเอก มาสร้างสรรค์เอาไว้
ที่น่าสนใจมากที่สุดในบรรดาถ้ำเหล่านี้ คือถ้ำปราสาทนาฬาคีริงในอำเภอปลายพระยา ซึ่งค้นพบโดยพระภิกษุรูปหนึ่ง(พระอาจารย์ ขจิต กมโล) ซึ่งนิมิตไปว่า มีผู้มานิมนต์ให้มาตั้งแหล่งปฏิบัติธรรมในที่แห่งหนึ่ง แต่ไม่ได้บอกพิกัดที่ตั้ง(คงยังไม่มีGPS) ท่านจึงเดินทางออกธุดงค์ จนมาพบถ้ำแห่งนี้ จึงทราบด้วยตนเองว่า ใช่ที่แห่งนี้แน่นอน เมื่อเข้าไปสำรวจภายในถ้ำ ก็พบว่า ถ้ำแห่งนี้ มีความสวยงาม วิจิตรตระการตาเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นหินงอก หินย้อยรูปทรงต่างๆ หลืบผนังที่สามารถจินตนาการไปตาม แนวความคิดของแต่ละคน แต่ที่สำคัญก็คือ หินย้อยขนาดใหญ่ ที่มีความสวยงาม และมีรูปร่างคล้ายกับหัวช้าง ท่านจึงจินตนาการไปว่า เหมือนกับหัวของช้างนาฬาคีริง หรือนาฬาคีรี ซึ่งในพุทธประวัติกล่าวว่า พรเทวทัตได้ออกอุบายแก่พระเจ้าอชาติศัตรูสั่ง ให้ควาญช้างนาฬาคีริง มอมเหล้าแก่ช้างเพื่อให้มาทำร้ายแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่พระพุทธองค์ได้ทรงแผ่เมตตาจนช้างยอมสยบแก่พระองค์ท่าน พระภิกษุรูปนั้นจึงได้ตั้งชื่อถ้ำแห่งนั้นว่า ถ้ำปราสาทนาฬาคีริง อันหมายถึงที่อยู่ของช้างนาฬาคีริงนั่นเอง จากนั้นท่านก็ได้ก่อสร้างสำนักสงฆ์ขึ้นที่บริเวณแห่งนั้นและดูแลรักษา ปฏิสังขร ถ้ำนั้น เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวทะยอยมาเที่ยวชมถ้ำแห่งนี้ มากขึ้นเรื่อยๆ จากความสวยงามที่บอกกันปากต่อปาก ทำให้ต้องมีการเพิ่มความเข้มงวดในการเข้าชม ถ้ำแห่งนี้ กันพอสมควร เพิ่อป้องกัน ไม่ให้นักท่องเที่ยว เด็ดหักหินงอกหินย้อย ติดมือกลับไป จึงจัดให้มีมัคคุเทศก์ตัวน้อย คือลูกศิษย์ของท่าน ทำหน้าที่บรรยายไปพร้อมกับระแวดระวังภัยที่จะเกิดขึ้นแก่ ความงามของธรรมชาติแห่งนี้ไปด้วยในตัว
นั่นคือส่วนหนึ่งของความงดงามตามธรรมชาติ ของจังหวัดกระบี่ ซึ่งแน่นอนว่ายังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้
ภูเขาหินปูนที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดกระบี่นั้น นอกจากความสวยงาม แปลกตาแล้ว ยังมีเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ นับต่อเนื่องมาตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์ จวบจนยุคปัจจุบัน นั่นคือ เขาขนาบน้ำ ที่จะเล่าขานความเป็นมาของจังหวัดกระบี่ได้เป็นอย่างดี แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าคงต้องยกยอดไปเล่าเรื่องเมืองกระบี่ ในครั้งต่อไป หวังว่าคงได้พบกันอีกสวัสดีครับ
ถ้ำนาฬาคีริง กระบี่
หากจะมองหาจุดเด่นของการท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่แล้วละก็ คงเป็นการยากที่จะตัดสินว่า ส่วนใดเป็นจุดเด่นที่สุด ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนจึงขอหยิบยกเรื่องราวของความสวยงาม และน่ามหัศจรรย์ของจังหวัดกระบี่ มาให้ท่านผู้อ่าน ได้ตัดสิน ตามวิจารณญาณของท่านเองก็แล้วกัน
อันดับแรก มหัศจรรย์แห่งเขาหินปูน จังหวัดกระบี่ มีภูมิประเทศที่ เชื่อกันว่า เคยอยู่ใต้ท้องทะเลเมื่อหลายพันปีก่อน ดังจะเนถึง ภาพเขียนสีโบราณตามหลืบถ้ำต่างๆ ที่หากระดับน้ำทะเลเท่ากับปัจจุบัน มนุษย์โบราณทั้งหลายในยุคนั้น คงต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างสูงในการปีนขึ้นไปเขียนภาพบนผนังถ้ำ ให้เป็นที่ปรากฎแก่ชนรุ่นหลังอย่างเราๆท่านๆเป็นแน่ อีกหลักฐานหนึ่งก็คือ ซากเปลือกหอยที่ทับถมกันอยู่ในถ้ำต่างๆบ้างก็จมติดอยู่กับผนังถ้ำ ทำให้เชื่อได้ว่า แต่ก่อนเป็นที่ๆน้ำทะเลท่วมถึงอย่างแน่นอน นั่นคือต้นเหตุของความมหัศจรรย์ของเขาหินปูนตามแหล่งต่าง อาทิเช่น ถ้ำผีหัวโตที่อำเภออ่าวลึก ที่ปรากฎหลักฐานว่าเคยมีมนุษย์ อาศัยอยู่ในถ้ำแห่งนี้เมื่อราว สี่ถึงห้าพันปีก่อน เล่ากันว่ามีผู้พบหัวกระโหลกมนุษย์ในถ้ำแห่งนี้ จึงได้เรียกขานกันว่าถ้ำผีหัวโต แต่จะโตสักเท่าใด คงบอกไม่ได้เนื่องจากหลักฐานชิ้นนี้ ถูกนำไปไว้ที่อื่นและยังหาไม่พบจนทุกวันนี้ นอกจากนั้น ในจังหวัดกระบี่ยังมีเขาหินปูนและถ้ำที่สวยงาม อยู่อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นถ้ำคลัง ที่เมื่อเข้าไปสำรวจ ก็จะพบกับ ผนังหินปูนและแร่ธาตุต่าง ที่เปล่งประกายระยิบระยับ อีกทั้งหินงอก หินย้อย ที่สวยงามราวประติมากรฝีมือเอก มาสร้างสรรค์เอาไว้
ที่น่าสนใจมากที่สุดในบรรดาถ้ำเหล่านี้ คือถ้ำปราสาทนาฬาคีริงในอำเภอปลายพระยา ซึ่งค้นพบโดยพระภิกษุรูปหนึ่ง(พระอาจารย์ ขจิต กมโล) ซึ่งนิมิตไปว่า มีผู้มานิมนต์ให้มาตั้งแหล่งปฏิบัติธรรมในที่แห่งหนึ่ง แต่ไม่ได้บอกพิกัดที่ตั้ง(คงยังไม่มีGPS) ท่านจึงเดินทางออกธุดงค์ จนมาพบถ้ำแห่งนี้ จึงทราบด้วยตนเองว่า ใช่ที่แห่งนี้แน่นอน เมื่อเข้าไปสำรวจภายในถ้ำ ก็พบว่า ถ้ำแห่งนี้ มีความสวยงาม วิจิตรตระการตาเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นหินงอก หินย้อยรูปทรงต่างๆ หลืบผนังที่สามารถจินตนาการไปตาม แนวความคิดของแต่ละคน แต่ที่สำคัญก็คือ หินย้อยขนาดใหญ่ ที่มีความสวยงาม และมีรูปร่างคล้ายกับหัวช้าง ท่านจึงจินตนาการไปว่า เหมือนกับหัวของช้างนาฬาคีริง หรือนาฬาคีรี ซึ่งในพุทธประวัติกล่าวว่า พรเทวทัตได้ออกอุบายแก่พระเจ้าอชาติศัตรูสั่ง ให้ควาญช้างนาฬาคีริง มอมเหล้าแก่ช้างเพื่อให้มาทำร้ายแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่พระพุทธองค์ได้ทรงแผ่เมตตาจนช้างยอมสยบแก่พระองค์ท่าน พระภิกษุรูปนั้นจึงได้ตั้งชื่อถ้ำแห่งนั้นว่า ถ้ำปราสาทนาฬาคีริง อันหมายถึงที่อยู่ของช้างนาฬาคีริงนั่นเอง จากนั้นท่านก็ได้ก่อสร้างสำนักสงฆ์ขึ้นที่บริเวณแห่งนั้นและดูแลรักษา ปฏิสังขร ถ้ำนั้น เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวทะยอยมาเที่ยวชมถ้ำแห่งนี้ มากขึ้นเรื่อยๆ จากความสวยงามที่บอกกันปากต่อปาก ทำให้ต้องมีการเพิ่มความเข้มงวดในการเข้าชม ถ้ำแห่งนี้ กันพอสมควร เพิ่อป้องกัน ไม่ให้นักท่องเที่ยว เด็ดหักหินงอกหินย้อย ติดมือกลับไป จึงจัดให้มีมัคคุเทศก์ตัวน้อย คือลูกศิษย์ของท่าน ทำหน้าที่บรรยายไปพร้อมกับระแวดระวังภัยที่จะเกิดขึ้นแก่ ความงามของธรรมชาติแห่งนี้ไปด้วยในตัว
นั่นคือส่วนหนึ่งของความงดงามตามธรรมชาติ ของจังหวัดกระบี่ ซึ่งแน่นอนว่ายังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้
ภูเขาหินปูนที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดกระบี่นั้น นอกจากความสวยงาม แปลกตาแล้ว ยังมีเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ นับต่อเนื่องมาตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์ จวบจนยุคปัจจุบัน นั่นคือ เขาขนาบน้ำ ที่จะเล่าขานความเป็นมาของจังหวัดกระบี่ได้เป็นอย่างดี แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าคงต้องยกยอดไปเล่าเรื่องเมืองกระบี่ ในครั้งต่อไป หวังว่าคงได้พบกันอีกสวัสดีครับ