คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 28
ไม่ทราบว่าคุณ จขกท อายุเท่าไร และเริ่มถูกกดดันจากครอบครัวเรื่องการมีแฟนและแต่งงานแล้วหรือยัง เราจะแชร์ประสบการณ์ของคนใกล้ตัว (แฟนเก่าเราเอง // เราก็ ญ รักญ ค่ะ) ให้อ่านละกันค่ะ
คือ แฟนเก่าเราก็เป็นเลส มีแฟนผู้หญิงมาตลอด สมัยมัธยมมีแฟนทอม พอเข้ามหาวิทยาลัยก็มีแฟนเป็นเลส แล้วพอทำงานก็มาเจอกับเรา ตลอดเวลาที่คบกัน ก็เหมือนเค้ารู้ตัวดีว่าสักวันคงต้องเลิก เพราะเค้ามาจากครอบครัวคนจีน พ่อแม่รับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ เค้าก็ไม่เคยคิดจะเปิดตัวเองให้คนในครอบครัวรู้
ที่บ้านเค้าก็รู้แค่ว่า เค้าชอบทำงาน ยังไม่อยากคิดเรื่องมีครอบครัว แต่พออายุมากขึ้น ช่วงย่าง 30 เนี่ย พ่อแม่จะพูดบ่อยมากว่าเมื่อไรจะมีแฟน แล้วมันก็มีเรื่องอื่นๆ เข้ามาอีก เช่น เปลี่ยนงาน เริ่มเรียน ป.โท เราก็เริ่มห่างๆ กันในช่วงนั้น แล้วก็เลิกกันในที่สุด
ตอนที่เค้าเรียนป.โท นี่แหละ ก็มีเพื่อนผู้ชายมาจีบ เค้าก็เอาวะ ลองคบดูก็ได้ เค้าเล่าให้ผู้ชายฟังโดยไม่ปิดบังเลยว่าเป็นเลสนะ มีแต่แฟนผู้หญิงมาตลอด ฝ่ายชายก็ไม่ซีเรียสอะไร ประมาณว่ารักจริงหวังแต่ง จะเป็นอะไรมาก่อนไม่สำคัญ ขอแค่รักเค้าก็พอ
...ชีวิตแฟนเก่าช่วงนี้ เราไม่ค่อยรู้รายละเอียดมาก รู้แต่ว่ามีแฟนผู้ชายไปแล้ว จนเค้าเรียนจบโท ก็ส่งข่าวมาว่าจะแต่งงาน อันนี้เราเองก็ตกใจนะ ว่าเอาจริงหรือ แน่ใจแล้วหรือ แต่ก็ยินดีไปกับเค้า งานแต่งเค้าเราก็ไป คือ เราก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
ชีวิตคู่ของเค้าก็ไปได้ด้วยดี ต่างฝ่ายต่างขยันทำงาน ชอบท่องเที่ยวทั้งคู่ แต่งได้ 3 ปี ก็มีลูกชายคนนึง ปู่ย่า-ตายายทั้งรักทั้งหลง แต่เชื่อมั้ย เค้าอยู่ด้วยกันมาได้ 5 ปี ก็เลิกกัน คนรอบข้าง งงมากว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะดูเป็นคู่ที่แฮปปี้มากๆ
ตอนนี้ฝ่ายชายมีแฟนใหม่ มีครอบครัวใหม่ไปแล้ว ส่วนฝ่ายหญิงก็เป็นซิงเกิลมัม โดยฝ่ายชายยังส่งเสียดูแลลูกด้วยกัน
เรามีโอกาสคุยกับแฟนเก่าเราอย่างเปิดอกในภายหลัง เค้าบอกว่า ไม่เคยเสียใจที่แต่งงานมีครอบครัว ไม่เสียใจที่ได้คบกับผูชายคนนี้ เพราะเป็นคนที่ดีมาก ไม่เสียใจที่ต้องหย่า ถ้าเค้าจะเสียใจก็เพราะทำให้ผู้ชายคนนี้ต้องเสียใจ ...เค้ายอมรับเลยว่าหลังจากมีลูก เค้าก็ทำหน้าที่ 'เมีย' ได้ไม่เต็มที่ ถามว่าเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศหรือเปล่า เค้าบอกว่ามีส่วน... คือต้องเข้าใจว่าฝ่ายชายก็ยังหนุ่มยังแน่นอยู่ (อายุ 34 ) ความต้องการก็ยังมี แต่เค้ากลับตอบสนองได้ไม่เต็มที่ และเค้าเองก็ยอมให้ฝ่ายชายไปมีกิ๊กได้ ...สาเหตุที่ต้องเลิกกัน ไม่ใช่เพราะฝ่ายชายมีผู้หญิงคนอื่น แต่เป็นเพราะผู้หญิงอีกคนนั้นเกิดท้องขึ้นมา ซึ่งรายละเอียดตรงนี้ค่อนข้างอ่อนไหว มีเพียงเค้าสองคนที่รู้ดี แม้แต่ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายก็ไม่รู้ ...เอาเป็นว่า ทั้งคู่ตกลงแยกทางกันด้วยดี ไม่ได้โกรธเกลียดกัน
หลังจากเลิกกัน ฝ่ายหญิงก็ใช้ชีวิตตามปกติ ย้ายกลับมาอยู่บ้านพ่อแม่ มีคนทั้งบ้านช่วยเลี้ยงลูก ตัวเองก็ยังคงบ้าทำงานต่อไป เค้าบอกเราว่า ในสายตาคนอื่นเค้าอาจจะล้มเหลวในชีวิตคู่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น เค้าเป็นคนเลือกทางเดินชีวิตเองทั้งหมด ตอนนี้ ที่บ้านไม่ได้สนใจว่าเค้าจะมีแฟนใหม่อีกมั้ย พ่อแม่ไม่พูดเรื่องการมีครอบครัวอีก เค้าเองก็เริ่มกลับมาคุยกับผู้หญิง เราถามว่าเค้ากลับมาเป็นเลสแล้วหรือ ...เค้าตอบว่าเค้าก็เป็นเลสมาตลลอดแหละ
ที่เราเล่ามาทั้งหมด มันอาจจะช่วยให้คุณ จขกท. มองเห็นอะไรบางอย่าง คือ เราไม่ได้สนับสนุนให้คุณลองคบกับผู้ชาย ลองแต่งงาน เพื่อจะได้มีลูก ...เราไม่ได้อยากให้คุณเป็นเหมือนแฟนเก่าเรา เพราะแต่ละคนมีทัศนคติในการใช้ชีวิตไม่เหมือนกัน เราไม่รู้ว่าคุณคิดยังไงกับการแต่งงานมีครอบครัว คุณคิดยังไงกับการหย่าร้าง สิ่งที่เราอยากจะแชร์ คือ พยายามมองภาพอนาคตให้กว้าง ๆ ...คุณไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ลองถามตัวเองว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้น คุณจะรับมันได้ไหม อย่างไร
ขอให้โชคดีกับสิ่งที่คุณเลือกนะคะ
คือ แฟนเก่าเราก็เป็นเลส มีแฟนผู้หญิงมาตลอด สมัยมัธยมมีแฟนทอม พอเข้ามหาวิทยาลัยก็มีแฟนเป็นเลส แล้วพอทำงานก็มาเจอกับเรา ตลอดเวลาที่คบกัน ก็เหมือนเค้ารู้ตัวดีว่าสักวันคงต้องเลิก เพราะเค้ามาจากครอบครัวคนจีน พ่อแม่รับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ เค้าก็ไม่เคยคิดจะเปิดตัวเองให้คนในครอบครัวรู้
ที่บ้านเค้าก็รู้แค่ว่า เค้าชอบทำงาน ยังไม่อยากคิดเรื่องมีครอบครัว แต่พออายุมากขึ้น ช่วงย่าง 30 เนี่ย พ่อแม่จะพูดบ่อยมากว่าเมื่อไรจะมีแฟน แล้วมันก็มีเรื่องอื่นๆ เข้ามาอีก เช่น เปลี่ยนงาน เริ่มเรียน ป.โท เราก็เริ่มห่างๆ กันในช่วงนั้น แล้วก็เลิกกันในที่สุด
ตอนที่เค้าเรียนป.โท นี่แหละ ก็มีเพื่อนผู้ชายมาจีบ เค้าก็เอาวะ ลองคบดูก็ได้ เค้าเล่าให้ผู้ชายฟังโดยไม่ปิดบังเลยว่าเป็นเลสนะ มีแต่แฟนผู้หญิงมาตลอด ฝ่ายชายก็ไม่ซีเรียสอะไร ประมาณว่ารักจริงหวังแต่ง จะเป็นอะไรมาก่อนไม่สำคัญ ขอแค่รักเค้าก็พอ
...ชีวิตแฟนเก่าช่วงนี้ เราไม่ค่อยรู้รายละเอียดมาก รู้แต่ว่ามีแฟนผู้ชายไปแล้ว จนเค้าเรียนจบโท ก็ส่งข่าวมาว่าจะแต่งงาน อันนี้เราเองก็ตกใจนะ ว่าเอาจริงหรือ แน่ใจแล้วหรือ แต่ก็ยินดีไปกับเค้า งานแต่งเค้าเราก็ไป คือ เราก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
ชีวิตคู่ของเค้าก็ไปได้ด้วยดี ต่างฝ่ายต่างขยันทำงาน ชอบท่องเที่ยวทั้งคู่ แต่งได้ 3 ปี ก็มีลูกชายคนนึง ปู่ย่า-ตายายทั้งรักทั้งหลง แต่เชื่อมั้ย เค้าอยู่ด้วยกันมาได้ 5 ปี ก็เลิกกัน คนรอบข้าง งงมากว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะดูเป็นคู่ที่แฮปปี้มากๆ
ตอนนี้ฝ่ายชายมีแฟนใหม่ มีครอบครัวใหม่ไปแล้ว ส่วนฝ่ายหญิงก็เป็นซิงเกิลมัม โดยฝ่ายชายยังส่งเสียดูแลลูกด้วยกัน
เรามีโอกาสคุยกับแฟนเก่าเราอย่างเปิดอกในภายหลัง เค้าบอกว่า ไม่เคยเสียใจที่แต่งงานมีครอบครัว ไม่เสียใจที่ได้คบกับผูชายคนนี้ เพราะเป็นคนที่ดีมาก ไม่เสียใจที่ต้องหย่า ถ้าเค้าจะเสียใจก็เพราะทำให้ผู้ชายคนนี้ต้องเสียใจ ...เค้ายอมรับเลยว่าหลังจากมีลูก เค้าก็ทำหน้าที่ 'เมีย' ได้ไม่เต็มที่ ถามว่าเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศหรือเปล่า เค้าบอกว่ามีส่วน... คือต้องเข้าใจว่าฝ่ายชายก็ยังหนุ่มยังแน่นอยู่ (อายุ 34 ) ความต้องการก็ยังมี แต่เค้ากลับตอบสนองได้ไม่เต็มที่ และเค้าเองก็ยอมให้ฝ่ายชายไปมีกิ๊กได้ ...สาเหตุที่ต้องเลิกกัน ไม่ใช่เพราะฝ่ายชายมีผู้หญิงคนอื่น แต่เป็นเพราะผู้หญิงอีกคนนั้นเกิดท้องขึ้นมา ซึ่งรายละเอียดตรงนี้ค่อนข้างอ่อนไหว มีเพียงเค้าสองคนที่รู้ดี แม้แต่ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายก็ไม่รู้ ...เอาเป็นว่า ทั้งคู่ตกลงแยกทางกันด้วยดี ไม่ได้โกรธเกลียดกัน
หลังจากเลิกกัน ฝ่ายหญิงก็ใช้ชีวิตตามปกติ ย้ายกลับมาอยู่บ้านพ่อแม่ มีคนทั้งบ้านช่วยเลี้ยงลูก ตัวเองก็ยังคงบ้าทำงานต่อไป เค้าบอกเราว่า ในสายตาคนอื่นเค้าอาจจะล้มเหลวในชีวิตคู่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น เค้าเป็นคนเลือกทางเดินชีวิตเองทั้งหมด ตอนนี้ ที่บ้านไม่ได้สนใจว่าเค้าจะมีแฟนใหม่อีกมั้ย พ่อแม่ไม่พูดเรื่องการมีครอบครัวอีก เค้าเองก็เริ่มกลับมาคุยกับผู้หญิง เราถามว่าเค้ากลับมาเป็นเลสแล้วหรือ ...เค้าตอบว่าเค้าก็เป็นเลสมาตลลอดแหละ
ที่เราเล่ามาทั้งหมด มันอาจจะช่วยให้คุณ จขกท. มองเห็นอะไรบางอย่าง คือ เราไม่ได้สนับสนุนให้คุณลองคบกับผู้ชาย ลองแต่งงาน เพื่อจะได้มีลูก ...เราไม่ได้อยากให้คุณเป็นเหมือนแฟนเก่าเรา เพราะแต่ละคนมีทัศนคติในการใช้ชีวิตไม่เหมือนกัน เราไม่รู้ว่าคุณคิดยังไงกับการแต่งงานมีครอบครัว คุณคิดยังไงกับการหย่าร้าง สิ่งที่เราอยากจะแชร์ คือ พยายามมองภาพอนาคตให้กว้าง ๆ ...คุณไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ลองถามตัวเองว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้น คุณจะรับมันได้ไหม อย่างไร
ขอให้โชคดีกับสิ่งที่คุณเลือกนะคะ
แสดงความคิดเห็น
คือเราเป็นเลสเบี้ยนค่ะ คบผู้หญิงมาตลอด แต่ตอนนี้มีผู้ชายมาชอบ
เข้าเรื่องนะคะ คืออันที่จริงเรื่องมีผู้ชายมาจีบ ก็เกิดขึ้นบ่อยระหว่างเรา2คน ทั้งเค้าและตัวเราเองก็มีผู้ชายเข้ามาจีบบ่อยๆ แต่ทุกครั้งก็จะบอกกันตลอด เพราะไม่ได้คิดอะไรเลยกับผู้ชายที่เข้ามา จนวันนึง มีผู้ชายเข้ามาชอบเรา แต่เค้าก็ไม่ได้แสดงออกชัดเจนนะว่าจะจีบ เป็นเพื่อนที่ทำงานค่ะ ทุกคนก็จะคอยแซวฝ่ายผู้ชายตลอดว่า เห้ย ชอบก็จีบเลย อะไรประมาณนี้ มันก็ปกติ แต่สิ่งที่ไม่ปกติคือตัวเราค่ะ เรารู้สึกหวั่นไหวกับผู้ชายคนนี้ และที่ยิ่งไปกว่ายั้ยคือเราไม่ได้บอกแฟนว่ามีผู้ชายเข้ามาจีบ
เรายอมรับตรงๆเลยว่าเราหวั่นไหวกับผู้ชายคนนี้มาก ทั้งๆที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน เราก็ยังงงตัวเองว่าเป็นเพราะอะไร แต่เราก็ยังรักแฟนของเรามากนะ แต่เราแค่ไม่มั่นใจในความรู้สึกตัวเอง เพราะอะไรเราถึงหวั่นไหวกับผู้ชายคนนั้น ทั้งที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน และสิ่งที่เรากลัวคือความใกล้ชิดค่ะ เราต้องทำงานร่วมกับผู้ชายคนนั้น เจอกันค่อนข้างบ่อย แทบจะทุกวัน เราควรทำยังไงดี คือเราสับสนกับความรู้สึกตัวเองมากจริงๆ
ปล. เรายังรักแฟนมาก และมั่นใจว่าตัวเองไม่ใช่ไบส์ค่ะ และสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราอยากเปิดโอกาสให้ผู้ชายคนนั้น(ทั้งๆที่มีแฟนอยู่แล้ว) คือครอบครัวค่ะ
เราอยากฟังความคิดเห็นจากเพื่อนๆนะคะ เพื่อช่วยในการตัดสินใจของตัวเอง