คือเรื่องมีอยู่ว่า ตอนนั้นผมอยู่ป.3ครับ ช่วงปิดเทรอมจะขึ้น ป.4 ก็ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เปิดเทรอมมันก็จะมีโครงการบวชเณรภาคฤดูร้อนครับที่ตำบลไกล้เคียง
พอจบโครงการบวชแล้วผมก็ยังไม่ได้สึกในทันที ผมกะว่าจะอยู่ต่อจนไกล้เปิดเทรอมค่อยสึก แล้วผมก็กลับมาอยู่วัดที่บ้านตัวเองครับ
ผมจะเล่าลักษณะวัดก่อนน่ะครับ คือวัดที่บ้านก็ค่อนข้างจะน่ากลัวๆ หน่อยข้างวัดก็จะมีต้นโพธิ์ที่ว่านี้แหละครับต้นใหญ่มากด้วย ก็พอตกค่ำมาพระอาจารย์ก็ให้ไปนอนกะพี่เณรรูปหนึ่งซึ่งพี่เณรองนั้นชื่อมดครับ ตอนนั้นพี่เณรก็จะอยู่สักประมาณ ม.3นี้แหละครับ เวลาก็ผ่านไปสองทุ่ม พี่เณรก็ชวนผมไปโรงครัว บอกว่า นี้ทิวพาพี่เณรไป โรงครัวหน่อย ผมรีบสวนขึ้นมาทันทีเลย จะไปทำไมมันดึกแล้ว วันนี้ยิ่งวันพระด้วย ผมไม่เอาหรอก(คือว่าโรงครัวที่จะไป มันไกล้กะต้นโพธิ์ที่อยู่ข้างวัดครับ) ผมก็บอกอีกว่าถ้าเจอผีจะทำยังไง แต่ว่าพี่เณรก็ชวนผมอยู่นั้นแหละจนผมใจอ่อน(แต่ก็ไม่รู้น่ะครับว่าพี่เณรเขาจะไปเอาอะไร)
ผมก้เลยยอมไป พอไปถึงบรรยากาศนี้น่าวังเวงชวนขนลุกมากครับ หนาวๆหน่อย แล้วพี่เณรก็เข้าไปเอาของอะไรสักอย่างให้ผมรออยู่ตรงหน้าโรงครัว แต่สักพักผมก็มองไปหาที่ต้นโพธิ์ต้นนี้ คืออย่างที่บอกไปแล้วครับว่าต้นโพธิ์ต้นนี้ใหญ่มากกิ่งนี้ยื่นเข้ามาในวัดเลย พอมองได้ไม่นานผมก็สดุดตาทันทีเลย คือผมเห็นร่างผู้ชายคนหนึ่งครับ สูง.....มาก ตัวใหญ่ครับผิวสีดำเข้ม เหมือนกับว่ากำลังเกาะต้นโพธิ์ต้นนี้อยู่ แล้วกำลังจะปีนขึ้นไปอีก ช่วงเวลานั้นผมตกใจมาก แล้วรู้สึกว่าตัวเองแข็งทื่อขยับขะเยื่อนไม่ได้เลย ตาก็จ้องมองไปที่เขา สักประมาณ10นาทีได้ครับ พี่เณรองนั้นพออกมาจากโรงครัวก็ไม่รอผมเลย ไม่เรียกด้วย เดินกลับก่อนเฉยเลย ผมก็ยืนอยู่อย่างงั้นแหละครับ พอสักพักพี่เณรคนเดิมก็กลับมาพอมาถึงพี่เณรก็เขย่าตัวผมครับ ผมก็หลุดเลยครับที่นี้ วิ่งไม่คิดชีวตเลย วิ่งกลับห้องไป
พอไปถึงห้อง ผมก็ถามพี่เณรว่า ทำไมไม่เรียกผมกลับไปด้วย หนีผมเฉยเลย พี่เณรก็บอกว่า พี่ไม่เห็นทิวเลยน่ะ พี่ก็นึกว่ากลับแล้ว แต่พอไปถึงห้องไม่เห้นทิวพี่เณรเลยมาดูอีกรอบเห็นทิวยืนทื่อมองไปทางต้นโพธิ์อยู่พี่ก็เลยมาเขย่าตัว หลังจากคืนนั้นผ่านไป ผมก็เล่าให้แม่ฟังและเล่าให็ผู้เฒ่าผู้แก่ฟัง เขาก็เลยบอกว่า ตรงต้นโพธิ์ต้นนั้น มันมีเปตรอยู่คือทุกวันพระมันจะะออกมาบ่อย ให้คนนู้นเห็นคนนี้เห็น พอเรื่องทั้งหมดถูกเฉลย ผมบอกแม่ไม่เอาแล้ว ผมก็สึกในตอนนั้นเลยเรื่องราวก้มีแค่นี้แหละครับ (ถ้าไม่เข้าใจยังไงก็ขอโทดด้วยน่ะครับเรื่องมันก็นานมาแล้วอาจลำดับเหตุการ์ณได้ไม่ถูก ขอบคุณครับ)
สยองขวัญ ที่ใต้ต้นโพธิ์
พอจบโครงการบวชแล้วผมก็ยังไม่ได้สึกในทันที ผมกะว่าจะอยู่ต่อจนไกล้เปิดเทรอมค่อยสึก แล้วผมก็กลับมาอยู่วัดที่บ้านตัวเองครับ
ผมจะเล่าลักษณะวัดก่อนน่ะครับ คือวัดที่บ้านก็ค่อนข้างจะน่ากลัวๆ หน่อยข้างวัดก็จะมีต้นโพธิ์ที่ว่านี้แหละครับต้นใหญ่มากด้วย ก็พอตกค่ำมาพระอาจารย์ก็ให้ไปนอนกะพี่เณรรูปหนึ่งซึ่งพี่เณรองนั้นชื่อมดครับ ตอนนั้นพี่เณรก็จะอยู่สักประมาณ ม.3นี้แหละครับ เวลาก็ผ่านไปสองทุ่ม พี่เณรก็ชวนผมไปโรงครัว บอกว่า นี้ทิวพาพี่เณรไป โรงครัวหน่อย ผมรีบสวนขึ้นมาทันทีเลย จะไปทำไมมันดึกแล้ว วันนี้ยิ่งวันพระด้วย ผมไม่เอาหรอก(คือว่าโรงครัวที่จะไป มันไกล้กะต้นโพธิ์ที่อยู่ข้างวัดครับ) ผมก็บอกอีกว่าถ้าเจอผีจะทำยังไง แต่ว่าพี่เณรก็ชวนผมอยู่นั้นแหละจนผมใจอ่อน(แต่ก็ไม่รู้น่ะครับว่าพี่เณรเขาจะไปเอาอะไร)
ผมก้เลยยอมไป พอไปถึงบรรยากาศนี้น่าวังเวงชวนขนลุกมากครับ หนาวๆหน่อย แล้วพี่เณรก็เข้าไปเอาของอะไรสักอย่างให้ผมรออยู่ตรงหน้าโรงครัว แต่สักพักผมก็มองไปหาที่ต้นโพธิ์ต้นนี้ คืออย่างที่บอกไปแล้วครับว่าต้นโพธิ์ต้นนี้ใหญ่มากกิ่งนี้ยื่นเข้ามาในวัดเลย พอมองได้ไม่นานผมก็สดุดตาทันทีเลย คือผมเห็นร่างผู้ชายคนหนึ่งครับ สูง.....มาก ตัวใหญ่ครับผิวสีดำเข้ม เหมือนกับว่ากำลังเกาะต้นโพธิ์ต้นนี้อยู่ แล้วกำลังจะปีนขึ้นไปอีก ช่วงเวลานั้นผมตกใจมาก แล้วรู้สึกว่าตัวเองแข็งทื่อขยับขะเยื่อนไม่ได้เลย ตาก็จ้องมองไปที่เขา สักประมาณ10นาทีได้ครับ พี่เณรองนั้นพออกมาจากโรงครัวก็ไม่รอผมเลย ไม่เรียกด้วย เดินกลับก่อนเฉยเลย ผมก็ยืนอยู่อย่างงั้นแหละครับ พอสักพักพี่เณรคนเดิมก็กลับมาพอมาถึงพี่เณรก็เขย่าตัวผมครับ ผมก็หลุดเลยครับที่นี้ วิ่งไม่คิดชีวตเลย วิ่งกลับห้องไป
พอไปถึงห้อง ผมก็ถามพี่เณรว่า ทำไมไม่เรียกผมกลับไปด้วย หนีผมเฉยเลย พี่เณรก็บอกว่า พี่ไม่เห็นทิวเลยน่ะ พี่ก็นึกว่ากลับแล้ว แต่พอไปถึงห้องไม่เห้นทิวพี่เณรเลยมาดูอีกรอบเห็นทิวยืนทื่อมองไปทางต้นโพธิ์อยู่พี่ก็เลยมาเขย่าตัว หลังจากคืนนั้นผ่านไป ผมก็เล่าให้แม่ฟังและเล่าให็ผู้เฒ่าผู้แก่ฟัง เขาก็เลยบอกว่า ตรงต้นโพธิ์ต้นนั้น มันมีเปตรอยู่คือทุกวันพระมันจะะออกมาบ่อย ให้คนนู้นเห็นคนนี้เห็น พอเรื่องทั้งหมดถูกเฉลย ผมบอกแม่ไม่เอาแล้ว ผมก็สึกในตอนนั้นเลยเรื่องราวก้มีแค่นี้แหละครับ (ถ้าไม่เข้าใจยังไงก็ขอโทดด้วยน่ะครับเรื่องมันก็นานมาแล้วอาจลำดับเหตุการ์ณได้ไม่ถูก ขอบคุณครับ)