==================RIDE NOW=================
ท้าวความ
ทริปหนนี้เกิดจากเพื่อนๆจาก "มอเตอร์ไซค์ พันทิพ" https://www.facebook.com/motorcycpantip
ได้จัดและเชิญชวนให้ไปร่วมกิจกรรม "Ride now"  https://www.facebook.com/events/343076995859166/
ที่เพชรบูรณ์ขึ้น หลังจากเพื่อนๆหลายๆคนชวนมา ตาแป๊ะก็กดตอบไปแบบเรื่อยๆ ว่า may be อาจจะไปนะ หากไม่มีอะไร /หากว่างๆจะไปนะเฉยๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่เบื้องหลังฉากนี่ วิ่งเต้น+hype น่าดูเลยครับท่าน ทั้งหาเส้นทาง + ที่พัก หาที่เที่ยว+ร้านอาหาร

ว่าดูแผนที่คิดกันคร่าวๆก่อนนะครับ (แผน A)
วัน 1 -  ออกเดินทาง กทม-เพชรบูรณ์  ถึงเขาค้อประมาณเที่ยงๆ ขึ้นไปหากินชมวิว  
บ่ายๆ ไปเนียนกับทีมงาน เย็นๆลงเขามาพักที่พักในตัวเมืองเพชรบูรณ์
วัน 2 - ออกจากที่พักไป จุดนับพบ  เฮฮาจนประมาณ 10-11 โมง  หนีไปขึ้นทับเบิก
เริ่มลงจากทับเบิกไม่เกินบ่าย 2 ลงมาทางพิษณุโลก เข้าพักในตัวเมือง(ไม่พิษณุโลก/เพชรบูรณ์)
วันที่ 3 - เดินทางกลับกทม. บ่ายๆ แวะฟาร์มโชคชัย - เขาใหญ่ เข้ากทมมาประมาณ ทุ่ม แวะฟาร์มโชคชัยอีกรอบ ก่อนยิงถึงบ้าน
แน่นอนว่าโดนปรับแผน-ทริปล่มกันไปตามสไตล์แป๊ะ  555+

============================================

เริ่มออกเดินทางวันที่ 1 พร้อม แผน A ฉบับปรับปรุง : (หากที่พักเขาค้อกุหลาบแดงว่าง ก็นอนกับทีมงานเลย /เต็มก็ลงเขา)
ตื่นสบายๆตีห้ากว่าๆนั่งจิ้มเลิฟไลฟ์กับเคลียเกมบนมือถือให้ครบ ก่อนออกซิ่ง
มาถึงจุดพักแรกที่ปั้มตรงม.กรุงเทพรังสิต (เจ้าเก่า) เติมน้ำมันจัดอาหารเช้า ตุนผ้าเย็น/น้ำดื่ม/ทิชชู่ครบ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นี่คือสภาพรถของคนที่บอกว่า หากว่างๆก็จะไปร่วมกิจกรรมนะครับ....
พอดีอยากบินเดี่ยวแต่ก็กลัวเพื่อนไม่ทัก/ไม่รู้ว่าจะไป แอบแต่งซะ

จากนั้นก็คลานตามทางไปเรื่อยๆ  เจอเพื่อนร่วมทริปก็ทักทายกันตามปั้ม/ จอดไฟแดง ไปตามสภาพ
....คิดๆดูแล้วรถตรูนี่ก็เด่นเนอะ...คนอื่นทักผมถูก แต่ผมแบบ เอ ใครวะขี่ CBR หรือไม่ก็ฟอร์ซ่าคันนั้นคุ้นๆนะ อะไรประมาณนี้ = ="

วันนั้นก็ขี่ไป จอดแวะปั้มทีก็เช็คอินในเฟสไป คนอื่นจะได้รู้ว่าคลานไปถึงไหนแล้ว
และวันนั้นพักคนเพื่อเปลี่ยนถ่ายของเหลวบ่อยมากกกก (ใส่เสื้อการ์ดแบบ Air tight มากลัวหนาว ปรากฏร้อนอิบฮ๋าย)


อันนี้จอดพักคน+โป๊ะผ้าเย็น กับน้ำราดหัว...พอดีเห็นมันสวยดีเลยแอบชักภาพมา


หลังจากเห็นป้ายทางไปเขาค้อนี่ก็โล่งใจเลยนะ (ก่อนทางแยกเจอเพื่อนร่วมทริปจอดถ่ายรูปด้วย) แบบนี้ชัวร์ ทางนี้แหงๆ


หันไปมองทุ่งข้าวโพดข้างๆแล้วก็แอบเหวอเล็กๆ ครึ้มมาเชียว


แต่ก็ขี่ไปเรื่อยๆ สักพักแดดก็กลับมาแรงลั่นล้ากัน


เขาว่ากันไว้ว่าตอนที่เราเผลอตัวนั่นแหละครับ มักจะโดนเล่นงานมากที่สุด
ตอนที่กำลังลั่นล้ากับโค้งบ้างไต่เขาบ้าง อยู่ๆฝนก็ตกลงมาซะงั้น
พอดีข้างทางก็ไม่มีไหล่ทางให้หลบใส่ชุดกันฝนซะด้วย ตาแป๊ะก็เลยขี่ลุยๆมา จนกระทั้งถึงจุดๆนึง....

แอร้ย  หมอกลง! อยู่ๆทัศวิสัยก็มีหมอกควันเต็มไปหมด ตาแป๊ะประทับใจมากนะตอนนั้น
โห กลางวันแสกๆ ฝนตกบนป่าเขา ยังมีหมอกได้ด้วย สวยแปลกๆดีแฮะ
แต่เอ๊ะ หมอกมันเหม็นยางมะตอยตุ่ยๆอยู่นะ ...  สงสัยกลิ่นจากจุดสร้างถนนที่เพิ่งผ่านมามั้ง
เอ๊ะ  หมอกมันกองๆอยู่ล่างๆ  มันเหมือนถนนปล่อยควันออกมามากเลยนะ.....มันต้องเป็นปรากฏการณ์อันซีนเขาค้ออะไรสักอย่างแน่ๆ
พอขี่(คลาน)ต่อมาสักพัก ตาเริ่มเห็นภาพข้างหน้าได้ใกล้ๆ
ท่ามกลางหมอกควันนั้น เชี่ย!  นั่นรถบดยางมะตอย+คนงานกำลังทำงานบนเลนข้างหน้าเราเลยนี่หว่า!

แสดงว่านี่ตรูขี่มาบนยางมะตอยเพิ่งราดใหม่ๆร้อนๆ แล้วฝนตกลงมา ระเหยกลายเป็นไอน้ำอยู่ใช่ไหมเนี่ย...ฟรัค!
กรงกรวยก็ไม่ตั้งไว้  ปล่อยให้ตรูปลาบปลื้มกัน อันซีนเขาค้อมาตั้งนาน
จากนั้นก็เลยรีบเปลี่ยนเลนไป แล้วเลื้อยไต่เขาต่อ   จนถึงที่พัก (และแอบเลยไปเล็กน้อย)



ทางนั้นเห็นเราเข้ามาจอดก็เลยทักว่ามากับพันทิปรึเปล่า เราก็ตอบรับไปแล้วถามไปว่าห้องว่างเยอะไหม/ตอนนี้ทีมงานมาถึงกันรึยัง
ทางนั้นก็เลยตอบมาว่า ทางทีมงานมาแล้วแต่ออกไปเที่ยวยังไม่กลับมาเลย เลยนับหัว/จัดห้องไม่ได้

ตาแป๊ะก็เลยไปทานร้านอาหารอร่อย D ที่อยู่ใกล้ๆกันไปก่อนพร้อมกับชมวิวไปพลางๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้











พอนั่งอยู่ร้านอ่านเฟสเพลินๆ เพื่อนก็เม้นมาว่ารวมตัวกันกินข้าวที่อีกร้านนึง เลยที่พักไปสักหน่อย
ก็เลยถามทางจากคนในร้านแล้วแว้นซ์ไปจอยกะเขาด้วย =w=
หลังจากนั้นก็เข้าโหมดเรื่อยๆเเล้วครับ นั่งคุยกันที่ร้านอาหาร เลื้อยกลับมาเข้าที่พัก
มีกลุ่มที่ออกไปทุ่งแสลงหลวง / กลุ่มไปซื้ออาหารจากข้างล่าง...และกลุ่มที่นอนสลบคาเตียง(รวมผม)อยู่ด้วย


เย็นๆอากาศกำลังสบาย ไม่ร้อนแต่ก็ไม่หนาวจนสั่น  ตาแป๊ะต้นแขนซ้ายเดี้ยงกำลังได้ที่ อาบน้ำนอนพักสบายโคตรๆ
ช่วงนั้นสมาชิกแต่ละคนก็เม้ามอยเรื่อยเปื่อยกันไป จนทีมงานจัดหาเสบียงกลับมา
เหล่าแร้ง เอ้ยเพื่อนๆก็รุมเข้าจัดการอย่างรวดเร็ว....

เริ่มตั้งแต่จุดถ่าน +เป่าลมกันหน้าดำ แก้มย้วย  ยันปิ้งไก่และหมู ไปพลางๆ ทำไหม้ไปพลางๆ
รู้สึกตรงกลางมันไฟแรงวางอะไรไปนี่เกรียมหมด จนเราต้องแทคทีมรุมกัน 4-5 คน ยืนอังไฟไปพลางๆ พลิกเนื้อ+ไก่ไปพลางๆเลยทีเดียว
ทริปนี้ทำให้ข้าพเจ้ารู้ซึ้งเลยนะครับเนี่ย  พวกไฟส่องสว่างแบบคาดหัวได้เนี่ย  มันเอาไว้ใช้ส่องเตาย่างกันนี่เอง
เรียกได้ว่าใครโดนสวมหัวไฟนี่ ยืนเป็นเสาไฟคาเตากันเลยทีเดียว  จะยืนเฉยๆ แอบเนียนกิน หรือ ยืนไปพลิกเนื้อไปเพลินมาก

หลังจัดการจนหมด ปิดเตา  สมาชิกก็เริ่มแยกย้ายกันไปสลบคาห้อง เป็นอันจบคืนแรกครับ


===========================
เริ่มคืนวันที่สองด้วยการนอนตื่นเลทๆกันยกขบวน ก็เริ่มวันด้วยการชมวิวบ้าง  
บางคนออกไปชมทะเลหมอก/หาอะไรทานกันบ้าง







หลังจากลั่นล้าจับปูใส่กระด้งครบบ้างไม่ครบบ้าง ก็เริ่มทยอยออกเดินทางสู่วัดผาซ่อนแก้วกัน
โดยชนกลุ่มน้อย จะเดินทางไปวัดกันก่อน  และทางทีมงานจะไปถ่ายทำคลิปการเดินทางกัน

ภาพชนกลุ่มน้อยที่คลานๆมาถึงวัดเพื่อเจอลุง500


หลังจากพูดคุยทักทายกัน จากนั้นก็เป็นเวลาอิสระ สำหรับชมวัด (รอทีมงาน)
อย่างแรกเลยก็ต้องหาข้าวเช้ากินกันก่อนซินะ

หลังจากเดินไปหน้าทางเข้าวัดปรากฏว่า เจอร้านของฝาก-ของกินจุกจิกทั้งนั้นเลย
แถมร้านส้มตำที่เจอก็ดันอินดี้ปิดซะอีก.....
สอบถามคนในพื้นที่ ได้ความมาว่า อ๋อ ตรงฝั่งตรงข้ามอีกด้านของวัดมีร้านอาหารอยู่
ไหนๆ ก็ไหนๆเเล้วก็เลยได้เดินสำรวจวัด 1 รอบพร้อมแวะร้านอาหารซะเลย~




















** จริงๆลืมถ่ายรูปด้านหน้าวัด มุมกว้างๆ มาซึ่งสวยงามมากๆมา (เพราะหิว) น่าเสียดายจริงๆ

ว่าแต่ป้าแกไม่ได้บอกเลยนะว่า อีกด้านของวัด = ไต่เนินเดินขึ้นเขา
อนึ่งทางทีมงานรวมตัวกันที่ตีนเขา-หลังวัด  อนึ่งด้านหน้าวัด(บนเนิน)จะมีลานจอดรถ ร้านอาหาร
ในภาพลงเนินไปลิบๆนั่นอ่ะที่จอด...


พอถึงร้านตามสั่ง ก็จัดเลย 1 เซ็ทมาตรฐานสิ้นคิด พร้อมชมวิวไปพลางๆ







หลังอิ่มแล้วก็เลยเดินกลับมายังลานจอดรถ  นั่งคุยกันไปพลางๆ นอนกลิ้งสลบไปพลางๆ รอทีมงานกลับจากถ่ายทำหนังสารคดี
หลังจากทีมงานเข้ามาก็เริ่มกิจกรรมสกรีนเสื้อกันสนุกสนาน
เนื่องจากตอนนั้นเวลาก็ล่วงไปจะบ่ายแล้ว....เพื่อนๆ ที่จะขึ้นทับเบิกกันก็เลยยกเลิกการขึ้นกัน
*** จริงๆ มีเพื่อนๆพี่ๆจะคอยตามเก็บพาตาแป๊ะขึ้นทับเบิกด้วย  
พอดีเวลาไม่อำนวย  หากขึ้นไปแล้วต้องค้างบนนั้น และกลับตอนเช้าคนเดียว
ตาแป๊ะพิจารณาดูแล้วว่าอันตรายไปสักนิด เลยยกเลิกแผนขึ้นทับเบิกไว้ก่อน

หลังจากนั้น ตาแป๊ะก็แอบเนียนเสนอความเห็นว่า งั้นเดี๋ยวขากลับเราแวะกินเสต็คกันแทนไหม(เนียนมากก..)
พอชนกลุ่มน้อยกำลังจะแอบกลับกัน ทางทีมงานก็ขอให้ทุกคนไปรวมตัวถ่ายรูปกันก่อน ก็เลยถ่ายที่ลานหลังวัดรวมกันหนนึง
แล้วทีมงานจะขอให้ไปลานจอดรถหน้าวัด(บนเขา) ซึ่งถ่ายแล้วได้ภาพสวยๆอีกหนหนึ่ง

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ก็เลยขี่ตามๆกันไป ...แต่เอ๊ะตามคันหน้ามาสักพัก ทำไมทางมันขึ้นเขาแบบชันโคตรๆฟระ
แถมเริ่มออกห่างตัววัดขึ้นเรื่อยๆ ข้างทางนี่ทุ่งหญ้าหมดเลย.....





สักพักก็เริ่มมั่นใจว่า ต้องลืมเลี้ยวหรือเลี้ยวผิดสักที่แล้วล่ะ....แถมจะย้อนกลับทางเก่าที่มันลงเขาชันๆมากก็กระไรอยู่
พอดีเล็งๆเห็นว่าทางมันไปต่อจนน่าจะเจอถนนใหญ่ได้ ก็เลยตัดสินใจไปกันต่อดีกว่า

จากนั้นลงมาก่อนทางเข้าวัดพอดี ก็เลยแวะปั้มเปลี่ยนถ่ายของเหลวกันก่อนพร้อมวางแผนกลับ
วิ่งเส้น 12 > 21 เพื่อกลับกัน ทางกำลังสร้าง ขี่แล้วอันตรายอยู่พอตัว
เดี๋ยวโดนเบี่ยง เดี๋ยวโดนยุบเลนมาวิ่งสวนกัน เดี๋ยวแแยกเลนกัน(สร้างเส้นกลางๆอยู่) แถมฝุ่นเยอะมาก

จากนั้นก็เกาะกลุ่มเล็กๆกันยิงยาวมาเรื่อยๆ แวะปั้มพักรถพักคนบ้างตามระยะ
พอคลานๆกันมาถึงทางแยกแถวๆสระบุรี มันก็ เวลาทุ่มกว่าแล้ว
คนอื่นเลยลงความเห็นว่าน่าจะไปไม่ทันร้าน ก็เลยลงความเห็นว่าเดี๋ยวแวะปั้มอีกสักที่หาอะไรรองท้อง แล้วยิงยาวกลับบ้านเลยละกัน

หลังจากนั้น ก็ยิงยาวและแวะปั้มบ้างอะไรบ้างตามเรื่อง  จนถึงบ้านกันอย่างปลอดภัย
ดูหน้าปัดได้ระยะ ทางประมาณ 880 โล......

อาาาร์ ทริปสามวันสองคืนกลายเป็นสองวันหนึ่งคืนซะเเล้ว แถมไปเที่ยวได้ไม่ถึงครึ่งของแผนเลย

========== โปรดติดตามตอนต่อไป ============