ประสบณ์การตรงจริงๆครับ สำหรับใครที่ยังไม่เจอควรระวัง ใครที่เจอแล้วก็คิดและไตร่ตรองให้ดีก่อนตอบตกลงไปทำงาน
เรื่องมีอยู่ว่า....ช่วงนั้นผมเองก็กำลังหางานประจำทำพอดี แล้วก็อยากได้งานแบบพนักงานออฟฟิศ วันหนึ่งก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามา ปรากฎว่าเป็นการนัดสัมภาษณ์งานของบริษัทประกันแห่งหนึ่งย่านอโศก ปกติแล้วถ้าเป็นบริษัทประกันโทรมาจะรีบปฏิเสธทัน เพราะคิดอย่างเดียวต้องเป็นงานขาย แต่วันนั้นคนที่สนทนากับผมพูดว่า....
บริษัทประกัน : สวัสดีค่ะเรียนคุณ.........
ผม : ครับ พูดสายอยู่ครับ
บริษัทประกัน : ดิฉันเป็นเจ้าหน้าที่ติดต่อนัดสัมภาษณ์งาน ไม่ทราบว่าคุณ...มีงานประจำทำหรือยังค่ะ
ผม : ยังครับ กำลังมองหาอยู่
บริษัทประกัน : ไม่ทราบว่าคุณ พักอยู่แถวไหนค่ะ
ผม : แถว........
บริษัทประกัน : ไม่ทราบว่าสะดวก มาสัมภาษณ์กับเราไหมค่ะ
ผม : จากบริษัท อะไรครับ
บริษัทประกัน : ดิฉันติดต่อมาในส่วนของพนักงานประจำออฟฟิศนะค่ะ จากบริษัทประกันชีวิต (สีน้ำเงิน)
ผม : ที่ก็คิดว่าจะวาง แต่ก็ตัดสินใจฟังต่อ.....ครับประกันหรอครับ
บริษัทประกัน : แต่น้องอย่าเพิ่งตกใจนะค่ะ ดิฉันไม่ได้ให้เรามาขายประกันแต่อย่างใด แต่ให้มาทำในส่วนของพนักงานประจำออฟฟิศนะค่ะ
ผม : ลักษณะงานเป็นไงครับ
บริษัทประกัน : งานหลักๆก็ติดต่อประสานงานภายในองกรค์ แล้วก็พัฒนาบุคลากรค่ะ
หลังจากคุยกันได้สักพักผมก็ตัดสินใจรับนัดสัมภาษณ์ไป.....จนมาถึงวันนัดสัมภาษณ์ ระหว่างนั้นก็สัมภาษณ์ปกติทั่วไป ผมก็ได้ถามไปว่าแล้วงานที่ทำเป็นประมาณไหน เขาก็อธิบายว่า.....
คุณจะต้องทดลองงาน 1 เดือน (นึกในใจทำไมน้อยจังวะ) ปกติส่วนใหญ่จะประมาณ 119 วัน แล้วหลังจากผ่านโปร ทางบริษัทก็จะมีทีมงานมาให้หรือฝ่ายขายนั่นเอง มาให้เราบริหารงาน แล้วเงินเดือนก็จะได้ จากการขายประกันของฝ่ายขายในทีมเรา โดยแบ่งเป็นเรทต่างๆ โดยที่เราไม่ต้องขายไม่มีส่วนกับการขายเด็ดขาด แต่ถ้าจะขาย ก็สามารถทำได้......หลังจากฟังจบก็อุ่นใจว่ามันไม่ได้ให้เรามาขายจริงๆเว้ย
หลังจากนั้นประมาณสองวัน ก็มีโทรศัพท์โทรมา เป็นคนเดิมกับที่นัดผมสัมภาษณ์ ว่าผมผ่านการสัมภาษณ์งานแล้ว ยินดีด้วย ให้คุณมาเริ่มงานวันจันทร์ได้เลย (ว้าวรวดเร็วดีจัง)
พอถึงวันเริ่มงาน มาถึงทางบริษัทจะให้ทำการปฐมนิเทศ เป็นเวลา 4 วัน ก็ไม่มีอะไรมาก มาพูดถึงประวัติความเป็นมาของบริษัท เกี่ยวกับประเภทของประกัน ข้อดีของประกัน บลาๆๆๆๆๆ
หลังจากเสร็จสิ้น 4 วันพอมาถึงวันที่ 5 ของการทำงาน ก็ไปทำงานปกติ วันนั้นจำได้แม่นว่าในกลุ่มผมมีทั้งหมด 6 คน หลังจากนั้นผู้จัดการ...ก็พาเราทั้ง 6 เข้ามาคุย (ภาษาของพวกมันเรียกว่าการผ่าแผน) ระหว่างนั้นก็มีรุ่นพี่ที่ทำงานมาเป็นพักๆ มาถึงจุดสำคัญ อีผู้จัดการ...ก็เผยว่า การที่คุณจะผ่านการทดลองงาน 1 เดือนนั้น มีเงื่อนไขดังนี้
คุณต้องมียอด KPI 20000 (ด้วยความสงสัยผมก็ถามกับไปว่า คืออะไร) แล้วก็ได้คำตอบว่า.......
คุณต้องขายประกันให้ได้ยอดประมาณที่ 50000 บาท หรือจะเองก็ได้ (อ้าวไอ้สัสไหนบอกไม่ต้องขายไง นึกในใจ) แล้วก็ถามกลับไปว่า ไหนตอนมาสัมภาษณ์บอกผมว่าไม่มีการขายไงครับ.... อีผู้จัดการ... ก็ตอบมาว่าเพื่อวัดเครดิตของคุณว่ามีมากแค่ไหน เพราะเราเป็นสถาบันการเงิน บลาๆๆๆๆๆ หลังจากคุณผ่านตรงนี้ คุณก็จะได้ทำงานบริหารเต็มตัว มีทีมให้บริหาร เงินเดือนก็ขึ้นอยู่กับทีมงานหรือว่าฝ่ายขายนั่นเอง และสิ่งที่ไม่ขาดคิดก็เกิดขึ้น พอในวันรุ่งขี้น จากคนที่มาพร้อมกับผม 6 คน เหลือเพียง 2 คน คือ ผม แล้วก็ผู้ร่วมชะตากรรมอีกคน ระหว่างนั้น อีผู้จัดการ...ก็ทำการโมติเวท ต่างๆนาๆ ว่าอนาคตที่นี่จะดียังไง ดีขนาดไหน มีการยกตัวอย่างคนที่ทำงานมาก่อนพร้อมบอกโปรไฟล์ต่างๆนาๆ (คิดแล้วแค้น โถ่ววอีสลัด) ระหว่างนั้นก็มีการถามว่าคิดรึยังจะไปขายใครหรือจะซื้อเอง พูด

ทุกวัน แล้วมีการจัดให้ด้วยนะว่าประกันตัวไหนดี ตัวไหนเหมาะสม ตัวไหนจะทำให้ยอด KPI ถึง 20000 ดูมัน สุดท้ายแล้วผมก็ตัดสินใจยืมเงินทางบ้านมาซื้อเอง เพราะคิดว่าอย่างๆน้อยก็ทำติดตัวไม่เป็นไร เกิดเจ็บป่วย อะไรประมาณนี้ ระหว่างนั้นในแต่ละวัน ผมก็ได้มีการสอบถามรุ่นพี่ที่ทำงาน ว่าที่อยู่ไหน ขอดูได้ไหม ชั้นไหน ก็ทำเป็นบ่ายเบี่ยงไม่ตอบเดินหนีแล้วก็บอกว่าเดี๋ยวถึงเวลาก็รู้เอง แล้วก็ถามต่อไปว่า พี่ๆทำงานที่นี่ได้เดือนเท่าไหร่ครับ ก็บายเบี่ยงอีก บอกว่าก็ดีแหละ ก็เริ่มสงสัยละ จะปิดทำอะไรไม่เข้าใจ เพื่อ.....
เดี๋ยวมาเล่าต่อครับ....
ประสบการณ์ตรง !! กับพนักงานประจำออฟฟิศ บริษัทประกันย่านอโศก
เรื่องมีอยู่ว่า....ช่วงนั้นผมเองก็กำลังหางานประจำทำพอดี แล้วก็อยากได้งานแบบพนักงานออฟฟิศ วันหนึ่งก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามา ปรากฎว่าเป็นการนัดสัมภาษณ์งานของบริษัทประกันแห่งหนึ่งย่านอโศก ปกติแล้วถ้าเป็นบริษัทประกันโทรมาจะรีบปฏิเสธทัน เพราะคิดอย่างเดียวต้องเป็นงานขาย แต่วันนั้นคนที่สนทนากับผมพูดว่า....
บริษัทประกัน : สวัสดีค่ะเรียนคุณ.........
ผม : ครับ พูดสายอยู่ครับ
บริษัทประกัน : ดิฉันเป็นเจ้าหน้าที่ติดต่อนัดสัมภาษณ์งาน ไม่ทราบว่าคุณ...มีงานประจำทำหรือยังค่ะ
ผม : ยังครับ กำลังมองหาอยู่
บริษัทประกัน : ไม่ทราบว่าคุณ พักอยู่แถวไหนค่ะ
ผม : แถว........
บริษัทประกัน : ไม่ทราบว่าสะดวก มาสัมภาษณ์กับเราไหมค่ะ
ผม : จากบริษัท อะไรครับ
บริษัทประกัน : ดิฉันติดต่อมาในส่วนของพนักงานประจำออฟฟิศนะค่ะ จากบริษัทประกันชีวิต (สีน้ำเงิน)
ผม : ที่ก็คิดว่าจะวาง แต่ก็ตัดสินใจฟังต่อ.....ครับประกันหรอครับ
บริษัทประกัน : แต่น้องอย่าเพิ่งตกใจนะค่ะ ดิฉันไม่ได้ให้เรามาขายประกันแต่อย่างใด แต่ให้มาทำในส่วนของพนักงานประจำออฟฟิศนะค่ะ
ผม : ลักษณะงานเป็นไงครับ
บริษัทประกัน : งานหลักๆก็ติดต่อประสานงานภายในองกรค์ แล้วก็พัฒนาบุคลากรค่ะ
หลังจากคุยกันได้สักพักผมก็ตัดสินใจรับนัดสัมภาษณ์ไป.....จนมาถึงวันนัดสัมภาษณ์ ระหว่างนั้นก็สัมภาษณ์ปกติทั่วไป ผมก็ได้ถามไปว่าแล้วงานที่ทำเป็นประมาณไหน เขาก็อธิบายว่า.....
คุณจะต้องทดลองงาน 1 เดือน (นึกในใจทำไมน้อยจังวะ) ปกติส่วนใหญ่จะประมาณ 119 วัน แล้วหลังจากผ่านโปร ทางบริษัทก็จะมีทีมงานมาให้หรือฝ่ายขายนั่นเอง มาให้เราบริหารงาน แล้วเงินเดือนก็จะได้ จากการขายประกันของฝ่ายขายในทีมเรา โดยแบ่งเป็นเรทต่างๆ โดยที่เราไม่ต้องขายไม่มีส่วนกับการขายเด็ดขาด แต่ถ้าจะขาย ก็สามารถทำได้......หลังจากฟังจบก็อุ่นใจว่ามันไม่ได้ให้เรามาขายจริงๆเว้ย
หลังจากนั้นประมาณสองวัน ก็มีโทรศัพท์โทรมา เป็นคนเดิมกับที่นัดผมสัมภาษณ์ ว่าผมผ่านการสัมภาษณ์งานแล้ว ยินดีด้วย ให้คุณมาเริ่มงานวันจันทร์ได้เลย (ว้าวรวดเร็วดีจัง)
พอถึงวันเริ่มงาน มาถึงทางบริษัทจะให้ทำการปฐมนิเทศ เป็นเวลา 4 วัน ก็ไม่มีอะไรมาก มาพูดถึงประวัติความเป็นมาของบริษัท เกี่ยวกับประเภทของประกัน ข้อดีของประกัน บลาๆๆๆๆๆ
หลังจากเสร็จสิ้น 4 วันพอมาถึงวันที่ 5 ของการทำงาน ก็ไปทำงานปกติ วันนั้นจำได้แม่นว่าในกลุ่มผมมีทั้งหมด 6 คน หลังจากนั้นผู้จัดการ...ก็พาเราทั้ง 6 เข้ามาคุย (ภาษาของพวกมันเรียกว่าการผ่าแผน) ระหว่างนั้นก็มีรุ่นพี่ที่ทำงานมาเป็นพักๆ มาถึงจุดสำคัญ อีผู้จัดการ...ก็เผยว่า การที่คุณจะผ่านการทดลองงาน 1 เดือนนั้น มีเงื่อนไขดังนี้
คุณต้องมียอด KPI 20000 (ด้วยความสงสัยผมก็ถามกับไปว่า คืออะไร) แล้วก็ได้คำตอบว่า.......
คุณต้องขายประกันให้ได้ยอดประมาณที่ 50000 บาท หรือจะเองก็ได้ (อ้าวไอ้สัสไหนบอกไม่ต้องขายไง นึกในใจ) แล้วก็ถามกลับไปว่า ไหนตอนมาสัมภาษณ์บอกผมว่าไม่มีการขายไงครับ.... อีผู้จัดการ... ก็ตอบมาว่าเพื่อวัดเครดิตของคุณว่ามีมากแค่ไหน เพราะเราเป็นสถาบันการเงิน บลาๆๆๆๆๆ หลังจากคุณผ่านตรงนี้ คุณก็จะได้ทำงานบริหารเต็มตัว มีทีมให้บริหาร เงินเดือนก็ขึ้นอยู่กับทีมงานหรือว่าฝ่ายขายนั่นเอง และสิ่งที่ไม่ขาดคิดก็เกิดขึ้น พอในวันรุ่งขี้น จากคนที่มาพร้อมกับผม 6 คน เหลือเพียง 2 คน คือ ผม แล้วก็ผู้ร่วมชะตากรรมอีกคน ระหว่างนั้น อีผู้จัดการ...ก็ทำการโมติเวท ต่างๆนาๆ ว่าอนาคตที่นี่จะดียังไง ดีขนาดไหน มีการยกตัวอย่างคนที่ทำงานมาก่อนพร้อมบอกโปรไฟล์ต่างๆนาๆ (คิดแล้วแค้น โถ่ววอีสลัด) ระหว่างนั้นก็มีการถามว่าคิดรึยังจะไปขายใครหรือจะซื้อเอง พูด
เดี๋ยวมาเล่าต่อครับ....