เป็นวิชาที่ต้องส่งให้อาจาร์ยฝรั่งอะค่ะ แต่คือโง่แกรมม่ามาก ไม่รู้เลยว่าต้องเรียงอะไรยังไง
ลองใช้กูเกิลแล้วลองเอามาเรียงใหม่เองยิ่งงงหนักกว่าเดิม ช่วยด้วยค่ะๆ
รูปนี้เป็นรูปที่ฉันถ่ายเองเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2556 วันนั้นเป็นวันกิจกรรมของโรงเรียน เราเรียกมันว่า “วันโครงงาน” วันโครงงานคือวันที่ทุกห้องทุกสายชั้นในโรงเรียนจะต้องทำโครงงานมาแข่งขันส่งประกวด วันโครงงานจะจัดขึ้นปีละครั้ง ช่วงเช้าเป็นการเดินดูผลงานและให้คะแนนโครงงานแต่ละชิ้น ส่วนช่วงบ่ายจะมีการจัดคอนเสิร์ตโดยวงดนตรีที่เล่นโดยนักเรียนในโรงเรียนหรือไม่ก็เป็นรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว จะมีเล่นประมาณ 5-6 วง เล่นวงละ 3 เพลง คอนเสิร์ตนี้ไม่ได้จัดบนเวทีใหญ่ แต่จัดที่บันไดสีเขียวหลังโรงยิม ที่ตรงนั้นไม่ได้กว้างมากนัก แต่ที่ตรงนั้นก็เต็มไปด้วยเด็กๆในโรงเรียนแทบทุกปี ถ้ารีบไปตั้งแต่คอนเสิร์ตยังไม่เริ่ม ก็จะได้ยืนอยู่ตรงตีนบันไดแบบชัดๆ ไม่ต้องไปเบียดเสียดใคร แต่สักพักคนจะเริ่มแห่กันมาแน่นมากจนขยับไปไหนไม่ได้ บางทีเต้นอยู่ข้างหน้าดีๆก็โดนเบียดมาอยู่หลังสุดสะงั้น เรียกได้ว่าใครดีใครได้ ใครเต้นแรงได้อยู่หน้าสุด เพราะคนรอบข้างจะขยับหนีกันหมด
ในภาพเป็นวงสุดท้ายของวันนั้น เป็นรุ่นพี่ที่ร่วมเล่นกับรุ่นน้อง ความจริงตอนแรกพวกเขาก็เล่นกันอยู่บนบันไดนั้นแหละ แต่เพราะเสียงเพลงและบรรยากาศที่แสนจะสนุกสนาน ทำให้พวกเขากระโดดลงมาเล่นข้างล่าง กลางวงล้อมของน้องๆที่เต้นกันผมสยายสะบัดเป็นลอน ทุกคนพร้อมใจกันล้อมวงเป็นวงกลมล้อมรอบพี่ 2 คนนี้ และโยกตัวไปตามเสียงกีต้าร์ที่หนักหน่วงและเร้าใจ มันเป็นภาพที่สวยงามจนบรรยายไม่ถูก ฉันอยากจะเก็บความจำนี้เอาไว้ จึงยกกล้องในมือขึ้นเหนือหัวแล้วกดภาพรัวๆแบบไม่ได้ดู พยายามทำตัวให้นิ่งที่สุด แต่ก็ยากมากเพราะเพื่อนของฉัน 2 คนปล่อยผมและกระโดดโลดเต้นอยู่ข้างหน้าพอดี ผมดำๆที่อยู่ในรูปนั้นคือผมเพื่อนๆของฉันเอง และพวกผู้ชายที่กอดคอกันอยู่นั้นก็ด้วย พวกเขาทำให้วงกลมดูสวยมากขึ้น
เหตุผลที่ฉันเลือกภาพนี้มาก็คือ เวลาที่ฉันมองมัน มันทำให้ฉันรู้สึกถึงเหตุการณ์วันนั้นอีกครั้ง ความสนุก ความตื่นเต้นเร้าใจ ความสดใส ความเป็นวัยรุ่น มันให้ทำฉันรู้ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตฉันเคยสนุกสนาน เคยกระโดดโลดเต้นไปตามเสียงเพลง เต้นจนเช้าวันต่อมาตัวเคล็ดคอเคล็ดกันเลยทีเดียว มันเป็นความรู้สึก ความทรงจำที่ดีมากๆในชีวิต ต่อให้อนาคตฉันอายุ 80 ปี แล้วกลับมาดูรูปนี้อีกครั้ง ฉันก็ยังคงรู้สึกถึงความสนุก ความสดใส ความเป็นอิสระ และความเยาว์วัยในตอนนั้นอีกครั้ง
ช่วยแปลนี้เป็นภาษาอังกฤษทีค่ะ
ลองใช้กูเกิลแล้วลองเอามาเรียงใหม่เองยิ่งงงหนักกว่าเดิม ช่วยด้วยค่ะๆ
รูปนี้เป็นรูปที่ฉันถ่ายเองเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2556 วันนั้นเป็นวันกิจกรรมของโรงเรียน เราเรียกมันว่า “วันโครงงาน” วันโครงงานคือวันที่ทุกห้องทุกสายชั้นในโรงเรียนจะต้องทำโครงงานมาแข่งขันส่งประกวด วันโครงงานจะจัดขึ้นปีละครั้ง ช่วงเช้าเป็นการเดินดูผลงานและให้คะแนนโครงงานแต่ละชิ้น ส่วนช่วงบ่ายจะมีการจัดคอนเสิร์ตโดยวงดนตรีที่เล่นโดยนักเรียนในโรงเรียนหรือไม่ก็เป็นรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว จะมีเล่นประมาณ 5-6 วง เล่นวงละ 3 เพลง คอนเสิร์ตนี้ไม่ได้จัดบนเวทีใหญ่ แต่จัดที่บันไดสีเขียวหลังโรงยิม ที่ตรงนั้นไม่ได้กว้างมากนัก แต่ที่ตรงนั้นก็เต็มไปด้วยเด็กๆในโรงเรียนแทบทุกปี ถ้ารีบไปตั้งแต่คอนเสิร์ตยังไม่เริ่ม ก็จะได้ยืนอยู่ตรงตีนบันไดแบบชัดๆ ไม่ต้องไปเบียดเสียดใคร แต่สักพักคนจะเริ่มแห่กันมาแน่นมากจนขยับไปไหนไม่ได้ บางทีเต้นอยู่ข้างหน้าดีๆก็โดนเบียดมาอยู่หลังสุดสะงั้น เรียกได้ว่าใครดีใครได้ ใครเต้นแรงได้อยู่หน้าสุด เพราะคนรอบข้างจะขยับหนีกันหมด
ในภาพเป็นวงสุดท้ายของวันนั้น เป็นรุ่นพี่ที่ร่วมเล่นกับรุ่นน้อง ความจริงตอนแรกพวกเขาก็เล่นกันอยู่บนบันไดนั้นแหละ แต่เพราะเสียงเพลงและบรรยากาศที่แสนจะสนุกสนาน ทำให้พวกเขากระโดดลงมาเล่นข้างล่าง กลางวงล้อมของน้องๆที่เต้นกันผมสยายสะบัดเป็นลอน ทุกคนพร้อมใจกันล้อมวงเป็นวงกลมล้อมรอบพี่ 2 คนนี้ และโยกตัวไปตามเสียงกีต้าร์ที่หนักหน่วงและเร้าใจ มันเป็นภาพที่สวยงามจนบรรยายไม่ถูก ฉันอยากจะเก็บความจำนี้เอาไว้ จึงยกกล้องในมือขึ้นเหนือหัวแล้วกดภาพรัวๆแบบไม่ได้ดู พยายามทำตัวให้นิ่งที่สุด แต่ก็ยากมากเพราะเพื่อนของฉัน 2 คนปล่อยผมและกระโดดโลดเต้นอยู่ข้างหน้าพอดี ผมดำๆที่อยู่ในรูปนั้นคือผมเพื่อนๆของฉันเอง และพวกผู้ชายที่กอดคอกันอยู่นั้นก็ด้วย พวกเขาทำให้วงกลมดูสวยมากขึ้น
เหตุผลที่ฉันเลือกภาพนี้มาก็คือ เวลาที่ฉันมองมัน มันทำให้ฉันรู้สึกถึงเหตุการณ์วันนั้นอีกครั้ง ความสนุก ความตื่นเต้นเร้าใจ ความสดใส ความเป็นวัยรุ่น มันให้ทำฉันรู้ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตฉันเคยสนุกสนาน เคยกระโดดโลดเต้นไปตามเสียงเพลง เต้นจนเช้าวันต่อมาตัวเคล็ดคอเคล็ดกันเลยทีเดียว มันเป็นความรู้สึก ความทรงจำที่ดีมากๆในชีวิต ต่อให้อนาคตฉันอายุ 80 ปี แล้วกลับมาดูรูปนี้อีกครั้ง ฉันก็ยังคงรู้สึกถึงความสนุก ความสดใส ความเป็นอิสระ และความเยาว์วัยในตอนนั้นอีกครั้ง