คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
บริษัทนายหน้ามีหน้าที่หาคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนไปให้บริษัท แต่ทางบริษัทเองจะต้องสัมภาษณ์แคนดิเดทอีกที ถ้าบริษัทถูกใจทุกอย่างก็จะออฟเฟอร์งานให้ พร้อมทั้งบอกรายละเอียดเกี่ยวกับตำแหน่ง หน้าที่การงาน เงินเดือน และเงื่อนไขทุกอย่างให้ ถ้าตกลงเห็นด้วยกันทั้งสองฝ่าย ก็จะต้องเซ็นสัญญากันให้เป็นหลักฐาน ค่าใช้จ่ายทุกอย่างทางบริษัทควรจะออกให้หมด
เท่าที่คุณเล่ามาเหมือนว่าแฟนคุณยังไม่ได้พบเจอกับผู้จ้างเลย ถ้าได้พบเจอและสัมภาษณ์แล้ว ผมว่าทุกอย่างน่าจะกระจ่างขึ้น อย่าเซ็นต์สัญญาอะไรกับนายหน้าถ้าไม่ได้คุยกับบริษัทที่จะจ้าง
ออฟเฟอร์ดีๆแบบนี้สำหรับเด็กจบใหม่นับว่าดีมากเลย
โชคดีครับ
เท่าที่คุณเล่ามาเหมือนว่าแฟนคุณยังไม่ได้พบเจอกับผู้จ้างเลย ถ้าได้พบเจอและสัมภาษณ์แล้ว ผมว่าทุกอย่างน่าจะกระจ่างขึ้น อย่าเซ็นต์สัญญาอะไรกับนายหน้าถ้าไม่ได้คุยกับบริษัทที่จะจ้าง
ออฟเฟอร์ดีๆแบบนี้สำหรับเด็กจบใหม่นับว่าดีมากเลย
โชคดีครับ
แสดงความคิดเห็น
แฟนจะไปทำงานที่ ญี่ปุ่น แต่ข้อมูลที่นายหน้าบอกมันแปลกๆค่ะ
ส่วนใหญ่แฟนจะช่วยหางาน เขาจบ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เกียรตินิยมอันตับ 1 หางานกันทางเว็บหางานทั่วไป
มีบริษัทโทรให้เขาไปสัมภาษณ์หลายที่ค่ะ จนเมื่อวานเขาบอกเราว่า มีบริษัทโทรมาหาเขา เป็นบริษัทนายหน้าหาคนไปทำงาน
ให้บริษัทญี่ปุ่น จากที่เขาสอบถามทางนายหน้าบอกว่า เขาต้องหาคนให้ได้ 5 คน แล้วจะสอนภาษาญี่ปุ่นให้เป็นเวลา 2 เดือน
ในระหว่างที่เรียนจะได้เงินเดือน 20,000-25,000 ค่ะ พอเรียนจบ 2 เดือนก็ต้องไปเรียนรู้งานที่ญี่ปุ่น 6 เดือน
ค่าใช้จ่าย กิน อยู่ ที่พัก บริษัทออกให้หมด (แปลกใจตรงนี้ด้วยค่ะ บริษัทอะไรใจดีจัง) พอกลับมาแล้ว
จะได้ทำงานกับบริษัท ออโต้โมทีฟ ค่ะ (ขออภัยที่เอ่ยชื่อบริษัท แต่อยากทราบจริงๆว่าทางบริษัทมีนโยบายแบบนี้หรือเปล่าค่ะ)
ทำงานแถวนิคมปทุม เงินเดือนจะอัพให้เป็น 45,000-60,000 บาท ต้องทำงานให้บริษัท 3 ปีค่ะ แฟนเลยถามเราว่าอยากให้ไปไหม
สำหรับเรา ถ้าข้อมูลที่นายหน้าบอกมาทั้งหมดเป็นความจริง ไม่มีหลอกลวง เราก็อยากให้เขาไป
เพราะดูเขาก็ตื่นเต้นกับโอกาสที่เข้ามาไม่น้อย อนาคตเขาสำคัญกว่าเราอยู่แล้ว เราคงไม่ขวาง
แต่จากที่ฟังจากเขามามันรู้สึก ทำไมทุกอย่างมันดูง่ายจัง สายอาชีพเขาเงินเดือน 20,000 up ไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่40,000-60,000 และไปญี่ปุ่นฟรีหมด มันน่าแปลกใจค่ะ
หรือว่าเราระแวงมากไป แต่ก็เป็นห่วงเขานะคะ ถ้าไปถึงที่ญี่ปุ่นแล้วถูกลอยแพ
มีใครเคยเจอลักษณะนี้ไหมคะ พอทราบไหมว่าบริษัทนี้มีนโยบายแบบนี้จริงหรือเปล่า
ขออภัยหากพิมพ์ผิดคำไหน ตรงไหนค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ