คดีฆาตรกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า (ต่อ)

กระทู้สนทนา
สืบเนื่องจากกระทู้ นี้ http://ppantip.com/topic/32616982/desktop

วันนี้มีความคืบหน้าว่า ตำรวจเชิญตัวนายวรพันธุ์ หรือผู้ใหญ่วอ ตู้วิเชียร ผู้ใหญ่บ้าน หมู่.1 เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี  พร้อมนายมนตรีวัช  ตู้วิเชียร น้องชายไปสอบปากคำพร้อมเก็บ dna ตรวจสอบคลี่คลายคดีฆาตรกรรมโหด 2 นักท่องเที่ยวหนุ่มสาวชาวอังกฤษ แต่ๆๆๆๆ นายมนตรีวัช กล่าวว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ตำรวจได้เก็บเส้นผมและเล็บของตนไปพิสูจน์แล้ว  ผลตรวจ dna ยืนยันว่าคนร้ายไม่ใช่ตน ตอนนี้สื่อต่างๆ นำเสนอข่าวปู้ยี้ปู้ยำจนเสียหายไปหมดแล้ว คืนเกิดเหตุตนเห็นนายฌอน นักท่องเที่ยวชาวสก็อตแลนด์ที่โพสรูปชายไทย 2 คนในเฟซบุควิ่งผ่านมาที่ร้านตนในสภาพมีคราบเลือดเปรอะเปื้อนตัว มีพยานยืนยันได้ เชื่อว่านายฌอนน่าจะเป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะไขปริศนาคดีฆาตกรรมโหดนี้

ได้ยิน ตำรวจว่าไม่มีมาเฟีย มีแต่ผู้กว้างขวาง อื่มมม ซึ่งมันมีกระแสวิจารณ์จากคนในพื้นที่ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครรู้ใครเห็น เพียงแต่คนที่รู้ไม่มีใครกล้าพูด เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผู้มีอิทธิพลกับผู้ตาย จึงทำให้คดีล่าช้าและไม่มีความคืบหน้า แล้วตอนแรกตำรวจก็หลงทาง ไปตั้งแต่เรื่องต่างด้าว ที่ปิดเกาะตรวจแต่ยังไม่พบ บางกระแสบอกเดวิดเป็นเกย์ ทั้งที่ความจริงเดวิดน่าจะเข้าไปช่วยฮันน่า ส่วนฮันน่าไม่ได้ใส่บิกินี่ แต่น่าจะโดนข่มขื่นแต่ตำรวจไม่บอกว่าตอนแรกว่ามีอสุจิเดวิดในตัวฮันน่ารึเปล่า ทำให้เข้าใจไปกัน 2 คนนี้มีเพศสัมพันธ์กัน จนบีบแคบลงมา เมื่อฌอนโพสข้อความลงในเฟซบุค

และตอนนี้ ตำรวจไทยก็ดังอีกครัง เมื่อ

TIMES นิตยสารชื่อดังของสหรัฐอเมริกา เผยแพร่บทความเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 คนที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 ก.ย.

ชี้เป็นเส้นแบ่งระหว่างภาพลักษณ์ที่สวยงามของประเทศไทยและมุมมืดของความรุนแรงและกระบวนการยุติธรรมที่สะเปะสะปะ

ไทม์ส ระบุว่า การฆาตกรรม น.ส. ฮานนาห์ วิทเธอร์ริดจ์ อายุ 23 ปี และนายเดวิด มิลเลอร์ อายุ 24 ปี ที่เกาะเต่า เป็นที่จับตาไปทั่วโลก โดยพนักงานทำความสะอาดคนหนึ่งพบศพของชาวอังกฤษทั้งสองในสภาพเปลือยเปล่า อยู่ห่างกันราว 20 ม. นอกจากนี้ ยังพบจอบเปื้อนเลือดซึ่งได้รับการยืนยันในภายหลังว่า เป็นอาวุธที่ใช้สังหาร รวมทั้งกระบองไม้อยู่ไม่ไกลจากจุดที่พบศพ

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (22 ก.ย.) พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยต่อผู้สื่อข่าวว่า การพบอาวุธทั้งสองชิ้นทำให้พวกเขาเชื่อว่า คนร้ายมีอย่างน้อย 2 คน ขณะที่ข้อมูลจากแผนกนิติเวชศาสตร์ ระบุว่า น.ส.วิทเธอร์ริดจ์ เสียชีวิตจากบาดแผลหลายแห่ง บริเวณศีรษะ ขณะที่นายมิลเลอร์ เสียชีวิตจากการจมน้ำ และถึงแม้ว่า จะมีร่องรอยของการร่วมเพศ แต่เจ้าหน้าที่สืบสวนก็ไม่ยืนยันว่า น.ส.วิทเธอร์ริดจ์ ถูกข่มขืนหรือไม่

ในเบื้องต้นตำรวจไทยมุ่งเป้ากล่าวหา ไปที่แรงงานต่างด้าวชาวพม่า ซึ่งนาย พอล กวาเกลีย นักวิเคราะห์ความเสี่ยงในไทยชี้ ความว่า เป็นเป้าหมายที่ตำรวจชื่นชอบ ขณะที่ตำรวจระดับสูงคนหนึ่งระบุว่า คนไทยไม่ก่อคดีแบบนี้ และเจ้าหน้าที่ ก็เริ่มเหวี่ยงแหจับแรงงานชาวพม่า มาสอบปากคำและตรวจสอบดีเอ็นเอ และไม่นานหลังจากนั้น ก็มีการประกาศเพิ่มความเข้มงวดของกฎการจ้างแรงงานต่างด้าวบนเกาะเต่า เร็วจนน่าประหลาดใจ

แต่กระนั้น เมื่อไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงการฆาตกรรมกับชาวพม่าคนใด เป้าหมายจึงย้ายไปที่ชาวต่างชาติ หรือก็คือชาวตะวันตก ที่เป็นเพื่อนของผู้เคราะห์ร้ายนั่นเอง และมุ่งความสนใจไปที่ คริสโตเฟอร์ อลัน แวร์ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ผู้นอนห้องเดียวกับนายมิลเลอร์ โดยตำรวจแย้มว่า คดีนี้อาจเกิดจากความหึงหวง ซึ่งต่อมานายแวร์ ถูกจับกุมที่สนามบินในกรุงเทพมหานคร พร้อมกับเจมส์ ผู้เป็นน้องชาย อย่างไรก็ตาม เรื่องกลับกลายเป็นว่า ทั้งสองคนออกจากเกาะเต่า ในคืนก่อนเกิดเหตุ จึงไม่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย และผลการตรวจดีเอ็นเอ บนบุหรี่ที่พบในที่เกิดเหตุก็ไม่ตรงกันด้วย

ผู้ต้องสงสัยรายถัดไปกลายเป็นชายชาวไทย 2 คน ที่นายฌอน แมคอันนา ชาวสกอตแลนด์ อายุ 25 ปี เพื่อนของนายมิลเลอร์ อ้างว่า ลวนลาม น.ส.วิทเธอร์ริดจ์ ในคืนก่อนที่เธอจะถูกสังหาร ก่อนที่นายมิลเลอร์จะเข้าไปช่วย โดยแมคอันนา ซึ่งมีชื่อเสียงบนเกาะเต่าในฐานะ 'กีตาร์แมน' ถ่ายรูปชายไทยสองคนนี้เอาไว้ และโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ต ทำให้หลังจากนั้นเขาได้รับคำขู่ฆ่ามากมาย และต้องหลบหนีเพราะกลัวถูกเอาชีวิต อย่างไรก็ตาม ต่อมาตำรวจไทยเผยว่า ได้เชิญตัวคนไทยสองคนนี้มาสอบปากคำแล้ว ก่อนปล่อยตัวไปหลังทั้งคู่ไม่ยอมให้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ

นายกวาเกลีย บอกต่อนิตยสารไทม์ส ว่า ปัญหาทั้งหมดเกิดจากสิ่งที่ทำให้ไขว้เขว ตำรวจไทยไม่เพียงได้รับความสนใจจากสื่อในประเทศเท่านั้น แต่รวมถึงสื่อต่างประเทศ และยังถูกกดดันจากการต้องออกแถลงการณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าของคดีด้วย

ติดตามเผือกต่อไปครับ เพี้ยนปูเสื่อรอ เพี้ยนปูเสื่อรอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่