สบายใจ....ไปดูมาแล้ว
"AS ABOVE SO BELOW"
หนังเป็นเรื่องราวของสาวน้อย นักสำรวจนามว่า "สกาเล็ต" ผู้ต้องการหาความจริงของ "หินนักปราชญ์" ซึ่งคำตอบสุดท้ายก็อยู่ใต้มหานครแห่งแฟชั่น หรืออุโมงใต้ดินกรุงปารีส นั้นเอง
เนื่องจากหนังพยายามทำเป็นแนวสารคดี และการถ่ายทำแบบคนถ่ายกันเอง หนังเลยไม่ให้ข้อมูลอะไรมามากนัก คนดูต้องคอยพยายามคิดตามเองว่าอะไรยังไง บางครั้งการกระพริบตาครั้งนึงอาจจะพลาดจุดสำคัญของหนังไปแล้วก็ได้ (เช่นเหตุการณ์ที่บัก จอร์จ พระเอกผู้น่าสงสารต้องจับพลัดจับผลู ต้องลงไปสำรวจใต้ดินทั้งๆที่ไม่อยาก หากเผลอกระพริบตาจะไม่รู้เลยว่า สาเหตุเป็นเพราะตำรวจกำลังวิ่งมาจับกลุ่มสำรวจนั้นเอง)
อีกทั้งหนังยังขาดเหตุและผลหลายอย่างแม้จะพยายามแถยังไงก็รู้สึกว่าง่ายดายเกินไป ด้วยสาเหตุสองสามประการข้างต้น ทำให้หนังเรื่องนี้ ค่อนข้างน่าเบื่อ ไร้จุดพีคของหนัง ไร้จุดพีคยาวไปจนจบเรื่องก็ไม่มีจุดๆนี้ 555
มาดูในแง่ของความน่ากลัวและความกดดัน หนังเรื่องนี้ก็ทำได้ค่อนข้างโบราณ (เป็นมุขที่หนังผีหรือแนวๆนี้ก็ใช้กันทั่วไปนั้นเอง) อีกทั้งตัวหนังพยายามเล่นประเด็นของจิตใจตัวละคร แต่ก็ทำได้อย่างเบาหวิวไม่น่าเชื่อถือ
สรุป
เอาเป็นว่าใครอยากเข้าไปดูหนังแก้เซง ยามว่าง พอให้หัวใจได้เต้นแรงขึ้นบ้างเล็กน้อย ก็แนะนำให้ไปดู แต่ถ้าใครอยากไปดูหนังตื่นเต้น เร้นลับ มีอะไรให้ชวนคิดต่อ ก็ไม่แนะนำให้เอาเงินไปเสียกับหนังเรื่องนี้
ปล. คะแนนแยกออกเป็นฝ่ายหญิงและชาย 555
ปล2.หนังใช้วิธีการถ่ายทำแบบกล้องมือถือ (คล้ายเรื่อง สอดรู้/สอดเห็น/สอดเป็น/สอดตาย) เพราะฉะนั้นใครไม่ชอบแนวทางหนังแบบนี้ ขอให้เลิกคิดที่จะไปดูได้เลย อ้วกคาโรงแน่ๆ 55555
ปล.3 หนังมี END CREDITS ที่ไม่ต้องนั่งรอดูก็ได้
https://www.facebook.com/StudioSabuyjai
[CR] [CR][REVIEW] สบายใจ...ไปดูมาแล้ว AS ABOVE SO BELOW
สบายใจ....ไปดูมาแล้ว
"AS ABOVE SO BELOW"
หนังเป็นเรื่องราวของสาวน้อย นักสำรวจนามว่า "สกาเล็ต" ผู้ต้องการหาความจริงของ "หินนักปราชญ์" ซึ่งคำตอบสุดท้ายก็อยู่ใต้มหานครแห่งแฟชั่น หรืออุโมงใต้ดินกรุงปารีส นั้นเอง
เนื่องจากหนังพยายามทำเป็นแนวสารคดี และการถ่ายทำแบบคนถ่ายกันเอง หนังเลยไม่ให้ข้อมูลอะไรมามากนัก คนดูต้องคอยพยายามคิดตามเองว่าอะไรยังไง บางครั้งการกระพริบตาครั้งนึงอาจจะพลาดจุดสำคัญของหนังไปแล้วก็ได้ (เช่นเหตุการณ์ที่บัก จอร์จ พระเอกผู้น่าสงสารต้องจับพลัดจับผลู ต้องลงไปสำรวจใต้ดินทั้งๆที่ไม่อยาก หากเผลอกระพริบตาจะไม่รู้เลยว่า สาเหตุเป็นเพราะตำรวจกำลังวิ่งมาจับกลุ่มสำรวจนั้นเอง)
อีกทั้งหนังยังขาดเหตุและผลหลายอย่างแม้จะพยายามแถยังไงก็รู้สึกว่าง่ายดายเกินไป ด้วยสาเหตุสองสามประการข้างต้น ทำให้หนังเรื่องนี้ ค่อนข้างน่าเบื่อ ไร้จุดพีคของหนัง ไร้จุดพีคยาวไปจนจบเรื่องก็ไม่มีจุดๆนี้ 555
มาดูในแง่ของความน่ากลัวและความกดดัน หนังเรื่องนี้ก็ทำได้ค่อนข้างโบราณ (เป็นมุขที่หนังผีหรือแนวๆนี้ก็ใช้กันทั่วไปนั้นเอง) อีกทั้งตัวหนังพยายามเล่นประเด็นของจิตใจตัวละคร แต่ก็ทำได้อย่างเบาหวิวไม่น่าเชื่อถือ
สรุป
เอาเป็นว่าใครอยากเข้าไปดูหนังแก้เซง ยามว่าง พอให้หัวใจได้เต้นแรงขึ้นบ้างเล็กน้อย ก็แนะนำให้ไปดู แต่ถ้าใครอยากไปดูหนังตื่นเต้น เร้นลับ มีอะไรให้ชวนคิดต่อ ก็ไม่แนะนำให้เอาเงินไปเสียกับหนังเรื่องนี้
ปล. คะแนนแยกออกเป็นฝ่ายหญิงและชาย 555
ปล2.หนังใช้วิธีการถ่ายทำแบบกล้องมือถือ (คล้ายเรื่อง สอดรู้/สอดเห็น/สอดเป็น/สอดตาย) เพราะฉะนั้นใครไม่ชอบแนวทางหนังแบบนี้ ขอให้เลิกคิดที่จะไปดูได้เลย อ้วกคาโรงแน่ๆ 55555
ปล.3 หนังมี END CREDITS ที่ไม่ต้องนั่งรอดูก็ได้
https://www.facebook.com/StudioSabuyjai