กระทู้นี้จขกเพิ่งเคยตั้งเป็นครั้งแรก เรื่องอาจจะยาวและเล่าเรื่องไม่เก่งขออภัยด้วยนะคะ
..........เรื่องมีอยู่ว่า จขกมีแฟนซึ่งเปนชาวอังกฤษและตัวของแฟนจขกเองนั้นมีน้องชาย อายุ18ปี เพิ่งเข้ามหาลัยปีนี้เรียกได้ว่าเพิ่งแตกเนื้อหนุ่มเลยล่ะค่ะ จขกเองมีโอกาสได้อยู่อาศัยร่วมกับครอบครัวของแฟนจขกช่วงประมาณหนึ่งและก็พอจะเห็นถึงปัญหาและความผิดปกติของน้องชายแฟน ขอตั้งนามสมมุติว่าKนะคะ น้องKเป็นคนที่ไม่มีสังคมใดๆตามที่วัยรุ่นส่วนใหญ่จะมีกัน เช่น ไม่เคยออกไปเที่ยวไหนกับเพื่อน ไม่เคยมีเพื่อนมาเยี่ยมที่บ้าน เลิกเรียนก็กลับบ้านเลยไม่ออกไปไหนแม้กระทั่งวันหยุดสุดสัปดาห์ (ถ้าเรากับแฟนไม่ชวนก่อนน้องก็ไม่เคยเรียกร้องอยากไปไหน) ติดเกมส์และคอมพิวเตอร์มาก (โลกของน้องเค้าคือห้องนอนและบ้านค่ะ) ไม่ชอบอาบน้ำคือดองตัวเองเต็มที่ (เราเคยจะเข้าไปยืมของและเข้าห้องไปทีนึงจะตายเอาเหม็นกลิ่นตัวอบอวลมาก น้องอยู่แบบไม่เปิดหน้าต่างถ่ายเทอากาศ) น้องชอบเดินงุ่นง่าน+พูดคนเดียวในห้องเวลาเค้าใช้ความคิด (หรือป่าวไม่แน่ใจ) แต่ยอมรับนะคะว่าน้องเค้าก็ดูร่าเริงดีถ้าได้พูดหรือออกความคิดเห็นในเรื่องที่เค้าชอบและถนัดหรือรู้อะไรมา เป็นเด็กดีที่ไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าวค่ะ
..........แต่มันมีเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกว่าน้องอยู่มาได้ยังไงวะ ทำไมพ่อแม่เค้าปล่อยๆเรื่องนี้ไปโดยไม่แก้ไข น้องKมหาลัยเปิดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาค่ะ ด้วยความที่มหาลัยนั้นอยู่ในเมืองและบ้านที่น้องKอยู่มันต้องเดินทางไกลประมาณ1.45นาทีถึงในเมือง แต่เรากับแฟนพักอยู่ในแฟลตใจกลางเมืองแฟนเราเลยหวังดีเอาน้องมานอนด้วยสัก2-3วันจะได้สะดวกช่วงแรกๆน้องจะได้ไปทันและค่อยปรับเวลาเอง ค่อยไปส่งบ้านวันพฤหัส (น้องอยู่คนเดียวอาทิตย์นึงที่บ้านเนื่องจากพ่อกับแม่แฟนไปฮอลิเดย์กลับมาคืนวันพุธนี้) พอคืนวันอาทิตย์น้องมาถึงที่ห้องพร้อมถุงพลาสติกที่ใส่เสื้อผ้ามาพร้อมหนังสืออ่านเล่นสองเล่ม จากนั้นพี่ชายกับน้องก็นั่งดูหนังคุยกันปกติ พอก่อนจะเข้านอนเราเลยถามว่าพรุ่งนี้ไปเรียนตึกไหนเปิดเทอมวันแรกอ่ะ? น้องตอบไม่รุ้ เราก็ถามต่ออีกพรุ่งนี้ไปกี่โมง? ตอบมาว่าไม่รู้และทำหน้างงๆมึนๆ เราก็งงด้วยเปิดเทอมวันแรกจะไปตึกไหน เวลาไหนไม่รู้เลยหรอ แฟนเราเลยบอกเช็คเลย(น้ำเสียงเริ่มมีน้ำโหบวกหงุดหงิด) น้องเค้าก็นั่งเช็คเมล์ไปพอได้ตารางเรียนมาแฟนก็ถามว่าและไปมหาลัยถูกไหม น้องบอกจากที่แฟลตไปเริ่มไม่ถูกแต่ถ้ามาจากบ้านพอจำได้ ก็ไม่ว่ากันแฟนเราก็เปิดgoogle mapในคอมให้ดูอธิบายทางไปตึกเรียน (แฟนเราจบที่นี่เหมือนกันเพราะเป็นมหาลัยที่ดีที่สุดในเมืองแล้ว จะบอกว่าน้องKก้แอบหัวดีค่ะฮ่าๆ) ทีนี้เราถามว่าจะไปเรียนมีกระเป๋า ปากกา สมุดจดไหม? น้องKส่ายหน้าบอกไม่มี เอาไปทำไมต้องใช้หรอ(ตอบจริงใจและหน้าซื่อๆ) เรากับแฟนนี่ต่างคนต่างหันหน้าเข้ากำแพงเลยค่ะ แฟนเราก็โมโหบอกเวลาlecture แกจำได้หมดหรอว่าอาจารย์อธิบายอะไร ไม่ต้องจดเลยงั้นสิ น้องKเริ่มเงียบ แฟนเราถามต่อว่าแล้วจะเอาไรใส่เอกสารไม่มีกระเป๋าอ่ะ น้องKตอบว่าจะใช้ถุงพลาสติกที่เค้ายัดใส่เสื้อผ้ามาอ่ะ เอาไปมหาลัย (สภาพถุงพลาสติกคือเป็นถุงจากsupermarketที่ไม่ได้บางเหมือนห้างโลตัสบ้านเรา หนานิดๆคือมันre-useได้อ่ะค่ะ) แฟนเราอึ้งกิมกี่ไปเลย เรานี่แบบไม่ได้การและตูปล่อยไปแบบนี้ไม่ไหว ไปจัดการรื้อกระเป๋าเก่าๆจะขาดแหล่ของแฟนในห้องเก็บของมาให้ใช้ขัดตาทัพไปก่อน อุปกรณ์การเรียนเราก็เอาของเราให้ใช้ไปก่อน แฟนเราก็เริ่มเทศนาเลยค่ะว่าทำไมไม่จัดการชีวิตตัวเองฮะ รู้ไม่ใช่หรอว่าเปิดเทอมแล้วทำไมเตรียมไรไม่ครบ ไม่พร้อม นี่ไม่นับเอกสารเรื่องแบงค์ เรื่องกู้เงินเรียนที่ควรจะเอามาด้วย บลาๆ เราก็เลยสะกิดว่าพอๆเด่วเหมือนครั้งที่แล้ว (เหตุการณ์ครั้งที่แล้วคือติน้องเรื่องที่ลอกวอลเปเปอร์ไม่ได้ดั่งใจแล้วน้องก็ร้องไห้น้อยใจปนเสียใจเลยค่ะ พูดกับตัวแฟนว่า"นี่ผมทำอะไรก็ไม่ดีเลยใช่ไหม ทำอะไรไม่เป็นเลยใช่ไหม" แฟนเราก็อึ้งเสียใจที่พูดออกไปไม่ทันระวัง) เราเลยบอกว่าเอาแบบนี้นะ Kไปลิสต์รายการมาว่าเธอต้องซื้ออะไรใหม่บ้าง ที่ขาดและเด่วพรุ่งนี้ฉันไปซื้อให้ ระหว่างนั้นเราก็คุยกับแฟนเพราะเราสองคนเริ่มกังวลค่ะ (ในระหว่างที่เราคุยกันจะได้ยินเสียงน้องKพูดคนเดียว เสียงย่ำเท้าแรงๆเพราะน้องตัวใหญ่ยักษ์มากทำไรก็จะได้ยิน) และวันพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน
.......เรากับแฟนก็อยู่อีกห้องใกล้จะนอน เราก็คุยกับแฟนว่าเด่วพรุ่งนี้เราเดินไปส่งน้องเธอเอง ไปเป็นเพื่อนครึ่งทางพอและเด่วฉันไปซื้อsim card กับกระเป๋าตังค์ให้น้อง (น้องมีแต่โทรศัพท์ไม่มีซิมการ์ดเป็นโทรศัพท์ที่แฟนเราซื้อให้เมื่อตอนวันเกิดน้องKเดือนมกราที่ผ่านมา และเรากับแฟนก็แนะพ่อแม่แฟนว่าควรซื้อซิมค่ายไหนให้ โปรโมชั่นไหนดีจนกระทั่งป่านนี้เค้าก็ไม่ซื้อให้ เหตุผลเพราะน้องไม่ได้โทรหาใครหรอก "เปลือง" อยู่แต่บ้านไม่มีเพื่อนและกระเป๋าตังค์อีกเช่นกันน้องก็ไม่มี) เรื่องเสื้อผ้า ถุงเท้า กระเป๋าเธอไปเลือกกันเองนะเรากะไซส์ไม่ถูกตัวใหญ่เกิ้น (เสื้อผ้าน้องเก่าเก็บมากค่ะ แฟนบอกว่าแม่จะเป็นคนซื้อให้แต่ซื้อบ่อยแค่ไหนไม่รู้เหมือนกัน ขอบรรยายเสื้อผ้าน้องหน่อยคือเปนเสื้อยืดหดๆที่ไม่สมตัวน้องเค้าที่อ้วน แบบยกมือโบกรถเมล์ทีเห็นพุงหมดอ่ะค่ะหรือกางเกงยีนส์ที่เป็นแบบคล้ายทรงขาม้าที่นั่งยองๆเห็นง่ามก้นไปถึงไหนๆต่อไหน) แฟนเราโอเคและเสนอว่าที่ในเมืองตามผับทุกๆวันพุธมันจะเป็น students' night แบบเครื่องดื่มถูก เดี๋ยวแฟนจะลางานพฤหัสเธอกับฉันพาน้องไปเปิดหูเปิดตากัน เราก็อือโอเคไปก็ไป (จุดประสงค์ของเรากับแฟนคืออยากให้น้องได้เห็นด้านสนุกๆของเด็กมหาลัยวัยรุ่นกัน เผื่อจะมีเพื่อนบ้างคืออยากให้น้องเริ่มเข้าหาสังคมอ่ะค่ะ) แฟนเราก็เล่าให้ฟังว่าตัวเค้ากังวลว่าน้องจะต้องดรอปออกแน่ๆเพราะเค้าไม่มีทักษะการเข้าสังคมเลย เช่น เวลาไปดูหนังกันกับตัวแฟนเราเองในขณะที่หนังมันเงียบๆ น้องKก็จะโพล่งคำพูดออกมาถามดังๆแบบคุมโทนเสียงตัวเองไม่ได้ เราก็สังเกตนะคะเวลาไปเจอญาติรุ่นๆเดียวกัน คนอื่นจะคุยเฮฮาปกติแต่น้องKจะเข้าวงสนทนาไม่ถึง คือไม่มีประสบการณ์ร่วมด้วยอ่ะค่ะ ไม่รู้ว่าWhatsappคือไร Facebookเล่นไม่เป็นพอถึงTopicตัวเอง คนที่คุยด้วยก็จะไม่ค่อยเก็ทเค้าเท่าไหร่ ตัวลูกพี่ลูกน้องเค้าเด็กกว่าปีนึงอายุ17 ปี โน่นค่ะไปสเปนกะเพื่อนเฮฮาปาร์ตี้แต่น้องชายแฟนเราแม้แต่อยู่ที่นี่ก็ไม่มีเพื่อนสักคน เพราะกังวลว่าจะเข้ากับเพื่อนหรือคนอื่นๆไม่ได้แฟนเราเลยแนะว่าอยากให้น้องKออกไปอยู่ Student accommodationดูค่ะ เพื่อปรับชีวิตให้รู้จักการช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง และหวังว่าอย่างน้อยเพื่อนที่แชร์แฟลตกับเค้าก็คงเป็นเพื่อนได้บ้าง แต่พ่อกับแม่แฟนบอกว่า"เปลือง"อยู่บ้านอ่ะดีแล้วประหยัด แฟนเราโมโหกับทัศนคติพ่อแม่เค้าเองแบบนี้แม้จะอธิบายว่าน้องกู้เรียนมาจากรัฐบาลดอกมันไม่ได้เสียเยอะเหมือนแบงค์และอีกอย่างเมื่อน้องมีงานโตขึ้นมันก็จะถูกหักออกไปเอง แต่พ่อแม่เค้าก็ไม่ยอมแฟนเราก็จนปัญญาเพราะตัวน้องKเองก็ยืนยันว่าจะอยู่ที่บ้าน
แฟนเราก็บ่นๆว่าเค้ามีความคิดว่าทางบ้านเค้าเลี้ยงน้องแบบผิดๆ คือไม่ให้กำลังใจหรือส่งเสริมน้องให้ช่วยตนเอง คอยแต่ทำให้ป้อนให้ทุกอย่างจนจะกลายเป็นเด็กที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่ตัวแม่แฟนเองเค้าก็เคยบอกเรานะคะว่าเป็นเพราะช่วงที่น้องKยังเด็กกำลังมีพอจะเข้ากับเพื่อนได้ ก็มีเหตุย้ายที่อยู่ใหม่ โรงเรียนใหม่และสภาพแวดล้อมใหม่ๆทำให้น้องไม่มีเพื่อน พอมาอยู่นี่เด็กที่โรงเรียนก็ล้อเลียนน้องเค้า เด็กละแวกบ้านก็ล้อเค้าทำให้เค้าไม่กล้าและไม่อยากออกไปเล่นที่สนามเด็กเล่นอีกเลยจนมันทำให้น้องรู้สึกไม่อยากออกไปไหน อยู่แต่กับคอมในห้องและในบ้าน เรามีความรู้สึกอยากช่วยน้องเค้ามากอ่ะค่ะคือเห็นแล้วสงสารจริงๆแต่เพราะวัฒนธรรมที่ต่างกันของไทยกับที่นี่เราเลยไม่รู้ว่าควรจะเข้าหาตัวน้อง Kแบบไหน ตัวแฟนเราเองก็บอกว่าเค้าเคยแนะนำไปจนเหมือนน้องเค้าไม่ยอมรับความคิดนี้ และพอมาวันนี้เป็นวันที่สองที่ได้ไปมหาลัยพอน้องกลับมาเราถามว่าเป็นยังไงบ้างวันนี้ สนุกไหม น้องก็ตอบว่าไม่ค่อยชอบ ไม่มีใครคุยด้วยได้ทำความรู้จักกันกับเพื่อนแค่ต้นคาบและในห้องก็ไม่มีใครคุยกัน เราก็ตายล่ะ..กลัวน้องจะยอมแพ้แต่ต้นเพราะตัวน้องเองก็คิดอยู่ตลอดว่าเค้ายังไม่เก่งพอหรือดีหรือเข้าใจพอที่จะเรียนสาขานี้ แต่เค้าก็พอรู้บ้างนิดหน่อยแต่มันก็ยากอยู่ดี เราก็ได้แต่ให้กำลังใจตบท้ายด้วยทำกับข้าวให้กินอร่อยๆ คือน้องKพอบอกให้ทำอะไรก็ทำนะเหมือนเค้ายังเด็กอยู่เลยอ่ะในความคิดเรา เช่น น้องเค้าเป็นคนมีกลิ่นตัวมากและตัวเค้าไม่รู้หรอก เราก็เลยบอกว่าต้องอาบน้ำทุกวันๆ ฉีดสเปรย์ดับกลิ่น วันนี้เราก็คอยดูว่าทำไหมเพราะกลัวคนอื่นจะยี้เอา ไม่มีใครเข้าใกล้เพราะกลิ่นตัวน้องแรงมากจริงๆ เราได้ยินน้องฉีดสเปรย์สองจึ้ก แบบฉีดกลัวเปลืองกลัวหมด เราเลยนั่งเล่นรอข้างนอกบอกว่าฉีดไปเลยเยอะๆ ไม่ต้องกลัวเปลืองฉีดน้อยๆไม่เห็นผลหรอกไม่งั้นมันจะเหม็นนะ น้องเค้าฟังแปบก็รีบวิ่งไปฉีดใหญ่เลย เดินกลับมาบอกเราว่า ฉีดแล้วนะตรงหน้าอกด้วยและก็หัวเราะอารมณ์ดีเหมือนเด็กอ่ะค่ะ
........ร่ายมาก็ยาวแล้วเลยอยากถามเพื่อนๆหรือขอความคิดเห็นก็ได้ค่ะ ว่ามีวิธีการไหนที่พอจะช่วยส่งเสริม ให้กำลังใจผลักดันให้เค้ามีสังคมที่มากขึ้นกว่าการเล่นเกมในคอมคะ เพราะตัวน้องเองลึกๆเค้าก็แสดงพฤติกรรมว่าอยากมีเพื่อน อยากเจออะไรใหม่ๆ เช่นเมื่อวาน น้องKมาบอกกะเรานะว่าเค้าคิดว่าเค้าคิดผิดที่อยู่บ้าน เค้าน่าจะอยู่หอจะได้สะดวกไปเรียนง่ายขึ้น เราไม่อยากให้เค้าเป็นตัวตลกโดนล้อในสายตาคนอื่นอ่ะค่ะ เห็นแล้วสงสารจริงๆ และอีกเรื่องคือการช่วยเหลือตัวเองค่ะ วิธีการสอนหรือบอกควรทำแบบไหนคะเพราะตัวเค้าก็โตเป็นหนุ่มแล้ว ลึกๆก็กลัวจะคืองเวลาเราบอกไรแต่ประเมินดูแล้วเค้าก็เชื่อฟังเราดีนะ จุดมุ่งหมายคืออยากช่วยน้องบ้างอ่ะค่ะ แต่ไม่ได้อยากเจือกไปหมดแค่อยากจุดประกายปิ๊งกระตุ้นน้องให้มีส่วนร่วมมากขึ้นอ่ะค่ะ
ขอบคุณนะคะที่ทนอ่านเรื่องเราจนจบ พิมยาวรวดๆเข้าใจกันหรือป่าวก็ไม่รู้ ขอบคุณนะคะ
ไม่รู้จะTagห้องไหนบ้างอ่ะ
ขอคำแนะนำวิธีการเข้าสังคมของวัยรุ่นอายุ18 ที่ไม่เคยมีเพื่อนไปไหนมาไหนด้วยเลย
..........เรื่องมีอยู่ว่า จขกมีแฟนซึ่งเปนชาวอังกฤษและตัวของแฟนจขกเองนั้นมีน้องชาย อายุ18ปี เพิ่งเข้ามหาลัยปีนี้เรียกได้ว่าเพิ่งแตกเนื้อหนุ่มเลยล่ะค่ะ จขกเองมีโอกาสได้อยู่อาศัยร่วมกับครอบครัวของแฟนจขกช่วงประมาณหนึ่งและก็พอจะเห็นถึงปัญหาและความผิดปกติของน้องชายแฟน ขอตั้งนามสมมุติว่าKนะคะ น้องKเป็นคนที่ไม่มีสังคมใดๆตามที่วัยรุ่นส่วนใหญ่จะมีกัน เช่น ไม่เคยออกไปเที่ยวไหนกับเพื่อน ไม่เคยมีเพื่อนมาเยี่ยมที่บ้าน เลิกเรียนก็กลับบ้านเลยไม่ออกไปไหนแม้กระทั่งวันหยุดสุดสัปดาห์ (ถ้าเรากับแฟนไม่ชวนก่อนน้องก็ไม่เคยเรียกร้องอยากไปไหน) ติดเกมส์และคอมพิวเตอร์มาก (โลกของน้องเค้าคือห้องนอนและบ้านค่ะ) ไม่ชอบอาบน้ำคือดองตัวเองเต็มที่ (เราเคยจะเข้าไปยืมของและเข้าห้องไปทีนึงจะตายเอาเหม็นกลิ่นตัวอบอวลมาก น้องอยู่แบบไม่เปิดหน้าต่างถ่ายเทอากาศ) น้องชอบเดินงุ่นง่าน+พูดคนเดียวในห้องเวลาเค้าใช้ความคิด (หรือป่าวไม่แน่ใจ) แต่ยอมรับนะคะว่าน้องเค้าก็ดูร่าเริงดีถ้าได้พูดหรือออกความคิดเห็นในเรื่องที่เค้าชอบและถนัดหรือรู้อะไรมา เป็นเด็กดีที่ไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าวค่ะ
..........แต่มันมีเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกว่าน้องอยู่มาได้ยังไงวะ ทำไมพ่อแม่เค้าปล่อยๆเรื่องนี้ไปโดยไม่แก้ไข น้องKมหาลัยเปิดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาค่ะ ด้วยความที่มหาลัยนั้นอยู่ในเมืองและบ้านที่น้องKอยู่มันต้องเดินทางไกลประมาณ1.45นาทีถึงในเมือง แต่เรากับแฟนพักอยู่ในแฟลตใจกลางเมืองแฟนเราเลยหวังดีเอาน้องมานอนด้วยสัก2-3วันจะได้สะดวกช่วงแรกๆน้องจะได้ไปทันและค่อยปรับเวลาเอง ค่อยไปส่งบ้านวันพฤหัส (น้องอยู่คนเดียวอาทิตย์นึงที่บ้านเนื่องจากพ่อกับแม่แฟนไปฮอลิเดย์กลับมาคืนวันพุธนี้) พอคืนวันอาทิตย์น้องมาถึงที่ห้องพร้อมถุงพลาสติกที่ใส่เสื้อผ้ามาพร้อมหนังสืออ่านเล่นสองเล่ม จากนั้นพี่ชายกับน้องก็นั่งดูหนังคุยกันปกติ พอก่อนจะเข้านอนเราเลยถามว่าพรุ่งนี้ไปเรียนตึกไหนเปิดเทอมวันแรกอ่ะ? น้องตอบไม่รุ้ เราก็ถามต่ออีกพรุ่งนี้ไปกี่โมง? ตอบมาว่าไม่รู้และทำหน้างงๆมึนๆ เราก็งงด้วยเปิดเทอมวันแรกจะไปตึกไหน เวลาไหนไม่รู้เลยหรอ แฟนเราเลยบอกเช็คเลย(น้ำเสียงเริ่มมีน้ำโหบวกหงุดหงิด) น้องเค้าก็นั่งเช็คเมล์ไปพอได้ตารางเรียนมาแฟนก็ถามว่าและไปมหาลัยถูกไหม น้องบอกจากที่แฟลตไปเริ่มไม่ถูกแต่ถ้ามาจากบ้านพอจำได้ ก็ไม่ว่ากันแฟนเราก็เปิดgoogle mapในคอมให้ดูอธิบายทางไปตึกเรียน (แฟนเราจบที่นี่เหมือนกันเพราะเป็นมหาลัยที่ดีที่สุดในเมืองแล้ว จะบอกว่าน้องKก้แอบหัวดีค่ะฮ่าๆ) ทีนี้เราถามว่าจะไปเรียนมีกระเป๋า ปากกา สมุดจดไหม? น้องKส่ายหน้าบอกไม่มี เอาไปทำไมต้องใช้หรอ(ตอบจริงใจและหน้าซื่อๆ) เรากับแฟนนี่ต่างคนต่างหันหน้าเข้ากำแพงเลยค่ะ แฟนเราก็โมโหบอกเวลาlecture แกจำได้หมดหรอว่าอาจารย์อธิบายอะไร ไม่ต้องจดเลยงั้นสิ น้องKเริ่มเงียบ แฟนเราถามต่อว่าแล้วจะเอาไรใส่เอกสารไม่มีกระเป๋าอ่ะ น้องKตอบว่าจะใช้ถุงพลาสติกที่เค้ายัดใส่เสื้อผ้ามาอ่ะ เอาไปมหาลัย (สภาพถุงพลาสติกคือเป็นถุงจากsupermarketที่ไม่ได้บางเหมือนห้างโลตัสบ้านเรา หนานิดๆคือมันre-useได้อ่ะค่ะ) แฟนเราอึ้งกิมกี่ไปเลย เรานี่แบบไม่ได้การและตูปล่อยไปแบบนี้ไม่ไหว ไปจัดการรื้อกระเป๋าเก่าๆจะขาดแหล่ของแฟนในห้องเก็บของมาให้ใช้ขัดตาทัพไปก่อน อุปกรณ์การเรียนเราก็เอาของเราให้ใช้ไปก่อน แฟนเราก็เริ่มเทศนาเลยค่ะว่าทำไมไม่จัดการชีวิตตัวเองฮะ รู้ไม่ใช่หรอว่าเปิดเทอมแล้วทำไมเตรียมไรไม่ครบ ไม่พร้อม นี่ไม่นับเอกสารเรื่องแบงค์ เรื่องกู้เงินเรียนที่ควรจะเอามาด้วย บลาๆ เราก็เลยสะกิดว่าพอๆเด่วเหมือนครั้งที่แล้ว (เหตุการณ์ครั้งที่แล้วคือติน้องเรื่องที่ลอกวอลเปเปอร์ไม่ได้ดั่งใจแล้วน้องก็ร้องไห้น้อยใจปนเสียใจเลยค่ะ พูดกับตัวแฟนว่า"นี่ผมทำอะไรก็ไม่ดีเลยใช่ไหม ทำอะไรไม่เป็นเลยใช่ไหม" แฟนเราก็อึ้งเสียใจที่พูดออกไปไม่ทันระวัง) เราเลยบอกว่าเอาแบบนี้นะ Kไปลิสต์รายการมาว่าเธอต้องซื้ออะไรใหม่บ้าง ที่ขาดและเด่วพรุ่งนี้ฉันไปซื้อให้ ระหว่างนั้นเราก็คุยกับแฟนเพราะเราสองคนเริ่มกังวลค่ะ (ในระหว่างที่เราคุยกันจะได้ยินเสียงน้องKพูดคนเดียว เสียงย่ำเท้าแรงๆเพราะน้องตัวใหญ่ยักษ์มากทำไรก็จะได้ยิน) และวันพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน
.......เรากับแฟนก็อยู่อีกห้องใกล้จะนอน เราก็คุยกับแฟนว่าเด่วพรุ่งนี้เราเดินไปส่งน้องเธอเอง ไปเป็นเพื่อนครึ่งทางพอและเด่วฉันไปซื้อsim card กับกระเป๋าตังค์ให้น้อง (น้องมีแต่โทรศัพท์ไม่มีซิมการ์ดเป็นโทรศัพท์ที่แฟนเราซื้อให้เมื่อตอนวันเกิดน้องKเดือนมกราที่ผ่านมา และเรากับแฟนก็แนะพ่อแม่แฟนว่าควรซื้อซิมค่ายไหนให้ โปรโมชั่นไหนดีจนกระทั่งป่านนี้เค้าก็ไม่ซื้อให้ เหตุผลเพราะน้องไม่ได้โทรหาใครหรอก "เปลือง" อยู่แต่บ้านไม่มีเพื่อนและกระเป๋าตังค์อีกเช่นกันน้องก็ไม่มี) เรื่องเสื้อผ้า ถุงเท้า กระเป๋าเธอไปเลือกกันเองนะเรากะไซส์ไม่ถูกตัวใหญ่เกิ้น (เสื้อผ้าน้องเก่าเก็บมากค่ะ แฟนบอกว่าแม่จะเป็นคนซื้อให้แต่ซื้อบ่อยแค่ไหนไม่รู้เหมือนกัน ขอบรรยายเสื้อผ้าน้องหน่อยคือเปนเสื้อยืดหดๆที่ไม่สมตัวน้องเค้าที่อ้วน แบบยกมือโบกรถเมล์ทีเห็นพุงหมดอ่ะค่ะหรือกางเกงยีนส์ที่เป็นแบบคล้ายทรงขาม้าที่นั่งยองๆเห็นง่ามก้นไปถึงไหนๆต่อไหน) แฟนเราโอเคและเสนอว่าที่ในเมืองตามผับทุกๆวันพุธมันจะเป็น students' night แบบเครื่องดื่มถูก เดี๋ยวแฟนจะลางานพฤหัสเธอกับฉันพาน้องไปเปิดหูเปิดตากัน เราก็อือโอเคไปก็ไป (จุดประสงค์ของเรากับแฟนคืออยากให้น้องได้เห็นด้านสนุกๆของเด็กมหาลัยวัยรุ่นกัน เผื่อจะมีเพื่อนบ้างคืออยากให้น้องเริ่มเข้าหาสังคมอ่ะค่ะ) แฟนเราก็เล่าให้ฟังว่าตัวเค้ากังวลว่าน้องจะต้องดรอปออกแน่ๆเพราะเค้าไม่มีทักษะการเข้าสังคมเลย เช่น เวลาไปดูหนังกันกับตัวแฟนเราเองในขณะที่หนังมันเงียบๆ น้องKก็จะโพล่งคำพูดออกมาถามดังๆแบบคุมโทนเสียงตัวเองไม่ได้ เราก็สังเกตนะคะเวลาไปเจอญาติรุ่นๆเดียวกัน คนอื่นจะคุยเฮฮาปกติแต่น้องKจะเข้าวงสนทนาไม่ถึง คือไม่มีประสบการณ์ร่วมด้วยอ่ะค่ะ ไม่รู้ว่าWhatsappคือไร Facebookเล่นไม่เป็นพอถึงTopicตัวเอง คนที่คุยด้วยก็จะไม่ค่อยเก็ทเค้าเท่าไหร่ ตัวลูกพี่ลูกน้องเค้าเด็กกว่าปีนึงอายุ17 ปี โน่นค่ะไปสเปนกะเพื่อนเฮฮาปาร์ตี้แต่น้องชายแฟนเราแม้แต่อยู่ที่นี่ก็ไม่มีเพื่อนสักคน เพราะกังวลว่าจะเข้ากับเพื่อนหรือคนอื่นๆไม่ได้แฟนเราเลยแนะว่าอยากให้น้องKออกไปอยู่ Student accommodationดูค่ะ เพื่อปรับชีวิตให้รู้จักการช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง และหวังว่าอย่างน้อยเพื่อนที่แชร์แฟลตกับเค้าก็คงเป็นเพื่อนได้บ้าง แต่พ่อกับแม่แฟนบอกว่า"เปลือง"อยู่บ้านอ่ะดีแล้วประหยัด แฟนเราโมโหกับทัศนคติพ่อแม่เค้าเองแบบนี้แม้จะอธิบายว่าน้องกู้เรียนมาจากรัฐบาลดอกมันไม่ได้เสียเยอะเหมือนแบงค์และอีกอย่างเมื่อน้องมีงานโตขึ้นมันก็จะถูกหักออกไปเอง แต่พ่อแม่เค้าก็ไม่ยอมแฟนเราก็จนปัญญาเพราะตัวน้องKเองก็ยืนยันว่าจะอยู่ที่บ้าน
แฟนเราก็บ่นๆว่าเค้ามีความคิดว่าทางบ้านเค้าเลี้ยงน้องแบบผิดๆ คือไม่ให้กำลังใจหรือส่งเสริมน้องให้ช่วยตนเอง คอยแต่ทำให้ป้อนให้ทุกอย่างจนจะกลายเป็นเด็กที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่ตัวแม่แฟนเองเค้าก็เคยบอกเรานะคะว่าเป็นเพราะช่วงที่น้องKยังเด็กกำลังมีพอจะเข้ากับเพื่อนได้ ก็มีเหตุย้ายที่อยู่ใหม่ โรงเรียนใหม่และสภาพแวดล้อมใหม่ๆทำให้น้องไม่มีเพื่อน พอมาอยู่นี่เด็กที่โรงเรียนก็ล้อเลียนน้องเค้า เด็กละแวกบ้านก็ล้อเค้าทำให้เค้าไม่กล้าและไม่อยากออกไปเล่นที่สนามเด็กเล่นอีกเลยจนมันทำให้น้องรู้สึกไม่อยากออกไปไหน อยู่แต่กับคอมในห้องและในบ้าน เรามีความรู้สึกอยากช่วยน้องเค้ามากอ่ะค่ะคือเห็นแล้วสงสารจริงๆแต่เพราะวัฒนธรรมที่ต่างกันของไทยกับที่นี่เราเลยไม่รู้ว่าควรจะเข้าหาตัวน้อง Kแบบไหน ตัวแฟนเราเองก็บอกว่าเค้าเคยแนะนำไปจนเหมือนน้องเค้าไม่ยอมรับความคิดนี้ และพอมาวันนี้เป็นวันที่สองที่ได้ไปมหาลัยพอน้องกลับมาเราถามว่าเป็นยังไงบ้างวันนี้ สนุกไหม น้องก็ตอบว่าไม่ค่อยชอบ ไม่มีใครคุยด้วยได้ทำความรู้จักกันกับเพื่อนแค่ต้นคาบและในห้องก็ไม่มีใครคุยกัน เราก็ตายล่ะ..กลัวน้องจะยอมแพ้แต่ต้นเพราะตัวน้องเองก็คิดอยู่ตลอดว่าเค้ายังไม่เก่งพอหรือดีหรือเข้าใจพอที่จะเรียนสาขานี้ แต่เค้าก็พอรู้บ้างนิดหน่อยแต่มันก็ยากอยู่ดี เราก็ได้แต่ให้กำลังใจตบท้ายด้วยทำกับข้าวให้กินอร่อยๆ คือน้องKพอบอกให้ทำอะไรก็ทำนะเหมือนเค้ายังเด็กอยู่เลยอ่ะในความคิดเรา เช่น น้องเค้าเป็นคนมีกลิ่นตัวมากและตัวเค้าไม่รู้หรอก เราก็เลยบอกว่าต้องอาบน้ำทุกวันๆ ฉีดสเปรย์ดับกลิ่น วันนี้เราก็คอยดูว่าทำไหมเพราะกลัวคนอื่นจะยี้เอา ไม่มีใครเข้าใกล้เพราะกลิ่นตัวน้องแรงมากจริงๆ เราได้ยินน้องฉีดสเปรย์สองจึ้ก แบบฉีดกลัวเปลืองกลัวหมด เราเลยนั่งเล่นรอข้างนอกบอกว่าฉีดไปเลยเยอะๆ ไม่ต้องกลัวเปลืองฉีดน้อยๆไม่เห็นผลหรอกไม่งั้นมันจะเหม็นนะ น้องเค้าฟังแปบก็รีบวิ่งไปฉีดใหญ่เลย เดินกลับมาบอกเราว่า ฉีดแล้วนะตรงหน้าอกด้วยและก็หัวเราะอารมณ์ดีเหมือนเด็กอ่ะค่ะ
........ร่ายมาก็ยาวแล้วเลยอยากถามเพื่อนๆหรือขอความคิดเห็นก็ได้ค่ะ ว่ามีวิธีการไหนที่พอจะช่วยส่งเสริม ให้กำลังใจผลักดันให้เค้ามีสังคมที่มากขึ้นกว่าการเล่นเกมในคอมคะ เพราะตัวน้องเองลึกๆเค้าก็แสดงพฤติกรรมว่าอยากมีเพื่อน อยากเจออะไรใหม่ๆ เช่นเมื่อวาน น้องKมาบอกกะเรานะว่าเค้าคิดว่าเค้าคิดผิดที่อยู่บ้าน เค้าน่าจะอยู่หอจะได้สะดวกไปเรียนง่ายขึ้น เราไม่อยากให้เค้าเป็นตัวตลกโดนล้อในสายตาคนอื่นอ่ะค่ะ เห็นแล้วสงสารจริงๆ และอีกเรื่องคือการช่วยเหลือตัวเองค่ะ วิธีการสอนหรือบอกควรทำแบบไหนคะเพราะตัวเค้าก็โตเป็นหนุ่มแล้ว ลึกๆก็กลัวจะคืองเวลาเราบอกไรแต่ประเมินดูแล้วเค้าก็เชื่อฟังเราดีนะ จุดมุ่งหมายคืออยากช่วยน้องบ้างอ่ะค่ะ แต่ไม่ได้อยากเจือกไปหมดแค่อยากจุดประกายปิ๊งกระตุ้นน้องให้มีส่วนร่วมมากขึ้นอ่ะค่ะ
ขอบคุณนะคะที่ทนอ่านเรื่องเราจนจบ พิมยาวรวดๆเข้าใจกันหรือป่าวก็ไม่รู้ ขอบคุณนะคะ
ไม่รู้จะTagห้องไหนบ้างอ่ะ