ผมเข้าไปค้นหนังสือดาราที่ญาติ ๆ สะสมไว้ในห้อง ค้นอ่านไปมา  ก็ไปเจอหนังสือเล่มนี้เข้า ไดอารี่คู่ชีวิต ฉบับวันที่ 8 ตุลาคม 2521



เปิดอ่านแล้วตกใจมาก เพราะเจอคอลัมน์ไปเยี่ยมบ้านของคุณอาตึ๋ง วีรประวัติ พงศ์พัวพัน ผู้กำกับละครชื่อดัง และคุณอากาญจนา วงศ์พัวพัน (วรพันธ์ ระวีนักเขียนบทโทรทัศน์ชื่อดัง) เห็นภาพคุณอาทั้งสองท่านอุ้มเด็กชายเด็กหญิงด้วย ผมนึกในใจต้องใช่....แน่ๆ ก็เห็นในคอมลัมป์ขียนใต้รูปว่า "ลูกธีรเดช" ใช่จริง ๆ ด้วย ภาพคุณเคน ธึรเดช วงศ์พัวพันซุปเปอร์สตาร์ของวงการบันเทิงไทยเมื่อ 36 ปีก่อน ดีใจจริง ๆ ที่เห็นคอลัมน์บุคคลนี้เข้า ผมก็เลยรีบนำภาพมาให้ชาวเนทได้ชมและอ่านเรื่องราวกันครับ



เคน ธึรเดชเมื่อ 36 ปีก่อน (เด็กชายเสื้อขาว) กับครอบครัวที่อบอุ่นครับ




รายละเอียดในคอลัมน์มีว่า

สามคนผัวเมีย เอ๊ยไม่ใช่สองคนผัวเมียน่ะวีรประวัติ-กาญจนา วงศ์พัวพัน


ปัจจุบันนี้ วีรประวัติ มีความเป็นอยู่อย่างสงบสุขค่อนข้างมากกับครอบครัวที่อบอุ่นของเขา ตามแบบฉบับของผู้ชายใจเดียว รักเดียวที่มีอยู่น้อยมากในสังคมปัจจุบันนี้คนที่โชคดีที่สุดก็เห็นจะเป็น กาญจนา วงศ์พัวพัน ภรรยาคู่ใจของเขานั่นเอง


เราไปพบกับครอบครัวของเขาเมื่อบ่าย วันเสาร์ที่ 23 นี้เอง หลักจากที่สองคนสามีภรรยาว่างจากการถ่ายทำหนัง “สามคนผัวเมีย” และจะนอนเอาแรงเพื่อเตรียมตัวถ่ายใหม่ในวันรุ่งขึ้น แต่ผมไม่ยอมให้เขาได้นอนบังคับขู่เข็ญเอามาถ่ายรูปและนั่งคุยกันหลายชั่วโมงเพื่อจะได้มาเขียนให้คุณๆอ่านกัน ยอดช่างภาพอารมณ์ ทองกร เองก็นั่งงง อยู่นั่นแล้วเหมือนกัน เพราะผมยังนินทา เอ๊ย คุยกับคุณตึ๋งและคุณแดงไม่เสร็จเสียที


บ้านของสามคนผัวเมีย อุ๊ย สองผัวเมียนี้ น่าอยู่มาก ไม่ใกล้ไม่ไกลแค่อยู่บ้านชัยพฤกษ์นี้เอง เป็นสองหลังต่อกัน เรียกว่าซื้อทีเดียวสองหลังเลย จะได้มีบริเวณมากๆหน่อยให้ลูกไว้วิ่งเล่น เพราะกำลังซนเอาการทั้งสองคน ตอนที่เรา อารมณ์ ทองกร และผมไปถึงบ้านของคุณแดงและคุณตึ๋งนั้น อ้อ ผมลืมบอกไป ชื่อเล่นของสองคนสามีภรรยานี้ก็คือตึ๋งและแดง ผมเลยเรียกตามไปด้วยเพราะมันง่ายดีกว่าเรียกชื่อจริง ๆ ยาวออกเขียนลำบาก คุณคงไม่ว่าอะไรหรอกนะ


ตอนที่เราไปถึงนั้น คุณแดงเธอกำลังให้นมลูกชายคนเล็กอยู่ในห้องรับแขก ที่ผมว่าให้นมไม่ได้หมายถึงเอานมทั้งเต้าจริงๆของเธอออกมาให้ลูกดูดหรอกเพียงแต่ว่า ให้ลูกกินจากขวดตังหาก แต่อุ้มให้กินอยู่



เคน ธีเดชกับคุณแม่กาญจนา วงศ์พัวพัน (วรพันธ์ ระวี นักเขียนบทละครชื่อดัง)


เมื่อผม เข้าไปในห้องรับแขกก็ได้ยินเสียงตึง ตึง ตึง จากห้องช้างบนที่เป็นห้องนอน ผมยังงงว่าเขามีงานอะไรกันก็พอดีคุณแดงเธอออกตัวก่อนว่า “เมื่อคืนถ่ายหนังถึงสว่าง ตึ๋งเขาหกล้มค่ะ ขาแพลง เดินไม่ถนัด ต้องกระโดดไปเดินไปนี้ว่า จะพาไปหาหมอเหมือนกันเดี๋ยวแดงจะขอขึ้นไปดูเขาหน่อยก่อนนะคะ” เธอว่าแล้วก็เดินไปหาสามีที่กำลังกระโดเป็นจิงโจ้บนห้องนอน เพื่อประคองปีกลงมาคุยกับผมข้างล่าง ครู่เดียว เสียงตึงก็หายไป คุณตึ๋งโผล่หน้าใสออกมาพร้อมกับคุณแดงบอกอีกว่า “นิดหน่อยครับ ไม่มาก เส้นมันคงจะพลิก น่ะ เรื่องเล็ก” แน่ะคุยซะอีก “นี่แดงทำอะไรให้ทานด้วยนะ ตอนเที่ยงทานข้าวกันก่อนนะคะอย่างเพิ่งไป” คุณแดงเธอชวนผมและช่างภาพคู่คิด


แต่ก่อนจะกินกันตามคำชวนของเจ้าของบ้าน เราก็ต้องคุยกันก่อนเป็นธรรมเนียม จะได้รู้ความเป็นมาของสองสามีภรรยานี้เสียก่อน ทั้งสองนี้ผมมองๆดูแล้วเป็นผัวเมียที่เข้าใจและรู้ใจกันมากเอาการ เรียกว่าถ้อยที่ถ้อยอาศัยกัน ใครพูดอะไร อีกคนก็รับกันได้ทันที ไม่มีการขัดใจกันเลยและจากที่ผมเห็นภายนอกที่ไม่ใช่บ้านด้วยแล้ว ผมว่าเขารักกันมาก และท่าทางกระจุ๋มกระจิ๋มมาก ๆ ทีเดียว ที่สำคัญ คือทั้งสองคนดูเป็นคนใจเย็น ถึงผมจะรู้มาว่า คุณแดงเธอใจเย็นน้อยกว่าสามีก็ตามที แต่ลงคุณตึ๋งไม่ชอบขัดคอและไม่ขัดใจคุณแดงเธอจะไปยั๊วกับใครได้ที่ไหนก็เอาชี้!


ผมถามว่า ไปเจอกันได้ยังไงและตอนไหน ? คุณแดงเล่าว่า “ตอนนั้นแดงเรียนที่ธรรมศาสตร์ เราเรียนปีเดียวกันแต่คนละคณะ แดงอยู่วารสาร ตอนนั้นปี 13 ค่ะ ตึ๋งอยู่คณะศิลปศาสตร์แผนกประวัติศาสตร์ เขาละค่ะ มามองแดงก่อน ตอนนั้นนะคะแดงไปห้องน้ำ ก็พวกเขาที่ชอบอยู่หน้าห้องน้ำล้อแดงเลื่อยเลย”

ผมขัดขึ้นว่า คุณตึ๋งชอบคุณแดงมากถึงขนาดเดินไปห้องน้ำด้วยงั้นเรอะ? แหม ฟังดูความรักของเธอช่างทะๆ พิลึกนะเนี้ย ขนาดตามไปห้องน้ำเป็นเพื่อนด้วยแบบนี้? ปรากฏว่า คุณแดงร้องจ๊าก พร้อมกับหัวเราะคี้ก ตามธรรมดาของเธอเป็นคนหัวเราะง่าย “โอ๊ย เปล่าๆ แหมไม่ใช่งั้นซักหน่อยหมายถึงว่าพวกตึ๋งน่ะ เขาชอบอยู่หน้าห้องน้ำ แล้วนั่งล้อเลียนพวกผู้หญิง เขาชอบล้อแดงอยู่แถวๆ นั้นเป็นประจำเลย” เอา เป็นอันว่า นั่งล้อกันหน้าห้องน้ำจนเกินความสนใจและกลายเป็นความรักไปในที่สุดละ ว่างั้นเถอะ ออกรสออกชาติดีเหมือนกันนิ รู้กันแบบนี้



เคน ธีรเดชมีมาดพระเอกตั้งแต่เด็กเลยนะ


ผมไม่กล้าถามว่าก่อนจะรักกันน่ะคุณตึ๋งถูกคุณแดงด่าอะไรออกไปมั่งรึเปล่า? มีอย่างที่ไหนจะมาทำความรู้จักที่ไหนๆ ไม่ทำดันมาทำกันหน้าห้องน้ำงั้นละ พิลึก! “ตึ๋งเขามีแฟนแยะ มาใช่แดงคนเดียวหรอก ก่อนแต่งงานน่ะ โอ๊ย ก่อนแต่งปัญหาเยอะค่ะ เพราะผู้ใหญ่ของเราไม่ค่อยชอบ แดงเป็นลูกสาวคนเล็ก เชื่อไหมคะแดงเองติดแม่เอามากๆถ้าเมื่อไรแม่อยู่กับแดง จะเกาะกันตลอดเวลาเลย แดงรักแม่ม๊ากมาก นี่ไม่อยู่ คิดถึงจัง”


“ตอนนี้หรือคะ ไม่มีหรอก เขามีแดงคนเดียว แต่แดงน่ะ เคยบอกเขาว่า เขาจะไปมีแฟนใหม่ก็ได้ แดงไม่ว่า ขออย่างเดียว ต้องรักให้น้อยกว่าแดง และทำดีกับคนใหม่ให้น้อยกว่าทำกับแดง แดงจะไม่โกรธหรอก” แน่ะ ฟังเธอว่าซิ แต่ถ้าหากคุณได้ยินเธอพูดจริงๆจะรู้ว่าเธอพูดล้อคุณตึ๋งหรอกแต่ว่าผลัดกันอำ ก็ลองไปมีใหม่จริงๆซี่ แม่จะได้เจี๋ยนชะประไร แต่ถึงยังไง คุณตึ๋งก็ไม่มีหรอก เพราะเวลาทำหนังทีไร คุณแดงไปช่วยงานตลอดเวลาเลยไม่ว่าจะไปไกล ไปใกล้ยังไง ต้องหอบหิ้วกันไปด้วยเสมอทุกหนทุกแห่ง เป็นคู่คิดคู่ใจกันตลอด ติดกันแบบนี้จะแวบไปไหนได้อย่างไง๊?


ที่สำคัญยิ่งกว่านั่นก็คือ เวลาทั้งสองคนมีลูกสาวลูกชายที่น่าเอ็นดูสองคนแล้ว น่ารักจริงๆเสียด้วย คนโตเป็นผู้หญิง หน้าตาสวยเหมือนแม่ตอนสาวๆ ที่เป็นผู้ประกาศพิเศษของช่อง 4 ไม่มีผิด แถมยังดูทันสมัยกว่าเสียอีก เชื่อขนมกินได้เลยว่าโตเป็นสาวเมื่อไร พ่อตึ๋งต้องคุมแจเลยทีเดียวแหละ หนูน้อยคนนี้มีชื่อเล่นว่า “ตู๋ตี๋” เป็นชื่อที่หม่อม จิ๋ม ภรณี เจตสมมา ยุคล ตั้งให้ เพราะสนิทสนมกันมานานนับปีแล้ว ชื่อจริงๆของหนูตู๋ตี๋ คือ “ณัฐนุช” ตอนนี้อายุแค่สองขวบกว่า ๆ เท่านั่น เรียนหนังสื่อแล้ว แถวบ้านนั้นแหละ



เคน ธีเดชกับคุณพ่อวีรประวัติ วงศ์พัวพัน ผู้กำกับละครชื่อดัง


ส่วนลูกชายคนเล็กที่กำลังซนเป็นเซียนชื่อ “เคน” ตามพระเอก “ซุปเปอร์ลูกทุ้ง” ชื่อจริงว่า “ธีรเดช” เกิดเมื่อวันที่ 3ธันวาคม 20 “แดงท้องเคนตอนทำหนัง “ซุปเปอร์ลูกทุ่ง” ก็เลยตั้งชื่อลูกตามชื่อพระเอกในหนังแถมหน้าตายังเหมือนญี่ปุ่นอีกด้วย ไม่เหมือนแดงเลย แต่แดงไม่ได้จะให้ชื่อญี่ปุ่นนะคะหมายถึงชาวอีสานมากกว่า เพราะคนอีสานเขาชอบชื่อเคนกันมาก” คุณแดงให้คำอธิบาย

“ติดพ่อเขาคะ ติดมาก ตึ๋งเขาก็เลี้ยงเก่งส่วนคนโตติดแดง ไม่ค่อยสนิดกับพ่อเท่าไรหรอก ดีแล้ว เลี้ยงกันคนละคน” “แดงไม่ค่อยได้เลี้ยงเท่าไรเพราะต้องช่วยตึ๋งเรื่องทำหนัง แต่ก็เลี้ยงให้มากที่จะทำได้ สงสารลูก ไม่ค่อยได้เห็นหน้าพ่อแม่เลยมีเวลาว่างเมื่อไร แดงก็พาไปเที่ยวบ่อยๆ นี้ ตอนเย็นๆจะพาไปแฮปปี้แลนด์เพราะสัญญากับเขาไว้”


เท่าที่ผมเห็น ผมว่าลูกสองคนของคุณตึ๋งคุณแดงนี้เลี้ยงง่าย ไม่ดื้อและไม่ยุ่งเลย ยิ่งต่อหน้าคนอื่นแล้วลูกสาวคนโตจะเงียบมากไม่กวนพ่อแม่ เท่าที่เห็นน่าจะเป็นแต่ลูกชาย ซนอย่าบอกใคร ไม่ยอมให้ช่างภาพของเราถ่ายรูปเอาเลย ตั้งท่าจะถ่ายเมื่อไร เป็นคลานตุ๊บตั้บมาหา เพื่อจะแย่งกล้องให้ได้ ต้องจับกันชุลมุน แถมยังสู้กล้องซะอีก ถ่ายเมื่อไรยิ้มแหงเมื่อนั้น อนาคตก็คงไม่แคล้วดารา ?


ผมถามว่า ทำไมไม่เอาลุกสาวคนโตเล่นหนังอีก เพราะเคยเล่นเรื่องแรกไปแล้วคือ “ซุปเปอร์ลูกทุ่ง” ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ร้องไห้ แล้วก็เป็นภาพสต้อปแอ๊คชั่นในตอนจบไปเลยเท่านั้น คุณแดงกับคุณตึ๋งบอกว่า “ไม่หรอกเพราะเขาไม่เชื่อผม บอกอะไรให้ทำอะไรก็ไม่ฟัง เลยต้องเอาเด็กคนอื่นแสดงในเรื่อง “สามคนผัวเมีย” ตัวเท่าๆกันนี้ละครับแต่เขาเชื่อผมมากกว่า” เล่นกะแม่ซี่ เป็นลูก แต่ไม่เชื่อพ่อ ซะอย่าง ใครจะทำไม? “เวลาถ่ายหนังก็พาไปด้วยบ่อยๆเพราะปล่อยไว้บ้านก็สงสาร ชักชินแล้วเหมือนกันแต่จะให้เล่นหนังหรือไม่ก็ต้องดูกันไปอีกค่ะยังเล็กอยู่บอกอะไรไม่ได้หรอก เขาอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ แล้วแต่ใจเขา แดงไม่บังคับลูกเด็ดขาด” ฟังเธอพูดแล้วก็สบายใจได้เลยว่า ครอบครัวนี้อบอุ่นเอาการ สามีไม่บังคับภรรยา (ที่หน้ายิ้มก็จริง แต่ก็ดุเอาเรื่อง) แม่ก็ไม่บังคับลูก อย่างนี้แล้ว เราจะบอกว่าเป็นครอบครัวตัวอย่างในวงการหนังไทยครอบครัวหนึ่งได้หรือยัง?



ภาพคอมลัมป์จากหนังสืออยู่ในนี้ครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้






ถ้าชอบอ่านเรื่องเก่า ๆ แบบนี้ช่วยกด + หรือถูกใจด้วยนะครับ ผมจะได้ทราบว่ามีคนชอบอ่าน แล้วจะได้นำมาเขียนกระทู้อีกครับผม


...