แชร์ประสบการณ์อันเลยร้าย ที่ผู้หญิงแกร่งทุกคนจะต้องผ่านมันไปให้ได้

เริ่มเรื่องเลยนะคะ... เมื่อ2ปีก่อน ได้คบหากับผู้ชายคนหนึ่ง คือเป็นที่รู้จักกันมาประมาณ8ปีแล้วค่ะ แต่เพิ่งมาคบกัน เหมือนเราจะรักกันมาก (เราไม่รู้เค้ารู้สึกมั๊ย แต่เรารู้สึกว่าเรารักเค้ามาก) แล้วก็ได้คุยกันค่ะ ว่าอยากมีลูก เรา2คนจึงตัดสินใจที่จะมีน้องด้วยกัน(ยังไม่ได้แต่งงาน) หลังจากนั้นอีก1เดือน ประจำเดือนเราเลื่อนไป1สัปดาห์ เราก็เลยตรวจ ผลปรากฏว่าท้องค่ะ เราดีใจมาก จึงรีบโทร.บอกแฟน แต่พอบอกไปแล้วแฟนดูเครียดๆ แต่เค้าบอกให้เราอยู่เฉยๆก่อนเดี๋ยวเค้าจะไปบอกแม่เค้าเอง หลังจากนั้นอีก2วัน แฟนทักไลน์มา บอกให้เราไปเอาเด็กออก เราช็อคมากค่ะ เค้าบอกว่าแม่เค้ารับไม่ได้ แล้วเด็กก็ยังเป็นแค่ก้อนเลือดอยู่ เอาออกคงไม่เป็นไร เราเครียดและเสียใจมาก เราไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี จึงตัดสินใจบอกแม่ของตัวเองค่ะ แม่ช็อคมาก แต่ก็ยังมีสติ เพราะตอนนั้นเราเสียสติไปแล้ว เอาแต่ร้องไห้ แม่เลยตัดสินใจโทร.ไปหาแม่ของแฟนเราค่ะ พอแม่พูดคำว่า "ลูกสาวเราท้องกับลูกชายคุณ จะทำอย่างไรกันดี" เท่านั้นแหละค่ะ แม่แฟนเราด่าแม่เราใหญ่ ว่าเลี้ยงลูกยังไงให้ลูกตัวเองเป็นแบบนี้ ไปท้องกับใครมาหรือเปล่าก็ไม่รู้ จะมาจับลูกชายเค้าใช่มั๊ย เค้าไม่สนใจหรอกนะ ไว้คลอดออกมาแล้วค่อยมาตรวจดีเอ็นเอแล้วกัน เรากับแม่ช็อคไปตามๆกันค่ะ หลังจากนั้นเราโทร.หาแฟน แฟนก็ไม่รับสายอีกเลย แล้วได้ข่าวมาว่าแม่แฟนพาแฟนเราหนีไปอยู่ต่างจังหวัดระยะนึงค่ะ เค้าคงกลัวเราไปตามลูกเค้า

ทีนี้ทุกอย่างมันก็เป็นเรื่องของครอบครัวเราแล้วค่ะว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป เรากับครอบครัวตัดสินใจว่า เราจะเก็บลูกไว้ค่ะ ไม่ได้แต่งงานไม่เป็นไร เพราะอย่างไรนี่ก็ลูกเรา หลานตาหลานยาย อับอายชาวบ้านที่ลูกสาวท้องไม่มีพ่อก็ต้องยอมทน เพราะจะให้เราฆ่าชีวิตบริสุทธิ์คนนึงที่เป็นเลือดเราด้วยซ้ำก็คงจะทำไม่ลง เราใช้ชีวิตแบบนั้นมาทั้งหมด9เดือนเต็ม ตลอดเวลา9เดือนเรามีแต่ความโกรธแค้นค่ะ ยอมรับ เรานั่งนับวันรอวันที่ลูกจะคลอดเพื่อจะพาลูกไปตรวจดีเอ็นเอ เราจะลบคำดูถูกคนพวกนั้นให้ได้ เราโกรธ เราเกลียด เราอยู่ในอารมณ์นี่มาตลอด(ซึ่งไม่ดีเลย เพราะมีผลกับเด็กในท้องค่ะ)

แต่พอถึงวันที่ลูกเราคลอด พอเราเห็นหน้าลูกปุ๊บ ทุกๆอย่างที่เคยตั้งใจไว้ว่าจะทำแบบนู้น จะทำแบบนี้ จะพาลูกไปตรวจดีเอ็นเอ จะพาลูกไปเรียกร้องความเป็นธรรมมันหายไปหมด ตอนนั้นคิดเพียงแต่ว่า จะทำอย่างไรให้ลูกสบาย จะเลี้ยงลูกอย่างไรให้ลูกโตขึ้นมาเป็นคนดี มองหน้าลูกด้วยความรู้สึกปลื้มปิติและยินดีมากค่ะ เรารู้สึกว่าเราโชคดีที่ไม่ได้คิดฆ่าเค้าในตอนแรก วินาทีนั้นลูกเป็นเหมือนของขวัญ หลังจากนั้นอีกแค่เดือนครึ่งเราก็ออกมาหางานทำเลยค่ะ เพราะไม่อยากเป็นภาระของคุณพ่อคุณแม่ เพราะบ้านเราก็ไม่ได้ร่ำรวยเงินทองถึงขนาดเหลือกินเหลือใช้ ปล่อยให้แต่คุณพ่อคุณแม่หามาให้เราให้ลูกเรามันก็ไม่ใช่ ทุกวันนี้เป็นซิงเกิ้ลมัมค่ะ ลูกชายอายุ8เดือนแล้ว เป็นเด็กน่ารักมากค่ะ ทุกครั้งที่เหนื่อยจากการทำงาน รอยยิ้มของลูกจะช่วยให้หายเหนื่อย

ที่มาแชร์ประสบการณ์วันนี้ก็คืออยากให้กำลังใจคุณแม่มือใหม่หรือคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือกับคนที่กำลังเผชิญปัญหาเดียวกับเราค่ะ สู้ต่อไปนะคะ ไม่มีอะไรจะทำร้ายเราได้นอกจากใจเราเอง เรามั่นใจว่าผู้หญิงเป็นเพศที่แข็งแกร่งกว่าผู้ชายเสียอีก อย่าเพิ่งท้อค่ะ ยังมีหลายคนที่เจอปัญหาหนักกว่าเราแต่เค้าก็ผ่านมันมาได้ "ลูกคือของขวัญที่มีค่านะคะคุณแม่" หัวใจหัวใจหัวใจ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 45
ต่อค่ะ .....

   พอแม่เค้ารู้เรื่องว่าเค้ากลับมาหาเราและจะมาช่วยค่าเลี้ยงดูลูก เค้าบอกว่าแม่เค้าไม่ยอมค่ะ จะให้ตรวจดีเอ็นเอ เราก็บอกว่าโอเค เราพร้อมอยู่แล้ว เพราะเราบริสุทธิ์ใจ แต่ก็ต้องมีข้อแม้ค่ะ ต้องไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจกับเรา เพราะถ้าผลออกมาเป็นลูกเค้า เรามีสิทธิ์เรียกร้องเต็มที่ค่ะ เราจะเรียกค่าเสียหายและค่าเลี้ยงดูลูกเป็นเท่าตัวค่ะ เพราะเราเป็นลูกผู้หญิง แค่ทำเราท้องแล้วไม่มารับผิดชอบ ไม่มาจัดงานแต่งให้ กว่าเราจะผ่านจุดนั้นมาได้เราก็อับอายมากพอแล้ว นี่มาขอเราตรวจดีเอ็นเอ เรายอมค่ะ แต่มันก็เป็นการดูถูกเราเหมือนกัน เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องยอมเสียในสิ่งที่เราเรียกร้องเหมือนกัน

   แล้วอีกวันนึงเราก็นัดเค้าเข้ามาคุยรายละเอียดค่ะ วันนั้นเค้าเข้ามาพร้อมกับพ่อเค้าและน้าสาวค่ะ(น้องสาวแม่ เพราะแม่ไม่เข้ามาส่งน้องสาวตัวเองมาแทน) รู้มั๊ยคะ น้าสาวเค้าพูดกับเราว่าอะไร เค้าบอกว่า จะพาลูกเราไปตรวจโรงพยาบาลเอกชน ไม่ให้มีการยื่นเรื่องถึงตำรวจ  เราเลยบอกว่า อ้าว งี้คุณก็พร้อมจะหักหลังเราตลอดเวลาได้เลยหน่ะสิ เค้าพูดว่าไรรู้มั๊ยคะ เค้าบอกว่า เราไม่มีสิทธิ์จะเรียกร้องค่ะ เค้าจะให้เท่าที่เค้าอยากให้(นี่ ครอบครัวฉันไม่ใช่ขอทานนะยะ)  เค้ามาเพราะสงสารเด็กตาดำๆค่ะ เราโมโหมาก  เราพูดว่าไม่ต้องมาสงสาร เลี้ยงเองได้ลูกคนเดียว แล้วหลานคุณก็กลับมาหาเราเอง เรียกร้องอยากดูแลลูกเอง เราไม่เคยไปยุ่งกับครอบครัวคุณเลยตั้งแต่เราท้องจนคลอด เราสนใจกันแต่ว่า ต้องเก็บเงินคลอดลูก ต้องเลี้ยงลูกยังไงดี จะส่งลูกเข้าเรียนโรงเรียนไหนดี ทุกๆวันเราคิดแต่เรื่องลูก เราไม่เคยคิดเลยว่าเราจะไปเรียกร้องให้พวกคุณมารับผิดชอบ ไม่เคยคิดเลยว่าจะเรียกร้องอะไรจากพวกคุณ แต่อยู่ดีๆพวกคุณก็กลับมาทำให้ครอบครัวเราวุ่นวายอีก พวกคุณต้องการอะไรกันแน่ ถ้าคิดจะมาเอาเปรียบเรา ก็พากันกลับไปซะเถอะ แล้วขอร้องว่าอย่ากลับมายุ่งกับครอบครัวเราอีก พูดจบแล้วน้าสาวเค้าก็มองหน้าเราค่ะ แล้วเค้าก็หันไปเรียกแฟนกับพ่อแฟนกลับค่ะ

   และหลังจากนั้นเราก็กลับมาใช้ชีวิตตามวิถีของเราเหมือนเดิมค่ะ แต่ทุกวันนี้ยังเจ็บค่ะ ไม่ได้เจ็บที่เค้าไม่กลับมา แต่เจ็บใจที่ให้โอกาสคนแบบนี้ค่ะ ทั้งที่เค้าทำให้เจ็บมาแบบสุดๆแล้วครั้งนึง แต่ก็ไม่วายต้องมาเจ็บใจเพราะคนเห็นแก่ตัวอีก

   "เจ็บครั้งแรกคือความเลวของเขา แต่ถ้ายังมีครั้งที่2 มันคือความโง่ของเรา"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่