ทำไมประเทศไทยไม่สนับสนุนการใช้พลังงานทางเลือกที่ยั่งยืนในอนาคต(e100-b100)เท่าที่ควรจะเป็น....

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวไว้ก่อนถามแบบคนไม่รู้น่ะครับ
            แค่อยากรู้ว่าทำไมประเทศไทยไม่สนับสนุนการใช้พลังงานทางเลือกที่ยั่งยืนในอนาคต(e100หรือb100)เท่าที่ควรจะเป็น......
หรือแม้กระทั้งสนับสนุนการผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันไบรโอดีเซล100%. สนับสนุนรถยนต์คันแรกที่ใช้น้ำมันe100 ,b100
ส่งเสริมการผลิตรถยนต์ประเภทนี้เฉกเช่นรถอีโก้คาร์หรือโครงการรถยนต์คันแรก เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานทางเลือกในประเทศ(เช่นประเทศบราซิล)
ลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศ ลดการขาดดุลการค้า และไม่ต้องพึ่งพาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ(ซึ่งเราสามารถกำหนดราคาขายในประเทศเองได้)
โดยการเปลี่ยนวิกฤษให้เป็นโอกาส!! สินค้าการเกษตรตกต่ำ!!ราคายางตกต่ำ!!ข้าวขายไม่ได้ราคา!!ก็ลดพื้นที่ปลูกยางปลูกข้าวมาสนับสนุนการปลูกพืชพลังงาน
เช่น อ้อย มันสำปะหลัง หรือต้นปาล์ม ต้นสบู่ดำ ส่วนเรื่องโรงกลั่น(เอทอลนอล)(ไบรโอดีเซล)ถ้ามีไม่เพียงพอรัฐก็เป็นผู้สนับสนุนการผลิต(หรือไม่ก็ตั้งโรงงานผลิตเองเช่น1ภาคต่อ1โรงกลั่น)
และสนุบสนุนโครงการปั้มน้ำมันE100,b100(นำร่อง1จังหวัด1ปั้ม)เพื่อกำหนดราคากลางโดยรัฐบาลเอง
          ในส่วนภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ก็สนับสนุนให้ค่ายบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ผลิตยานยนต์ที่สามารถใช้พลังงานทดแทน e100,b100ได้100%  โดยการลดภาษีนำเข้าหรือลดการจัดเก็บภาษีรถยนต์ประเภทนี้ในอัตราที่ต่ำ!!เพื่อสนับสนุนให้คนไทยหันมาใช้รถยนต์ที่สามารถใช้พลังงานทดแทนที่ได้มาจากผลิตผลของเกษตรกรไทย และเพื่อสนับสนุนพลังงานที่สามารถปลูกเองใช้ได้เอง(ไม่ต้องไปตามหาแหล่งพลังงานใหม่ๆ)ที่สำคัญที่สามารถปลูกใช้เองได้คือเป็นพลังงานที่ยั่งยืนที่แท้จริง!!ในอนาคต..........
       คืออยากแลกเปลี่ยนความเห็นและอยากทราบว่าติดขัดหรือด้วยเหตุใดทำไม่รัฐบาลไทยทุกยุดทุกสมัยไม่เห็นมีรัฐบาลไหนทำ และผลักดันโครงการแบบนี้ให้เป็นวาระเร่งด่วนหรือเป็นวาระแห่งชาติ........เพื่ออนาคตอุตสาหกรรมยานยนต์และส่งเสริมผลผลิตของเกษตรกรไทยเอง!!ที่ยั่งยืน!!ในอนาคต!! (โดยที่ไม่ต้องรอให้ราคาพลังงานสูงขึ้นตามราคาตลาดโลกหรือพลังงานขาดแคลนแล้วค่อยคิดแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างที่ผ่านๆมา)
        ปล.ตามที่เห็นหลายๆท่านระบุราคาน้ำมันปาล์มหรือน้ำมันไบรโอดีเซลในปัจจุบันปกติแพงกว่าราคาน้ำมัน(ที่ถูกเพราะมีการชดเชยราคาน้ำมัน)
          คห.ส่วนตัวกลับมองต่างน่ะครับ สาเหตุที่ราคาน้ำมันปาล์มหรือน้ำมันที่ได้จากพืชพลังงานยังแพงเพราะยังไม่มีการสนับสนุนโครงการนี้อย่างเท่าที่ควรจะเป็น เช่นเพิ่มโรงงานการผลิต สนับสนุนโรงงานอุตสาหกรรมประเภทนี้รวมทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อเมื่อมีรถยนต์ที่สามารถใช้น้ำมันe100-b100เพิ่มมากขึ้น(และเมื่อยานยนต์มีราคาถูกลงประชาชนจะได้หันมาใช้พลังงานทดแทนประเภทนี้) ความจำเป็นที่ต้องการใช้น้ำมันไบรโอดีเซลและเอทอลนอลก็ย่อมเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรปลูกพืชพลังงานแทนสินค้าการเกษตร(ที่มีมากจนล้นตลาดทำให้ราคาตกต่ำในขณะนี้) ซึ่งต่างจากพืชพลังงานซึ่งเป็นพลังงานที่มีความจำเป็นใช้ในประเทศอยู่แล้วแถมยังช่วยลดการนำเข้าน้ำมันดิบลดการขาดดุลการค้ส ถ้าอนาคตมีการปลูกพืชพลังงานเยอะๆมีโรงกลั่นมากๆมีปั้มที่ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศก็จะมีผลทำให้พืชพลังงานถูกลงใกล้เคียงราคาน้ำมัน(แต่ได้เงินหมุนเวียนภายในประเทศ) ที่สำคัญที่สุดคือปลูกเองใช้เองภายในประเทศ ไม่ต้องอ้างอิงราคาตลาดโลก.......

เพิ่มเติม....
คือจุดมุ่งหมายของผม
   อยากให้ทุกคนมองถึงอนาคตข้างหน้าน่ะครับ อนาคตพลังงานที่ยั่งยืน(พลังงานที่สามารถปลูกใช้เองได้)
ที่สำคัญเราเป็นประเทศเกษตรกรรม ดินดี น้ำดี ปลูกอะไรก็ดีไปหมด เพียงแค่ขาดการบริหารจัดการที่ดี(จนทำให้สินค้าการเกษตรตกต่ำ)
เกษตรกรไทยทุกวันนี้พูดตามตรงครับใครทำก็ไม่รวย (คนที่รวยมีแค่พ่อค้าคนกลาง ผู้ค้าปุ๋ย ผ้าค้าเครื่องมือการเกษตรให้เกษตรกร)
และปัญหาใหญ่คือสินค้าการเกษตรล้นตลาดทำให้ราคาตกต่ำ!!(ปิดประท้วงทั้งเดือนทั้งปี)แก้ไขปัญหานี้ไม่จบไม่สิ้น!!
ซึ่งผมมองว่าจะเป็นการดีไหมถ้าเปลี่ยนวิกฏษให้เป็นโอกาส โดยการสนับสนุนเกษตรกรปลูกพืชพลังงาน ต้นปาล์ม ต้นสบู่ดำ อ้อย มันสำปะหลังฯลฯ
ทดแทนสินค้าการเกษตรที่มีผลิตผลมากจนล้นตลาดและราคาตกต่ำขนาดนี้ พืชพลังงานยิ่งเกษตรกรปลูกมากก็จะมีผลทำให้ต้นทุนราคาพลังงานไบรโอดีเซลและเอทอลนอลถูกลงหรือใกล้เคียงราคาน้ำมันในท้องตลาด แถมยังช่วยลดการนำเข้าน้ำมันดิบลดการขาดดุลการค้าและเป็นการแก้ไขปัญหาให้แก่เกษตรกรที่ยั่งยืนและปัญหาการขาดแคลนพลังงานในอนาคต
   ปล.สิ่งที่อยากเสนอคืออยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับพลังงานทดแทนที่ยั่งยืนในอนาคต(ไม่ใช่รอให้น้ำมันแพงแล้วค่อยมาคิดแก้ไขปัญหากันทีหลัง) โดยการสนับสนุนส่งเสริมผลักดันพืชพลังงานอย่างเป็นรูปธรรม แถมพืชพลังงานเองยังช่วยแก้ไขปัญหาสินค้าการเกษตรที่ตกต่ำในขณะนี้ อยากให้รัฐบาลมีส่วนร่วม เช่นเปิดโรงกลั่นน้ำมันไบรโอดีเซลหรือเอทอลนอลโดยรัฐบาลเอง (1ภาคต่อ1โรง ) เพื่อรองรับสินค้าสินค้าการเกษตรจากพืชพลังงานและเพื่อกำหนดราคากลางพืชพลังงานที่ยุติธรรม และเพื่อไม่ให้เอกชนมากำหนดราคาพืชพลังงานเพียงฝ่ายเดียวจนมีผลให้ราคาเอทอลนอลหรือไบรโอดีเซลมีราคาต้นทุนสูง(แต่รับซื้อสินค้าการเกษตรในราคาต่ำ) ซึ้งผมมองว่าถ้าภาครัฐเองให้ความสำคัญกับเรื่องนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาสินค้าการเกษตรตกต่ำและแก้ไขปัญหาพลังงานที่ยั่งยืนได้ในอนาคต.......
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่