เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ จังหวัดอุดรธานี สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
เจ้าหน้าที่บ้านพักคนชราประกาศตามหาลูกชายให้มาเซ็นรับรองให้แม่อยู่บ้านพักคนชรา หลังทิ้งแม่วัย 71 ปี ไว้ที่อพาร์ทเม้นท์ แถมปล่อยข่าวแม่เสียขอบริจาคเงินทำศพ
วันที่ 19 กันยายน 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่บ้านพักคนชรา จ.อุดรธานี ได้แจ้งว่า มีเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ ได้นำหญิงวัยชรามาส่งที่บ้านพัก ทราบชื่อคือ นางพรรณี ผันประดิษฐ์ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 424 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิจิตร ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2556 รวมเป็นระยะเวลา 1 ปีกว่า ซึ่งเร็ว ๆ นี้ ทางบ้านพักคนชราจะมีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารคณะใหม่ แต่นางพรรณี ไม่มีผู้เซ็นรับรองให้ทำให้ไม่สามารถอยู่บ้านพักคนชราต่อไปได้
โดยนางพรรณี เล่าว่า ตนมีลูก 2 คน ทำงานค้าขายอยู่ที่อุดรธานี และเช่าบ้านอยู่ในชุมชนบ้านเก่าจาน โดยเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตนอาศัยอยู่ที่ จ.พิจิตร หลังจากแม่และสามีของตนเสียชีวิต ลูกสาวจึงไปรับมาอยู่ด้วยต่อมาลูกสาวเป็นโรคมะเร็งเสียชีวิต ทำให้เหลือตนกับลูกชาย ซึ่งลูกชายนาน ๆ ทีจะกลับมาบ้าน บอกว่าไปทำงาน เมื่อถามว่าทำงานอะไรลูกก็ตอบว่า หาเงินซื้อข้าวมาให้กินแค่นี้ก็พอ ไม่ต้องรู้อะไรมาก จากนั้นไม่นานต้องย้ายออกจากบ้านเช่าไป เพราะไม่มีจ่ายค่าเช่าบ้าน ลูกชายจึงพาไปอยู่ทวีทรัพย์อพาร์ทเม้นท์และสั่งให้ตนอยู่แต่ในห้องห้ามออกไปไหน จะมาหาในตอนเย็นวันเว้นวัน และซื้อข้าวมาทิ้งไว้ให้ ต่อมาประมาณ 1 เดือน ลูกชายก็หายไปไม่กลับมาหาอีกเลย ทางเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ จึงพาตนมาส่งที่บ้านพักคนชรา
ด้านนายเสรี วงษ์วิไลวารินทร์ ผู้ดูแลบ้านพักคนชรา เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีคนชราพักอาศัยอยู่ โดยมีอายุเฉลี่ยตั้งแต่ 57–96 ปี เป็นชาย 6 คน และหญิง 15 คน ภายใต้การดูแลอุปถัมภ์ ของสมาคม วิน เซน เดอ บอล ซึ่งมีพระคุณยอด พิมพิสาร เป็นประมุขสังฆมณฑลอุดรธานี โดยจะมีการปรับเปลี่ยนคณะผู้บริหารใหม่ เร็ว ๆ นี้ พร้อมจะมีการปรับเปลี่ยนบ้านพักคนชราเป็นมูลนิธิต่อไป สำหรับกรณีของนางพรรณีนั้น ไม่มีผู้เซ็นรับรองทำให้ไม่สามารถอยู่บ้านพักคนชราได้เพราะเป็นกฎระเบียบของที่นี่
นอกจากนี้ตนยังได้ไปทำการตรวจสอบบ้านเช่าที่นางพรรณีเคยไปอาศัยอยู่พบว่า ลูกชายของนางพรรณี ได้ไปบอกชาวบ้านว่า นางพรรณีเสียชีวิตแล้วพร้อมขอรับบริจาคเงินไปทำศพ อย่างไรก็ตามตนอยากแจ้งให้นายศีรษะ เจริญกิจ ลูกชายของนางพรรณี มาเซ็นรับรองให้กับแม่ตนเองหน่อย เพื่อจะได้อยู่บ้านพักคนชราในช่วงบั้นปลายชีวิต
ข่าวจาก : กระปุกดอทคอม
http://hilight.kapook.com/view/108335
สลด ลูกทิ้งแม่วัยชรา แถมปล่อยข่าวแม่เสียขอบริจาคเงิน
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ จังหวัดอุดรธานี สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
เจ้าหน้าที่บ้านพักคนชราประกาศตามหาลูกชายให้มาเซ็นรับรองให้แม่อยู่บ้านพักคนชรา หลังทิ้งแม่วัย 71 ปี ไว้ที่อพาร์ทเม้นท์ แถมปล่อยข่าวแม่เสียขอบริจาคเงินทำศพ
วันที่ 19 กันยายน 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่บ้านพักคนชรา จ.อุดรธานี ได้แจ้งว่า มีเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ ได้นำหญิงวัยชรามาส่งที่บ้านพัก ทราบชื่อคือ นางพรรณี ผันประดิษฐ์ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 424 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิจิตร ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2556 รวมเป็นระยะเวลา 1 ปีกว่า ซึ่งเร็ว ๆ นี้ ทางบ้านพักคนชราจะมีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารคณะใหม่ แต่นางพรรณี ไม่มีผู้เซ็นรับรองให้ทำให้ไม่สามารถอยู่บ้านพักคนชราต่อไปได้
โดยนางพรรณี เล่าว่า ตนมีลูก 2 คน ทำงานค้าขายอยู่ที่อุดรธานี และเช่าบ้านอยู่ในชุมชนบ้านเก่าจาน โดยเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตนอาศัยอยู่ที่ จ.พิจิตร หลังจากแม่และสามีของตนเสียชีวิต ลูกสาวจึงไปรับมาอยู่ด้วยต่อมาลูกสาวเป็นโรคมะเร็งเสียชีวิต ทำให้เหลือตนกับลูกชาย ซึ่งลูกชายนาน ๆ ทีจะกลับมาบ้าน บอกว่าไปทำงาน เมื่อถามว่าทำงานอะไรลูกก็ตอบว่า หาเงินซื้อข้าวมาให้กินแค่นี้ก็พอ ไม่ต้องรู้อะไรมาก จากนั้นไม่นานต้องย้ายออกจากบ้านเช่าไป เพราะไม่มีจ่ายค่าเช่าบ้าน ลูกชายจึงพาไปอยู่ทวีทรัพย์อพาร์ทเม้นท์และสั่งให้ตนอยู่แต่ในห้องห้ามออกไปไหน จะมาหาในตอนเย็นวันเว้นวัน และซื้อข้าวมาทิ้งไว้ให้ ต่อมาประมาณ 1 เดือน ลูกชายก็หายไปไม่กลับมาหาอีกเลย ทางเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ จึงพาตนมาส่งที่บ้านพักคนชรา
ด้านนายเสรี วงษ์วิไลวารินทร์ ผู้ดูแลบ้านพักคนชรา เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีคนชราพักอาศัยอยู่ โดยมีอายุเฉลี่ยตั้งแต่ 57–96 ปี เป็นชาย 6 คน และหญิง 15 คน ภายใต้การดูแลอุปถัมภ์ ของสมาคม วิน เซน เดอ บอล ซึ่งมีพระคุณยอด พิมพิสาร เป็นประมุขสังฆมณฑลอุดรธานี โดยจะมีการปรับเปลี่ยนคณะผู้บริหารใหม่ เร็ว ๆ นี้ พร้อมจะมีการปรับเปลี่ยนบ้านพักคนชราเป็นมูลนิธิต่อไป สำหรับกรณีของนางพรรณีนั้น ไม่มีผู้เซ็นรับรองทำให้ไม่สามารถอยู่บ้านพักคนชราได้เพราะเป็นกฎระเบียบของที่นี่
นอกจากนี้ตนยังได้ไปทำการตรวจสอบบ้านเช่าที่นางพรรณีเคยไปอาศัยอยู่พบว่า ลูกชายของนางพรรณี ได้ไปบอกชาวบ้านว่า นางพรรณีเสียชีวิตแล้วพร้อมขอรับบริจาคเงินไปทำศพ อย่างไรก็ตามตนอยากแจ้งให้นายศีรษะ เจริญกิจ ลูกชายของนางพรรณี มาเซ็นรับรองให้กับแม่ตนเองหน่อย เพื่อจะได้อยู่บ้านพักคนชราในช่วงบั้นปลายชีวิต
ข่าวจาก : กระปุกดอทคอม
http://hilight.kapook.com/view/108335