สวัสดีหน้าผนที่เฉอะแฉะ บางคนอาจจะอุดอู้อยู่ในร่มอย่างเหงาๆ บ่นพรึมพรำ เพราะกลัวเปียก แต่แม่ผมบอกเสมออยู่ใต้ฟ้าอย่ากลัวฝน พกร่มไปด้วยนะลูก .... เอ๊ะ ยังไง ... หมายความว่า อย่าไปกลัวว่าฝนจะตก แต่ต้องเตรียมรับมือกับมันนิดนึง แล้วเราจะเห็นว่า หน้าฝนไม่ใช่หน้าเหงาหงอยเลยซักนิด ลองก้าวเท้าออกไปดูโลกจะรู้ว่าหน้าฝนเป็นหน้าของการเริ่มต้น ของความสวยงาม ต้นไม่ใบหญ่เริ่มผลิดอกหลังทนแห้งแล้วในฤดูร้อนมายาวนาน น้ำตกเริ่มไหลเต็มพิกัดหล่อเลี้ยงชีวิตที่อยู่ปลายน้ำ อากาศที่เคยร้อนผ่าวก็เริ่มมีความเย็นมาสัมผัสเนื้อต้องผิวให้ได้รู้สึกว่าหน้าหนาวคงจะมาในอีกไม่ช้า .... ทั้งหมดที่เอ่ยมาคงหาดูได้ยากใน กทม. ที่เฉอะแฉะเปียกปอก เพื่อนๆ คงต้องไปตามหาที่ภูธร (ศัพท์หรูแต่ดูกันดาร) เอ้ย ต่างจังหวัด ดูนะครับ


     ใครๆ ก็อยากจะไปดูทะเลหมอกเพราะ "หมอกหมอกจะงดงามและทำให้เยือกเย็น แสนจะเย็นสบายเมื่อยามเช้า" ผมไม่ได้กล่าวไว้ แต่พี่เบิร์ดได้ร้องไว้ ... กลับมาเข้าเรื่องครับ หลายๆคนอยากไปตามหาหมอก แต่เอ๊ะทำไมไม่เจอ??? หมอกหายไปไหน ทำไมไม่มาขวัญรอยู่ ...​ฮ่วย อินไปนิด .... เข้าเรื่องใหม่นะครับ .... หมอกเกิดได้ไม่ใช่แค่ความเย็นนะครับ แต่จะต้องมีความชื้นด้วย ดังนั้นแล้วฤดูกาลที่เหมาะจะไปชมหมอก คงเป็นหน้ารอยต่อ ที่เขาเรียกกันว่า "ปลายฝนต้นหนาว" ประมาณเดือน ตค. พย. และต้นธค. ดูท่าจะเหมาะที่สุดที่จะเห็นหมอก
     ภูลังการีสอร์ท เป็นอีกหนึ่งสถานที่ของนักถ่าภาพที่คงดิ้นพลาดๆ อาจจะมา ดูหมอกที่นี่เพราะที่นี่มี "ผาช้างน้อย" (ชื่ออย่างไม่เป็นทางการ เพราะ ชื่อทางการผมไม่รู้ บ่องตง) อยู่ท่างกลางภูเขาหินปูน และหมอก ช่างเป็นวิวที่เหมาะเจาะเหลือเกิน .... แต่สำหรับคนทั่วไปคงมองว่าไกล เดินทางยาก ไม่มีอะไรทำ .... แต่ลองอ่านกระทู้ดูครับ ที่นี่ไม่ใช่ไกลอย่างเดียว แต่ไกลมา เอ้ยเอาใหม่ ไม่ใช่มีแค่ทะเลหมอก แต่ที่ใกล้น้ำตกด้วย ไปเล่นน้ำตกกันได้ สองข้างทางของที่นี่ก็ไม่ธรรมดา จะสวยแค่ไหนไว้ไปดูกันนะครับ


ปล.  ทริปนี้เป็นทริปต่อเนื่องจากบ่อเกลือ บ้านเปัยงซ้อ ที่พาเพื่อนๆไปชมวิวบ่อเกลือภูเขาแห่งเดียวในไทย และนาขั้นบันไดบนภูเขา ตลอดจนวิวสองข้างทางที่ประเมินราคาไม่ได้ ถ้าอยากรู้ว่าผมโม้เกินจริงหรือเปล่าลองไปติดตามกระทู้เดิมได้นะครับ
กระทู้ : นาขั้นบันได้บ้านเปียงซ้อ บ่อเกลือ http://ppantip.com/topic/31536275