ตอนที่1 วางแผนท่องเที่ยว
http://ppantip.com/topic/32544402
ตอนที่ 2 เริ่มเดินทางวันแรก ที่
http://ppantip.com/topic/32544496/
วันที่2 @ ปีนัง ตะลุยรอบนอกๆเมือง (2nd day)
ตื่นตั้งแต่เช้ามืดมาบนรถไฟที่เมื่อวานนั่งจากKL sental ตั้งแต่ 21.30 มาถึงที่ Butterworth ตอน 5.30 น. นี่แหละ หลับยาวเลย เมื่อถึงสถานีฟ้ายังมืดสนิท แต่เรือที่เราจะต่อ ไปสู่เกาะปีนังเริ่มเปิดให้บริการแล้ว เดินจากสถานีรถไฟไปตามทางเชื่อมที่ม่ีป้ายเขียนไว้ ค่อนข้างชัดเจนว่าไปท่าเรือ ferry จ่ายค่าข้ามเรือ 1.2RM รอที่ท่าซักพัก ประตูก็เปิดให้ขึ้นเรือได้ ใช้เวลานั่งเรือข้ามไปเกาะ ประมาณ 10-15นาทีก็ถึงจุดหมาย
ด่านเก็บเงินท่าเรือเฟอร์รี่
ที่นั่งรอเรือออก
คราวนี้ต้องเดินหาโรงแรมที่จองไว้ เพื่อฝากกระเป๋า ก่อนจะทัวร์รอบๆเมืองปีนัง โดยรอบเมืองตอนนี้เงียบมาก ไม่ค่อยมีผู้คนเดินไป เดินมาเท่าไหร่ ถ้าพักอยู่บริเวณChulia street เดินสบายไม่ไกล หรือแถวๆ love lane ก็ยังพอเดินไหวอยู่นะ
ผนังที่พักของเรา ด้านนอก
พอถึงโรงแรมก็ล้างหน้าล้างตา แล้วเตรียมตัวออกเที่ยว วันนี้วางแผนจะไปเที่ยวรอบๆนอก Georgetown ก่อน จากการที่เราไม่แน่ใจ ว่าสายไหนไปไหนบ้าง ผ่านจุดไหน เราไปขึ้นที่ท่ารถ Weld Quay ตรงบริเวณที่ข้ามเฟอร์รี่มาเลยดีกว่า มีรถเมล์ให้เลือกหลายสาย (จริงๆลองเปิดดูในเว็บแล้ว ว่าสายไหน ไปไหนบ้าง แต่ชื่อสถานที่ส่วนใหญ่เป็นภาษาเค้า และดูแผนที่ที่รถวิ่งก็ยังไม่ชัดเจนนัก แต่ถ้าอยากเช็คสายรถเมล์ ดูได้จาก
http://www.penang-traveltips.com/rapid-penang-bus-routes.htm นะคะ แถมบางสายมีภาพแผนที่เส้นทางให้ด้วย
จุดหมายแรก คือ Snake temple เพราะจากแผนที่ที่ดูมา นั่งรถไกลสุดเลย มีรถเมล์สาย 401 และ 401E ผ่านหน้าวัด แต่ขาไปจะอยู่ฝั่งตรงข้าม ระหว่างที่นั่งรถไป จะนั่งผ่านทางขึ้นสะพานปีนังที่มีความยาวถึง 13.5 km (ส่วนสะพานปีนัง2 สะพานแห่งใหม่ มีความยาว 35 km เป็นสะพานที่ยาวที่สุด ใน southeast asia แต่เราไม่ผ่านนะ) ใช้เวลานั่งรถเกือบๆชม. ก็ถึง ตัววัดไม่ได้ใหญ่โต แต่ไฮไลท์อยู่ที่ บรรดางูเกือบสิบตัว ที่นอนอยู่บนต้นไม้นิ่งๆ แล้วออกมาเดินเล่นข้างนอกอีกหน่อย ตอนลงรถมาเห็นวัดแขกตั้งอยู่ข้างๆ เค้ามีพิธีกรรมอะไรกัน มีรถจอดเรียงรายกันอยู่เพียบ คนเดินในวัดกันเต็มไปหมด เลยแอบเก็บบรรยากาศรอบนอกมา ขากลับก็ขึ้นรถฝั่งหน้าวัดเลย รอสายเดิม 401,401E วางแผนลงที่ Komtar เดินเล่น เพราะอากาศข้างนอกร้อนมาก เดินห้างเค้าซักหน่อย ก่อน แต่นะ จะหนีแดดได้ยังไงล่ะ เพราะเราต้องเที่ยวต่อ ก็เลยจัดแจงเดินตกแดดชมเมืองช่วงบ่าย หาของกินช่วงกลางวัน ระหว่างทางเดิน ก็เจอร้านอาหารที่ถูกใจจนได้ "Laksa" อาหารที่มีคนสั่งนักสั่งหนาว่าต้องลอง และแล้วก็อร่อยจริงๆนั่นแหละ แถมราคาถูกอีกด้วย เดินไปมางงๆ ก็มาโผล่ Chulia streert ก็เลยเดินไปขึ้นรถที่ท่ารถอีกรอบ
snake temple
บ่ายนี้เราจะไป วัด Kek lok si ต้องขึ้นรถสาย 203,204 ไปได้ แต่เราได้ขึ้นสาย 204 จะผ่านทั้ง วัด kek lok si และ Penang hill ดังนั้น หลังจากเที่ยว kek lok si เราสามารถ ต่อรถ 204 สู่ penang hill ได้ แต่จากป้ายรถเมล์ต้องเดินนิดนึงสู่วัด ทางเดินขึ้นจะมีของขายไปเรื่อยๆเดินเพลินๆก็ถึงวัด และจากจุดนี้เราสามารถขึ้นลิฟต์ไปชมเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ที่ตั้งเด่นเห็นแต่ไกลบนเขาได้ พร้อมชมวิวเมืองปีนัง
จากถนนใหญ่ สู่ทางเดินขึ้น kek lok si
วัด kek lok si
ขึ้นลิฟต์ไปชมวิว+เจ้าแม่กวนอิม
แล้วก็เดินมารอรถเมล์ที่ป้าย เพื่อไป Penang hill รออยู่นาน จนเรากลัวว่าจะเย็นเกินไป จึงตัดสินใจเรียกแท็กซี่ เพราะดูจากแผนที่ไม่ไกลกันไม่น่าจะแพง แต่ด้วยความเก่งภาษา...มากกกก ของเรา จึงเข้าใจว่าเค้าไปได้ถึงเกือบยอด เพราะเค้าบอกว่าที่เรียกแพง ถึง 150 บาท(15RM)เพราะว่าทางขึ้นเขาชัน เลยจัดไปค่ะ แต่สรุปนั่งประมาณ 5 นาทีถึง จอดตรงทางขึ้นรถรางนั่นแหละ (Bukit bendara) เลยลงรถมาแบบงงๆ ส่วนขากลับจาก Penang hill ก็รอรถเมล์จ้า สาย 204 ตามเดิม แล้ววันนี้เจอถนนคนเดิน จัดขายของกินตามรายทาง ย่าน chinatown(Armenian street)พอดี ก็จัดเป็นอาหารมื้อเย็นไปเลย ก่อนจะเข้าที่พัก
แผนที่การเดินทางในปีนัง Georgetown
ป.ล. - ค่าเรือเฟอร์รี่ ข้ามจาก Butterworth->Penang 1.2RM(12บาท)
แต่ขากลับ Penang->Butterworth ไม่เสียตังค์จ้า
- รถเมล์ไป snake temple :สาย 401,401E ค่ารถ เที่ยวละ 2.7RM/คน
รถเมล์ไป วัด kek lok si :สาย 203,204 ค่ารถ 1.4RM และ
รถเมล์จากPenang hill กลับ :สาย 204 ค่ารถ 1.4RM
- อาหารที่ต้องลองในปีนัง "Laksa"หรือชื่อเต็ม "Asam laksa" รสชาติคล้ายๆแกงส้ม แต่มีเส้นด้วย แล้วโรยผักด้านหน้า อร่อยดี
ตอนที่ 4 3rd day of trip ที่
http://ppantip.com/topic/32605898
ตอนที่ 5 4th day of trip ที่
http://ppantip.com/topic/32624254/
ทริปฉุกเฉิน "แบบอยากเที่ยวต่างประเทศราคาถูก" @ กัวลาลัมเปอร์+ปีนัง ตอนที่3 (2nd day of trip)
ตอนที่ 2 เริ่มเดินทางวันแรก ที่http://ppantip.com/topic/32544496/
วันที่2 @ ปีนัง ตะลุยรอบนอกๆเมือง (2nd day)
ตื่นตั้งแต่เช้ามืดมาบนรถไฟที่เมื่อวานนั่งจากKL sental ตั้งแต่ 21.30 มาถึงที่ Butterworth ตอน 5.30 น. นี่แหละ หลับยาวเลย เมื่อถึงสถานีฟ้ายังมืดสนิท แต่เรือที่เราจะต่อ ไปสู่เกาะปีนังเริ่มเปิดให้บริการแล้ว เดินจากสถานีรถไฟไปตามทางเชื่อมที่ม่ีป้ายเขียนไว้ ค่อนข้างชัดเจนว่าไปท่าเรือ ferry จ่ายค่าข้ามเรือ 1.2RM รอที่ท่าซักพัก ประตูก็เปิดให้ขึ้นเรือได้ ใช้เวลานั่งเรือข้ามไปเกาะ ประมาณ 10-15นาทีก็ถึงจุดหมาย
ด่านเก็บเงินท่าเรือเฟอร์รี่
ที่นั่งรอเรือออก
คราวนี้ต้องเดินหาโรงแรมที่จองไว้ เพื่อฝากกระเป๋า ก่อนจะทัวร์รอบๆเมืองปีนัง โดยรอบเมืองตอนนี้เงียบมาก ไม่ค่อยมีผู้คนเดินไป เดินมาเท่าไหร่ ถ้าพักอยู่บริเวณChulia street เดินสบายไม่ไกล หรือแถวๆ love lane ก็ยังพอเดินไหวอยู่นะ
ผนังที่พักของเรา ด้านนอก
พอถึงโรงแรมก็ล้างหน้าล้างตา แล้วเตรียมตัวออกเที่ยว วันนี้วางแผนจะไปเที่ยวรอบๆนอก Georgetown ก่อน จากการที่เราไม่แน่ใจ ว่าสายไหนไปไหนบ้าง ผ่านจุดไหน เราไปขึ้นที่ท่ารถ Weld Quay ตรงบริเวณที่ข้ามเฟอร์รี่มาเลยดีกว่า มีรถเมล์ให้เลือกหลายสาย (จริงๆลองเปิดดูในเว็บแล้ว ว่าสายไหน ไปไหนบ้าง แต่ชื่อสถานที่ส่วนใหญ่เป็นภาษาเค้า และดูแผนที่ที่รถวิ่งก็ยังไม่ชัดเจนนัก แต่ถ้าอยากเช็คสายรถเมล์ ดูได้จาก http://www.penang-traveltips.com/rapid-penang-bus-routes.htm นะคะ แถมบางสายมีภาพแผนที่เส้นทางให้ด้วย
จุดหมายแรก คือ Snake temple เพราะจากแผนที่ที่ดูมา นั่งรถไกลสุดเลย มีรถเมล์สาย 401 และ 401E ผ่านหน้าวัด แต่ขาไปจะอยู่ฝั่งตรงข้าม ระหว่างที่นั่งรถไป จะนั่งผ่านทางขึ้นสะพานปีนังที่มีความยาวถึง 13.5 km (ส่วนสะพานปีนัง2 สะพานแห่งใหม่ มีความยาว 35 km เป็นสะพานที่ยาวที่สุด ใน southeast asia แต่เราไม่ผ่านนะ) ใช้เวลานั่งรถเกือบๆชม. ก็ถึง ตัววัดไม่ได้ใหญ่โต แต่ไฮไลท์อยู่ที่ บรรดางูเกือบสิบตัว ที่นอนอยู่บนต้นไม้นิ่งๆ แล้วออกมาเดินเล่นข้างนอกอีกหน่อย ตอนลงรถมาเห็นวัดแขกตั้งอยู่ข้างๆ เค้ามีพิธีกรรมอะไรกัน มีรถจอดเรียงรายกันอยู่เพียบ คนเดินในวัดกันเต็มไปหมด เลยแอบเก็บบรรยากาศรอบนอกมา ขากลับก็ขึ้นรถฝั่งหน้าวัดเลย รอสายเดิม 401,401E วางแผนลงที่ Komtar เดินเล่น เพราะอากาศข้างนอกร้อนมาก เดินห้างเค้าซักหน่อย ก่อน แต่นะ จะหนีแดดได้ยังไงล่ะ เพราะเราต้องเที่ยวต่อ ก็เลยจัดแจงเดินตกแดดชมเมืองช่วงบ่าย หาของกินช่วงกลางวัน ระหว่างทางเดิน ก็เจอร้านอาหารที่ถูกใจจนได้ "Laksa" อาหารที่มีคนสั่งนักสั่งหนาว่าต้องลอง และแล้วก็อร่อยจริงๆนั่นแหละ แถมราคาถูกอีกด้วย เดินไปมางงๆ ก็มาโผล่ Chulia streert ก็เลยเดินไปขึ้นรถที่ท่ารถอีกรอบ
snake temple
บ่ายนี้เราจะไป วัด Kek lok si ต้องขึ้นรถสาย 203,204 ไปได้ แต่เราได้ขึ้นสาย 204 จะผ่านทั้ง วัด kek lok si และ Penang hill ดังนั้น หลังจากเที่ยว kek lok si เราสามารถ ต่อรถ 204 สู่ penang hill ได้ แต่จากป้ายรถเมล์ต้องเดินนิดนึงสู่วัด ทางเดินขึ้นจะมีของขายไปเรื่อยๆเดินเพลินๆก็ถึงวัด และจากจุดนี้เราสามารถขึ้นลิฟต์ไปชมเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ที่ตั้งเด่นเห็นแต่ไกลบนเขาได้ พร้อมชมวิวเมืองปีนัง
จากถนนใหญ่ สู่ทางเดินขึ้น kek lok si
วัด kek lok si
ขึ้นลิฟต์ไปชมวิว+เจ้าแม่กวนอิม
แล้วก็เดินมารอรถเมล์ที่ป้าย เพื่อไป Penang hill รออยู่นาน จนเรากลัวว่าจะเย็นเกินไป จึงตัดสินใจเรียกแท็กซี่ เพราะดูจากแผนที่ไม่ไกลกันไม่น่าจะแพง แต่ด้วยความเก่งภาษา...มากกกก ของเรา จึงเข้าใจว่าเค้าไปได้ถึงเกือบยอด เพราะเค้าบอกว่าที่เรียกแพง ถึง 150 บาท(15RM)เพราะว่าทางขึ้นเขาชัน เลยจัดไปค่ะ แต่สรุปนั่งประมาณ 5 นาทีถึง จอดตรงทางขึ้นรถรางนั่นแหละ (Bukit bendara) เลยลงรถมาแบบงงๆ ส่วนขากลับจาก Penang hill ก็รอรถเมล์จ้า สาย 204 ตามเดิม แล้ววันนี้เจอถนนคนเดิน จัดขายของกินตามรายทาง ย่าน chinatown(Armenian street)พอดี ก็จัดเป็นอาหารมื้อเย็นไปเลย ก่อนจะเข้าที่พัก
แผนที่การเดินทางในปีนัง Georgetown
ป.ล. - ค่าเรือเฟอร์รี่ ข้ามจาก Butterworth->Penang 1.2RM(12บาท)
แต่ขากลับ Penang->Butterworth ไม่เสียตังค์จ้า
- รถเมล์ไป snake temple :สาย 401,401E ค่ารถ เที่ยวละ 2.7RM/คน
รถเมล์ไป วัด kek lok si :สาย 203,204 ค่ารถ 1.4RM และ
รถเมล์จากPenang hill กลับ :สาย 204 ค่ารถ 1.4RM
- อาหารที่ต้องลองในปีนัง "Laksa"หรือชื่อเต็ม "Asam laksa" รสชาติคล้ายๆแกงส้ม แต่มีเส้นด้วย แล้วโรยผักด้านหน้า อร่อยดี
ตอนที่ 4 3rd day of trip ที่http://ppantip.com/topic/32605898
ตอนที่ 5 4th day of trip ที่http://ppantip.com/topic/32624254/