ในมรรคมีองค์แปดนั้น ท่านกล่าวถึงวิรัติคือ ศีล ทางกายและวาจาในข้อของสัมมาวาจา และสัมมากัมมันตะ
โดยสัมมากัมมันตะนั้น ไม่ว่าจะเป็นในพระไตรปิฎกบทใด ก็มีการแสดงรายละเอียดเดียวกันว่า สัมมากัมมันตะนั้น คือ วิรัติทุจริต 3 ทางกาย คือ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ และไม่ประพฤติผิดในกาม ซึ่งก็จัดอยู่ในศีลห้า และกุศลกรรมบท 10
"[๒๗๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมากัมมันตะของพระอริยะที่เป็นอนาสวะ เป็นโลกุตระ เป็นองค์มรรคเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความงดความเว้น เจตนางดเว้น จากกายทุจริตทั้ง ๓"
ส่วนการหาเลี้ยงชีวิตที่ถูกต้องนั้น ท่านแสดงไว้ในสัมมาอาชีวะ
" [๒๗๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็มิจฉาอาชีวะเป็นไฉน คือ การโกงการล่อลวง การตลบตะแลง การยอมมอบตนในทางผิด การเอาลาภต่อลาภนี้มิจฉาอาชีวะ ฯ
[๒๗๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมาอาชีวะเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เรากล่าวสัมมาอาชีวะเป็น ๒ อย่าง คือ สัมมาอาชีวะที่ยังเป็นสาสวะ เป็นส่วน
แห่งบุญ ให้ผลแก่ขันธ์ อย่าง ๑ สัมมาอาชีวะของพระอริยะที่เป็นอนาสวะ
เป็นโลกุตระ เป็นองค์มรรคอย่าง ๑"
มหาจัตตารีสกสูตร
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=14&A=3724&Z=3923&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=14&i=252
เข้าใจว่าเป็นการแปลผิดพลาดนะครับ เพราะถึงแม้จะไม่ใช่การทำงาน ความจริงผู้ประสงฆ์สำเร็จมรรคผล ก็ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ และประพฤติผิดในกามไม่ได้อยู่แล้ว
เห็นว่าอย่างไรกันบ้างครับ
เพราะอะไร คำว่า สัมมากัมมันตะ จึงแปลกันว่า "การงานชอบ" ?
โดยสัมมากัมมันตะนั้น ไม่ว่าจะเป็นในพระไตรปิฎกบทใด ก็มีการแสดงรายละเอียดเดียวกันว่า สัมมากัมมันตะนั้น คือ วิรัติทุจริต 3 ทางกาย คือ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ และไม่ประพฤติผิดในกาม ซึ่งก็จัดอยู่ในศีลห้า และกุศลกรรมบท 10
"[๒๗๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมากัมมันตะของพระอริยะที่เป็นอนาสวะ เป็นโลกุตระ เป็นองค์มรรคเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความงดความเว้น เจตนางดเว้น จากกายทุจริตทั้ง ๓"
ส่วนการหาเลี้ยงชีวิตที่ถูกต้องนั้น ท่านแสดงไว้ในสัมมาอาชีวะ
" [๒๗๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็มิจฉาอาชีวะเป็นไฉน คือ การโกงการล่อลวง การตลบตะแลง การยอมมอบตนในทางผิด การเอาลาภต่อลาภนี้มิจฉาอาชีวะ ฯ
[๒๗๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมาอาชีวะเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เรากล่าวสัมมาอาชีวะเป็น ๒ อย่าง คือ สัมมาอาชีวะที่ยังเป็นสาสวะ เป็นส่วน
แห่งบุญ ให้ผลแก่ขันธ์ อย่าง ๑ สัมมาอาชีวะของพระอริยะที่เป็นอนาสวะ
เป็นโลกุตระ เป็นองค์มรรคอย่าง ๑"
มหาจัตตารีสกสูตร
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=14&A=3724&Z=3923&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=14&i=252
เข้าใจว่าเป็นการแปลผิดพลาดนะครับ เพราะถึงแม้จะไม่ใช่การทำงาน ความจริงผู้ประสงฆ์สำเร็จมรรคผล ก็ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ และประพฤติผิดในกามไม่ได้อยู่แล้ว
เห็นว่าอย่างไรกันบ้างครับ