ร่องรอยจากอุบัติเหตุนี้ ต้องทำยังไงถึงจะหายไป?

สวัสดีค่ะ เริ่มเลยนะคะ (ครั้งแรกไม่รู้จะเริ่มยังไงดี)
จขกท ประสบอุบัติเหตุเมื่อเดือนมีนาคม ปี56 ค่ะ
จากการไปทัศนศึกษากับโรงเรียนที่แม่ จขกท สอนอยู่
ตอนที่รถตกลงไปข้างทาง ใบหน้าด้านซ้ายไประแทกกับเบาะด้านหน้า
หลังจากรถนิ่งสนิทก็ควานหาแม่ในความมืดเลยค่ะ ตอนแรกกอดกันไว้แล้วกระเด็นไปทางไหนไม่รู้
จากนั้นก็พยุงกันออกมาจากซากรถค่ะ ก็ไม่คิดว่าตัวเองเป็นอะไร เพราะไม่ได้เจ็บตรงไหน
ซักพักนึงหน้าด้านซ้ายเริ่มตึงค่ะ ขยับปากลำบาก แล้วมันก็เริ่มชาๆ ปวดนิดๆพอทนได้
จับดูก็รู้สึกได้อ่าค่ะว่ามันบวม แต่ก็ยังพูดอยู่ ต้องคอยคุยกับแม่ตลอดค่ะเพราะไม่รู้ว่าแม่เป็นอะไรมากมั๊ยกลัวเค้าหมดสติไป


ภาพนี้เป็นภาพวันที่3หลังจากเกิดอุบัติเหตุค่ะ

ตอนนั้นหมอx-rayแล้วกระดูกไม่ได้หัก น่าจะเป็นที่กล้ามเนื้อหมอว่าอย่างนั้น
ก็เลยให้แค่ยาลดบวม แก้ปวด มากิน แล้วก็ให้ประคบเย็น3-4วันจนหายบวม แล้วก็ประคบร้อน
ทำอย่างนั้นเป็นเดือนๆ จนกระทั่งเปิดเทอมค่ะ ยังมีรอยบวม ใต้ตาก็ยังเขียวอยู่

ภาพก่อนเกิดอุบัติเหตุค่ะ

ช่วงเปิดเทอมปีการศึกษา56 ตำรวจกับประกันของรถก็มาเคลียร์เรื่องค่าสินไหม ค่าเสียหายต่างๆ (ก่อนหน้านั้นก็มาเยี่ยมบ้างแล้ว)
กรณีของ จขกท แม่ขอให้จ่ายค่ารักษาต่อเนื่องจนร่างกายกลับมาปกติมากที่สุด เค้าก็ตกลงค่ะ
เราเลยไปรักษาที่ศัลยกรรมของรพ.กรุงเทพ-ราชสีมา
ตอนนั้นช่วงเวลาประมาณ3เดือนจากการเกิดอุบัติเหตุค่ะ
หมอถามอาการ จับหน้าดูก็ให้ไป x-ray คอมพิวเตอร์ ค่ะ
พอดูภาพแล้วหมอก็บอกว่าน่าจะมีการแตกของกระดูกด้วยแต่ไม่มาก แล้วด้วยเวลาขนาดนี้น่าจะติดเรียบร้อยแล้ว
แต่น่าจะมีเลือดคั่งค้างอยู่บริเวณแก้มซ้ายทำให้บวม
หมอก็ขอดูอาการอีก3เดือน แล้วก็ให้ยาลดบวมมากินเหมือนเดิม
ครบ3เดือนก็ไปหาหมอค่ะ อาการบวมมันลดลงไปบ้างตามระยะเวลา
คราวนี้หมอเลยขอนัดให้ครบปีจากที่เกิดอุบัติเหตุเลยค่ะ
แล้วก็ให้ยาลดบวมกับวิตามินมากิน


ครบ1ปีของการเกิดอุบัติเหตุก็ไปหาหมอตามนัดค่ะ
หมอสรุปเลยว่าไม่อยากผ่าตัดหรือทำอะไรเพราะหมอบอกว่ามันโอเค(แต่ใจเราไม่โอเคเลย)
ซึ่งมันตรงกับความคิดแม่เพราะแม่ไม่อยากให้ผ่าตัด
หมอบอกว่ากล้ามเนื้อและเส้นประสาทบนใบหน้ามันเยอะแล้วถ้าผิดพลาดขึ้นมาอาจจะแย่กว่านี้
ที่จะทำได้คือ
1.ฉีดเสต็มเซลล์ ซึ่งที่รพ.นี้ไม่มี หมอไม่ได้ทำ ต้องไปในกทม. หรือ ตปท
2.ฉีดฟิลเลอร์ HA (สลายตัวได้)
3.ฉีดซิลิโคนเหลว (หมอไม่แนะนำ)
เลยตัดสินใจฉีด HA ค่ะ ในเมื่อไหนๆก็รักษาฟรีแล้ว
จากนั้นก็ต้องไปที่คลินิกผิวหนังของรพ.ค่ะ
หมอขอดูใบหน้า ร่องแก้ม จากนั้นก็นัดวันมาฉีด
7 เมษายน 2557 มาฉีดHA
ตอนฉีดก็เจ็บๆดีค่ะ ฉีดได้แค่เข็มเดียว เพราะถ้ามากกว่านี้จะดูหน้าไม่เท่ากันอย่างมาก
หลังจากฉีดแล้วก็มีข้อห้ามนู่นนี่นั่นมากมาย ห้ามตากแดด ห้ามดูดน้ำจากหลอด ห้ามแอลกอฮอล์ เต็มไปหมด
หน้าก็บวมๆเขียวๆไปเป็นอาทิตย์เลยค่ะ
ลองเอาลิ้นแตะๆดูจากด้านในมันก็เป็นก้อนๆตามร่องเลย



คราวนี้เปิดเทอมแล้ว มาเรียนคนก็ทักเลยค่ะว่าบวมนะ ไม่เท่านะ
ฉีดอีกข้างเหอะ บางคนถึงกับให้ฉีดอีกข้างแล้วทำคางด้วยเลย!!!
ตอนแรกก็ไม่คิดอะไรค่ะ พอพูดบ่อย หลายคน พูดทุกวัน ได้ยินทุกวัน
ก็เริ่มส่องกระจกมากขึ้น ลองยิ้ม ลองขยับปาก มันก็ไม่เท่าจริงๆอ่าค่ะ
เริ่มเฟล เริ่มรู้สึกแย่ อยากทำอะไรให้มันดีขึ้น
ลองบริหารหน้าลดแก้มอะไรพวกนี้ก็ไม่ดีขึ้นเพราะมันเหมือนกล้ามเนื้อมันผิดรูปไปแล้วอ่าค่ะ




จขกท เรียนนาฏศิลปค่ะ เรื่องหน้าตามันก็ค่อนข้างจะจำเป็นในการไปงานแสดง
แต่เดิมก็ไม่ได้สวยอะไร แต่ก็ยังมีความมั่นใจอยู่เพราะมันไม่ได้เบี้ยวแบบนี้

ภาพตอนยังไม่เกิดอุบัติเหตุค่ะ

แต่ตอนนี้ไม่ค่อยโอเคเลยค่ะ ไปงานนี่โดนบ่นเรื่องยิ้มบ่อยมาก
เพราะยิ้มน้อย บางครั้งก็แทบไม่ยิ้ม
เวลายิ้มสุดๆแล้วหน้าด้านซ้ายจะตึงมาก มีร่องเป็นรอยลึกจากใต้โหนกแก้มแล้วเป็นรอยขวางไปทางหูอ่ะค่ะ

หนังตาก็ตก เวลายิ้มตาก็แปลกๆ ดูแล้วไม่เหมือนการยิ้มทั้งๆที่บางทีเราก็ยิ้มออกมาจริงๆ
ตอนนี้ความมั่นใจมันเหลือน้อยนิดมากอ่ะค่ะ


อยากขอคำแนะนำ เรื่องการศัลยกรรมด้วย ว่าเป็นแบบนี้แล้วพอจะมีวิธีที่ทำให้มันดีขึ้นบ้างมั๊ย
ยิ่งเห็นคนไทยไป LET ME IN ยิ่งอยากทำใหญ่เลยค่ะ
แล้วก็บนใบหน้าในส่วนอื่นๆก็แนะนำได้นะคะว่าควรทำตรงไหนบ้างให้มันเป็นยังไงถึงจะดูสวย
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ ขออภัยกับคำพูดที่อาจจะดูงงๆ นี่เป็นครั้งแรกของกระทู้ยาวๆแบบนี้ค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่