[CR] Kyushu ปลายฝน : Fukuoka > Yufuin > Kurokawa > Aso > Takachiho > Beppu > Kumamoto : Day 4 Beppu Onsen - Fukuoka Tenjin

ความเดิมตอนที่แล้ว Day 3 Aso-Takachiho Road Trip http://ppantip.com/topic/32577967

7/9/2014

09:00 เนื่องจากเมื่อวานขับรถยาวมาก แถมมาเดินเที่ยว Beppu ยามค่ำคืนต่ออีก ตอนกลางคืนเลยสลบไสล วันนี้ก็เลยกะว่าเที่ยวชิลๆ ไม่รีบร้อน slow life ตื่นสายบ้างไรบ้าง เข้ากับบรรยากาศ lazy Sunday สุดๆ

แนะนำว่าใครจัดทริป 4 วัน up ควรจะเผื่อวันไว้ชาร์จแรงลูกทริปบ้าง ตื่นเช้าตลอดทุกวัน เดินเที่ยวทั้งวัน นี่มันเหนื่อยกว่านั่งทำงานออฟฟิศอีกนะ แทนที่พักร้อนจะได้ชาร์จแบต อาจจะเป็นการปล่อยแบตจนหมดก็ได้ เพราะงั้นวันที่ plan หลวมๆ ต้องมีเผื่อไว้

ว่ากันด้วยเมือง Beppu เป็นเมืองขนาดใหญ่เมืองนึงในจังหวัด oita อยู่ติดทะเล มีชื่อเสียงเรื่อง onsen โดยเฉพาะการได้แช่ onsen และมองวิวทะเลอ่าว Beppu เป็นอะไรที่ฟินเฟร่อ เลอค่า แต่ที่กล่าวมาล้วนแพง 555 และนี่หมดไปกะความ peak ที่ Kurokawa หมดละ เพราะงั้นเมืองนี้ก็จัดแค่ Basic ไม่ต้องถึงตัว Top ละกันโนะ

Japan-guide (อีกละ) ได้กล่าวว่า กิจกรรมที่ควรทำที่ Beppu คือการตระเวนแช่ onsen ตาม public bath house ฟังละก็โอเคนะ กิจกรรมดูเหมาะกับ lazy Sunday มาก แถมยังช่วยชาร์จพลังให้กระปรี้กระเปร่าด้วย แต่เราจะไม่ตระเวนไปหลายที่ เพราะดูจะมากไปสำหรับ day trip ครึ่งวัน สุ่มเอาซักที่ที่เป็น recommend short list ก็พอละ

ส่วน Pantip Review ได้กล่าวไว้ว่า กิจกรรมที่ควรทำคือตระเวนดู Hell Jigoku ทั้ง 8 บ่อ ของเมืองนี้ ซึ่งก็น่าดู แต่จะออกแนวทัวร์ชะโงกไปนิดนึงถ้าต้องเก็บให้ครบในครึ่งวัน เพราะงั้นเลยว่าดูเท่าที่อยากดูเดินชิลๆ ถ้าหมดเวลาได้แค่ไหนก็แค่นั้นละกัน

นั่งสูบรีวิว กับศึกษา Beppu map ซักพักก่อน check out ก็เห็นว่า jigoku ทั้ง 8 บ่อก็อยู่ในละแวกเดียวกัน แถว Kannawa ยิ่งมีรถขับไปด้วยแล้วนี่สบายมากในการเก็บ rc ทั้ง 8 บ่อ และก็โชคดีมี Bath house ชื่อดังอยู่ละแวกนั้นพอดี ชื่อ Hyotan Onsen งั้นก็ไปหมกตัวอยู่ที่ย่าน Kannawa เลยละกัน


ย่าน Kannawa ด้านเหนือของเมือง Beppu

10:00 check out จากโรงแรม ขับรถขึ้นเหนือไปยังย่าน Kannawa พอถนนต้องผ่านจุดตัดกับทางรถไฟ สังเกตว่ารถที่ญี่ปุ่นทู้กกกคัน เวลาจะขับผ่านทางตัดรถไฟเสมอระดับ ที่มีที่กั้นอัตโนมัติ คนขับจะหยุดรถจนสนิทก่อนข้ามทางรถไฟ มองซ้ายขวา แล้วค่อยขับข้ามไป ปลอดภัยไว้ก่อนแม้จะมีที่กั้นก็ตาม และถ้าสมมุติติดไฟแดงแถวยาวมาจนถึงทางรถไฟ ที่นี่ก็ไม่มีการจอดติดคารางนะ ต่างจากเมืองไทยลิบลับ เจอทางรถไฟก็วิ่งกันปกติ เหยียบเบรคเป็นพิธีเพราะกลัวช่วงล่างพัง จอดติดไฟแดงคารางกันจนชินตา ฝ่าเครื่องกั้นกันเป็นปกติทั้งรถและคน

10:15 Google maps นำทางมาถึงจุดหมาย Hyotan Onsen ลานจอดรถกว้างขวาง จอดรถละก็เดินตัวปลิวเข้า Bath house เข้าไปก็เจอะในส่วน reception มีตู้ล็อคเกอร์วางเป็นแผงสำหรับเก็บรองเท้า เก็บเสร็จละก็มาหยอดตู้ค่าเข้า onsen คนละ 750y หรือถ้าจะทำ sand bath ก็หยอดตั๋วเพิ่มอีก แต่จำไม่ได้ละเท่าไหร่ แล้วก็เอาตั๋วกับกุญแจตู้รองเท้า แลกกุญแจล็อคเกอร์ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้านใน จบขั้นตอนสำหรับ reception แค่นี้


บริเวณ courtyard ใน onsen ทางผ่านไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

ออกจาก reception ก็คีบเกี๊ยะเดินผ่าน courtyard ไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เข้ามาปุ๊บก็ตามเสต็ป ละทิ้งความอายไว้ข้างนอก เปลื้องผ้าผ่อนให้หมดจด ละก็เดินลงไปอาบน้ำก่อนจะลงแช่ ไปถึงก็ตั้งหน้าตั้งตาอาบ อาบไปก็ถามเพื่อนไป เห้ยแล้วเขาผ้าเช็ดตัวตรงไหนวะ ผืนเล็กที่เอาไว้โปะหัวอ่ะ เพื่อนก็ว่าตรงประตูที่ออกมาจากห้องแต่งตัวม้างงง คือบอกเลยว่าเดินตัวเปล่าๆ เลยนี่ก็โล่งไปนะ มีผ้าผืนน้อยก็ใช้วิชาผ้าปิดวับแวมได้ ดูสายกลาง ดูดี ไม่แปลกแยก อาบเสร็จก็เลยรีบเดินไปดู

มันไม่มี๊!!! ไม่มี!!! มันต้องซื้อเอาที่ตู้กดตรง reception โน่นนนน!!! เอาไงล่ะๆๆๆ ตัวก็เปียกแล้ว จะย้อน step กลับไปแต่งตัว และออกไปกดตู้ นี่ต้องยืนโชว์ตรงนี้อย่างน้อย 5 นาทีให้ตัวแห้งก่อนนะ ถึงจะขึ้นไปห้องแต่งตัวได้ คิดไปคิดมา เอาว้าาา the show must go on ไม่มีผ้าช่างมัน เอามือซ้ายมือขวานี่ล่ะสลับกันปิด 555 อ่ะมั่นเข้าไว้ ยิ่งอายยิ่งเป็นเป้าสายตา

ที่นี่มีบ่อ indoor 3 บ่อ outdoor บ่อนึงกลางสวน ส่วนที่น่าสนใจเป็นห้องน้ำตกท่อ ห้องที่น้ำไหลลงมาจากท่อเป็นสาย มีเรียงรายหลาย 10 ท่อเลย เอาไว้ให้น้ำนวดตัว นวดไหล่ นวดสบายดีมาก น้ำแรงดีเว่อ ที่ห้องนี้ต้องเดินลงมาจากบ่อเมนด้านบน ทางเดินก็ยาววววเหมือน catwalk คนที่นั่งให้น้ำนวดอยู่ก่อน ถ้าอยากมีสมาธิก็หันหน้าเข้ากำแพงเอานะครัช ไม่งั้นก็จะได้ดู ชีเปลือยโชว์เดินขึ้นลง ไม่ขาดสาย


บ่อ indoor รูปน้ำเต้าตามชื่อ Onsen ประตูตรงหน้าเปิดลงไปห้องน้ำตกท่อ cr.ภาพ shafir.info

ห้องน้ำตกท่อ ไหลลงมาร้อนๆ นวดหลัง ตุบตับ ดีนักแล มีเตียงไม้ไว้นอนพักผึ่งตัวได้ cr.ภาพ macaronmagazine.com

นี่ก็ไม่รีบร้อนตามที่บอก แช่ไปทุกบ่อเพลินๆ มาจบอีกทีที่ห้องน้ำตกนี่ล่ะ นั่งนวดไปทั้งบ่าทั้งหลัง ก็เห็นว่าเขามีเตียงไม้ไว้ให้นอนพักด้วย ก็เลยได้ไอเดียหาที่ผึ่งตัวให้แห้งได้ละ มีหมอนไม้แข็งๆ ไว้ให้หนุนด้วย นี่ก็เดินไปนอนบนเตียงผึ่งตัว ฟังเสียงน้ำ สบายยย แต่คราวนี้จะนอนหงายอล่างฉ่างก็จะดูเปิดเผยไป เลยต้องมีเทคนิคชันขาขึ้นมากันโป๊นิดนึง ดีกว่านอนกุมไข่นั่นก็แลดูจะหวงแหนเกินไป

ตัวแห้งแล้วก็ขึ้นไปแต่งตัว ออกมาสบายตัวละท้องก็เริ่มหิว เลยจัด Sunday Brunch กันที่นั่นเลย กดตู้อัตโนมัติสั่งเซต Hot spring seafood หน้าตาจากเมนูดูเว่อวังอลังการ พอได้ทานก็อร่อยใช้ได้ แต่ถ้าได้น้ำจิ้ม seafood แซ่บๆๆ นี่จะฟินไปอีกสามโลก


อยากกินไรใส่เงินละกดๆๆ

Hot Spring Seafood Combo ใหญ่มากกมาเป็นกระด้ง

12:30 อิ่มท้องละก็บอกลา Hyotan Onsen ไปลุยดู Hell Jigoku กันต่อ ตอนแรกก็กะว่าจะจอดรถทิ้งไว้ที่นี่ ละเดินเที่ยวเอา พอเดินออกไปได้แยกเดียวเท่านั้นล่ะ เห็นทางขึ้นเขาชันซ้าาา เปลี่ยนแผนเอารถไปดีกว่า

ขับแป๊บนึงก็มาถึงบ่อแรก Shiraike Jigoku ค่าเข้าคนละ 400y แต่ถ้าใครจะเอาครบ 8 บ่อ ก็มีแพคสุดคุ้มให้ด้วย แต่ดูเวลาละคงไปได้ไม่ครบ จ่ายแยกบ่อละกัน ว่าแล้วก็เดินชมอย่างละเมียด ชมบ่อน้ำแร่สีฟ้ามีควันพวยพุ่งอลังการ ชมสวนโดยรอบ แวะดู fresh water aquarium ที่จัดแสดงพันธุ์ปลาต่างๆ ก็เพลินดี คราวนี้ด้วย Bias ที่เห็นคนญี่ปุ่นชอบประดิษฐ์สถานที่ท่องเที่ยว สร้าง theme route สร้าง story จัดแสดงเนียนๆ ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่างี้ เลยแอบทิ้งคำถามคาใจ น้ำสีฟ้าจริงป่าว ควันที่เห็นจัดใหญ่มานี่เห็นนะส่งผ่านท่อมาฟุ้งเชียว ไอ้ที่เป็นไอจากน้ำนี่มันบางไปดูแล้วไม่ตื่นเต้น เลยต้องอัดไอน้ำตู้มๆ ให้นักท่องเที่ยวเกิด wow experience เอาจริงๆ สถานที่ท่องเที่ยวบ้านเราน่ะน่าเอาอย่างนะ ร้อยเรียงเรื่องเป็น theme route เอาสิ่งดีๆ ที่มีอยู่แล้ว มาเพิ่มนิดนี่หน่อย ประดิษฐ์เนียนๆ เหมือนญี่ปุ่นนี่แหล่ะ แล้วใส่ Wow effect เข้าไปก็แจ่มละ


Shiraike Jigoku งานดี effect WOW

บรรยากาศสวนใน Shiraike Jigoku

เดินจับผิดเพลินจนเกือบเลยเวลา ลืมว่าต้องขับรถข้ามเขากลับเอารถไปคืนที่ Yufuin อีก ใช้เวลาข้ามเขาประมาณ 40 นาที เลยต้องจบทัวร์ Hell Jigoku ไว้ที่บ่อเดียว เด๋วบ่ออื่นตามไปเที่ยวในกระทู้คนอื่นละกันโนะ

ว่าละก็อำลาเมือง Beppu ค่อยๆ ขับรถไต่ขึ้นเขา Yufu ทางเขาบางช่วงเป็นป่าทึบ บางช่วงก็เป็นทุ่งหญ้าเหมือน Aso วิวงดงามควรค่ากว่าการขึ้นทางด่วนมากๆ และเราก็กลับมาถึง Yufuin ฉิวเฉียดก่อนเวลาคืนรถประมาณ 15 นาที เลยแวะเอากระเป๋าไป Drop ที่สถานี ก่อนจะเอาน้อง Otti ไปเติมน้ำมันให้เต็ม ตอนเติมนี่ระทึกมากว่าจะออกมากี่เยน สรุปแล้วเติมไป 20 ลิตร รวม 3500y ก็โอเคอยู่นะ 2 วันพันกว่าบาท หารคนมาก็คนละ 500 ชิลจะตาย แล้วก็วนรถกลับไปคืน Nissan ในสภาพเหมือนตอนมาไม่มีบุบสลาย


ช่วงสูงๆของ Mt.Yufu เป็น Grassland เขียวสดงดงาม

จากจุด Viewpoint มองลงไปยังเมือง Yufuin

กลับมาที่สถานีรถไฟกะว่าจะนั่งชิลรอรถไฟมาอีกชั่วโมงกว่า แต่ waiting room ดั๊นจัดสัมนาไรมะรู้ คนตรึม ไม่มีที่ให้นั่งเลย จะเข้าไปรอที่ชานชาลาก็ไม่ได้ เขาจะตรวจตั๋วให้เฉพาะคนที่จะขึ้นขบวนถัดไปเท่านั้นเข้าไปได้ คงจะลดความแออัดบนชานชาลา และผู้โดยสารจะได้ไม่งงด้วย รถมาเทียบปุ๊บก็ขึ้นปั๊บเลยงี้ ไม่ผิดขบวน

รอที่สถานีไม่ได้เลยไปหาร้านกาแฟตรง 5 แยกนั่งจิบลาเต้ ฆ่าเวลารอรถไฟ ส่วนกระเป๋าก็ลากไปด้วย ตู้หยอดฝากเป๋าอดกินเงินนะจ๊ะ ก็นั่ง Social กันไป up รูปแต่งรูปกันจนเกือบลืมเวลาเลยทีเดียว

15:40 ได้เวลากลับเข้ามารอที่ชานชาลาละ รถไฟมาตามเวลา น่าจะมาถึงอีก 10 นาที ผู้คนค่อยๆทะยอยเข้าชานชาลามา คนเยอะม้ากกก บริเวณชานชาลาจะมีจุด mark บอกไว้เลยว่าตู้เบอร์นี้มาเข้าคิวยืนรอตรงนี้ๆ เพื่อความเป็นระเบียบตอนขึ้นรถ


สถานีมี 3 ชานชาลา ทางนี้มองมุ่งหน้าไปยังเมือง Kurume-Hakata (Fukuoka)

ส่วนทางนี้มองไปยังเมือง Oita

หนอนเขียว Limited Express Yufuin no mori มาล้าววว

15:50 รถไฟขบวน limited express Yufuin No Mori เข้าจอดเทียบในชานชาลาที่ 1 ขบวนรถจอดได้ตรงเป๊ะตามจุด mark มากๆ นักท่องเที่ยวแห่แหนกันขึ้นรถไฟกลับเข้าเมือง Fukuoka รถไฟขบวนพิเศษนี้เป็นขบวนรถที่ออกแบบมาพิเศษเป็น theme สำหรับการเที่ยว route นี้โดยเฉพาะ ทั้งขบวนมี 4 ตู้ ภายนอกรถเป็นสีเขียว สื่อถึงธรรมชาติแบบ highland forest ต้นหญ้าป่าไม้ ส่วนภายในตกแต่งด้วยไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบ highland resort ท่ามกลางธรรมชาติ ส่วนเบาะนั่งก็ใช้สีเขียวเช่นเดียวกัน รถไฟขบวนนี้มีชุดห้องขับอยู่ในขบวนในตู้แรกและตู้ท้าย เหมือนดีเซลรางบ้านเรานี่ล่ะ ไม่ต้องใช้รถจักรลากจูง โดยตู้แรกกับตู้ท้ายเป็นที่นั่งโดยสารกับห้องขับ ส่วนตู้ 2 กับ 3 ครึ่งตู้เป็นที่นั่ง อีกตู้ละครึ่งตู้นึงจะเป็นตู้ขายของกิน ส่วนอีกตู้เป็นที่นั่งชมวิวทานอาหาร แถมยังมีมุมพิเศษๆ ตรงรอยต่อตู้ 3-4 กับ 1-2 เป็นที่นั่งเดี่ยวพร้อมโต๊ะเล็กๆ เผื่อใครเดินทางคนเดียว อยากมานั่งปลีกวิเวก เล่นมิวสิค คิดงานเพลินๆ ก็เข้าท่านะ นอกจากนี้พนักงานทั้งขบวนก็ใส่ uniform theme สีเขียวเช่นเดียวกัน นี่ถ้านั่งขามาจาก Fukuoka การได้นั่งรถไฟขบวนนี้มา Yufuin จะช่วยกระตุ้นต่อมอยากเที่ยวได้ดีทีเดียว Build บรรยากาศในการเดินทางได้ดีมาก แถมวิวข้างทางก็สวยมากกก


บริเวณห้องขับท้ายขบวน Font ชื่อรถ ประดิดประดอย งดงามมม

ตู้นั่งทานอาหาร ชมวิว กระจกสูง แต่นั่งกันไม่ลุกเร้ยยย

>>มีต่อครับ
ชื่อสินค้า:   KYUSHU
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่