ตีแผ่ข้อดีข้อเสีย iOS : Android จากในมุมมองโปรแกรมเมอร์ดูบ้าง อาจมีบางอย่างที่คุณยังไม่รู้

สวัสดีครับ หลังจากที่ iPhone 6 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ก็มีกระทู้ทั้งอวย / แขวะ ปะปนกันไป

ผมก็ได้ติดตามอ่านห้องนี้มาเรื่อยๆ อยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ ถึงข้อดีข้อเสีย ของทั้ง 2 ค่าย ในเชิงลึกบ้าง

ในฐานะที่เป็นโปรแกรมเมอร์ด้านนี้โดยตรง เรียกว่าคลุกคลีกับซอฟท์แวร์ด้านนี้มาตั้งแต่

Symbian, J2ME , iOS , Android , WP7 , WP8 ปัจจุบันก็ยังทำด้านมือถืออยู่นะครับ

มือถือทั้ง 2 ค่ายที่เคยใช้ (เอาเฉพาะ ios กับ android ที่ซื้อเองนะครับ ไม่ใช่ของที่ทำงาน ถ้าอันนั้นนับไม่ถ้วนครับ)

iOS : iPhone4 ,iPhone5S ,iPad 1 , iPadMini,iPod 3rd Gen , iPod 5th gen
Android : Note 2 , G2 , Zenfone 4 , Zenfone 5 , Lenovo369i , Huaweii 510Y, Asus FonePad

หลังๆผมจะค่อนข้างเอนมาทางฝั่ง apple มากกว่า (ถ้าเป็นเครื่องหลัก ) มาเริ่มข้อแรกกันเลยดีกว่า

1. HARDWARE ส่วนใหญ่ประเด็นที่เป็นประเด็นแรกๆ(บ่อยมาก) คือ apple กั๊กสเปค ไม่แรงจริง คนซื้อไม่มีความรู้
มโนอย่างเดียวว่าดี เอาสเปคมากกางสู้อีกค่ายไม่ได้
1.1 . CPU iPhone ช้าเหรอ ? 5S 1.3 Dual Core เอง apple หลอกสาวก?
CPU จริงๆของ apple ไม่ได้ช้านะครับ ถ้า single task process นี่ทำงานได้เร็วแทบจะระดับบนสุดของตลาดมือถือตลอด
อันนี้ compare chart  จากต่างประเทศนะครับ
http://www.phonearena.com/news/Apple-iPhone-5s-performance-review-CPU-and-GPU-speed-compared-to-top-Android-phones-benchmarks_id47739
  การที่เราเอาแค่ สเปคมากางบอก quadcore แรงกว่าๆ บางทีมันก็ไม่ถูกต้องนักทีเดียวนะครับ

1.2. GPU , ส่วนใหญ่ตัวนี้จะเป็นตัวที่ถูกลืมประจำ ทั้งๆที่เป็นส่วนสำคัญของมือถือที่ทางฝั่ง apple ใช้ตัวบนสุดของตลาดมาตลอดสำหรับรุ่น Top
ตัวนี้ก็เป็น กราฟฟิคการ์ด ที่เรียกกันติดปากว่า การ์ดจอนั่นเอง ตัวนี้เป็นส่วนสำคัญของ gaming หรือ app ที่ต้องการ render เยอะๆ

1.3. RAM อันนี้ apple กั๊กจริง จะบอกว่าเครื่องเล็กก็ไม่ได้ จริงๆ Ram ควรจะให้มามากกว่านี้เยอะๆเลย ถึงจะบอกว่า 1GB DDR3 พอใช้
แต่เอาเข้าจริงก็เปิด browser หลายๆ tab ก็ไม่ไหวแล้ว เรื่องนี้แพ้ทาง ฝั่ง android แบบไม่ต้องสงสัย 1 GB ไม่เหมาะสำหรับ
มือถือปัจจุบันที่เรียกว่า เรือธง แล้ว

1.4. Screen Size : ขนาดหน้าจอ อันนี้ผมว่าแล้วแต่คนชอบและการพกพา แต่การที่บังคับว่าหน้าจอขนาด 3.5-4 คือขนาดที่ดีที่สุด
อันนี้ก็ยังไม่ถูกเท่าไหร่ จนสุดท้ายก็ต้องออกรุ่นที่หน้าจอใหญ่มากขึ้นตามความต้องการของตลาดในปัจจุบัน

--------------------------------------------------------

2. OS (Operating System ) ระบบปฎิบัติการ เรื่องนี้ก็เป็นอีกประเด็นที่มีการถกเถียงกันเยอะ หลังจากหลังๆ ฝั่งหุ่นเขียว ทำได้ดีขึ้นมาก
รวมถึง feature บางอย่างที่มีเยอะกว่า มาพูดถึงกันทีละข้อนะครับ

2.1 Framework & Architect  : อย่างที่หลังๆ เริ่มมีคนให้ความสนใจในรายละเอียดมากขึ้น ผมขอรวบยอดมาอธิบายอีกทีละกัน
iOS : เป็น ARM layer น้อยกว่า ในการติดต่อกันระหว่าง  hardware  กับ software  ทำงานเข้ากันได้ดีกว่าเพราะผลิตมาเพื่อกันและกัน
Android : Dalvik Virtual Machine : layer ซ้อนมาอีกชั้นนึง ออกแบบให้เอาไปใช้ได้ง่ายกับเครื่องอะไรก็ได้ แต่แลกกับการเข้ากันได้ของ
software กับ hardware ที่น้อยกว่า *** นอกจากนั้น แต่ละค่ายก็ยังเขียน software ของตัวเอง on top ขึ้นมาอีกชั้นนึง ซึ่งอันนี้
จะดีกว่าเดิมหรือแย่ลงก็ขึ้นอยู่กับค่ายนั้นๆด้วย  

2.2 Feature : ในช่วงแรกๆ apple แสดงความแตกต่างจากการเปลี่ยนแปลงในยุค symbian -> ios ซึ่งตอนนั้น android ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
จนหลังๆ หลายค่ายมาใช้  android และทำหลายๆอย่าง exclusive ออกมา ซึ่งหลายๆอันก็เจ๋ง เช่น SPen , Knock Lock , Etc.
ซึ่งหลังๆ apple จะออกมาช้ากว่า แต่จะเน้นว่าพร้อมใช้มากกว่า ( ส่วนใหญ่จะทำ software ออกมาพร้อมกันด้วย ) ต่างจากฝั่ง
android คือมีพร้อมกว่า แต่ software รองรับจะน้อยกว่าเหมือนกัน รอให้แต่ละค่ายไปทำ on top เอาเอง

2.3 Multitasking : การทำงานหลายๆอย่างพร้อมกัน
Android : Full multitask  -- คือ app  เปิดไว้ทำหลังฉากหมดจริงๆ ข้อดีคือ ถ้าจัดการดีๆ มันก็เหมือนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่ทรงพลัง
ทำงานได้หลายอย่างในเวลาเดียว
iOS : semi multitask -- จะ focus app ที่ active อยู่ให้มีความสำคัญสูงสุด ถ้าเปิด app ไหนอยู่ ส่วนใหญ่จะไม่รวน ไม่มีอาการ
แบบ ram หมด แต่ app หลังฉากส่วนใหญ่จะไม่ทำงานต่อ อยู่ในสถานะ sleep หรือ minimal work เท่าที่จำเป็น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่