มอบตัวแล้ว คนร้ายคดีแขวนคอสุนัข !!!



ช่างรับเหมาที่ก่อเหตุฆ่าแขวนคอสุนัขท้องแก่และลูกวัย 6 เดือนตายอนาถ 2 ตัว เข้ามอบตัวกับ ตำรวจแล้ว สารภาพ บันดาลโทสะเพราะสุนัข 2แม่-ลูกขึ้นนอนบนรถ หลังก่อเหตุตกใจ และสำนึกผิดและได้เข้ามอบตัวพร้อมขอโทษในสิ่งที่ทำไป

กรณีเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ถ่ายภาพสุนัขเพศเมียท้องแก่กับลูกสุนัขวัย 6 เดือน ถูกคนใช้เชือกไนล่อนจับแขวนคอกับขื่อหลังคาโรงจอดรถ จนต้องตายอย่างทรมาน เหตุเกิดบริเวณหลังปั้มแก๊ส NGV ริมถนนสาย 36 ขาเข้าพัทยา บ้านกระทิงลาย ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งหลังจากภาพดังกล่าวเผยแพร่ออกไปทางสื่อออนไลน์ ทำให้ผู้ที่เห็นภาพดังกล่าว ต่างพากันรู้สึกสลดใจและรุมประณามการกระทำที่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์ในครั้งนี้

ต่อมาตำรวจไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับสอบปากคำพยานแวดล้อมจนทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายมานะ นัทธีประเสริฐ อายุ 44 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้างและเป็นเจ้าของสุนัขทั้ง 2 ตัว เบื้องต้นตำรวจจึงออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ทารุณกรรมสัตว์ นอกจากนี้ในส่วนของมูลนิธิ A CALL For Animal Rights Thailand ได้เผยแพร่ภาพถ่ายผู้ก่อเหตุลงในเฟซบุ๊คและตั้งรางวัลนำจับ 20,000 บาทแก่ผู้ชี้เบาะแส

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. คืนที่ผ่านมา  นายมานะ ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ โดยมีพลตำรวจตรี ศานิตย์ มหถาวร  รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เดินทางมาสอบปากคำ ด้วยตัวเอง โดยนายมานะ ซึ่งมีสีหน้าอาการที่เรียบเฉย ให้การรับสารภาพว่า ปกติสุนัขทั้ง 2 ตัวนี้มักจะปีนขึ้นไปนอนบนรถยนต์ของตนเองและของชาวบ้านที่จอดอยู่ในโรงรถเป็นประจำ ทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้รับความเสียหายเป็นประจำ ทั้งๆ ที่เคยตีให้หลาบจำแล้ว ก็ตามในวันเกิดเหตุเห็นสุนัขทั้ง 2 ตัวขึ้นไปนอนบนกระโปรงรถอีก จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบจับสุนัขทั้ง 2 ตัว ล่ามด้วยเชือกไนล่อน แล้วผูกโยงไว้กับขื่อหลังคาโรงจอดรถ ก่อนขับรถออกไปดูทำงานตามปกติ กระทั่งทราบว่าสุนัขทั้ง 2 ตัวตาย  

นายมานะ ให้การอีกว่ากรณีที่สื่อนำเสนอข่าวออกไปว่าตนเองปิดโทรศัพท์เพื่อหนีความผิด เรื่องนี้ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ที่ไม่ได้ติดต่อเข้ามอบตัวตั้งแต่ตอนแรกเพราะต้องเดินทางไปรับงานที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เลยไม่รู้ว่าจะเป็นข่าวใหญ่โต พอทราบเรื่องจึงรีบมามอบตัวในทันที ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับปั๊มแก๊สแต่อย่างใด เนื่องจากตนเองเป็นผู้รับเหมาที่รับงานจากปั๊มแก๊ส และขอเช่าพื้นที่เพื่ออยู่อาศัยเท่านั้น พร้อมกับบอกว่า รู้สึกละอายใจต่อบาปที่ได้ก่อขึ้น เลยเดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจเพื่อขอยอมรับผิด และต้องขออภัยสังคมกับสิ่งที่ตัวเองกระทำไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ แท้จริงแล้วตัวเองก็เป็นคนมีนิสัยรักสัตว์เช่นกัน

พลตำรวจตรี ศานิตย์ กล่าวว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของคนทั่วประเทศที่ทราบข่าวเพราะประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ จึงต้องลงมาดูแลคดีนี้ด้วยตนเอง ในส่วนของข้อหาทารุณกรรมสัตว์นั้น ตามกฎหมายมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งถึงแม้จะเป็นความผิดลหุโทษก็ตาม แต่ทางนายมานะ ก็ถูกสังคมลงโทษด้วยการประณามไปแล้ว และถือว่าอับอายยิ่งกว่าติดคุกเสียอีก

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจะได้เชิญนักจิตวิทยามาพูดคุยกับนายมานะ อีกครั้งว่ามีความผิดปกติทางด้านความคิดหรือไม่ เพื่อหาทางแก้ไขกันต่อไป

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่