ตลาดรถยนต์และธุรกิจต่อเนื่อง น่าจะเรียกว่าเข้าสู่สภาวะเลวร้ายแล้วมั๊งครับ
รถยนต์เต็มบ้านเต็มเมืองแล้ว ชั่วโมงเร่งด่วนตัวเมืองใหญ่ๆแทบเป็นอัมพาต
คนมีรายได้นิดหน่อยก็มีรถยนต์ขับกันเกือบทุกคนแล้ว แม้กระทั่งนักศึกษา ไว้ขับไปอวดเพื่อน ขับไปหลีสาว ฯลฯ
ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ ก็ต้องซื้อไว้อวดเพื่อนบ้าน กันเพื่อนบ้านนินทาว่าไม่มีปัญญาซื้อ
แต่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถหรอก ซื้อยี่ห้อเดียวกับเพื่อนบ้านนั่นแหละ
ส่วนมากคนกลุ่มนี้ซื้อสดนะครับ แต่ไม่ค่อยได้ใช้รถหรอก ซื้อมางั้นแหละ
คนกลุ่มที่เดือดร้อนจากการไม่ประมาณตน หลักๆก็คือพวกซื้อผ่อนทั้งหลาย ไม่ว่ามนุษย์เงินเดือน(น้อยๆ) พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ
และตอนนี้หลายๆคนกำลังหวานอมขมกลืนอยู่ ไม่มีตังค์ผ่อน ชักหน้าไม่ถึงหลัง เบื้องหน้าสวยหรู เบื้องหลังกินแกลบ
บางคนต้องหยิบยืมเพื่อนฝูง พี่ ป้า น้า อา เพื่อเอาไปผ่อน
บ้างก็คิดสั้น กู้บัตรเงินสด กู้หนี้นอกระบบ แค่ขอให้ได้ตังค์ไว้ก่อน เอาไปจ่ายหนี้รถก่อน เพราะถ้าโดนไฟแนนซ์ยึด อายคนรอบข้าง
เมื่อตอนซื้อรถ หลายๆคนให้เพื่อนฝูง ญาติสนิท มิตรสหาย ช่วยค้ำประกัน
พอสัญญาค้ำประกันเริ่มทำหน้าที่ของมัน ถึงกับเปลี่ยนจากมิตรสหาย เป็น มิตรหาย ญาติเริ่มไม่สนิท ก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ
บางคนประกาศขายดาวน์ก็ขายไม่ออก แล้วมันจะขายออกได้ไง ยอดผ่อนที่เหลือรวมกันแพงกว่ารถป้ายแดงรุ่นใหม่ซะอีก
บางคนแย่ยิ่งกว่านั้น ขายให้คนอื่นไปผ่อนต่อ แต่ไม่เปลี่ยนสัญญา อาจเพราะไม่รู้หรือรู้แต่ไม่อยากเสียค่าธรรมเนียมให้ไฟแนนซ์
หรือยังไม่ครบเงื่อนไขที่จะเปลี่ยนสัญญาได้ แต่แอบเอามาขายต่อ พอแจ็คพ็อตแตก คนซื้อไปไม่ผ่อนต่อ เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตอีก
บางคนยังไงก็ไม่ยอมขาย เพราะหน้าบาง อายไอ้คนที่เคยขับไปอวดตอนซื้อมาใหม่ๆ จอดตากแดดตากฝน กัดฟันผ่อนไปงั้นแหละ
ผมคิดว่าถ้าไม่ติดห้ามโอนตอนโครงการรถคันแรก ป่านนี้ก็คงประกาศขายกันทั่วบ้านทั่วเมืองไปแล้ว เชื่อดิ
ส่วนกลุ่มข้าราชการก็หนี้บาน กู้สหกรณ์เต็มจำนวน เอามาซื้อรถ ซื้อมือถือแพงๆ ไปดูได้เลย แต่ละคน หักหนี้สหกรณ์แล้ว เหลือเงินหลักพัน
แล้วจะเอาจิตใจที่ไหนไปรับใช้ประชาชน วันๆคิดแต่เรื่องหนี้สิน งานไม่เดิน กลางเดือนทีไร ก็หน้าหักหน้างอ
จะบอกว่าสหกรณ์เขามีไว้ช่วยเหลือเพื่อเป็นแหล่งเงินกู้ยามฉุกเฉิน ยามจำเป็น ไม่ใช่ไว้กู้มาซื้อของฟุ่มเฟือย
แต่บางคนที่กู้มาต่อเติมบ้าน กู้มาสร้างบ้านให้ครอบครัว ให้พ่อแม่ อันนี้ก็เห็นด้วยนะ เพราะมันเป็นสิ่งจำเป็น
เพราะเงินเดือนข้าราชการมันน้อย ถ้าไม่กู้สหกรณ์ก็ไม่มีวันได้เงินก้อนมาสร้างบ้าน
แต่ก็อีกนั่นแหละ บางคนก็สร้างบ้านเกินตัว เกินรายได้อีก งบล้านนึงถ้าสร้างในที่ของตัวเองก็ได้บ้านดีๆแล้ว ไม่ต้องถึงกับ 2-3 ล้านก็ได้
ส่วนรถ ราคา 3-5 แสน ก็ขับไปทำงานได้ ไม่ต้องขนาดราคาหลักล้านก็ได้นี่
คนที่ใช้เงินตามรายได้ก็ขอชื่นชม ส่วนคนที่ชอบสร้างหนี้ อวดวัตถุนิยม ก็ขอให้โชคดี
บางคนอาจจะโดนจี้ใจดำ ก็ขอให้โชคดี แต่ไม่ขอไปตอบในความคิดเห็น เพราะไม่มีประโยชน์
รถยนต์กับหน้าตาทางสังคม ถ้าไม่ประมาณตน มีแต่จน กับ จ๊น จน
รถยนต์เต็มบ้านเต็มเมืองแล้ว ชั่วโมงเร่งด่วนตัวเมืองใหญ่ๆแทบเป็นอัมพาต
คนมีรายได้นิดหน่อยก็มีรถยนต์ขับกันเกือบทุกคนแล้ว แม้กระทั่งนักศึกษา ไว้ขับไปอวดเพื่อน ขับไปหลีสาว ฯลฯ
ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ ก็ต้องซื้อไว้อวดเพื่อนบ้าน กันเพื่อนบ้านนินทาว่าไม่มีปัญญาซื้อ
แต่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถหรอก ซื้อยี่ห้อเดียวกับเพื่อนบ้านนั่นแหละ
ส่วนมากคนกลุ่มนี้ซื้อสดนะครับ แต่ไม่ค่อยได้ใช้รถหรอก ซื้อมางั้นแหละ
คนกลุ่มที่เดือดร้อนจากการไม่ประมาณตน หลักๆก็คือพวกซื้อผ่อนทั้งหลาย ไม่ว่ามนุษย์เงินเดือน(น้อยๆ) พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ
และตอนนี้หลายๆคนกำลังหวานอมขมกลืนอยู่ ไม่มีตังค์ผ่อน ชักหน้าไม่ถึงหลัง เบื้องหน้าสวยหรู เบื้องหลังกินแกลบ
บางคนต้องหยิบยืมเพื่อนฝูง พี่ ป้า น้า อา เพื่อเอาไปผ่อน
บ้างก็คิดสั้น กู้บัตรเงินสด กู้หนี้นอกระบบ แค่ขอให้ได้ตังค์ไว้ก่อน เอาไปจ่ายหนี้รถก่อน เพราะถ้าโดนไฟแนนซ์ยึด อายคนรอบข้าง
เมื่อตอนซื้อรถ หลายๆคนให้เพื่อนฝูง ญาติสนิท มิตรสหาย ช่วยค้ำประกัน
พอสัญญาค้ำประกันเริ่มทำหน้าที่ของมัน ถึงกับเปลี่ยนจากมิตรสหาย เป็น มิตรหาย ญาติเริ่มไม่สนิท ก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ
บางคนประกาศขายดาวน์ก็ขายไม่ออก แล้วมันจะขายออกได้ไง ยอดผ่อนที่เหลือรวมกันแพงกว่ารถป้ายแดงรุ่นใหม่ซะอีก
บางคนแย่ยิ่งกว่านั้น ขายให้คนอื่นไปผ่อนต่อ แต่ไม่เปลี่ยนสัญญา อาจเพราะไม่รู้หรือรู้แต่ไม่อยากเสียค่าธรรมเนียมให้ไฟแนนซ์
หรือยังไม่ครบเงื่อนไขที่จะเปลี่ยนสัญญาได้ แต่แอบเอามาขายต่อ พอแจ็คพ็อตแตก คนซื้อไปไม่ผ่อนต่อ เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตอีก
บางคนยังไงก็ไม่ยอมขาย เพราะหน้าบาง อายไอ้คนที่เคยขับไปอวดตอนซื้อมาใหม่ๆ จอดตากแดดตากฝน กัดฟันผ่อนไปงั้นแหละ
ผมคิดว่าถ้าไม่ติดห้ามโอนตอนโครงการรถคันแรก ป่านนี้ก็คงประกาศขายกันทั่วบ้านทั่วเมืองไปแล้ว เชื่อดิ
ส่วนกลุ่มข้าราชการก็หนี้บาน กู้สหกรณ์เต็มจำนวน เอามาซื้อรถ ซื้อมือถือแพงๆ ไปดูได้เลย แต่ละคน หักหนี้สหกรณ์แล้ว เหลือเงินหลักพัน
แล้วจะเอาจิตใจที่ไหนไปรับใช้ประชาชน วันๆคิดแต่เรื่องหนี้สิน งานไม่เดิน กลางเดือนทีไร ก็หน้าหักหน้างอ
จะบอกว่าสหกรณ์เขามีไว้ช่วยเหลือเพื่อเป็นแหล่งเงินกู้ยามฉุกเฉิน ยามจำเป็น ไม่ใช่ไว้กู้มาซื้อของฟุ่มเฟือย
แต่บางคนที่กู้มาต่อเติมบ้าน กู้มาสร้างบ้านให้ครอบครัว ให้พ่อแม่ อันนี้ก็เห็นด้วยนะ เพราะมันเป็นสิ่งจำเป็น
เพราะเงินเดือนข้าราชการมันน้อย ถ้าไม่กู้สหกรณ์ก็ไม่มีวันได้เงินก้อนมาสร้างบ้าน
แต่ก็อีกนั่นแหละ บางคนก็สร้างบ้านเกินตัว เกินรายได้อีก งบล้านนึงถ้าสร้างในที่ของตัวเองก็ได้บ้านดีๆแล้ว ไม่ต้องถึงกับ 2-3 ล้านก็ได้
ส่วนรถ ราคา 3-5 แสน ก็ขับไปทำงานได้ ไม่ต้องขนาดราคาหลักล้านก็ได้นี่
คนที่ใช้เงินตามรายได้ก็ขอชื่นชม ส่วนคนที่ชอบสร้างหนี้ อวดวัตถุนิยม ก็ขอให้โชคดี
บางคนอาจจะโดนจี้ใจดำ ก็ขอให้โชคดี แต่ไม่ขอไปตอบในความคิดเห็น เพราะไม่มีประโยชน์