(เขียนถึงเนื้อเรื่องบางส่วน แต่ไม่เปิดเผยความลับสำคัญของหนัง)
นี่เป็นหนังที่หลอกหลอน และสร้างความอึดอัดให้กับคนดูได้หนักหนาพอสมควร แต่ไม่ใช่หนังที่คอหนังสยองทุกคนจะหลงไหลได้ปลื้มไปกับมัน และก็ไม่น่าจะใช่หนังที่ถูกอกถูกใจสำหรับคนดูทั่วไปในวงกว้างเสียทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนดูประเภทที่ ชอบตั้งคำถาม+ต้องการคำตอบ จากทุกๆ สิ่งที่ปรากฏขึ้นมาบนจอ As Above, So Below จะกลายเป็น "ยาขม" ที่ทำให้คุณต้องเดินออกจากโรงไปอย่างไม่สบอารมณ์หลังดูมันจบลงแน่ๆ
เพราะตลอดทั้งเรื่อง มันเต็มไปด้วยเหตุการณ์ไร้เหตุผล ไร้ที่มาที่ไปที่แน่ชัด ทั้งหมดเป็นเพียงแค่การให้ตัวละครพาคนดูไปเผชิญหน้ากับสถานที่ประหลาด เหตุการณ์สยองขวัญ แล้วปล่อยให้ทั้งคนดูและตัวละครดำดิ่งพุ่งเป้าไปยังความคิดที่ว่า "จะหาทางหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ไปได้อย่างไร" มากกว่าการให้ความสำคัญกับการตอบคำถาม เพื่อไขความกระจ่าง ถึงต้นสายปลายเหตุของความพิลึกพิลั่นทั้งหลายแหล่ที่เกิดขึ้น
ซึ่งหลายคนอาจจะไม่อินความสยองลักษณะนี้ เพราะดูแล้วมันค้างคาในอารมณ์ ไม่มีเหตุมีผลให้เชื่อถือ ไม่น่าติดตาม แต่สำหรับ จขกท. บางครั้งกลับรู้สึกกับการนำเสนอทำนองนี้ไปในทิศทางของความชื่นชอบ เนื่องจากมองว่า เรื่องลี้ลับสยองขวัญในบางกรณี เราก็ไม่จำเป็นต้องไปหาคำตอบ และมันก็ไม่จำเป็นต้องตอบคำถามเรา
สิ่งลี้ลับ มันรู้สึกลี้ลับขนลุกขนพองขึ้นมาได้เพราะมันเป็นสิ่งที่เราไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้น ลำพังเพียงแค่มันสามารถทำให้เรารู้สึกขนหัวลุกขวัญผวาได้ แค่นั้นหน้าที่ของมันก็บรรลุเสร็จสิ้นแล้ว ช่องว่างในความไร้เหตุไร้ผลของหนังเรื่องนี้ในมุมของ จขกท. จึงกลายเป็นเรื่องของเสน่ห์ที่น่าหลงไหลเสียมากกว่า
ลึกลงไปในรายละเอียดของเนื้อเรื่อง As Above, So Below ให้อารมณ์เป็นเหมือนส่วนผสมอย่างละนิดอย่างละหน่อยระหว่าง The Descent (2005) กับ Event Horizon (1997) กล่าวคือนี่เป็นเรื่องราวของคนกลุ่มหนึ่งที่มุดลงไปใน "คาตาคอมบ์" สุสานใต้ดินลึกลงไป 1000 ฟุตกลางกรุงปารีส อันเป็นที่เก็บซากศพของคนร่วม 6 ล้านคน ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะของ "สุสานฝังศพที่ใหญ่ที่สุดในโลก" แต่พอเข้าไปแล้วก็หาทางออกไม่ได้ ยิ่งออกนอกเส้นทางก็ยิ่งถลำลึกเข้าไปเจอกับ พื้นที่แคบ ลึก มืด และไร้อากาศมากขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนจะตามมาด้วยเหตุการณ์ประหลาด เมื่อเรื่องราวฝังใจในอดีตของแต่ละคนเริ่มโผล่มาหลอกหลอน และเล่นงานถึงขั้นเอาตาย คล้ายๆ กับเหตุการณ์ประหลาดที่กัปตัน มิลเลอร์และลูกเรือต้องเผชิญหน้าใน Event Horizon อย่างไรอย่างนั้น เพียงแต่ว่าย้ายสถานที่จากกลางอวกาศมาอยู่ในที่แคบใต้ดิน
แน่นอนว่านอกจากความหลอนแล้ว หนังยังใช้ความคับแคบของพื้นที่มาเป็นตัวสร้างความกดดันให้กับดนดูตลอดทั้งเรื่อง เช่นเดียวกับ The Descent หนังมุดถ้ำของผู้กำกับ นีล มาร์แชล ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดีพอสมควร ไม่ว่าจะในส่วนของความหลอน และความอึดอัด อย่างน้อยที่สุดเมื่อหนังจบลงและเราก้าวเท้าออกจากโรง มันสามารถทำให้เรารู้สึกดีกับการเดินเหินอย่างปกติในที่กว้างๆ พร้อมสูดอากาศหายใจเต็มปอด ได้อยู่พักใหญ่ๆ
โดยรวม จขกท. ชอบ แต่ไม่กล้าการันตีว่าทุกคนจะชอบมั้ย เพราะมันเป็นหนังที่ต้องอาศัยรสนิยมส่วนตัวเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยในระดับหนึ่ง มันอาจจะห่วยในความคิดของบางคนไปเลยอย่างที่บอกไว้ในย่อหน้าแรกๆ หรืออาจจะกลายเป็นความปลื้มสุดๆ สำหรับบางคน ยากเกินกว่าจะคาดเดา บอกได้แต่ว่าใครที่ชีวิตกำลังขาดเรื่องระทึกขวัญ As Above, So Below เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว!
คะแนน ★★★
อ่านรีวิว และข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/pages/เกรียนหนัง/112834835539518
As Above, So Below (2014) : ส่วนผสมความสยอง อย่างละนิด อย่างละหน่อย ระหว่าง The Descent กับ Event Horizon
(เขียนถึงเนื้อเรื่องบางส่วน แต่ไม่เปิดเผยความลับสำคัญของหนัง)
นี่เป็นหนังที่หลอกหลอน และสร้างความอึดอัดให้กับคนดูได้หนักหนาพอสมควร แต่ไม่ใช่หนังที่คอหนังสยองทุกคนจะหลงไหลได้ปลื้มไปกับมัน และก็ไม่น่าจะใช่หนังที่ถูกอกถูกใจสำหรับคนดูทั่วไปในวงกว้างเสียทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนดูประเภทที่ ชอบตั้งคำถาม+ต้องการคำตอบ จากทุกๆ สิ่งที่ปรากฏขึ้นมาบนจอ As Above, So Below จะกลายเป็น "ยาขม" ที่ทำให้คุณต้องเดินออกจากโรงไปอย่างไม่สบอารมณ์หลังดูมันจบลงแน่ๆ
เพราะตลอดทั้งเรื่อง มันเต็มไปด้วยเหตุการณ์ไร้เหตุผล ไร้ที่มาที่ไปที่แน่ชัด ทั้งหมดเป็นเพียงแค่การให้ตัวละครพาคนดูไปเผชิญหน้ากับสถานที่ประหลาด เหตุการณ์สยองขวัญ แล้วปล่อยให้ทั้งคนดูและตัวละครดำดิ่งพุ่งเป้าไปยังความคิดที่ว่า "จะหาทางหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ไปได้อย่างไร" มากกว่าการให้ความสำคัญกับการตอบคำถาม เพื่อไขความกระจ่าง ถึงต้นสายปลายเหตุของความพิลึกพิลั่นทั้งหลายแหล่ที่เกิดขึ้น
ซึ่งหลายคนอาจจะไม่อินความสยองลักษณะนี้ เพราะดูแล้วมันค้างคาในอารมณ์ ไม่มีเหตุมีผลให้เชื่อถือ ไม่น่าติดตาม แต่สำหรับ จขกท. บางครั้งกลับรู้สึกกับการนำเสนอทำนองนี้ไปในทิศทางของความชื่นชอบ เนื่องจากมองว่า เรื่องลี้ลับสยองขวัญในบางกรณี เราก็ไม่จำเป็นต้องไปหาคำตอบ และมันก็ไม่จำเป็นต้องตอบคำถามเรา
สิ่งลี้ลับ มันรู้สึกลี้ลับขนลุกขนพองขึ้นมาได้เพราะมันเป็นสิ่งที่เราไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้น ลำพังเพียงแค่มันสามารถทำให้เรารู้สึกขนหัวลุกขวัญผวาได้ แค่นั้นหน้าที่ของมันก็บรรลุเสร็จสิ้นแล้ว ช่องว่างในความไร้เหตุไร้ผลของหนังเรื่องนี้ในมุมของ จขกท. จึงกลายเป็นเรื่องของเสน่ห์ที่น่าหลงไหลเสียมากกว่า
ลึกลงไปในรายละเอียดของเนื้อเรื่อง As Above, So Below ให้อารมณ์เป็นเหมือนส่วนผสมอย่างละนิดอย่างละหน่อยระหว่าง The Descent (2005) กับ Event Horizon (1997) กล่าวคือนี่เป็นเรื่องราวของคนกลุ่มหนึ่งที่มุดลงไปใน "คาตาคอมบ์" สุสานใต้ดินลึกลงไป 1000 ฟุตกลางกรุงปารีส อันเป็นที่เก็บซากศพของคนร่วม 6 ล้านคน ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะของ "สุสานฝังศพที่ใหญ่ที่สุดในโลก" แต่พอเข้าไปแล้วก็หาทางออกไม่ได้ ยิ่งออกนอกเส้นทางก็ยิ่งถลำลึกเข้าไปเจอกับ พื้นที่แคบ ลึก มืด และไร้อากาศมากขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนจะตามมาด้วยเหตุการณ์ประหลาด เมื่อเรื่องราวฝังใจในอดีตของแต่ละคนเริ่มโผล่มาหลอกหลอน และเล่นงานถึงขั้นเอาตาย คล้ายๆ กับเหตุการณ์ประหลาดที่กัปตัน มิลเลอร์และลูกเรือต้องเผชิญหน้าใน Event Horizon อย่างไรอย่างนั้น เพียงแต่ว่าย้ายสถานที่จากกลางอวกาศมาอยู่ในที่แคบใต้ดิน
แน่นอนว่านอกจากความหลอนแล้ว หนังยังใช้ความคับแคบของพื้นที่มาเป็นตัวสร้างความกดดันให้กับดนดูตลอดทั้งเรื่อง เช่นเดียวกับ The Descent หนังมุดถ้ำของผู้กำกับ นีล มาร์แชล ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดีพอสมควร ไม่ว่าจะในส่วนของความหลอน และความอึดอัด อย่างน้อยที่สุดเมื่อหนังจบลงและเราก้าวเท้าออกจากโรง มันสามารถทำให้เรารู้สึกดีกับการเดินเหินอย่างปกติในที่กว้างๆ พร้อมสูดอากาศหายใจเต็มปอด ได้อยู่พักใหญ่ๆ
โดยรวม จขกท. ชอบ แต่ไม่กล้าการันตีว่าทุกคนจะชอบมั้ย เพราะมันเป็นหนังที่ต้องอาศัยรสนิยมส่วนตัวเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยในระดับหนึ่ง มันอาจจะห่วยในความคิดของบางคนไปเลยอย่างที่บอกไว้ในย่อหน้าแรกๆ หรืออาจจะกลายเป็นความปลื้มสุดๆ สำหรับบางคน ยากเกินกว่าจะคาดเดา บอกได้แต่ว่าใครที่ชีวิตกำลังขาดเรื่องระทึกขวัญ As Above, So Below เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว!
คะแนน ★★★
อ่านรีวิว และข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/pages/เกรียนหนัง/112834835539518