จะทำอย่างไรให้ความไว้ใจกลับมา

เรากับสามีแต่งงานกันมาได้ 3 ปีแล้วค่ะ (ยังไม่มีลูก) ก่อนหน้านั้นคบกันมา 5 ปี รวมก็คบกันมา 8 ปีแล้ว ไม่เคยทะเลาะกัน หรือมีปัญหารุนแรงกันเลย เข้ากันได้ดีทั้งเราและเค้า รวมถึงครอบครัวของเราด้วย ก่อนหน้านี้เรากับแฟนทำงานบริษัทเดียวกัน แฟนเราเป็นที่รักของบรรดาสาว ๆ ทั้งสาวเล็กสาวใหญ่ เพราะแฟนเราใจดีค่ะ อัธยาศัยดี และหน้าตาดี ช่วงที่เราคบกันก็ได้ยินข่าวมาว่ามีน้องคนนึงแอบชอบแฟนเราอยู่ เราก็ไม่ได้อะไรมาก รู้จักกัน เห็นเป็นพี่เป็นน้องกันธรรมดา

หลังแต่งงาน เราได้งานใหม่ แฟนเราเริ่มสนิทกับกลุ่มน้องคนที่มาแอบชอบ ด้วยความที่กลุ่มนี้เค้าเป็นกลุ่มกิจกรรม บางครั้งแฟนเราขอตามไปช่วยจัดกิจกรรมที่ต่างจังหวัดด้วย เราก็ให้ไป เพราะไปกันหลายคน มีทั้งชาย/หญิง บวกกับไว้ใจ ไม่ได้คิดอะไร และช่วงหลัง ๆ สามีเรากับน้องคนนี้เริ่มคุยไลน์กันบ่อย ๆ เราก็แอบสงสัย จึงถามไปว่าทำไมคุยบ่อยจัง ตอนที่ถามนี่ก็ยังไม่ได้คิดอะไรนะ แค่น้อยใจเล็ก ๆ ว่ากลับมาบ้าน เธอสนใจชั้นบ้างสิ แค่นั้น... แต่หลังจากนั้น สามีเราเริ่มลบข้อความในไลน์ที่คุยกับน้องคนนี้ บางครั้งบังเอิญช่วงสามีไปเข้าห้องน้ำบ้าง อาบน้ำบ้าง มีไลน์เด้งเข้ามา เราก็ถือวิสาสะ แอบหยิบขึ้นมาดู ข้อความมันไม่ปะติดปะต่อ (คือมีลบข้อความที่คุยกันไปก่อนหน้า) แต่คำพูดที่ใช้กัน มองยังไงมันก็เกินเพื่อนอยู่ดี มีการใช้ฉายาเรียกกันบ้าง ฝ่ายหญิงมาหยอกทีเล่นทีจริงบ้าง คนของเราหยอกกลับบ้าง คือผู้หญิงด้วยกันมักมีเซ้นท์ และเซ้นท์เราแรงมากด้วย เราเริ่มสงสัย…

ด้วยความที่ยังไว้ใจสามีอยู่ เวลามีจัดกิจกรรม สัมมนา หรือเที่ยวที่ไหนกับกลุ่มน้องคนนี้ เราให้ไปตลอด แต่เวลาเค้าถ่ายรูป แล้ว Tag ต่อ ๆ กันมาในเฟสบุค ทำให้เรายิ่งหน้าชาขึ้นไปอีก เพราะถ้าเป็นรูปหมู่ส่วนใหญ่เค้าก็จะอยู่ใกล้กัน มีถือแขนกันบ้าง(ผู้หญิงนะ ที่มาถือแขนสามีเรา) นอนเล่น นั่งเล่นใกล้กันบ้าง รูปคู่ก็มี ซึ่งผู้ชายคนอื่นก็ไปกันเยอะแยะ เราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาถ่ายรูปคู่กับสามีเราบ่อย ๆ...สนิทกันมากขนาดนั้นเลยเหรอ?

จนวันนึง ที่เราอัดอั้นมากจนทนไม่ไหว ข้อมูลที่เราได้ยินมา เช่น ช่วงพักกลางวัน น้องคนนี้ก็ไม่อยู่โต๊ะตัวเอง ชอบมานั่งเล่นจับมือ ตีหมอนอะไรกันที่โต๊ะสามีเรา เวลาไปเที่ยวจัดกิจกรรมกัน ก็มีการดูแลเทคแคร์กันจนผิดปกติ มีการจับมือจูงมือกันแบบไม่สนใจสายตาใคร เราปรี๊ดมาก เพราะพอบวกกับข้อมูลที่เรามี มันก็พอดีกัน ว่า 2 คนนี้ คิดอะไรกันเกินพี่น้อง

เราคุยกับสามีแบบตรง ๆ ว่าเรารู้สึกไม่สบายใจ  ว่าเราได้เห็นอะไร ได้ยินอะไรมาบ้าง ลองถามว่า ถ้ามีผู้ชายคนอื่น มาทำแบบนี้ หรือเราไปทำแบบนี้กับผู้ชายคนอื่น แบบที่เค้า 2 คนทำกัน สามีเราจะโอเคไหม เค้าก็ตอบว่าไม่ แต่ยังไงสามีเราก็ยังยืนยันกับเราว่า เค้าสนิทกัน มีพูดแซวกัน มีเล่นกัน แต่สามีเราไม่ได้คิดอะไรกับน้องคนนั้นจริง ๆ ส่วนเรื่องไลน์ที่ลบ เพราะเราเคยถามเค้า เค้ากลัวเราไม่สบายใจ เค้าถึงลบไลน์ที่คุยกัน (เราว่า คำตอบมันยังไม่ใช่อ่ะ คือถ้าบริสุทธิ์ใจจริง ก็ไม่ควรจะลบ จริงไหม?) เราขอสามี ไม่ให้ลบไลน์ข้อความที่คุยกับน้องคนนั้นอีก...ถ้าหากบริสุทธิ์ใจจริง เย็นนี้เราจะกลับไปแอบเชคดู หากมีลบอีก เราคงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้ตัวเราเองรู้สึกแย่ไปกว่านี้

สรุป คือ ตอนนี้ สามีเราบอกว่า ไม่ได้คิดอะไรกับน้องคนนั้น เป็นแค่พี่น้องกัน และสนิทกันเฉย ๆ และต่อไปนี้เค้าจะเลิกทำทุกอย่างที่ว่ามาเพื่อความสบายใจของเรา และจะไม่ไปไหนมาไหนกับกลุ่มนี้อีก คือคุณอยู่บริษัทเดียวกัน คุณบอกคุณจะไม่ทำ แต่เราไม่รู้หรอกว่าเวลาคุณอยู่ที่บริษัทคุณจะไปทำอะไรที่ไหนยังไง ตอนนี้เรายังไม่ไว้ใจสามีเรา มีวิธีไหนที่จะทำให้ความเชื่อใจเรากลับมาได้ไหมคะ หรือเราควรจะจัดการกับปัญหาแบบนี้ต่อไปยังไงดี เพราะเรารู้แน่ว่าน้องคนนั้นชอบสามีเรามานานมากแล้ว ยังไม่เลิกชอบ และน่าจะชอบต่อไป ส่วนสามีเรา เรายัง 50/50 กับคำพูดของเค้า แต่ยอมรับว่า ที่ผ่านมาสามีเราเค้าดูแลเราอย่างดีมากมาโดยตลอด ดีเสมอต้นเสมอปลาย และดีเกินไปด้วยซ้ำ คนรอบข้าง (รวมทั้งพ่อ แม่ และญาติพี่น้องเรา) บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ผู้ชายแบบนี้ หาที่ไหนไม่ได้แล้วนะ และที่สำคัญ เรายังรักสามีเราอยู่มาก

ขอบคุณทุกคำตอบนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
สามีคุณแต่งงานแล้วต้องวางตัวไว้ในฐานะนึงกับสาวเพื่อนร่วมงาน  เรื่องแบบนี้ต้องรู้ตัวเอง
เพราะถือว่าเป็นการให้เกียรติคุณที่เป็นภรรยาด้วย  ความไว้ใจเรียกคืนได้ยากจริงอยู่
แต่ก็อยากให้คุณให้โอกาสสามีสักครั้ง  แล้วเช็คพฤติกรรมว่าทำได้อย่างที่รับปากไว้หรือไม่
ถ้าเขาทำได้ก็จบ แสดงว่าเขาน่าจะพลาดพลั้งเรื่องการวางตัว  แต่ถ้าทำไม่ได้ก็จัดการที่คุณคิดว่าสมควร

**ส่วนตัวไม่ได้เขื่อใจหรือวางใจอะไรสามีมากนัก  ที่ผ่านมาไม่เคยมีอะไรก็จริง
ของแบบนี้ไม่แน่นอน ....แต่เราไม่เคยระแวงหรือเคลือบแคลงอะไรนะคะ
เพราะเราจะรู้สึกไม่มีความสุขถ้าชีวิตอยู่บนความระแวงและสงสัยตลอดเวลา(เคยไม่เป็นสุขเพราะแฟนเก่า)
ทำให้ชีวิตเราจะอยู่แบบสบาย ๆ ไม่สงสัย ไม่เช็ค ไม่ระแวง คิดแต่ว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
เราจะไม่ยอมมีชีวิตอยู่บนความทุกข์ที่ต้องหวาดระแวงเด็ดขาด  เราใช้วิธีทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด
ถ้าเขาไม่เลือกที่จะอยู่กับคนที่รักเขามาก ๆ อย่างเรา ก็ตามสบายแค่นั้น  คิดแบบนี้แล้วตัวเราจะมีความสุขในทุกวันนะคะ
เราใช้วิธีคิดแบบนี้มา 17 ปีนิด ๆ ไม่มีลูกนะคะ แต่เรายังรักกันเหมือนเดิมและหวังว่าตลอดไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่