คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก กระทู้นี้ถูกลบโดยระบบอัตโนมัติทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาบรรยากาศการสนทนา ของเพื่อนสมาชิกโดยรวมค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
ขอออกความคิดเห็นจากคนสายอาชีพอื่นนะครับ
ไม่รู้จะเป็นประโยชน์ไหม เพราะผมทำงานแบบ play safe
ลงทุนไม่สูงมาโดยตลอด
- แนะนำว่าให้ตั้งจุดกระจายสินค้าคือที่ ไร่ของตัวเองก่อน
แล้วค่อยกระจายออกไป เห็นลักษณะการโยนหินลงน้ำ เพื่อประหยัดค่าขนส่ง
และสินค้าจะได้ไม่ต้องสต๊อคไว้เยอะ
- ฝากวางตามร้านขายของที่ระลึก ใกล้เคียง (ใส่ตู้แช่พร้อมดื่มจะดีมาก)
- รับตัวแทนจัดจำหน่าย หรือ เดินหน้าลุยเข้ามินิมาร์ทที่ไม่ใช่เฟรนไชส์ เพื่อไปเสนอขาย
- จัดทำสื่อโฆษณา เช่น โปสเตอร์ หรือ ธงวางหน้าร้านที่มีผลิตภัณฑ์จำหน่าย
- หาจุดแข็งของตัวเองให้เจอ แล้วพยายามดันออกมาให้ผู้ซื้อจดจำได้ง่าย
เช่น ไม่มีสารเคมี เป็นเครื่องดื่มแบบคลีน ไม่มีวัตถุกันเสีย ผลิตจากไร่แบบออแกนิค บลา บลา บลา.....
- จัดทำสื่อในโลก Social เช่น เพจเฟสบุ๊ค หรือ website เพื่อให้ลูกค้าหรือพ่อค้าที่สนใจ
ได้ทราบถึงขั้นตอนการผลิต วัตถุดิบ และติดต่อกลับมาได้สะดวก
- หากใครมาเที่ยวชมไร่ แจกเครื่องดื่มฟรี พร้อมขายให้ติดมือเป็นของฝาก ในราคาพิเศษ
และมีสินค้าแบบอื่น ๆ เช่น สตอเบอร์รี่อบแห้ง หรือ ไซรัป (ในกรณีที่จะเปิดไร่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว)
- ร่วมกันจัดกิจกรรม กับ สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น งานประจำจังหวัด
งาน event ต่าง ๆ โดยการนำสินค้าไปแจก หรือ เป็นสปอนเซอร์
(แนะนำงานบุญจะเข้าถึงคนในพื้นที่ง่ายขึ้น)
ประมาณนี้ครับ ผมไม่ได้เรียนสายนี้มาโดยตรง ใช้แต่ประสบการณ์เอา ^^"
ท้อได้ เหนื่อยได้ แต่อย่าถอย อย่าอ่อนแอ
ชีวิตนึงเราจะไปได้ไกลแค่ไหน ไปให้สุดครับ
สุดท้าย ถ้ามันไม่ไหวจริง ๆ ...............
อย่างน้อยเราก้อยังภูมิใจว่าเราเคยได้ทำตามความฝันของตัวเอง
ไม่รู้จะเป็นประโยชน์ไหม เพราะผมทำงานแบบ play safe
ลงทุนไม่สูงมาโดยตลอด
- แนะนำว่าให้ตั้งจุดกระจายสินค้าคือที่ ไร่ของตัวเองก่อน
แล้วค่อยกระจายออกไป เห็นลักษณะการโยนหินลงน้ำ เพื่อประหยัดค่าขนส่ง
และสินค้าจะได้ไม่ต้องสต๊อคไว้เยอะ
- ฝากวางตามร้านขายของที่ระลึก ใกล้เคียง (ใส่ตู้แช่พร้อมดื่มจะดีมาก)
- รับตัวแทนจัดจำหน่าย หรือ เดินหน้าลุยเข้ามินิมาร์ทที่ไม่ใช่เฟรนไชส์ เพื่อไปเสนอขาย
- จัดทำสื่อโฆษณา เช่น โปสเตอร์ หรือ ธงวางหน้าร้านที่มีผลิตภัณฑ์จำหน่าย
- หาจุดแข็งของตัวเองให้เจอ แล้วพยายามดันออกมาให้ผู้ซื้อจดจำได้ง่าย
เช่น ไม่มีสารเคมี เป็นเครื่องดื่มแบบคลีน ไม่มีวัตถุกันเสีย ผลิตจากไร่แบบออแกนิค บลา บลา บลา.....
- จัดทำสื่อในโลก Social เช่น เพจเฟสบุ๊ค หรือ website เพื่อให้ลูกค้าหรือพ่อค้าที่สนใจ
ได้ทราบถึงขั้นตอนการผลิต วัตถุดิบ และติดต่อกลับมาได้สะดวก
- หากใครมาเที่ยวชมไร่ แจกเครื่องดื่มฟรี พร้อมขายให้ติดมือเป็นของฝาก ในราคาพิเศษ
และมีสินค้าแบบอื่น ๆ เช่น สตอเบอร์รี่อบแห้ง หรือ ไซรัป (ในกรณีที่จะเปิดไร่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว)
- ร่วมกันจัดกิจกรรม กับ สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น งานประจำจังหวัด
งาน event ต่าง ๆ โดยการนำสินค้าไปแจก หรือ เป็นสปอนเซอร์
(แนะนำงานบุญจะเข้าถึงคนในพื้นที่ง่ายขึ้น)
ประมาณนี้ครับ ผมไม่ได้เรียนสายนี้มาโดยตรง ใช้แต่ประสบการณ์เอา ^^"
ท้อได้ เหนื่อยได้ แต่อย่าถอย อย่าอ่อนแอ
ชีวิตนึงเราจะไปได้ไกลแค่ไหน ไปให้สุดครับ
สุดท้าย ถ้ามันไม่ไหวจริง ๆ ...............
อย่างน้อยเราก้อยังภูมิใจว่าเราเคยได้ทำตามความฝันของตัวเอง
ความคิดเห็นที่ 104
ขออนุญาตคอมเม้นในส่วนของ Brand Identity and packaging นะคะ ก็คือ รูปลักษณ์ของสินค้าที่สื่อไปให้ผู้บริโภคทั้งหมด
1 ชื่อแบรนด์ไม่ผ่านค่ะ บ่าวน้อย ไม่มีความเป็นสากล ทำให้ดูน่ารักสดใส ของเครื่องดื่มสไตล์วัยรุ่นก็ไม่ได้ ทำให้ดูเป็นแนวชีวจิตก็ไม่ได้อีก
เขียนสะกดคำเป็นภาษาอังกฤษยิ่งแปลกไปใหญ่เลยค่ะ ชื่อแบรนด์ต้องสะดุดตามากกว่านี้ หรือดูเป็นทางการมากกว่านี้ค่ะ และต้องจำง่าย
2-3 พยางค์
2 คุณควรต้องกำหนด target ก่อนนะคะ ว่าคนที่จะซื้อของคุณ คือ ใคร เดินทางยังไงมาซื้อยังไง ทำไมต้องซื้อของคุณ
เพราะมันจะสะท้อนกลับมายังตัวโปรดักส์ การตลาด และช่องทางการขายให้ธุรกิจของเราค่ะ
สมมติ คุณจะขายวัยรุ่น วัยทำงาน แพคเกจจิ้งต้องน่ารักสดใส มีสีสันที่น่าสนใจมากกว่านี้ แล้ววัยรุ่นมักจะซื้อที่ร้านสะดวกซื้อที่ง่ายๆ
ไม่คิดอะไรมาก ไม่ค่อยดูฉลาก ถ้าสีสันน่ากิน ก็หยิบ จ่ายตัง ก็จบ ถ้ารสชาติอร่อย เค้าจะกลับมาซื้ออีก (ถ้าจดจำแบรนด์คุณได้)
แต่ถ้าคุณจะขายคนวัยทำงาน มีอายุหน่อย แพคเกจจิ้งก็จะต้องดูคลุมโทนแต่ยังน่าสนใจอยู่ สีควรจะเป็นชมพูแล้วตัวสตรอเบอร์รี่น่ะแดง
ถ้าแดงหมด มันดูอันตราย ไม่งั้นก็ต้องเป็นแดงแบบสตรอเบอร์รี่ลูกใหญ่ๆ สดๆ ที่ดูน่ากินๆ คนวัยนี้มักจะเริ่มดูฉลาก เลือกนาน คิดเยอะ
หรือถ้าคุณจะเลือก target ที่รักสุขภาพ เน้นชีวจิต ต้องคลีน ดูน่ากิน แพกเกจจิ้งแบบงานออแกนิค ราคาแพงได้ คนที่รักสุขภาพมักยอมจ่ายอยู่แล้ว
แต่ผลไม้คุณก็ต้องคลีนจริงๆ คือ มีความเป็นผลไม้สด ไม่ใส่สารกันเสีย ไม่ใส่น้ำตาล อะไรก็ว่าไป ซึ่งแต่ละกลุ่ม target จะมีรูปแบบที่เราต้องพรีเซ็นท์ต่างกันหมดเลยค่ะ คราวนี้พอถ้าเราได้ target ที่แน่นอนแล้ว เราก็จะได้คำตอบถัดมาว่า target นั้นๆ เค้ามักจะไปซื้อเครื่องดื่มนี้ที่ไหน
เราก็ไปขายที่ช่องทางนั้นแหละ ต่อมาก็จะได้ในเรื่องของราคา และอื่นๆในการทำธุรกิจ อีกปลีกย่อยและเยอะแยะตามมา
หรือถ้าคุณจะเลือกเน้นขายนักท่องเที่ยว (เช่นคนที่มาเที่ยวที่ไร่ของคุณ) แพคเกจจิ้งควรจะต้องเป็นอะไรที่น่าซื้อไปเป็นของฝาก สวย ดูเป็นของฝากได้ เหมือนขนมประเทศญี่ปุ่นที่ฟีเวอร์สุดๆ เพราะมันน่าซื้อมาเป็นของฝากไงคะ การออกแบบก็จะต่างไปอีก
3 ไม่ว่าคุณจะขายกลุ่ม target ใด ระดับตลาดใดก็ตาม แบรนดิ้งและแพคเกจจิ้ง สำคัญมากค่ะ ท่ามกลางเครื่องดื่มนับร้อยพันที่มีอยู่ในตลาด
เราจะเข้าไปร่วมแข่งขัน เราก็ต้องมีจุดเด่นที่น่าสนใจ สิ่งแรกที่ลูกค้าเห็นก็คือ แบรนด์ดิ้งและแพกเกจนั่นแหละ ไม่ได้ชิมก่อนซื้อ
ถ้าทำตรงนี้ไม่โดน การตัดสินใจซื้อไม่เกิดแน่ๆ ถัดมาคือเรื่องรสชาติ ราคา คุณภาพ ซึ่งถือเป็นการสร้างแบรนด์ในระยะยาว และลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ
4 การแจกฝา ชิงโชค เหมือนแบรนด์ชาเขียว สาเหตุที่ทำแบบนั้นเพราะ เค้าทุ่มเพื่ออยากให้แบรนด์ติดหู อยากให้ติดตลาดเร็วๆ
เริ่มทำแบรนด์ใหม่ แต่วันนี้เค้าหลายเป็นเจ้าใหญ่เจ้าหนึ่งไปแล้วในวงการชาเขียว ต้องแยกให้ดีนะคะ คุณทำโปรโมชันเพื่ออะไร
เพื่อส่งเสริมการขาย หรือ เพื่อทดลองตลาด หรือ เพื่อสร้างแบรนด์ให้คนจดจำแบรนด์ได้ มันมีแนวทางไม่เหมือนแจกของขวัญเด็กนะคะ
ที่คุณบอกว่า ซื้อของคุณ นำฝามาเข้าไร่ฟรี อะไรแบบนี้ มันไม่น่าสนใจเลย มันเหมือนคุณคิดแค่ว่า มาซื้อของฉันสิ ได้เข้าไร่ฉันฟรีนะ
คำถามถัดมาที่ลูกค้าจะคิด คือ ทำไมต้องซื้อ แล้วทำไมต้องไปไร่ของคุณด้วย ไร่อยู่ที่ไหน แล้วถ้าลูกค้ามาเที่ยว แบบเป็นทางผ่านหรือตั้งใจมาหรืออะไรก็แล้วแต่ เค้าต้องเตรียมฝามาด้วยขนาดนั้นเลยเหรอคะ ลืมก็ไม่ได้อีก ลูกค้าได้อะไรอีกไหมนอกจากนี้
เพราะฉะนั้นโปรโมชั่นที่ทำก่อนลุยตลาดก็ดี หรือจะตอนทำธุรกิจก็ดี มันต้องคิดจาก target และช่องทางการขาย ปรับให้เข้ากัน
อะสมมติ คุณจะให้ฝาคือเข้าชมไร่ฟรี คุณต้องเน้นขายในจังหวัดเชียงราย เน้นคนในพื้นที่ สื่อสารไปว่า ไร่คุณมีดีอะไร ทำไมต้องน่าไปเที่ยว
อาจจะนำสินค้าไปวางตามสถานีขนส่ง อาจจะทำป้ายโฆษณาติดตามรถสี่ล้อในจังหวัด ทำป้ายทำโบรชัวร์ตามสถานที่ท่องเที่ยว
ติดต่อดีลงานกับกรุ๊ปทัวร์ให้มาเที่ยวที่ไร่คุณ ให้ลูกค้าได้ลองชิม ได้ลองซื้อเป็นของฝาก
เราคิดว่า คุณน่าจะเริ่มจากตรงนี้ก่อน แล้วค่อยลุยตลาดที่ใหญ่ขึ้นน่ะค่ะ
4 คราวนี้พอเริ่มระบายของล็อตแรกได้ ก็ต้องสร้างแบรนด์ต่อเนื่องอีก ให้คนรับรู้แบรนด์ ต้องมีแผนสอง สาม สี่ตามมาค่ะ
เช่น จะทำอะไรเพิ่มจากสตรอร์เบอร์รี่ไหม หรือ ทำสูตรต่างๆเพิ่มที่น่าสนใจขึ้น แล้วก็ปรับแพคเกจให้หลากหลาย รับกับกลุ่มทาเก็ตใหม่ๆ
หรือตลาดใหม่ๆค่ะ มันถึงจะดีในระยะยาวด้วย
เท่าที่คิดได้ก็ประมาณนี้นะคะ หนี่งแสนขวด จะว่าเยอะมั้ย ก็เยอะอยู่ แต่เครื่องดื่มเป็นอะไรที่ขายดี และน่าจะขายง่ายกว่าหลายๆอย่าง
ตอนนี้ทำอะไรได้ต้องทำเลยค่ะ อย่าเพิ่งคิดถึงตลาดใหญ่ ว่าจะลงห้าง ลงเซเว่นอะไร เอาที่ที่ติดต่อง่ายๆ ทำได้เลย ก็เช่นที่ไร่คุณ
ในเชียงรายเป็นหลัก แม่สาย แหล่งท่องเที่ยวอะไรก็ตามไปเก็บให้หมดค่ะ เสนอวางขาย ทำการตลาดแบบลุยก็ต้องลุยล่ะค่ะ มาขนาดนี้แล้ว
พอเริ่มจับทางได้ ค่อยขยับขยายไปเรื่อยๆค่ะ ต้องมีวันหนึ่งแหละที่มันติดตลาด ยังไงก็สู้ๆนะคะ
สุดท้ายนี้ก็อยากจะฝาก รูปแบบแบรนด์ดิ้งและแพคเกจจิ้งที่น่าสนใจ รูปแบบขวดมันอาจจะดูซับซ้อน ทำยาก และมีต้นทุนสูง
แต่จะสื่อว่า เราทำเป็นกล่องกระดาษก็ยังได้ หรือทำเป็นขวดรูปแบบปกติทั่วไปก็ได้ แต่การสื่อสาร ภาพวาด ลายเส้น สี มันทำได้ที่ฉลากมากกว่า
และสิ่งนี้แหล่ะค่ะที่ทำให้คนตัดสินใจจะลองซื้อมากินดูหรือไม่
1 ชื่อแบรนด์ไม่ผ่านค่ะ บ่าวน้อย ไม่มีความเป็นสากล ทำให้ดูน่ารักสดใส ของเครื่องดื่มสไตล์วัยรุ่นก็ไม่ได้ ทำให้ดูเป็นแนวชีวจิตก็ไม่ได้อีก
เขียนสะกดคำเป็นภาษาอังกฤษยิ่งแปลกไปใหญ่เลยค่ะ ชื่อแบรนด์ต้องสะดุดตามากกว่านี้ หรือดูเป็นทางการมากกว่านี้ค่ะ และต้องจำง่าย
2-3 พยางค์
2 คุณควรต้องกำหนด target ก่อนนะคะ ว่าคนที่จะซื้อของคุณ คือ ใคร เดินทางยังไงมาซื้อยังไง ทำไมต้องซื้อของคุณ
เพราะมันจะสะท้อนกลับมายังตัวโปรดักส์ การตลาด และช่องทางการขายให้ธุรกิจของเราค่ะ
สมมติ คุณจะขายวัยรุ่น วัยทำงาน แพคเกจจิ้งต้องน่ารักสดใส มีสีสันที่น่าสนใจมากกว่านี้ แล้ววัยรุ่นมักจะซื้อที่ร้านสะดวกซื้อที่ง่ายๆ
ไม่คิดอะไรมาก ไม่ค่อยดูฉลาก ถ้าสีสันน่ากิน ก็หยิบ จ่ายตัง ก็จบ ถ้ารสชาติอร่อย เค้าจะกลับมาซื้ออีก (ถ้าจดจำแบรนด์คุณได้)
แต่ถ้าคุณจะขายคนวัยทำงาน มีอายุหน่อย แพคเกจจิ้งก็จะต้องดูคลุมโทนแต่ยังน่าสนใจอยู่ สีควรจะเป็นชมพูแล้วตัวสตรอเบอร์รี่น่ะแดง
ถ้าแดงหมด มันดูอันตราย ไม่งั้นก็ต้องเป็นแดงแบบสตรอเบอร์รี่ลูกใหญ่ๆ สดๆ ที่ดูน่ากินๆ คนวัยนี้มักจะเริ่มดูฉลาก เลือกนาน คิดเยอะ
หรือถ้าคุณจะเลือก target ที่รักสุขภาพ เน้นชีวจิต ต้องคลีน ดูน่ากิน แพกเกจจิ้งแบบงานออแกนิค ราคาแพงได้ คนที่รักสุขภาพมักยอมจ่ายอยู่แล้ว
แต่ผลไม้คุณก็ต้องคลีนจริงๆ คือ มีความเป็นผลไม้สด ไม่ใส่สารกันเสีย ไม่ใส่น้ำตาล อะไรก็ว่าไป ซึ่งแต่ละกลุ่ม target จะมีรูปแบบที่เราต้องพรีเซ็นท์ต่างกันหมดเลยค่ะ คราวนี้พอถ้าเราได้ target ที่แน่นอนแล้ว เราก็จะได้คำตอบถัดมาว่า target นั้นๆ เค้ามักจะไปซื้อเครื่องดื่มนี้ที่ไหน
เราก็ไปขายที่ช่องทางนั้นแหละ ต่อมาก็จะได้ในเรื่องของราคา และอื่นๆในการทำธุรกิจ อีกปลีกย่อยและเยอะแยะตามมา
หรือถ้าคุณจะเลือกเน้นขายนักท่องเที่ยว (เช่นคนที่มาเที่ยวที่ไร่ของคุณ) แพคเกจจิ้งควรจะต้องเป็นอะไรที่น่าซื้อไปเป็นของฝาก สวย ดูเป็นของฝากได้ เหมือนขนมประเทศญี่ปุ่นที่ฟีเวอร์สุดๆ เพราะมันน่าซื้อมาเป็นของฝากไงคะ การออกแบบก็จะต่างไปอีก
3 ไม่ว่าคุณจะขายกลุ่ม target ใด ระดับตลาดใดก็ตาม แบรนดิ้งและแพคเกจจิ้ง สำคัญมากค่ะ ท่ามกลางเครื่องดื่มนับร้อยพันที่มีอยู่ในตลาด
เราจะเข้าไปร่วมแข่งขัน เราก็ต้องมีจุดเด่นที่น่าสนใจ สิ่งแรกที่ลูกค้าเห็นก็คือ แบรนด์ดิ้งและแพกเกจนั่นแหละ ไม่ได้ชิมก่อนซื้อ
ถ้าทำตรงนี้ไม่โดน การตัดสินใจซื้อไม่เกิดแน่ๆ ถัดมาคือเรื่องรสชาติ ราคา คุณภาพ ซึ่งถือเป็นการสร้างแบรนด์ในระยะยาว และลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ
4 การแจกฝา ชิงโชค เหมือนแบรนด์ชาเขียว สาเหตุที่ทำแบบนั้นเพราะ เค้าทุ่มเพื่ออยากให้แบรนด์ติดหู อยากให้ติดตลาดเร็วๆ
เริ่มทำแบรนด์ใหม่ แต่วันนี้เค้าหลายเป็นเจ้าใหญ่เจ้าหนึ่งไปแล้วในวงการชาเขียว ต้องแยกให้ดีนะคะ คุณทำโปรโมชันเพื่ออะไร
เพื่อส่งเสริมการขาย หรือ เพื่อทดลองตลาด หรือ เพื่อสร้างแบรนด์ให้คนจดจำแบรนด์ได้ มันมีแนวทางไม่เหมือนแจกของขวัญเด็กนะคะ
ที่คุณบอกว่า ซื้อของคุณ นำฝามาเข้าไร่ฟรี อะไรแบบนี้ มันไม่น่าสนใจเลย มันเหมือนคุณคิดแค่ว่า มาซื้อของฉันสิ ได้เข้าไร่ฉันฟรีนะ
คำถามถัดมาที่ลูกค้าจะคิด คือ ทำไมต้องซื้อ แล้วทำไมต้องไปไร่ของคุณด้วย ไร่อยู่ที่ไหน แล้วถ้าลูกค้ามาเที่ยว แบบเป็นทางผ่านหรือตั้งใจมาหรืออะไรก็แล้วแต่ เค้าต้องเตรียมฝามาด้วยขนาดนั้นเลยเหรอคะ ลืมก็ไม่ได้อีก ลูกค้าได้อะไรอีกไหมนอกจากนี้
เพราะฉะนั้นโปรโมชั่นที่ทำก่อนลุยตลาดก็ดี หรือจะตอนทำธุรกิจก็ดี มันต้องคิดจาก target และช่องทางการขาย ปรับให้เข้ากัน
อะสมมติ คุณจะให้ฝาคือเข้าชมไร่ฟรี คุณต้องเน้นขายในจังหวัดเชียงราย เน้นคนในพื้นที่ สื่อสารไปว่า ไร่คุณมีดีอะไร ทำไมต้องน่าไปเที่ยว
อาจจะนำสินค้าไปวางตามสถานีขนส่ง อาจจะทำป้ายโฆษณาติดตามรถสี่ล้อในจังหวัด ทำป้ายทำโบรชัวร์ตามสถานที่ท่องเที่ยว
ติดต่อดีลงานกับกรุ๊ปทัวร์ให้มาเที่ยวที่ไร่คุณ ให้ลูกค้าได้ลองชิม ได้ลองซื้อเป็นของฝาก
เราคิดว่า คุณน่าจะเริ่มจากตรงนี้ก่อน แล้วค่อยลุยตลาดที่ใหญ่ขึ้นน่ะค่ะ
4 คราวนี้พอเริ่มระบายของล็อตแรกได้ ก็ต้องสร้างแบรนด์ต่อเนื่องอีก ให้คนรับรู้แบรนด์ ต้องมีแผนสอง สาม สี่ตามมาค่ะ
เช่น จะทำอะไรเพิ่มจากสตรอร์เบอร์รี่ไหม หรือ ทำสูตรต่างๆเพิ่มที่น่าสนใจขึ้น แล้วก็ปรับแพคเกจให้หลากหลาย รับกับกลุ่มทาเก็ตใหม่ๆ
หรือตลาดใหม่ๆค่ะ มันถึงจะดีในระยะยาวด้วย
เท่าที่คิดได้ก็ประมาณนี้นะคะ หนี่งแสนขวด จะว่าเยอะมั้ย ก็เยอะอยู่ แต่เครื่องดื่มเป็นอะไรที่ขายดี และน่าจะขายง่ายกว่าหลายๆอย่าง
ตอนนี้ทำอะไรได้ต้องทำเลยค่ะ อย่าเพิ่งคิดถึงตลาดใหญ่ ว่าจะลงห้าง ลงเซเว่นอะไร เอาที่ที่ติดต่อง่ายๆ ทำได้เลย ก็เช่นที่ไร่คุณ
ในเชียงรายเป็นหลัก แม่สาย แหล่งท่องเที่ยวอะไรก็ตามไปเก็บให้หมดค่ะ เสนอวางขาย ทำการตลาดแบบลุยก็ต้องลุยล่ะค่ะ มาขนาดนี้แล้ว
พอเริ่มจับทางได้ ค่อยขยับขยายไปเรื่อยๆค่ะ ต้องมีวันหนึ่งแหละที่มันติดตลาด ยังไงก็สู้ๆนะคะ
สุดท้ายนี้ก็อยากจะฝาก รูปแบบแบรนด์ดิ้งและแพคเกจจิ้งที่น่าสนใจ รูปแบบขวดมันอาจจะดูซับซ้อน ทำยาก และมีต้นทุนสูง
แต่จะสื่อว่า เราทำเป็นกล่องกระดาษก็ยังได้ หรือทำเป็นขวดรูปแบบปกติทั่วไปก็ได้ แต่การสื่อสาร ภาพวาด ลายเส้น สี มันทำได้ที่ฉลากมากกว่า
และสิ่งนี้แหล่ะค่ะที่ทำให้คนตัดสินใจจะลองซื้อมากินดูหรือไม่
ความคิดเห็นที่ 17
###############################################################
แคชของ Google กระทู้หลังกระทู้นี้เรื่อง "อย่ามาดูถูกความฝันของผม!"
http://ppantip.com/topic/32615323
http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:YzNsRdeyV4wJ:ppantip.com/topic/32615323+&cd=1&hl=th&ct=clnk&gl=th
ที่คุณเพิ่งลบไปมันจะอยู่ในใจเรา ในคอมเรา ในกูเกิลไปอีกนาน
ดังนั้นขออนุญาตลบความเห็นนี้ทิ้ง เพราะประโยคสิ่งที่จขกทพิมพ์ในกระทู้ข้างบน
รวมถึงที่จขกท แคปคอมเม้นของแต่ละท่านในกระทู้นี้ไปตั้งกระทู้ใหม่แล้วโพสด่า
ส่วนนี่เราฝากถึง จขกท นะคะ ขอไม่ตอบหลังไมค์คุณละกัน
* ถ้าลบกระทู้นั้น ช่วยลบกระทู้นี้ด้วยเลยค่ะ
อย่าให้คนที่เค้ามาช่วยคุณ แต่คุณกลับมองพวกเค้าในแง่ร้ายๆ
ปล่อยให้เค้าเสียเวลามาพิมพ์ให้คุณอีกเลย ทั้งๆที่คุณไม่เห็นค่าอะไรเลย
และคุณไม่พร้อมแม้แต่จะรับฟัง
ถ้าคุณจะแค่ตั้งกระทู้เพื่อมาโฆษณาแบรนด์ โฆษณาตัวเอง
แบบที่ใครอ่านอีกกระทู้คงรู้สึกว่าคุณไม่ได้รักสังคมที่นี่อย่างแท้จริง
คุณแค่จะหาประโยชน์เท่านั้น แถมคุณสร้างกระแสด้วยการดราม่าเอาพวกเรามาด่าเนี่ยนะ
พอไม่ได้ผล คุณก็ลบกระทู้นั้นทิ้ง เอาให้เหลือแต่ด้านดีๆ ที่คนสนใจเยอะๆ
ท่องไว้เสมอทุกคนอาจเป็นลูกค้าในอนาคต และคุณกำลังด่าลูกค้าอยู่
** ที่เรามาแก้เม้นนี้เพราะเราเห็นมุมมองที่แท้จริงที่คุณมีต่อคนในนี้แล้ว
และถ้าคุณไม่อยากรับฟังความเห็นที่แท้จริง ก็ลบกระทู้เถอะค่ะ
*** เราติดตามกระทู้คุณแทบทุกวันนะ คิดไอเดียเรื่องธุรกิจคุณเพิ่มได้หลายกระเด็น
คิดว่าถ้า จขกท ยังอ่านกระทู้นี้อยู่หรือมาโพสความเคลื่อนไหวคงได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้
คุณก็เหมือนเมล็ดสตรอว์เบอร์รี่ที่เริ่มเพาะกำลังจะเป็นต้นกล้า ที่เรามองรอดูมันผลิดอกออกผล
แต่ตอนนี้เราว่าต้นกล้ามันเริ่มเหี่ยวเฉาแล้ว เพราะไม่ยอมรับน้ำ รับปุ๋ย จากใครเลย
ฝากถึงผู้ที่จะแสดงความเห็นในกระทู้นี้นะคะ
* ห้ามพิมพ์ว่าเจ๊ง
* ห้ามพิมพ์ตำหนิชื่อแบรนด์หรือขอให้เปลี่ยนชื่อ
เพราะชื่อ จขกทคิดว่ามันน่ารักและมีความหมายกับ จขกท
ในฐานะผู้บริโภคคุณมีหน้าที่ต้องรู้ความหมาย และต้องเห็นด้วยเท่านั้น!!!
* ห้ามบอก จขกท ไม่ให้แบ่งผลกำไรเพื่อสังคม
ไม่งั้นจะโดนว่าว่า คุณกล่าวร้ายจขกท ดูหมิ่น ดูถูก จขกท
และตามด้วยแขวะว่า อย่ามาตอบกระทู้ว่าไม่ใช่ลูกคุณ คุณไม่สนใจอีกล่ะ...
พูดง่ายๆก็ว่าเป็นพวกเห็นแก่ตัวนั่นละ
* ห้ามพูดเรื่องฝาแลกเข้าไร่ฟรี
ถ้าคุณไม่เห็นด้วย จขกทจะคิดว่าคุณมันพวกไม่รู้จักเค้ายังจะมาวิจารณ์ และคุณกำลังด่าไร่จขกทไม่มีค่าอยู่
* ต้องอ่านประวัติความเป็นมาของจขกทก่อน ไม่งั้นห้ามวิจารณ์
* ถ้าคุณไม่เคยทำประโยชน์ให้สังคม ห้ามวิจารณ์ จขกท
ไม่งั้นอาจโดนด่าว่าเอาเท้าราน้ำแล้วด่าๆๆๆตัวเองไม่ทำห่..ไรเลย หรือ คนโลกแคบมากๆ
* ห้ามเอาแบรนด์ จขกท ไปเปรียบกับแบรนด์อื่นว่าเหมือน
* ถ้าคุณเคยซื้อน้ำแต่งกลิ่น หรือเครื่องดื่มที่ใส่น้ำตาล (แม้ของ จขกท ก็ใส่น้ำตาลก็เถอะ)
คุณจะเป็นคนโง่ที่โดนหลอกให้ซื้อของ ยกเว้นจะซื้อของ จขกท
ส่วนบริษัทน้ำทั้งหลายนะคะ คุณรู้ไหมคุณกำลังหลอกลูกค้าไม่สนใจสุขภาพผู้บริโภค
ไม่เชื่อถาม จขกท ดูสิ
ถ้าคุณไม่ทำตามจะโดนแคปหน้าจอไปตั้งกระทู้ด่า นะคะ ขอเตือน!!!!!
แคชของ Google กระทู้หลังกระทู้นี้เรื่อง "อย่ามาดูถูกความฝันของผม!"
http://ppantip.com/topic/32615323
http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:YzNsRdeyV4wJ:ppantip.com/topic/32615323+&cd=1&hl=th&ct=clnk&gl=th
ที่คุณเพิ่งลบไปมันจะอยู่ในใจเรา ในคอมเรา ในกูเกิลไปอีกนาน
ดังนั้นขออนุญาตลบความเห็นนี้ทิ้ง เพราะประโยคสิ่งที่จขกทพิมพ์ในกระทู้ข้างบน
รวมถึงที่จขกท แคปคอมเม้นของแต่ละท่านในกระทู้นี้ไปตั้งกระทู้ใหม่แล้วโพสด่า
ส่วนนี่เราฝากถึง จขกท นะคะ ขอไม่ตอบหลังไมค์คุณละกัน
* ถ้าลบกระทู้นั้น ช่วยลบกระทู้นี้ด้วยเลยค่ะ
อย่าให้คนที่เค้ามาช่วยคุณ แต่คุณกลับมองพวกเค้าในแง่ร้ายๆ
ปล่อยให้เค้าเสียเวลามาพิมพ์ให้คุณอีกเลย ทั้งๆที่คุณไม่เห็นค่าอะไรเลย
และคุณไม่พร้อมแม้แต่จะรับฟัง
ถ้าคุณจะแค่ตั้งกระทู้เพื่อมาโฆษณาแบรนด์ โฆษณาตัวเอง
แบบที่ใครอ่านอีกกระทู้คงรู้สึกว่าคุณไม่ได้รักสังคมที่นี่อย่างแท้จริง
คุณแค่จะหาประโยชน์เท่านั้น แถมคุณสร้างกระแสด้วยการดราม่าเอาพวกเรามาด่าเนี่ยนะ
พอไม่ได้ผล คุณก็ลบกระทู้นั้นทิ้ง เอาให้เหลือแต่ด้านดีๆ ที่คนสนใจเยอะๆ
ท่องไว้เสมอทุกคนอาจเป็นลูกค้าในอนาคต และคุณกำลังด่าลูกค้าอยู่
** ที่เรามาแก้เม้นนี้เพราะเราเห็นมุมมองที่แท้จริงที่คุณมีต่อคนในนี้แล้ว
และถ้าคุณไม่อยากรับฟังความเห็นที่แท้จริง ก็ลบกระทู้เถอะค่ะ
*** เราติดตามกระทู้คุณแทบทุกวันนะ คิดไอเดียเรื่องธุรกิจคุณเพิ่มได้หลายกระเด็น
คิดว่าถ้า จขกท ยังอ่านกระทู้นี้อยู่หรือมาโพสความเคลื่อนไหวคงได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้
คุณก็เหมือนเมล็ดสตรอว์เบอร์รี่ที่เริ่มเพาะกำลังจะเป็นต้นกล้า ที่เรามองรอดูมันผลิดอกออกผล
แต่ตอนนี้เราว่าต้นกล้ามันเริ่มเหี่ยวเฉาแล้ว เพราะไม่ยอมรับน้ำ รับปุ๋ย จากใครเลย
ฝากถึงผู้ที่จะแสดงความเห็นในกระทู้นี้นะคะ
* ห้ามพิมพ์ว่าเจ๊ง
* ห้ามพิมพ์ตำหนิชื่อแบรนด์หรือขอให้เปลี่ยนชื่อ
เพราะชื่อ จขกทคิดว่ามันน่ารักและมีความหมายกับ จขกท
ในฐานะผู้บริโภคคุณมีหน้าที่ต้องรู้ความหมาย และต้องเห็นด้วยเท่านั้น!!!
* ห้ามบอก จขกท ไม่ให้แบ่งผลกำไรเพื่อสังคม
ไม่งั้นจะโดนว่าว่า คุณกล่าวร้ายจขกท ดูหมิ่น ดูถูก จขกท
และตามด้วยแขวะว่า อย่ามาตอบกระทู้ว่าไม่ใช่ลูกคุณ คุณไม่สนใจอีกล่ะ...
พูดง่ายๆก็ว่าเป็นพวกเห็นแก่ตัวนั่นละ
* ห้ามพูดเรื่องฝาแลกเข้าไร่ฟรี
ถ้าคุณไม่เห็นด้วย จขกทจะคิดว่าคุณมันพวกไม่รู้จักเค้ายังจะมาวิจารณ์ และคุณกำลังด่าไร่จขกทไม่มีค่าอยู่
* ต้องอ่านประวัติความเป็นมาของจขกทก่อน ไม่งั้นห้ามวิจารณ์
* ถ้าคุณไม่เคยทำประโยชน์ให้สังคม ห้ามวิจารณ์ จขกท
ไม่งั้นอาจโดนด่าว่าเอาเท้าราน้ำแล้วด่าๆๆๆตัวเองไม่ทำห่..ไรเลย หรือ คนโลกแคบมากๆ
* ห้ามเอาแบรนด์ จขกท ไปเปรียบกับแบรนด์อื่นว่าเหมือน
* ถ้าคุณเคยซื้อน้ำแต่งกลิ่น หรือเครื่องดื่มที่ใส่น้ำตาล (แม้ของ จขกท ก็ใส่น้ำตาลก็เถอะ)
คุณจะเป็นคนโง่ที่โดนหลอกให้ซื้อของ ยกเว้นจะซื้อของ จขกท
ส่วนบริษัทน้ำทั้งหลายนะคะ คุณรู้ไหมคุณกำลังหลอกลูกค้าไม่สนใจสุขภาพผู้บริโภค
ไม่เชื่อถาม จขกท ดูสิ
ถ้าคุณไม่ทำตามจะโดนแคปหน้าจอไปตั้งกระทู้ด่า นะคะ ขอเตือน!!!!!
ความคิดเห็นที่ 28
คทุ่มสุดตัวแบบนี้ ไม่มีก๊อกสอง หมดแล้วหมดเลยครับ
มีทีมงานการตลาด ทีมจัดส่ง ทีมงานออฟฟิดหรือยังครับ ที่สำคัญเงินหมุนเวียนหรือยังครับ
การผลิตจำนวนมากๆ เป็นเรื่องง่าย แต่การขายสำคัญกว่ามาก คุณควรวิ่งหาตลาดรองรับไว้ก่อน
ลุยเดี่ยวแบบนี้ไม่มีทีมงาน ไม่เคยอยู่ธุรกิจแบบนี้มาก่อน คิดแบบโลกสวย ผมว่าคุณจะเจอปัญหานะครับ ผมทำงานฝ่ายขาย
ผมแนะนำคุณให้เปิดตลาดก่อนผลิต ในจังหวัดเชียงรายบ้านเกิดของคุณ โดยคุณต้องทำตามขั้นตอนการเปิดตลาดสินค้า
ดังนี้
1.สำรวจตลาด ไปตามร้านค้าของชำทุกอำเภอ ลองเสนอสินค้าของคุณ มีคนสนใจไหม
2.เลือกตัวแทน ระหว่างสำรวจตลาดถ้ามีคนสนใจ ก็ให้เขาเป็นตัวแทนคุณในเขตอำเภอนั้นๆ
3.เมื่อมั่นใจว่าได้ยอดขายที่พอกับทีผลิต ก็สั่งผลิต มาถึงตอนกระจายของเข้าตัวแทน คุณวิ่งเองไม่ทันแน่ต้องมีทีมจัดส่ง
4.การขายสินค้า ใหม่ๆขายเงินสดได้ยาก ถ้าจะเป็นเงินสด ต้องราคาต่ำ ปล่อยหนี้ต้องมีคนเก็บเงิน มีทุนหมุนเวียน
5.การตั้งราคา ไปดูที่ 7มีหลายราคา12บาทก็มี ต้องเอาราคา 15 บาท-กำไรร้านค้า-ค่าขนส่ง-ค่าจัดการ-ต้นทุนการผลิต
กำไรจะเหลือเท่าไหร่ ของพวกนี้กำไรต่อหน่วยน้อยต้องผลิตมากๆ จ้างผลิตน้อย คุ้มหรือไม่
6.ความอึด ของแบบนี้ต้องใช้เวลานาน เงินทุนสูง เพราะจะโดนเจ้าๆใหญ่ๆทุบ
ขอโทษที่ไม่เห็นด้วย แต่ความจริงของโลกค้าขายเป็นแบบนี้
ข้อแนะนำถ้าอยากจะทำ
1 ลองแบบเล็กๆ ทำรูปแบบวิสาหกิจชุมชน หรือ otop ทำขายในงานต่างๆเพื่อศึกษาตลาด
แบบนี้ราชการจะมีอบรมให้ มีงบสนับสนุน
2.คุณลองไปสำรวจตลาดที่เขาขายน้ำสตอเบอรี่ เส้นแม่สายแม่จัน เขาขายราคาเท่าไหร่ ขายได้วันละกี่ขวด
ต้นทุนและวิธีการผลิตเป็นอย่างไร
3.การทำธุรกิจต้องทำจากเล็กๆไปใหญ่ ผิดทางเริ่มใหม่ได้ ถ้ามาฟอร์มใหญ่ เจ็บลึกและกว่าจะเริ่มใหม่ได้นานและยาก
สุดท้ายอย่ามองแต่ด้านดี ต้องมองด้านร้ายและแนวทางแก้ไข
ขอให้ศึกษาดีๆ และ ทำสำเร็จครับ
มีทีมงานการตลาด ทีมจัดส่ง ทีมงานออฟฟิดหรือยังครับ ที่สำคัญเงินหมุนเวียนหรือยังครับ
การผลิตจำนวนมากๆ เป็นเรื่องง่าย แต่การขายสำคัญกว่ามาก คุณควรวิ่งหาตลาดรองรับไว้ก่อน
ลุยเดี่ยวแบบนี้ไม่มีทีมงาน ไม่เคยอยู่ธุรกิจแบบนี้มาก่อน คิดแบบโลกสวย ผมว่าคุณจะเจอปัญหานะครับ ผมทำงานฝ่ายขาย
ผมแนะนำคุณให้เปิดตลาดก่อนผลิต ในจังหวัดเชียงรายบ้านเกิดของคุณ โดยคุณต้องทำตามขั้นตอนการเปิดตลาดสินค้า
ดังนี้
1.สำรวจตลาด ไปตามร้านค้าของชำทุกอำเภอ ลองเสนอสินค้าของคุณ มีคนสนใจไหม
2.เลือกตัวแทน ระหว่างสำรวจตลาดถ้ามีคนสนใจ ก็ให้เขาเป็นตัวแทนคุณในเขตอำเภอนั้นๆ
3.เมื่อมั่นใจว่าได้ยอดขายที่พอกับทีผลิต ก็สั่งผลิต มาถึงตอนกระจายของเข้าตัวแทน คุณวิ่งเองไม่ทันแน่ต้องมีทีมจัดส่ง
4.การขายสินค้า ใหม่ๆขายเงินสดได้ยาก ถ้าจะเป็นเงินสด ต้องราคาต่ำ ปล่อยหนี้ต้องมีคนเก็บเงิน มีทุนหมุนเวียน
5.การตั้งราคา ไปดูที่ 7มีหลายราคา12บาทก็มี ต้องเอาราคา 15 บาท-กำไรร้านค้า-ค่าขนส่ง-ค่าจัดการ-ต้นทุนการผลิต
กำไรจะเหลือเท่าไหร่ ของพวกนี้กำไรต่อหน่วยน้อยต้องผลิตมากๆ จ้างผลิตน้อย คุ้มหรือไม่
6.ความอึด ของแบบนี้ต้องใช้เวลานาน เงินทุนสูง เพราะจะโดนเจ้าๆใหญ่ๆทุบ
ขอโทษที่ไม่เห็นด้วย แต่ความจริงของโลกค้าขายเป็นแบบนี้
ข้อแนะนำถ้าอยากจะทำ
1 ลองแบบเล็กๆ ทำรูปแบบวิสาหกิจชุมชน หรือ otop ทำขายในงานต่างๆเพื่อศึกษาตลาด
แบบนี้ราชการจะมีอบรมให้ มีงบสนับสนุน
2.คุณลองไปสำรวจตลาดที่เขาขายน้ำสตอเบอรี่ เส้นแม่สายแม่จัน เขาขายราคาเท่าไหร่ ขายได้วันละกี่ขวด
ต้นทุนและวิธีการผลิตเป็นอย่างไร
3.การทำธุรกิจต้องทำจากเล็กๆไปใหญ่ ผิดทางเริ่มใหม่ได้ ถ้ามาฟอร์มใหญ่ เจ็บลึกและกว่าจะเริ่มใหม่ได้นานและยาก
สุดท้ายอย่ามองแต่ด้านดี ต้องมองด้านร้ายและแนวทางแก้ไข
ขอให้ศึกษาดีๆ และ ทำสำเร็จครับ
ความคิดเห็นที่ 14
เรื่องบรรจุภัณฑ์ผมดูแล้วรู้ว่ามันเหมือนขวดนมเปรี้ยวไม่ก้โยเกิตอ่ะครับ อาจเพราะขวดมันขาวขุ่น อันนี้ความรู้สึกล้วนๆ
ผมชอบแบบ เป็นขวดใสๆ ให้เห็นสีของน้ำผลไม้มากกว่าครับ
เรื่องการตลาด ผมว่าน่าจะทำให้เป็นที่รู้จักในจังหวัด และในภาคเหนือก่อน อาจเน้นทำเพื่อให้เป็นของฝาก และค่อยๆขยายไป
โดยส่วนตัว ถ้านึกถึงน้ำสตรอว์เบอร์รี่ แบรนแรกที่ลอยมาในหัวคือดอยคำ
แต่มันก้เทียบกันยาก เพราะแบรนคุณน้ำสตรอว์เบอร์รี่ 8% แต่ดอยคำมัน100% แล้วทีนี้จุดขายของคุณคืออะไรครับ
ปล. นับถือความสามารถ จขกท จริงๆครับ ขอบคุณครับ
ผมชอบแบบ เป็นขวดใสๆ ให้เห็นสีของน้ำผลไม้มากกว่าครับ
เรื่องการตลาด ผมว่าน่าจะทำให้เป็นที่รู้จักในจังหวัด และในภาคเหนือก่อน อาจเน้นทำเพื่อให้เป็นของฝาก และค่อยๆขยายไป
โดยส่วนตัว ถ้านึกถึงน้ำสตรอว์เบอร์รี่ แบรนแรกที่ลอยมาในหัวคือดอยคำ
แต่มันก้เทียบกันยาก เพราะแบรนคุณน้ำสตรอว์เบอร์รี่ 8% แต่ดอยคำมัน100% แล้วทีนี้จุดขายของคุณคืออะไรครับ
ปล. นับถือความสามารถ จขกท จริงๆครับ ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
กับธุรกิจที่ผมทุ่มเททั้งชีวิตและหัวใจ! ทุ่มหมดตัวแล้วจริงๆครับ
ผมทำไร่สตรอว์เบอร์รี่อยู่และต้องการต่อยอดทำน้ำสตรอว์เบอร์รี่โดยใช้แบรนด์ของผมเอง
ผมเข้าใจว่าความเสี่ยงสูง ผมไม่เคยค้าขายทางนี้เลย เคยแต่ขายสินค้าออนไลน์ แต่ขอลุยครับ
เลยอยากขอให้พี่ๆช่วยแนะนำ สอน และเตือนใจผมด้วยครับ เพราะเป็นก้าวแรกธุรกิจตัวนี้ของผมครับ
ผมจ้างโรงงานในกรุงเทพผลิตครับ oem แต่ตัวผมและไร่อยู่เชียงราย เลยกะจะขนมาเริ่มในพื้นที่ก่อนครับ
(น้ำตัวนี้ยังไม่ออกสู่ตลาดนะครับ จะออกต้นเดือนตุลาคมนี้ครับ ผมเลยต้องการวางแผนก่อนครับ)
ข้อมูลเบื้องต้นครับ
ราคาขายปลีก15บาท ปริมาณ350ml
+คอลลาเจน ไขมัน0% น้ำตาลน้อย(แค่2%)
กลิ่นหอมสตรอว์เบอร์รี่รสชาติหวานอมเปรี้ยวกลมกล่อมครับ
น้ำสตรอว์เบอร์รี่ 8%(ไม่ใช่แค่น้ำแต่งกลิ่นทั่วไปในตลาด)
เพิ่มเติมครับ -มีเครื่องหมาย HALAL ครับ -มี อย. ครับ -เก็บรักษาได้6เดือน -ไม่มีกาแฟอีน
ขั้นต่ำในการผลิตโรงงานเอาเยอะพอสมควรครับ แสนห้าหมื่นขวดครับ
กำไร30%มอบเข้าโครงการ "วาดภาพสร้างฝัน" เป็นโครงการที่ผมตั้งขึ้นเพื่อน้องๆ
เพราะผมเชื่อว่า "ความสุขที่แท้จริง คือความสุขที่แบ่งปันครับ"
ขอคำแนะนำด้วยครับทุกๆท่าน
-การออกสู่ตลาดเริ่มแรกควรทำยังไงดีครับใช้วิธีไหนดีถ้าผมไม่มีเงินเข้า7-1และแบรนด์ยังไม่เป็นที่รู้จัก
-ตัวสินค้าแพคเกจจิ้งโอเคไหมครับ
-วิธีการขาย -วิธีกระจายสินค้า ขนส่ง -วิธีการสต๊อกสินค้า -การระบายสินค้าแต่ละพื้นที่(ไกล)
-ข้อมูลการค้ากับตัวแทน -ข้อมูลร้านขายส่ง ขายปลีก -ราคาที่ต้องเสนอกี่%บ้างครับ
-ข้อเด่น ด้อย ของธุรกิจตัวนี้ -โอกาส อุปสรรค์ จุดแข็ง จุดอ่อน
-ช่วยแนะนำธนาคารที่ช่วยผมได้ด้วยครับ ส่งเสริมหรือพัฒนาsmeหลายๆด้านครับ
(อยากกู้เยอะๆครับ ผมอายุยังน้อยมีเวลาใช้หนี้ให้อีกนานครับ)
-กลุ่มลูกค้าที่มีโอกาสขายได้ -ราคาโอเคไหมครับ -การทำตลาด(โปรโมท) -โปรโมชั่นแนะนำผมได้ครับ
-ข้อจำกัด และข้อมูลอื่นๆที่ผมต้องเรียนรู้ครับ
สินค้าตัวนี้ผมใช้เวลาเกือบ5เดือนในการศึกษาและแก้ไขปัญหาทุกๆอย่าง ลองผิดลองถูก
โดนต้มสาระพัดครับ ทั้งโมลขวดผิดแบบ ล่าช้าไม่ตรงเวลา กดราคา กินหัวคิว หลอกไปฟัน
เปลี่ยนมาเยอะมากกว่าจะได้ข้อสรุปเป็นขวดนี้ คือผมไม่รู้อะไรเลย ต้องหาข้อมูลเอง
แล้วโทรสอบถาม การสื่อสารก็ยากเพราะเราไม่เจอเขา กว่าจะไปเจอก็ช้าและสินค้าไม่ตรงตามเสปคบ้าง
ไม่ได้มาตรฐานบ้าง ราคาโมเมเปลี่ยนบ้าง หลบหน้าวันนัดเจอบ้าง โทษโยนให้กันไปมาๆ ไม่รับโทรศัพท์หนีบ้าง
ต้องหาหลายโรงงานมาก แยกเป็นโรงงานขวด โรงงานฝา โรงงานฉลาก โรงงานกล่อง โรงงานผลิตบรรจุ
กว่าจะสรุปสูตรได้โดนไปเกือบ4หมื่น แก้ไขสูตรหลายครั้งและนานมาก ยอมต้นทุนสูงเพื่อแลกกับคุณภาพ
ยอมบินไป-กลับ กทม 6รอบ เสียทั้งค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่ากิน ค่าแท็กซี่
หมดเวลาไปกับตัวนี้เยอะมาก เป็นห่วงไร่ด้วย แทบไม่ได้หลับนอน เครียดกับเงินที่ไปโดนหลอกมัดจำด้วย
สาระพัดปัญหาครับ กว่าจะผ่านมาถึงตอนนี้ ท้อมากแต่ถอยไม่ได้แล้วครับ
ขอพี่ๆเพื่อนๆช่วยสอนแนะนำผมด้วยนะครับ เพราะนี่คือการทุ่มหมดตัวจริงๆครับ
รถยนต์ก็เอาเข้าไฟแนนซ์รอแล้วครับ แถมไม่พอยื่นกู้แบงค์ครับ
ปล.ผมยังไม่มีเงินทำโปรโมชั่นแจกของแพงๆนะครับ เลยตั้งใจว่า ฝา สามารถเอามาแลกบัตรเข้าชมไร่ฟรีครับ
กราบขอบคุณทุกๆท่านครับ
นราธิป นามลือ