พวกเราทุกคนก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า ปัญหาหลักๆของโลกใบนี้จะมีอยู่ 3 อย่างด้วยกันคือ ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาความยากจนและก็ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งทุกๆประเทศล้วนจะมีปัญหาพวกนี้อยู่เสมอ พวกเราเองก็คงมัวแต่รออย่างเดียวว่า จะทำยังไงกับปัญหาเหล่านี้ดี แต่เราเอาปัญหาเรื่องการคอรัปชั่นดีกว่าว่า พอจะมีวิธีอะไรบ้าง ลองมาดู 10 อันดับกัน
10.ปรับโครงสร้างการเสียภาษีให้มีความโปร่งใส่
โครงสร้างการเสียภาษีในแต่ละประเทศนั้น จะมีความแตกต่างกันออกไป ดูเหมือนว่าทุกๆประเทศล้วนยังมีปัญหาเรื่องความโปร่งใสในการเสียภาษี โดยเฉพาะผู้มีอิทธิพลทั้งหลาย บริษัทต่างๆทั้งหลายเองก็ดี ที่พวกเขามักจะหาทางหลีกเลี่ยงภาษีหรือใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง หากประเทศใดมีการวางโครงสร้างการเสียภาษีไว้อย่างเข้มงวด ก็สามารถลดการคอรัปชั่นได้ดีระดับหนึ่ง
9.จัดวางโครงสร้างเรื่องที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ใหม่
ทางรัฐบาลหลายประเทศเองดูเหมือนจะไม่ค่อยจริงจังเรื่องการปรับโครงสร้างเรื่องที่ดิน อสังหาริมทรัพย์มากนัก พวกเขาเองก็ไม่เคยตอบคำถามเรื่องนี้ให้กับพวกเราได้ชัดเจนนัก หากเรามาดูประเทศของตัวเอง ก็จะเห็นได้ว่าโครงสร้างเรื่องที่ดินยังมีปัญหาอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบอุปถัมภ์ในการซื้อที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ มีผู้คนไม่กี่คนที่ครอบครองพื้นที่ดินเป็นจำนวนมหาศาล ไม่มีการกระจายพื้นที่อย่างเป็นธรรม หากทุกๆฝ่ายสามารถดำเนินปรับแผนโครงสร้างนี้ได้ การคอรัปชั่นก็จะทำได้ยากมากขึ้น
8.สร้างรายได้และเพิ่มแรงจูงใจให้กับทุกๆคน
ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลเองก็ดี ประชาชนส่วนใหญ่เองก็ดี ล้วนอยากมีรายได้เพิ่มมากขึ้นมากกว่าความเป็นอยู่ขณะนี้ ซึ่งประชาชนอย่างพวกเราก็คงไม่สนุกกับชีวิตที่เป็นอยู่ขณะนี้หรอก ทำให้เกิดการคอรัปชั่นขึ้นมาหากเจอแรงยั่วยวนเข้ามา จะดีมากหากทางรัฐบาลได้ส่งเสริมสนับสนุนสร้างรายได้เข้ามาให้กับประเทศ ทำให้ผู้คนรู้สึกมีแรงจูงใจในการทำงาน จะสังเกตได้ว่าประเทศไหนที่ไม่ค่อยมีการสร้างรายได้ให้กับผู้คน ทำให้ประเทศนั้นมีการทุจริตคอรัปชั่นกันมาก
7.ให้กำลังใจผู้คนที่แฉเรื่องราวเกี่ยวกับการคอรัปชั่น
การที่เราให้กำลังใจคนเหล่านี้สามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน อย่างแรกเลยก็ต้องให้รางวัลอะไรก็ได้เป็นการตอบแทนผู้คนเหล่านี้ โดยเฉพาะหากเป็นเงินแล้ว ก็ยิ่งทำให้ผู้คนอยากนำข้อมูลวงในมาแฉกันมากขึ้น อย่างที่สองก็คือจะต้องสร้างความปลอดภัยให้กับผู้คนเหล่านี้ให้เข้มงวด จึงต้องมีการใช้กฎหมายคุ้มครองผู้คนเหล่านี้ให้มากๆ ที่พวกเขายอมเสี่ยงชีวิตในการแฉข้อมูลต่างๆเหล่านี้
6.บ่มเพาะคติสอนใจเกี่ยวกับการคอรัปชั่น
ยอมรับว่าเรื่องนี้ฟังดูแล้วเหมือนง่าย แต่จริงๆทำแล้วก็ไม่ได้ง่ายเลย เพราะว่าสภาพแวดล้อมสังคมเกือบทุกๆประเทศล้วนมีการพัวพันเกี่ยวกับการทุจริตกันมาก แม้ว่าทางโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยได้บ่มเพาะเรื่องคุณธรรม ศีลธรรมอันดีงาม แต่ในทางปฏิบัตินั้นก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่พวกเราคิดเลยแม้แต่นิดเดียวใช่ไหมล่ะ จึงต้องมีเทคนิคการบ่มเพาะโดยแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างในชีวิตจริงๆ ไม่ใช่ละคร โดยนำกรณีศึกษาคนที่มีการทุจริตคอรัปชั่นว่า คนเหล่านี้ตอนจบจะเป็นอย่างไร แต่พอมาดูบ้านเราแล้ว ก็คงยาก เพราะหลายฝ่ายยังไม่มีการดำเนินเรื่องแบบนี้เลย
5.สร้างพลังการเรียนรู้ที่ดีและแข็งแกร่ง
การเรียนรู้ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง แต่ว่าการเรียนรู้ที่ดีนั้นเป็นอย่างไรนี่สิครับ ผมลองมาดูแล้วก็พบว่าหลายประเทศเองมีการสร้างความหมายของการเรียนรู้ที่แตกต่างกันออกไป หากในประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าก็จะตีความไปอีกทางหนึ่ง ประเทศที่กำลังพัฒนาก็จะตีความไปอีกทางหนึ่งเหมือนกัน แล้วพวกเราคิดว่าการเรียนรู้ที่ดีนั้นคืออะไรล่ะ พวกเราก็ต้องมาดูเครื่องมือการเรียนรู้ที่เรามีอยู่ในประเทศของเราก่อนว่าเป็นยังไงบ้าง แล้วการเรียนรู้ที่เราได้รับมานั้นมันสามารถนำไปใช้พัฒนาประเทศได้แค่ไหน ขจัดปัญหาต่างๆได้มากน้อยแค่ไหน หากสามารถขจัดปัญหาออกไปได้ ก็แสดงว่าประเทศเราก็มีโอกาสที่จะเจริญก้าวหน้าได้ หากเรายังเห็นปัญหาอยู่ ก็ต้องสร้างพลังการเรียนรู้ที่ดีขึ้นมาให้ได้
4.สร้างหลักกฎหมายให้มีความแข็งแกร่งขึ้นมา
หลายประเทศก็มีกฎหมายเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่นอยู่แล้ว แต่อยู่ที่ว่าความแข็งแกร่งของกฎหมายนั้นมันทำให้ผู้คนเกรงกลัวหรือเปล่า ซึ่งหากว่าประเทศมีการคอรัปชั่นกันมากๆ ก็ต้องหันมาดูเรื่องการใช้หลักกฎหมายจริงๆจังๆขึ้นมา หากทำได้ แน่นอนว่าการคอรัปชั่นน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเราสามารถศึกษากรณีได้ในบางประเทศที่มีการใช้กฎหมายเรื่องนี้อย่างเข้มงวดได้
3.ตั้งองค์กรขจัดการคอรัปชั่นให้แข็งแกร่ง
แม้ว่าจะมีองค์กรเหล่านี้อยู่เกือบๆทั่วประเทศ แต่บางประเทศก็ไม่ได้มีบทบาทในการต่อต้านการคอรัปชั่นอะไรมากนัก ยังขาดพลังอำนาจในการยับยั้งเรื่องนี้ และบางครั้งองค์กรนี้ก็อาจจะรู้เห็นเป็นใจกับการคอรัปชั่นแอบแฝงเสียเองด้วยสิ นี่แหละคือปัญหา ซึ่งจะต้องมีผู้คนหันมาเริ่มก่อตั้งองค์กรเหล่านี้ขึ้นมาหลายฝ่ายเพื่อถ่วงดุลอำนาจจากรัฐบาลและหลายภาคส่วนที่ยังมีการทุจริตอยู่
2.เพิ่มอำนาจให้กับผู้พิพากษาให้สามารถตัดสินได้เที่ยงตรงโดยไม่เกรงกลัวผู้มีบารมี
วิธีนี้ถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ดีมากในการขจัดคอรัปชั่น พวกเราทุกๆคนก็คงจะรู้แล้วว่า ผู้พิพากษายังมีความเกรงกลัวในการตัดสินคดีเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่นอยู่ หรือบางคนก็อาจจะได้รับสินบนเป็นการตอบแทนก็มี พวกเขาเองก็รู้หลักกฎหมายเรื่องนี้ดีกว่าผู้คนทั่วๆไป แต่จากกรณีศึกษาหลายเรื่องก็แทบไม่ค่อยได้ใช้หลักกฎหมายอะไรมากนัก ผมก็เห็นว่าจะต้องเพิ่มอำนาจให้กับพวกเขาเพื่อสามารถต่อสู้กับการทุจริตคอรัปชั่นภายในประเทศด้วย และก็ไม่หวังพึ่งพากับสินบนยัดใต้โต๊ะ แต่จะให้ดีทางรัฐเองก็ควรจะเพื่อค่าตอบแทนให้กับพวกเขามากขึ้นด้วย
1.เลิกทำพิธีต่างๆหรือลดพิธีรีตองต่างๆออกไป
หลายประเทศเราจะพบว่าทางรัฐหรือตามที่ต่างๆจะมีการจัดพิธีกรรมต่างๆ ซึ่งการทำแบบนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้มีการทุจริตคอรัปชั่นโดยที่เราเองก็แทบไม่สามารถตรวจสอบหรือรู้ตัวได้เลย เราจะเห็นได้จากพิธีที่ทางรัฐหรือบริษัทต่างๆได้จัดพิธีต่างๆทางโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ซึ่งจะมีการเบิกงบประมาณรายจ่ายไปกับการทำพิธีต่างๆเหล่านี้เป็นจำนวนมาก และก็ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ก็ไม่แปลกที่บางคนมีการสนับสนุนพิธีเหล่านี้เพื่อเป็นช่องโหว่ในการทุจริตได้ จะให้ดีเลยถ้าพิธีไหนไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจัด ก็ควรที่จะไม่ต้องจัดเลยจะดีกว่า หรือหากพิธีนั้นควรจัดจริงๆ ก็ต้องพยายามลดเรื่องพิธีรีตองที่ไม่จำเป็นจริงๆออกไป หรือลดงบประมาณให้น้อยลง หรือมีการตรวจสอบได้หากมีการใช้งบเกินความจำเป็น
ผู้เขียน Mr.lawrence10
(เรื่องน่ารู้) 10 แนวทางที่จะขจัดคอรัปชั่น
โครงสร้างการเสียภาษีในแต่ละประเทศนั้น จะมีความแตกต่างกันออกไป ดูเหมือนว่าทุกๆประเทศล้วนยังมีปัญหาเรื่องความโปร่งใสในการเสียภาษี โดยเฉพาะผู้มีอิทธิพลทั้งหลาย บริษัทต่างๆทั้งหลายเองก็ดี ที่พวกเขามักจะหาทางหลีกเลี่ยงภาษีหรือใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง หากประเทศใดมีการวางโครงสร้างการเสียภาษีไว้อย่างเข้มงวด ก็สามารถลดการคอรัปชั่นได้ดีระดับหนึ่ง
ทางรัฐบาลหลายประเทศเองดูเหมือนจะไม่ค่อยจริงจังเรื่องการปรับโครงสร้างเรื่องที่ดิน อสังหาริมทรัพย์มากนัก พวกเขาเองก็ไม่เคยตอบคำถามเรื่องนี้ให้กับพวกเราได้ชัดเจนนัก หากเรามาดูประเทศของตัวเอง ก็จะเห็นได้ว่าโครงสร้างเรื่องที่ดินยังมีปัญหาอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบอุปถัมภ์ในการซื้อที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ มีผู้คนไม่กี่คนที่ครอบครองพื้นที่ดินเป็นจำนวนมหาศาล ไม่มีการกระจายพื้นที่อย่างเป็นธรรม หากทุกๆฝ่ายสามารถดำเนินปรับแผนโครงสร้างนี้ได้ การคอรัปชั่นก็จะทำได้ยากมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลเองก็ดี ประชาชนส่วนใหญ่เองก็ดี ล้วนอยากมีรายได้เพิ่มมากขึ้นมากกว่าความเป็นอยู่ขณะนี้ ซึ่งประชาชนอย่างพวกเราก็คงไม่สนุกกับชีวิตที่เป็นอยู่ขณะนี้หรอก ทำให้เกิดการคอรัปชั่นขึ้นมาหากเจอแรงยั่วยวนเข้ามา จะดีมากหากทางรัฐบาลได้ส่งเสริมสนับสนุนสร้างรายได้เข้ามาให้กับประเทศ ทำให้ผู้คนรู้สึกมีแรงจูงใจในการทำงาน จะสังเกตได้ว่าประเทศไหนที่ไม่ค่อยมีการสร้างรายได้ให้กับผู้คน ทำให้ประเทศนั้นมีการทุจริตคอรัปชั่นกันมาก
การที่เราให้กำลังใจคนเหล่านี้สามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน อย่างแรกเลยก็ต้องให้รางวัลอะไรก็ได้เป็นการตอบแทนผู้คนเหล่านี้ โดยเฉพาะหากเป็นเงินแล้ว ก็ยิ่งทำให้ผู้คนอยากนำข้อมูลวงในมาแฉกันมากขึ้น อย่างที่สองก็คือจะต้องสร้างความปลอดภัยให้กับผู้คนเหล่านี้ให้เข้มงวด จึงต้องมีการใช้กฎหมายคุ้มครองผู้คนเหล่านี้ให้มากๆ ที่พวกเขายอมเสี่ยงชีวิตในการแฉข้อมูลต่างๆเหล่านี้
ยอมรับว่าเรื่องนี้ฟังดูแล้วเหมือนง่าย แต่จริงๆทำแล้วก็ไม่ได้ง่ายเลย เพราะว่าสภาพแวดล้อมสังคมเกือบทุกๆประเทศล้วนมีการพัวพันเกี่ยวกับการทุจริตกันมาก แม้ว่าทางโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยได้บ่มเพาะเรื่องคุณธรรม ศีลธรรมอันดีงาม แต่ในทางปฏิบัตินั้นก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่พวกเราคิดเลยแม้แต่นิดเดียวใช่ไหมล่ะ จึงต้องมีเทคนิคการบ่มเพาะโดยแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างในชีวิตจริงๆ ไม่ใช่ละคร โดยนำกรณีศึกษาคนที่มีการทุจริตคอรัปชั่นว่า คนเหล่านี้ตอนจบจะเป็นอย่างไร แต่พอมาดูบ้านเราแล้ว ก็คงยาก เพราะหลายฝ่ายยังไม่มีการดำเนินเรื่องแบบนี้เลย
การเรียนรู้ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง แต่ว่าการเรียนรู้ที่ดีนั้นเป็นอย่างไรนี่สิครับ ผมลองมาดูแล้วก็พบว่าหลายประเทศเองมีการสร้างความหมายของการเรียนรู้ที่แตกต่างกันออกไป หากในประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าก็จะตีความไปอีกทางหนึ่ง ประเทศที่กำลังพัฒนาก็จะตีความไปอีกทางหนึ่งเหมือนกัน แล้วพวกเราคิดว่าการเรียนรู้ที่ดีนั้นคืออะไรล่ะ พวกเราก็ต้องมาดูเครื่องมือการเรียนรู้ที่เรามีอยู่ในประเทศของเราก่อนว่าเป็นยังไงบ้าง แล้วการเรียนรู้ที่เราได้รับมานั้นมันสามารถนำไปใช้พัฒนาประเทศได้แค่ไหน ขจัดปัญหาต่างๆได้มากน้อยแค่ไหน หากสามารถขจัดปัญหาออกไปได้ ก็แสดงว่าประเทศเราก็มีโอกาสที่จะเจริญก้าวหน้าได้ หากเรายังเห็นปัญหาอยู่ ก็ต้องสร้างพลังการเรียนรู้ที่ดีขึ้นมาให้ได้
หลายประเทศก็มีกฎหมายเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่นอยู่แล้ว แต่อยู่ที่ว่าความแข็งแกร่งของกฎหมายนั้นมันทำให้ผู้คนเกรงกลัวหรือเปล่า ซึ่งหากว่าประเทศมีการคอรัปชั่นกันมากๆ ก็ต้องหันมาดูเรื่องการใช้หลักกฎหมายจริงๆจังๆขึ้นมา หากทำได้ แน่นอนว่าการคอรัปชั่นน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเราสามารถศึกษากรณีได้ในบางประเทศที่มีการใช้กฎหมายเรื่องนี้อย่างเข้มงวดได้
แม้ว่าจะมีองค์กรเหล่านี้อยู่เกือบๆทั่วประเทศ แต่บางประเทศก็ไม่ได้มีบทบาทในการต่อต้านการคอรัปชั่นอะไรมากนัก ยังขาดพลังอำนาจในการยับยั้งเรื่องนี้ และบางครั้งองค์กรนี้ก็อาจจะรู้เห็นเป็นใจกับการคอรัปชั่นแอบแฝงเสียเองด้วยสิ นี่แหละคือปัญหา ซึ่งจะต้องมีผู้คนหันมาเริ่มก่อตั้งองค์กรเหล่านี้ขึ้นมาหลายฝ่ายเพื่อถ่วงดุลอำนาจจากรัฐบาลและหลายภาคส่วนที่ยังมีการทุจริตอยู่
วิธีนี้ถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ดีมากในการขจัดคอรัปชั่น พวกเราทุกๆคนก็คงจะรู้แล้วว่า ผู้พิพากษายังมีความเกรงกลัวในการตัดสินคดีเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่นอยู่ หรือบางคนก็อาจจะได้รับสินบนเป็นการตอบแทนก็มี พวกเขาเองก็รู้หลักกฎหมายเรื่องนี้ดีกว่าผู้คนทั่วๆไป แต่จากกรณีศึกษาหลายเรื่องก็แทบไม่ค่อยได้ใช้หลักกฎหมายอะไรมากนัก ผมก็เห็นว่าจะต้องเพิ่มอำนาจให้กับพวกเขาเพื่อสามารถต่อสู้กับการทุจริตคอรัปชั่นภายในประเทศด้วย และก็ไม่หวังพึ่งพากับสินบนยัดใต้โต๊ะ แต่จะให้ดีทางรัฐเองก็ควรจะเพื่อค่าตอบแทนให้กับพวกเขามากขึ้นด้วย
หลายประเทศเราจะพบว่าทางรัฐหรือตามที่ต่างๆจะมีการจัดพิธีกรรมต่างๆ ซึ่งการทำแบบนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้มีการทุจริตคอรัปชั่นโดยที่เราเองก็แทบไม่สามารถตรวจสอบหรือรู้ตัวได้เลย เราจะเห็นได้จากพิธีที่ทางรัฐหรือบริษัทต่างๆได้จัดพิธีต่างๆทางโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ซึ่งจะมีการเบิกงบประมาณรายจ่ายไปกับการทำพิธีต่างๆเหล่านี้เป็นจำนวนมาก และก็ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ก็ไม่แปลกที่บางคนมีการสนับสนุนพิธีเหล่านี้เพื่อเป็นช่องโหว่ในการทุจริตได้ จะให้ดีเลยถ้าพิธีไหนไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจัด ก็ควรที่จะไม่ต้องจัดเลยจะดีกว่า หรือหากพิธีนั้นควรจัดจริงๆ ก็ต้องพยายามลดเรื่องพิธีรีตองที่ไม่จำเป็นจริงๆออกไป หรือลดงบประมาณให้น้อยลง หรือมีการตรวจสอบได้หากมีการใช้งบเกินความจำเป็น
ผู้เขียน Mr.lawrence10