เมื่อวันที่ 13 ที่ผ่านมา เราได้ตัดสินใจไปทำจมุกกับทางโรงพยาบาลเลอลักษณ์ค่ะ ตอนแรกที่คิดเอาไว้ก็มีอยู่ 2 ที่ค่ะ เราอยู่ชลบุรี ก็ดูเอาไว้อีกที่หนึ่งก็คือ วีพลัส คลินิก ซึ่งในตอนนั้นมีความรู้สึกว่า คนเยอะ กลัวว่าจะดูแลลูกค้าไม่ทั่วถึง เพราะมีคุณหมอเพียงท่านเดียว (ไปปรึกษามาแล้วค่ะ เสียค่าปรึกษา 200 บาท)แต่ที่ตัดสินใจมทำกับที่เลอลักษณ์ เพราะดูจากรีวิว และก็ชื่อเสียคุณหมอกิตติศักดิ์ค่ะ มาเริ่มรีวิวกันเลยดีกว่านะค่ะ
V
V
V
วันที่ 13 ก.ย. 2557 เรานัดกับคุณหมอเอาไว้ 17.30 น. ค่ะ แต่ไปถึงตอน 16.00 น. ซึ่งเร็วไปเยอะเลย แต่ก็นะ โรงพยาบาลสวยดี เรามากับแฟน และก็คุณแม่มาถึงก็หาที่จอดรถ ซึ่งก็มีที่จอดรถพอสมควร ไม่เยอะมาก แต่ก็โอเคอยู่ จากนั้นก็เข้าไปในโรงพยาบาล ขึ้นลิฟไปที่ชั้น 2 เสริมความงามจะอยู่ที่ชั้น 2 ชั้น 1 จะเป็นทันตกรรม
เมื่อมาถึงชั้น 2 ก็เดินตรงไปหาเจ้าหน้าที่ ตรงหน้าบันได ที่มุตาโดนตบกลิ้งลงมานั่นหล่ะ ก็นำบัตรประชาชนไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่น่ารักดีนะ พูดจาเพราะมาก เป็นกันเองดี เราก็บอกเวลาที่หมอนัดไป แล้วเจ้าหน้าที่ก็บอกให้เรารอสักพัก
จากนั้นไม่เกิน 2 นาที ก็เรียกเราไปคุย เกี่ยวกับซิลิโคน ให้เราเลือกว่าเราจะเอาแบบไหน ซึ่ง เราเลือกไว้แล้วแหละ ว่าจะเอาแบบเกาหลี เนื่องด้วย เป็นคนมีเนื้อจมูกค่อนข้างน้อย ไม่เยอะ เหมาะที่จะใช้ซิลิโคนแบบเกาหลีมากกว่า เพราะแบบอเมริกา จะเหมาะกับคนเนื้อจมูกเยอะๆ และคนที่ชอบโด่งๆ ซึ่งเราก็อยากนะ แต่จมูกไม่เอื้อ เหอะๆ ด้วยความขี้สงสัยและกลัวว่าจะทำออกมาไม่ดี ก็บอกน้องเค้าว่า อยากให้มีหยดน้ำเล็กๆ ไม่อยากให้จมุกเชิ่ดเกินไป น้องเค้าก็บอกว่าจะต้องให้คุณหมอเป็นคนดูให้อีกที คุณหมอเค้าจะชำนาญจะสามารถดูจมูกเราแล้วก็จะทำออกมาให้ธรรมชาติที่สุด ไอ้เราก็ อืม...โอเค
น้องเค้าก็บอกว่าอย่างตัวน้องเองเค้าก็ทำเหมือนกัน สวยด้วยนะ ทำมา 8 ปี ก็ให้คุณหมอดูทรงหน้า และจมูกแล้วก็ทำออกมาได้สวยเลย ทั้งที่ 8 ปีที่แล้วซิลิโคนแบบเกาหลียังไม่มีเลยนะ น้องเค้าทำแบบของอเมริกา น้องเค้าก็ให้เราจับๆ จมูกเค้าด้วย ก็แข็งๆนะ
จากนั้นเราก็เลือกซิลิโคนเกาหลี น้องเค้าก็บอกวิธีการดูแลตนเองหลังการศัลยกรรมว่า หลังทำห้ามทานอาหารพวก ของเผ็ด อาหารหมักดอง อาหารดิบ อาหารทะเล อย่านอนตะแคง ให้นอนราบ หนุนหมอนสูง หน้าตรง ทางเราจะรับประกัน 3 เดือน ก็คือ อักเสบ เอียง ประมาณนี้ สามารถมาแก้ไขโดยเสียค่ายาประมาณ 1000 กว่าบาท บลาๆๆๆๆๆๆๆ เยอะ ลืม 55555555 คุยกับน้องเค้าเสร็จก็นั่งรอ ไม่เกิน 3 นาทีก็เรียกให้เราเซ็นยินยอมในการผ่าตัดซึ่ง เราขอแนะนำให้อ่านก่อนเซ็น สงสัยอะไรตรงไหนก็ถามเลย อย่ารีบเซ็น เราจะได้รู้ว่าสิ่งที่เราเซ็น ไปนั้นมันมีอะไรบ้าง ok นะ
ทีนี้ก็มีพนักงานมาพาเราขึ้นไป อีก ชั้นหนึ่ง คือ ชั้น 3 เพื่อไปจ่ายเงิน นั่งรอจ่ายเงินได้สัก 5 นาที เค้าก็เรียกให้ไปจ่ายเงิน แต่.......ได้ยินะนักงานอีกคนบอกแว่วๆว่า ซิลิโคนเกาหลีหมด (เห้ยหมดได้ไงเนี้ยใช้ทุกวัน) เราหน้าเสียเลย ตกลงว่าจะได้ทำไหมเนี้ย อุส่าเตรียมใจไว้แล้วนะ สักพักพนักงานบอกให้เรารอก่อนสักครู่ รออยู่ประมาณ 15 นาที สุดท้ายก็ได้ยินว่า เค้าเอาซิลิโคนมาส่งแล้ว (เย้ๆๆๆๆๆ ดีใจ ได้ทำแล้ว) ทีนี้ก็จ่ายเงิน ค่าเสียหาย 27,900 บาท + ค่ายาทากันฟกช้ำ 590 บาท และค่าทำทะเบียน 150 บาท รวม 28,640 บาท (คนจ่ายตัง คือแฟน หน้าซีดกันเลยทีเดียว 5555)
เมื่อทำเสร็จจากนั้นก็เป็นการรอที่ยาวนานที่สุดเพราะเราจำได้ว่า จ่ายเงินเสร็จน่าจะประมาณสัก 5 โมงกว่าๆ เพราะเรานั่งดู The Angel อยู่พอดี นั่งรอแล้วรออีก รอไปรอมา จะ 2 ทุ่มละค๊าาาาาา ยังมิเรียกชั้นไปเลยยยยยยยย รู้สึกหิว เลยเดินไปหาพนักงานแล้วบอกว่า ขอไปหาไรกินก่อนนะค่ะ ถ้าเกิดว่าเรียกแล้วช่วยโทรตามทีนะ พนักงานก็น่ารักบอกได้ค่ะ พอเราไปกินข้าวหน้าโรงพยาบาลสักพัก ก็มีเสียงโทรศัพท์มา คิดในใจ ไวจริงๆ รอตั้งนานไม่เรียก พอมาหาไรกิน เรียกซะงั้น
ก็รีบๆๆๆๆ ขึ้นไปที่ ชั้น 3 ไปถึงพนักงานบอกว่ารอสักครู่ค่ะ เดี๋ยวโทรตามคนข้างบนมารับนะค่ะ รออีก 15 นาทีได้ ก็มีคนมารับเราไปข้างบน ชั้น 4 ให้เราเปลี่ยนเสื้อผ้า สีฟ้าๆ ใส่หมวกคลุมผม และล้างหน้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เราก็ทำๆๆๆ พอถึงตอนล้างหน้า เอิ่มมมมมม กลิ่นมันคือแอลกอฮอล์นั่นเอง ฉุนเลยพอล้างเสร็จก็ไปนั่งรออีกค่ะ ณ เวลานั้นคือ 2 ทุ่มครึ่งค่ะ (คิดในใจ รออีกแล้วหรอฉ้านนนนน) ก็มีคนที่มาทำเหมือนๆกับเรานั่งรออยู่ก่อนแล้วไม่กี่คน แล้วก็ที่ขึ้นมาพร้อมกับเราอีก 3 คน ทีนี้ก็นั่งรอแล้วก็คุยๆกับคนอื่นบ้าง ว่ามาทำอะไร เคยทำมาแล้วทำที่ไหน อะไรไปทั่ว เจอคุณเมียฝรั่งคนหนึ่ง ทำเสร็จก็มานั่งพักที่ห้องเดียวกันกับเรา แกบอกกับทุกคนว่า ไม่ต้องกลัวหนู ไม่เจ็บ ตื่นมาก็เสร็จละ แกบอกว่าแกไปทำที่ สมิติเวชมา ไม่เวิคเลย และบอกเราอย่าไปทำนะแพงด้วยไม่ดีด้วย แกไปทำมา เกือบแสน (โอ้วให้ตายเถอะ แพงอะไรขนาดนั้น) แล้วแกก็ไปพร้อมกับอวยพรทุกคนว่า ทำออกมาสวยๆทุกคนนะค่ะ บายยยย
จะว่าไปแกก็ดีนะ ที่ทำให้เราเครียดน้อยลง เพราะบอกตามตรง ไปรอตรงนั้น ใส่ชุดที่พร้อมจะไปผ่าแล้ว มันตื่นเต้นบอกไม่ถูก หัวใจเต้นแรงมากๆ พอแกบอกว่าไม่เจ็บ ตื่นมาก็สวย เลยใจชื้นหน่อย นั่งรออย่างสบายใจ
คุณหมอจะใช้เวลาในการทำประมาณ ครึ่งชั่วโมงต่อคน ซึ่งเราก็รออีกประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าได้ เวลาที่เราได้ทำจริงๆคือ 3 ทุ่มครึ่งค่ะ นานโคตรๆๆๆๆๆๆ แม่กับแฟนเรานะ รอเบื่อเลย นอนแล้วนอนอีก
ทีนี้พอเข้าห้องผ่า ห้องก็เป็นห้องใหญ่ๆ มีทีวี มีอุปกรณ์ครบ เค้าให้เรานอนแล้วห่มผ้ารอ ซึ่งนอนรอคุณหมอประมาณ 5-10 นาทีได้ มีผู้ช่วยอยู่ในห้อง ณ ตอนนั้น 3 คน นั่งรอคุณหมอเช่นกัน สักพักหมอก็เข้ามา แล้วถามเราว่า อยากได้แบบไหน เราก็บอกเลย อยากได้โด่งกว่าธรรมชาตินิดหนึ่ง คุณหมอก็บอกว่า อืม หมอจะดูให้นะ จากนั้นหมอบอกฉีดยานอนหลับเลย ตื่นเต้นอ่ะ ไวไปไหมคุณหมอยังไม่ทันคุยไรกันมากเลย ตื่นเต้นๆ
ผู้ช่วยหมอก็ฉีดยาที่แขนขวาเรา โดยไม่เอาสายมารัดให้เส้นขึ้น แต่ให้มือผู้ช่วยอีกคนมาบีบแขนเราแทน ฉีดเสร็จ ก็รู้สึกเหมือนจะเบลอ แต่ก็ไม่เบลอ คือเค้าบอกว่าฉีดยานอนหลับมันก็ต้องหลับเนอะ ชื่อมันก็บอกอย่างนั้น แต่......เราทำไมไม่หลับละ เห้ยยยยย คุณหมอก็ทำการเอาอะไรมาขีดๆที่หน้าเรา สักพักก็จัดการเลย รู้สึกแบบว่ารู้เรื่องหมดอ่ะหมอทำไรบ้าง และก็ได้ยิน ผู้ช่วยกะหมอคุยกันเรื่องละคร รักต้องอุ้ม 55555 แล้วก็ทำจมูกเราไปด้วย มีความรู้สึกว่าไม่หลับ ตื่นตลอด ก็เลยบอกหมอว่า หมอค่ะทำไมหนูไม่หลับ หมอก็บอกว่าตอนนี้เราจะไม่รู้สึกเจ็บนะ (แค่นั้น) เราก็อืมมมม เงียบก็ได้ จากนั้นก็เสร็จ คือรู้สึกว่าไวมากอ่ะ ไม่น่าเกิน 15 นาทีด้วย เสร็จผู้ช่วยก็พาเราไปห้องเดิม ให้เรานั่งพัก ณ ตอนนั้น มีเหลืออีก 1 คนที่ยังไม่ได้ทำ
ผู้ช่วยบอกว่าหายเบลอแล้วก็ลงได้เลย เราก็รู้สึกว่าไม่ได้เป็นอะไรไม่เบลอ ก็เลยลงไปหา แม่กับแฟนเลย จากนั้นก็กลับบ้านนนนน (ชลบุรี) ถึงบ้าน ห้าทุ่มกว่า ง่วงเชียว ทีนี้ก็กว่าจะอาบน้ำทำไรเสร็จ ก็เที่ยงคืนกว่า ทีนี้ก็ถึงเวลานอน หาวิธีนอนกับแม่อยู่นานพอสมควร ไม่รู้จะนอนยังไงแบบไหน ในที่สุด ก็ได้แบบนี้
5555 เอาลงแบบไม่อาย ก็นะ จะอายทำไมเนอะก็มารีวิวอะ อิอิ
จากนั้นก็หลับไปตอน ตี 1 จากนั้น สะดุ้งตื่นมา ตี 3 โอ้ยยยยยยยยยย มันปวด ทรมาน ไม่ไหวเลยยยยยย ทำไมปวดงี้ละ ก็ลุกมากินยาพารา 2 เม็ด นั่งพัก ก็ยังไม่หายปวด ถามคนอื่นๆ เค้าก็บอกว่าไม่ปวดไม่เจ็บอะไรกันเลย แต่ทำไม ฉันปวดนะ ไม่เข้าใจ ปวดสุดๆ นั่งรอจนค่อยยังชั่วขึ้น แต่ยังคงปวดอยู่ เห้อ.....ไม่เหมือนชาวบ้านเค้าเรยยยยย
จากนั้นก็หลับไปด้วยความเพลีย วันรุ่งขึ้น 5555555 ก็หายปวด ดีใจสุดๆ และสภาพก็เป็นอย่างนี้
ตอนเช้า เลอลักษณ์ก็โทรมา เราก็งงๆ โทรมาทำไม ก็คือ เค้าโทรมาถามอาการต่างๆของเรา เราก็บอกเลย เมื่อคืนปวดมากๆ เค้าก็บอกแค่ว่าให้เราทานยาพาราเอา เราก็เข้าใจนะจะให้ทำไงละเนอะ 55555 ทีนี้เค้าก็บอกว่ามีไรจะแนะนำ ติชมบ้างไหม เราก็บอกเลย อย่างอื่นไม่มี มีแต่ด้านเวลา รอนานมากๆๆๆๆๆๆๆๆ นัด 17.30 น. ได้ทำ 3 ทุ่มครึ่ง ออกจาก เลอลักษณ์ 4 ทุ่ม พนักงานเองยังพูดแบบ งงๆ เลย 4 ทุ่มเลยหรอค่ะ เราก็บอกใช่ค่ะ เค้าบอกว่าจะเอาข้อมูลนำเสนอผู้บริหารเพื่อปรับปรุงต่อไปค่ะ ถามว่าเราก็โอเคนะที่เค้าโทรมา ดีอ่ะ
ทีนี้เราบวมแบบนี้อยู่ 2 วัน ก็คือ อาทิตย์ กับ วันจันทร์ พอถึงวันอังคาร หมอเค้าบอกว่าให้เอาพาสเตอร์ที่แปะอยู่ออกแล้วก็ล้างหน้า แต่ต้องไม่ให้โดนแผลด้านใน ซึ่งลำบากมากๆ กว่าจะล้างเสร็จ พอล้างออกแล้วก็เป็นอย่างนี้
55555 ออกจากบ้านเฉยเลยยยยย มิอาย
แล้ววันนี้ก็เป็นวันพุธที่ 17 ก.ย. 2557 ดิฉันมาทำงานละค่ะ 55555555555555 ไวมะ คือก็ยังคงบวมๆอยู่นะค่ะ อืดทั้งหน้าอยู่ แต่ก็โอ ไปทำงานได้ (ไม่อยากลาเยอะ)
เอาไว้ผ่านไปสัก 1 สัปดาห์จะมารีวิวใหม่นะค่ะ ส่วนใครที่สงสัยอยากถามอะไรเรา ยินดีนะค่ะ ถามเลยๆๆๆๆ แล้วจะมาตอบทุกคนค่ะ วันนี้แค่นี้ก่อนโน๊ะ
[CR] มารีวิว ทำจมูก กับคุณหมอกิตติศักดิ์ รพ เลอลักษณ์ จ้า
V
V
V
วันที่ 13 ก.ย. 2557 เรานัดกับคุณหมอเอาไว้ 17.30 น. ค่ะ แต่ไปถึงตอน 16.00 น. ซึ่งเร็วไปเยอะเลย แต่ก็นะ โรงพยาบาลสวยดี เรามากับแฟน และก็คุณแม่มาถึงก็หาที่จอดรถ ซึ่งก็มีที่จอดรถพอสมควร ไม่เยอะมาก แต่ก็โอเคอยู่ จากนั้นก็เข้าไปในโรงพยาบาล ขึ้นลิฟไปที่ชั้น 2 เสริมความงามจะอยู่ที่ชั้น 2 ชั้น 1 จะเป็นทันตกรรม
เมื่อมาถึงชั้น 2 ก็เดินตรงไปหาเจ้าหน้าที่ ตรงหน้าบันได ที่มุตาโดนตบกลิ้งลงมานั่นหล่ะ ก็นำบัตรประชาชนไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่น่ารักดีนะ พูดจาเพราะมาก เป็นกันเองดี เราก็บอกเวลาที่หมอนัดไป แล้วเจ้าหน้าที่ก็บอกให้เรารอสักพัก
จากนั้นไม่เกิน 2 นาที ก็เรียกเราไปคุย เกี่ยวกับซิลิโคน ให้เราเลือกว่าเราจะเอาแบบไหน ซึ่ง เราเลือกไว้แล้วแหละ ว่าจะเอาแบบเกาหลี เนื่องด้วย เป็นคนมีเนื้อจมูกค่อนข้างน้อย ไม่เยอะ เหมาะที่จะใช้ซิลิโคนแบบเกาหลีมากกว่า เพราะแบบอเมริกา จะเหมาะกับคนเนื้อจมูกเยอะๆ และคนที่ชอบโด่งๆ ซึ่งเราก็อยากนะ แต่จมูกไม่เอื้อ เหอะๆ ด้วยความขี้สงสัยและกลัวว่าจะทำออกมาไม่ดี ก็บอกน้องเค้าว่า อยากให้มีหยดน้ำเล็กๆ ไม่อยากให้จมุกเชิ่ดเกินไป น้องเค้าก็บอกว่าจะต้องให้คุณหมอเป็นคนดูให้อีกที คุณหมอเค้าจะชำนาญจะสามารถดูจมูกเราแล้วก็จะทำออกมาให้ธรรมชาติที่สุด ไอ้เราก็ อืม...โอเค
น้องเค้าก็บอกว่าอย่างตัวน้องเองเค้าก็ทำเหมือนกัน สวยด้วยนะ ทำมา 8 ปี ก็ให้คุณหมอดูทรงหน้า และจมูกแล้วก็ทำออกมาได้สวยเลย ทั้งที่ 8 ปีที่แล้วซิลิโคนแบบเกาหลียังไม่มีเลยนะ น้องเค้าทำแบบของอเมริกา น้องเค้าก็ให้เราจับๆ จมูกเค้าด้วย ก็แข็งๆนะ
จากนั้นเราก็เลือกซิลิโคนเกาหลี น้องเค้าก็บอกวิธีการดูแลตนเองหลังการศัลยกรรมว่า หลังทำห้ามทานอาหารพวก ของเผ็ด อาหารหมักดอง อาหารดิบ อาหารทะเล อย่านอนตะแคง ให้นอนราบ หนุนหมอนสูง หน้าตรง ทางเราจะรับประกัน 3 เดือน ก็คือ อักเสบ เอียง ประมาณนี้ สามารถมาแก้ไขโดยเสียค่ายาประมาณ 1000 กว่าบาท บลาๆๆๆๆๆๆๆ เยอะ ลืม 55555555 คุยกับน้องเค้าเสร็จก็นั่งรอ ไม่เกิน 3 นาทีก็เรียกให้เราเซ็นยินยอมในการผ่าตัดซึ่ง เราขอแนะนำให้อ่านก่อนเซ็น สงสัยอะไรตรงไหนก็ถามเลย อย่ารีบเซ็น เราจะได้รู้ว่าสิ่งที่เราเซ็น ไปนั้นมันมีอะไรบ้าง ok นะ
ทีนี้ก็มีพนักงานมาพาเราขึ้นไป อีก ชั้นหนึ่ง คือ ชั้น 3 เพื่อไปจ่ายเงิน นั่งรอจ่ายเงินได้สัก 5 นาที เค้าก็เรียกให้ไปจ่ายเงิน แต่.......ได้ยินะนักงานอีกคนบอกแว่วๆว่า ซิลิโคนเกาหลีหมด (เห้ยหมดได้ไงเนี้ยใช้ทุกวัน) เราหน้าเสียเลย ตกลงว่าจะได้ทำไหมเนี้ย อุส่าเตรียมใจไว้แล้วนะ สักพักพนักงานบอกให้เรารอก่อนสักครู่ รออยู่ประมาณ 15 นาที สุดท้ายก็ได้ยินว่า เค้าเอาซิลิโคนมาส่งแล้ว (เย้ๆๆๆๆๆ ดีใจ ได้ทำแล้ว) ทีนี้ก็จ่ายเงิน ค่าเสียหาย 27,900 บาท + ค่ายาทากันฟกช้ำ 590 บาท และค่าทำทะเบียน 150 บาท รวม 28,640 บาท (คนจ่ายตัง คือแฟน หน้าซีดกันเลยทีเดียว 5555)
เมื่อทำเสร็จจากนั้นก็เป็นการรอที่ยาวนานที่สุดเพราะเราจำได้ว่า จ่ายเงินเสร็จน่าจะประมาณสัก 5 โมงกว่าๆ เพราะเรานั่งดู The Angel อยู่พอดี นั่งรอแล้วรออีก รอไปรอมา จะ 2 ทุ่มละค๊าาาาาา ยังมิเรียกชั้นไปเลยยยยยยยย รู้สึกหิว เลยเดินไปหาพนักงานแล้วบอกว่า ขอไปหาไรกินก่อนนะค่ะ ถ้าเกิดว่าเรียกแล้วช่วยโทรตามทีนะ พนักงานก็น่ารักบอกได้ค่ะ พอเราไปกินข้าวหน้าโรงพยาบาลสักพัก ก็มีเสียงโทรศัพท์มา คิดในใจ ไวจริงๆ รอตั้งนานไม่เรียก พอมาหาไรกิน เรียกซะงั้น
ก็รีบๆๆๆๆ ขึ้นไปที่ ชั้น 3 ไปถึงพนักงานบอกว่ารอสักครู่ค่ะ เดี๋ยวโทรตามคนข้างบนมารับนะค่ะ รออีก 15 นาทีได้ ก็มีคนมารับเราไปข้างบน ชั้น 4 ให้เราเปลี่ยนเสื้อผ้า สีฟ้าๆ ใส่หมวกคลุมผม และล้างหน้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เราก็ทำๆๆๆ พอถึงตอนล้างหน้า เอิ่มมมมมม กลิ่นมันคือแอลกอฮอล์นั่นเอง ฉุนเลยพอล้างเสร็จก็ไปนั่งรออีกค่ะ ณ เวลานั้นคือ 2 ทุ่มครึ่งค่ะ (คิดในใจ รออีกแล้วหรอฉ้านนนนน) ก็มีคนที่มาทำเหมือนๆกับเรานั่งรออยู่ก่อนแล้วไม่กี่คน แล้วก็ที่ขึ้นมาพร้อมกับเราอีก 3 คน ทีนี้ก็นั่งรอแล้วก็คุยๆกับคนอื่นบ้าง ว่ามาทำอะไร เคยทำมาแล้วทำที่ไหน อะไรไปทั่ว เจอคุณเมียฝรั่งคนหนึ่ง ทำเสร็จก็มานั่งพักที่ห้องเดียวกันกับเรา แกบอกกับทุกคนว่า ไม่ต้องกลัวหนู ไม่เจ็บ ตื่นมาก็เสร็จละ แกบอกว่าแกไปทำที่ สมิติเวชมา ไม่เวิคเลย และบอกเราอย่าไปทำนะแพงด้วยไม่ดีด้วย แกไปทำมา เกือบแสน (โอ้วให้ตายเถอะ แพงอะไรขนาดนั้น) แล้วแกก็ไปพร้อมกับอวยพรทุกคนว่า ทำออกมาสวยๆทุกคนนะค่ะ บายยยย
จะว่าไปแกก็ดีนะ ที่ทำให้เราเครียดน้อยลง เพราะบอกตามตรง ไปรอตรงนั้น ใส่ชุดที่พร้อมจะไปผ่าแล้ว มันตื่นเต้นบอกไม่ถูก หัวใจเต้นแรงมากๆ พอแกบอกว่าไม่เจ็บ ตื่นมาก็สวย เลยใจชื้นหน่อย นั่งรออย่างสบายใจ
คุณหมอจะใช้เวลาในการทำประมาณ ครึ่งชั่วโมงต่อคน ซึ่งเราก็รออีกประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าได้ เวลาที่เราได้ทำจริงๆคือ 3 ทุ่มครึ่งค่ะ นานโคตรๆๆๆๆๆๆ แม่กับแฟนเรานะ รอเบื่อเลย นอนแล้วนอนอีก
ทีนี้พอเข้าห้องผ่า ห้องก็เป็นห้องใหญ่ๆ มีทีวี มีอุปกรณ์ครบ เค้าให้เรานอนแล้วห่มผ้ารอ ซึ่งนอนรอคุณหมอประมาณ 5-10 นาทีได้ มีผู้ช่วยอยู่ในห้อง ณ ตอนนั้น 3 คน นั่งรอคุณหมอเช่นกัน สักพักหมอก็เข้ามา แล้วถามเราว่า อยากได้แบบไหน เราก็บอกเลย อยากได้โด่งกว่าธรรมชาตินิดหนึ่ง คุณหมอก็บอกว่า อืม หมอจะดูให้นะ จากนั้นหมอบอกฉีดยานอนหลับเลย ตื่นเต้นอ่ะ ไวไปไหมคุณหมอยังไม่ทันคุยไรกันมากเลย ตื่นเต้นๆ
ผู้ช่วยหมอก็ฉีดยาที่แขนขวาเรา โดยไม่เอาสายมารัดให้เส้นขึ้น แต่ให้มือผู้ช่วยอีกคนมาบีบแขนเราแทน ฉีดเสร็จ ก็รู้สึกเหมือนจะเบลอ แต่ก็ไม่เบลอ คือเค้าบอกว่าฉีดยานอนหลับมันก็ต้องหลับเนอะ ชื่อมันก็บอกอย่างนั้น แต่......เราทำไมไม่หลับละ เห้ยยยยย คุณหมอก็ทำการเอาอะไรมาขีดๆที่หน้าเรา สักพักก็จัดการเลย รู้สึกแบบว่ารู้เรื่องหมดอ่ะหมอทำไรบ้าง และก็ได้ยิน ผู้ช่วยกะหมอคุยกันเรื่องละคร รักต้องอุ้ม 55555 แล้วก็ทำจมูกเราไปด้วย มีความรู้สึกว่าไม่หลับ ตื่นตลอด ก็เลยบอกหมอว่า หมอค่ะทำไมหนูไม่หลับ หมอก็บอกว่าตอนนี้เราจะไม่รู้สึกเจ็บนะ (แค่นั้น) เราก็อืมมมม เงียบก็ได้ จากนั้นก็เสร็จ คือรู้สึกว่าไวมากอ่ะ ไม่น่าเกิน 15 นาทีด้วย เสร็จผู้ช่วยก็พาเราไปห้องเดิม ให้เรานั่งพัก ณ ตอนนั้น มีเหลืออีก 1 คนที่ยังไม่ได้ทำ
ผู้ช่วยบอกว่าหายเบลอแล้วก็ลงได้เลย เราก็รู้สึกว่าไม่ได้เป็นอะไรไม่เบลอ ก็เลยลงไปหา แม่กับแฟนเลย จากนั้นก็กลับบ้านนนนน (ชลบุรี) ถึงบ้าน ห้าทุ่มกว่า ง่วงเชียว ทีนี้ก็กว่าจะอาบน้ำทำไรเสร็จ ก็เที่ยงคืนกว่า ทีนี้ก็ถึงเวลานอน หาวิธีนอนกับแม่อยู่นานพอสมควร ไม่รู้จะนอนยังไงแบบไหน ในที่สุด ก็ได้แบบนี้
5555 เอาลงแบบไม่อาย ก็นะ จะอายทำไมเนอะก็มารีวิวอะ อิอิ
จากนั้นก็หลับไปตอน ตี 1 จากนั้น สะดุ้งตื่นมา ตี 3 โอ้ยยยยยยยยยย มันปวด ทรมาน ไม่ไหวเลยยยยยย ทำไมปวดงี้ละ ก็ลุกมากินยาพารา 2 เม็ด นั่งพัก ก็ยังไม่หายปวด ถามคนอื่นๆ เค้าก็บอกว่าไม่ปวดไม่เจ็บอะไรกันเลย แต่ทำไม ฉันปวดนะ ไม่เข้าใจ ปวดสุดๆ นั่งรอจนค่อยยังชั่วขึ้น แต่ยังคงปวดอยู่ เห้อ.....ไม่เหมือนชาวบ้านเค้าเรยยยยย
จากนั้นก็หลับไปด้วยความเพลีย วันรุ่งขึ้น 5555555 ก็หายปวด ดีใจสุดๆ และสภาพก็เป็นอย่างนี้
ตอนเช้า เลอลักษณ์ก็โทรมา เราก็งงๆ โทรมาทำไม ก็คือ เค้าโทรมาถามอาการต่างๆของเรา เราก็บอกเลย เมื่อคืนปวดมากๆ เค้าก็บอกแค่ว่าให้เราทานยาพาราเอา เราก็เข้าใจนะจะให้ทำไงละเนอะ 55555 ทีนี้เค้าก็บอกว่ามีไรจะแนะนำ ติชมบ้างไหม เราก็บอกเลย อย่างอื่นไม่มี มีแต่ด้านเวลา รอนานมากๆๆๆๆๆๆๆๆ นัด 17.30 น. ได้ทำ 3 ทุ่มครึ่ง ออกจาก เลอลักษณ์ 4 ทุ่ม พนักงานเองยังพูดแบบ งงๆ เลย 4 ทุ่มเลยหรอค่ะ เราก็บอกใช่ค่ะ เค้าบอกว่าจะเอาข้อมูลนำเสนอผู้บริหารเพื่อปรับปรุงต่อไปค่ะ ถามว่าเราก็โอเคนะที่เค้าโทรมา ดีอ่ะ
ทีนี้เราบวมแบบนี้อยู่ 2 วัน ก็คือ อาทิตย์ กับ วันจันทร์ พอถึงวันอังคาร หมอเค้าบอกว่าให้เอาพาสเตอร์ที่แปะอยู่ออกแล้วก็ล้างหน้า แต่ต้องไม่ให้โดนแผลด้านใน ซึ่งลำบากมากๆ กว่าจะล้างเสร็จ พอล้างออกแล้วก็เป็นอย่างนี้
55555 ออกจากบ้านเฉยเลยยยยย มิอาย
แล้ววันนี้ก็เป็นวันพุธที่ 17 ก.ย. 2557 ดิฉันมาทำงานละค่ะ 55555555555555 ไวมะ คือก็ยังคงบวมๆอยู่นะค่ะ อืดทั้งหน้าอยู่ แต่ก็โอ ไปทำงานได้ (ไม่อยากลาเยอะ)
เอาไว้ผ่านไปสัก 1 สัปดาห์จะมารีวิวใหม่นะค่ะ ส่วนใครที่สงสัยอยากถามอะไรเรา ยินดีนะค่ะ ถามเลยๆๆๆๆ แล้วจะมาตอบทุกคนค่ะ วันนี้แค่นี้ก่อนโน๊ะ