ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะคะว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเราหากผิดพลาดอะไรขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
เราเป็นอีกคนที่ศึกษาหาข้อมูลในการทำจมูกมานานมาก โดยอ่านจากรีวิวในหลายๆกระทู้ และ สอบถามจากคนใกล้ตัว
จนมาลงตัวที่The Art Clinic นี้ค่ะ เพราะเห็นว่ารีวิวที่ได้เข้าไปดูในเฟสบุ๊คแฟนเพจส่วนใหญ่เป็นทรงที่ถูกใจและดูไม่โด่งมากจนเกินไป
รวมไปถึงพี่สาวที่ไปแก้จมูกมาที่นี่เหมือนได้ค้นพบชีวิตใหม่ก็เลยตัดสินใจว่า เอาฟระ!!! ที่นี่แหละ!!!
*****คำเตือน*****
กระทู้รีวิวของเราจะลงภาพรีวิวที่เราถ่ายเองจากกล้องหน้าโทรศัพท์ โดยไม่ได้ใช้แอพเพื่อให้คนที่ต้องการที่จะทำจมูกและกำลังศึกษาหาข้อมูล
ได้เห็นสภาพหนังหน้า หรือการบวม รอยบวมต่างๆอย่างชัดเจนตั้งแต่เริ่มทำ จนครบ 1 อาทิตย์ (ลืมบอกว่าเราพึ่งทำมาได้แค่ 7 วันเองค่ะ = =")
ไม่มีการใช้แสงอะไรเลย ดังนั้น ผู้ที่เป็นโรคหัวใจโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม ขอบคุณค่ะ
หลังจากตัดสินใจแล้วก็โทรเข้าไปนัดคิวกับทางคลินิกค่ะ ประมาณ 1 อาทิตย์หลังจากโทรนัด เราก็ได้คิวแล้วค่ะ ^0^
เมื่อมาถึงก็ได้พบเจอกับสาวเจ้าที่คิวขึ้นเขียงก่อนหน้าเราค่ะ ทำเสร็จแล้วออกมารับยาที่ด้านหน้าเค้าเตอร์ แอบเห็นว่าพนักงานที่นี่บริการดีมากๆ
เห็นว่าตอนสาวเจ้าท่านนี้ออกมาจากห้องเขียง พนักงานใส่หน้ากากให้ด้วยค่ะ ระหว่างรอเราก็ดูบรรยากาศคลินิกรอบๆ ก็ได้พบเจอกับสิ่งนี้ค่ะ !!!
นี่คือใบ Certificate ของคุณหมออาท ที่อ่านคร่าวๆ คุณหมอจบจากมหาวิทยาลัยมหิดลค่ะ แล้วก็ศึกษาต่อทางด้านศัลยกรรมโดยตรงทั้งในและนอกประเทศและก็ไม่พ้นประเทศเกาหลีก็มีด้วย ^0^
เมื่อรอซักพักพนักงานก็เรียกให้ไปกรอกประวัติที่หน้าเค้าเตอร์ค่ะ เราก็กรอกไปเรื่อยๆ ระหว่างที่กรอกก็เหลือใบพบเจอกับเจ้านี่ค่ะ
ที่เค้าเตอร์จะมีตัวอย่างซิลิโคลนของคลินิกที่คุณหมออาทมี จากภาพก็มีหลากหลายราคาค่ะ ทั้ง 9000 12000 15000 30000
ด้วยความที่เราตั้งใจจะทำอยู่แล้วพอได้เห็นก็คิดในใจ อ้อ!!! ไอนี่มันจะเข้าไปอยู่ในจมูกชั้นใช่ไหม?? งั้นขอสัมผัสหน่อยนะเบ่เบ๊ะ
ซิลิโคลนที่เราถ่ายมาให้ดูเป็นราคา 15000 บาทค่ะคือราคาที่เราเลือกทำ (มันมี 4 แบบ ใช่ไหมคะ แต่เราก็งงๆตัวเองลืมถ่ายมาอีกอันเฉย ขอประทานอภัยด้วยค่ะ TT______TT" ) จากที่เราลองบิดๆดูนะคะมันมีทั้งแบบนิ่มๆ อย่างอันสีขาวอ่าค่ะจะนิ่มๆ ส่วนอันอื่นๆก็นิ่มเหมือนกัน อ้อลืมบอกไปค่ะ ราคานี้ซิลิโคลนที่เราทำจะเป็น แบบSoft USA นะคะ ตามโปรโมชั่นของคุณหมอ ลดราคาจาก 30000 เหลือแค่ 15000 เท่านั้น !!! เราเลยจัดตัวนี้ หลังจากที่กรอกประวัติเสร็จ ก็นั่งรอเรียกเข้าพบคุณหมอค่ะ เมื่อเข้าพบคุณหมอ คุณหมอน่ารักมากค่ะ
(หมายถึงหน้าตาอ่ะค่ะ กรรมๆ = =") คุณหมอก็มาจับๆจมูกเราแล้วก็ถามว่า
คุณหมออาท : มีทรงจมูกที่คิดไว้หรือเปล่าครับ
จขกท : ว่าไม่มีค่ะ อยากให้คุณหมอช่วยพิจารณาว่าแบบไหนที่รับกับหน้าของเรา
คุณหมออาท : ต้องปรับให้ปลายจมูกเชิดขึ้นนิดนึงนะครับ ส่วนโคนจมูกมันแหนบไป
จขกท : (= =")
คุณหมออาท : ก็เสริมๆตรงบริเวณโคนให้เพิ่มขึ้นมา
จขกท : หนูไม่เอาแบบโด่งมากนะคะไม่เอาแบบ เลยหน้าปากมาเจอดั้งเลยแบบนั้นไม่เอานะคะ
คุณหมออาท : ได้ครับๆๆประมาณนี้นะ
จขกท : โอเคค่ะ
นี่คือสภาพจมูกของเราค่ะ จะเห็นว่ามันไม่มีดั้งอย่างที่คุณหมอว่าจริงๆ
แต่ปลายจมูกพอมีอยู่ค่ะ ขาดแค่โคนนิดนึง
เมื่อเวลาแต่งหน้าก็จะเป็นแนวนี้ค่ะ
จากนั้นคุณหมอก็ให้ออกไปนั่งรอเตรียมตัวด้านนอกค่ะ........................................
เมื่อนั่งรอซักครู่พนักงานก็เรียกให้ไปล้างหน้าค่ะ ทีนี้เราจะได้ไปดูด้านในคลินิกคุณหมออาทแล้วค่ะ
หลังเค้าเตอร์จะเป็นเยี่ยงนี้ค่ะหลังตู้ปลาใหญ่ๆ
ห้องทางด้านซ้ายมือจะเป็นห้องที่ล้างหน้าและตัดไหมนะคะ ส่วนห้องด้านซ้ายก็คือห้องเขียงค่ะ =[]=
เมื่อเดินมาถึงห้องล้างหน้า ก็ทำการล้างหน้าตามคะแนะนำที่แปะอยู่บนพนังด้านหน้าเลยค่ะ
เมื่อล้างหน้าเสร็จเรียบร้อยก็ออกมานั่งรอด้านนอกค่ะรอเวลา ประมาณ 15 นาทีก็ได้เข้าห้องเขียงค่ะ
พนักงานก็ให้เราขึ้นไปนอนรอบนเตียงค่ะ พนักงานก็จะให้เราใส่หมวกคลุมผม และ ทำการคลุมผ้าสีเขียวๆ ให้เรา ซักพักเดียวเองค่ะ เมื่อพนักงานจัดแจง
อุปกรณ์ในการผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยคุณหมอก็เข้ามาค่ะ คุณหมอก็เอาไม้บรรทัดมาวัดที่จมูกเรา วัดค่อนข้างละเอียดพอสมควรเลยค่ะ ประมาณว่าความยาวของปลายจมูกถึงโคนจมูก ความกว้างของจมูก เมื่อได้ข้อมูลที่คุณหมอต้องการ ก็เริ่มฉีดยาชาค่ะ
ไคลแมกซ์มันอยู่ตรงนี้ค่ะ !!!!!!
เมื่อเริ่มฉีดยาชาเข็มแรกโดยเริ่มจากโคนจมูกก่อน ก็ยังพอทนได้ค่ะ พอเริ่มใกล้เข้ามาที่ปลายจมูกมากขึ้น !!! คุณพระ !!!! ทำไมมันเจ็บเยี่ยงนี้ !!!
สารภาพเลยค่ะ นี่คือการทำศัลยกรรมครั้งแรกของเรา เราน้ำตาไหลน้ำมูกไหล หมดเลย
คุณหมอถามว่าเราเป็นภูมิแพ้หรือเปล่า เราบอกว่าใช่
คุณหมอเลยนำยามาฉีดให้เพื่อลดน้ำมูก ต้องบอกเลยว่ามันเจ็บจริงๆเมื่อเข้าใกล้จมูก เจ็บจนเรานอนขาสั่นอยู่บนเตียง น้ำตาไหลจนคุณหมอบอกว่าถ้าไม่ไหวเลิกทำได้นะ จะหยุดไหม ใจเราก็นึก มาถึงขนาดนี้แล้ว ไฟติ้งงงงงง!!!!!! จึงพูดไปว่า ทำต่อค่ะคุณหมอ คุณหมอก็บอกเราว่า เจ็บนิดนึงนะ ตอนฉีดที่ปลายจมูก พี่ๆผู้ช่วย ก็ให้กำลังใจเราดีมากๆค่ะ พยายามพูดคุยกับเราตลอดเวลา ที่ข้างๆ เมื่อฉีดยาชาครบหมดทุกจุด คุณหมอก็ไปนำซิลิโคลนมาเหลา
ส่วนเราเหรอคะ ? นอนขาสั่นอยู่บนเตียงประมาณ 15 นาทีได้
พี่ผู้ช่วยก็ชวนเราคุยตลอด จนเราลืมความเจ็บไป เมื่อพร้อม คุณหมอก็ทำการผ่าตัดค่ะ
ใช้เวลาประมาณ30-45 นาทีตั้งแต่เริ่มฉีดยาชานะคะ ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปแล้ว
และแล้วฉันก็มีดั้งใหม่ !!!!
ภาพที่เห็นอาจแลดูปากเบี้ยวๆ ซิลิโคลนเบี้ยวๆนะคะ แต่เป็นผลมาจากยาชาค่ะ
จากนั้นก็ออกมานั่งพักด้านนอกรอรับยาค่ะ พนักงานได้ใส่หน้ากากให้ และ ได้ทำการอธิบายวิธีการดูแลรักษาแผล รวมไปถึงการปฏิบัติตัวในช่วงนี้
ก็มียาลดบวม และ ยาแก้อักเสบ และ เอกสารที่จะบอกถึงการปฏิบัติตัวในช่วง 1 สัปดาห์แรก เมื่อครบ 7 วันจะต้องทำการตัดไหมค่ะ
และแล้วก็จ่ายเงินค่ะ เราไม่มีบัตรเครดิตใดๆ ก็จ่ายเงินสด เป็นค่าทำจมูก 15000 บาท และ ค่ายาชาอีก 400 บาทค่ะ พอดีคุณหมอทำเราเป็นเคสสุดท้ายพอดีก็ออกมาพูดคุยกันซักพักเลยขออนุญาต แชะๆภาพเป็นที่ระทึกใจกับคุณหมออาทค่ะ
ก็ต้องรอเวลา 7 วันในการไปพบคุณหมออีกครั้งเพื่อดูแผล และ ตัดไหม ระหว่างนั้นเราก็ต้องดูแลตัวเองตามเอกสารที่พนักงานให้มา
ต่อไปนี้จะเป็นภาพภายใน 1 อาทิตย์นี้นะคะ
มาเริ่มที่วันแรกกันเลยค่ะ
วันที่ 1
ในวันแรกก็อาจจะเจ็บหน่อยค่ะ ระบมๆ หน่วงๆนิดๆเหมือนเอาอะไรมาทับไว้ที่หน้า เนื่องจากห้าแผลโดนน้ำในช่วงนี้เราจึง ล้างแค่เป็นบางส่วนค่ะแล้วใช้สำลีชุบน้ำเพื่อล้างโฟมล้างหน้าออก อ้อเวลานานห้ามนอนตะแคงนะคะ ต้องนอนหงายตลอด
วันที่ 2
ในวันที่สองจะเห็นว่ารอยช้ำที่โคนจมูกเริ่มจางลงแล้วค่ะ แต่ว่า ที่บริเวณแก้มและใต้ตานั้นบวมจนตาเหลือนิดเดียวเอง คือตื่นมาวันนี้รู้สึกเลยว่าอะไรมันคับๆที่ดวงตารู้สึกเหมือนมันบวมๆ ส่วนความเจ็บที่จมูกยังรู้สึกเจ็บๆหน่วงๆอยู่นิดหน่อยค่ะ
วันที่ 3
วันที่ 3 รู้สึกว่ารอบช้ำที่โคนจมูกเริ่มหายไปแล้ว และ สามารถแกะพลาสเตอร์ที่ประครองซิลิโคลนให้เป็นทรงอยู่ออกได้แล้ว พอได้เห็นจมูกตัวเองก็รู้สึกประว่า นี่เลย!!!!!!! ดั้งใหม่ที่ใฝ่ฝัน !!!!!!!!!
ตอนนี้ก็ยังรู้สึกบวมๆ ตึงๆที่แก้มและใต้ตาอยู่ค่ะ แต่รอยบวมเริ่มหายแล้ว วันนี้เราสังเกตจมูกตัวเองมากขึ้น และ เริ่มรู้สึกว่าเอ๊ะ มันเบี้ยวๆหรือเปล่าจากแสงที่ตกกระทบจมูก เราเลยโทรไปถามทางคลินิก ทางคลินิกแจ้งว่ายังไม่หายบวมสนิท จริงๆแล้วไม่เบี้ยวแต่มันเกิดจากการที่มีการยุบบวม ไม่เท่ากันจึงทำให้เหมือนดูเบี้ยว เราก็อ่อ...เหรอคะ ..... โอเค งันดูวันถัดไป
วันที่ 5 (วันที่ 4 แอบเหนื่อยค่ะเลยนอนก่อน)
ในวันนี้เราก็เริ่มรู้สึกว่าที่บวมนั้นลดน้อยลง ยังเหลือที่ส่วนโคนอีกเล็กน้อยที่ยังรู้สึกเจ็บๆอยู่ เพื่อนๆเริ่มทักว่า เห้ย!!! เริ่มยุบละดูสวยขึ้น เข้ากับหน้าดี ดูเปรี้ยวขึ้น เราก็โอเคเลยตอนแรกอยากได้ใบหน้าให้ตัวเองออกมาหวานๆ แต่พื้นเพหนังหน้าเราไม่หวาน พอทำจมูกมาเลยคมมากขึ้น เราก็พอใจนะที่ออกมาได้ดูดีเกินคาด 5555
ปอ.ลุย. เมื่อครบ 1 อาทิตย์ และ รูปที่แต่งหน้าอยู่ในคอมเม้นท์ นะคะ ขอบคุณค่ะ
[CR] [REVIEW]มหากาพย์รีวิวทำจมูกใหม่กับหมออาท ที่ The Art Clinic เมเจอร์รัชโยธินชั้น3
เราเป็นอีกคนที่ศึกษาหาข้อมูลในการทำจมูกมานานมาก โดยอ่านจากรีวิวในหลายๆกระทู้ และ สอบถามจากคนใกล้ตัว
จนมาลงตัวที่The Art Clinic นี้ค่ะ เพราะเห็นว่ารีวิวที่ได้เข้าไปดูในเฟสบุ๊คแฟนเพจส่วนใหญ่เป็นทรงที่ถูกใจและดูไม่โด่งมากจนเกินไป
รวมไปถึงพี่สาวที่ไปแก้จมูกมาที่นี่เหมือนได้ค้นพบชีวิตใหม่ก็เลยตัดสินใจว่า เอาฟระ!!! ที่นี่แหละ!!!
*****คำเตือน*****
กระทู้รีวิวของเราจะลงภาพรีวิวที่เราถ่ายเองจากกล้องหน้าโทรศัพท์ โดยไม่ได้ใช้แอพเพื่อให้คนที่ต้องการที่จะทำจมูกและกำลังศึกษาหาข้อมูล
ได้เห็นสภาพหนังหน้า หรือการบวม รอยบวมต่างๆอย่างชัดเจนตั้งแต่เริ่มทำ จนครบ 1 อาทิตย์ (ลืมบอกว่าเราพึ่งทำมาได้แค่ 7 วันเองค่ะ = =")
ไม่มีการใช้แสงอะไรเลย ดังนั้น ผู้ที่เป็นโรคหัวใจโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม ขอบคุณค่ะ
หลังจากตัดสินใจแล้วก็โทรเข้าไปนัดคิวกับทางคลินิกค่ะ ประมาณ 1 อาทิตย์หลังจากโทรนัด เราก็ได้คิวแล้วค่ะ ^0^
เมื่อมาถึงก็ได้พบเจอกับสาวเจ้าที่คิวขึ้นเขียงก่อนหน้าเราค่ะ ทำเสร็จแล้วออกมารับยาที่ด้านหน้าเค้าเตอร์ แอบเห็นว่าพนักงานที่นี่บริการดีมากๆ
เห็นว่าตอนสาวเจ้าท่านนี้ออกมาจากห้องเขียง พนักงานใส่หน้ากากให้ด้วยค่ะ ระหว่างรอเราก็ดูบรรยากาศคลินิกรอบๆ ก็ได้พบเจอกับสิ่งนี้ค่ะ !!!
นี่คือใบ Certificate ของคุณหมออาท ที่อ่านคร่าวๆ คุณหมอจบจากมหาวิทยาลัยมหิดลค่ะ แล้วก็ศึกษาต่อทางด้านศัลยกรรมโดยตรงทั้งในและนอกประเทศและก็ไม่พ้นประเทศเกาหลีก็มีด้วย ^0^
เมื่อรอซักพักพนักงานก็เรียกให้ไปกรอกประวัติที่หน้าเค้าเตอร์ค่ะ เราก็กรอกไปเรื่อยๆ ระหว่างที่กรอกก็เหลือใบพบเจอกับเจ้านี่ค่ะ
ที่เค้าเตอร์จะมีตัวอย่างซิลิโคลนของคลินิกที่คุณหมออาทมี จากภาพก็มีหลากหลายราคาค่ะ ทั้ง 9000 12000 15000 30000
ด้วยความที่เราตั้งใจจะทำอยู่แล้วพอได้เห็นก็คิดในใจ อ้อ!!! ไอนี่มันจะเข้าไปอยู่ในจมูกชั้นใช่ไหม?? งั้นขอสัมผัสหน่อยนะเบ่เบ๊ะ
ซิลิโคลนที่เราถ่ายมาให้ดูเป็นราคา 15000 บาทค่ะคือราคาที่เราเลือกทำ (มันมี 4 แบบ ใช่ไหมคะ แต่เราก็งงๆตัวเองลืมถ่ายมาอีกอันเฉย ขอประทานอภัยด้วยค่ะ TT______TT" ) จากที่เราลองบิดๆดูนะคะมันมีทั้งแบบนิ่มๆ อย่างอันสีขาวอ่าค่ะจะนิ่มๆ ส่วนอันอื่นๆก็นิ่มเหมือนกัน อ้อลืมบอกไปค่ะ ราคานี้ซิลิโคลนที่เราทำจะเป็น แบบSoft USA นะคะ ตามโปรโมชั่นของคุณหมอ ลดราคาจาก 30000 เหลือแค่ 15000 เท่านั้น !!! เราเลยจัดตัวนี้ หลังจากที่กรอกประวัติเสร็จ ก็นั่งรอเรียกเข้าพบคุณหมอค่ะ เมื่อเข้าพบคุณหมอ คุณหมอน่ารักมากค่ะ (หมายถึงหน้าตาอ่ะค่ะ กรรมๆ = =") คุณหมอก็มาจับๆจมูกเราแล้วก็ถามว่า
คุณหมออาท : มีทรงจมูกที่คิดไว้หรือเปล่าครับ
จขกท : ว่าไม่มีค่ะ อยากให้คุณหมอช่วยพิจารณาว่าแบบไหนที่รับกับหน้าของเรา
คุณหมออาท : ต้องปรับให้ปลายจมูกเชิดขึ้นนิดนึงนะครับ ส่วนโคนจมูกมันแหนบไป
จขกท : (= =")
คุณหมออาท : ก็เสริมๆตรงบริเวณโคนให้เพิ่มขึ้นมา
จขกท : หนูไม่เอาแบบโด่งมากนะคะไม่เอาแบบ เลยหน้าปากมาเจอดั้งเลยแบบนั้นไม่เอานะคะ
คุณหมออาท : ได้ครับๆๆประมาณนี้นะ
จขกท : โอเคค่ะ
นี่คือสภาพจมูกของเราค่ะ จะเห็นว่ามันไม่มีดั้งอย่างที่คุณหมอว่าจริงๆ
แต่ปลายจมูกพอมีอยู่ค่ะ ขาดแค่โคนนิดนึง
เมื่อเวลาแต่งหน้าก็จะเป็นแนวนี้ค่ะ
จากนั้นคุณหมอก็ให้ออกไปนั่งรอเตรียมตัวด้านนอกค่ะ........................................
เมื่อนั่งรอซักครู่พนักงานก็เรียกให้ไปล้างหน้าค่ะ ทีนี้เราจะได้ไปดูด้านในคลินิกคุณหมออาทแล้วค่ะ
หลังเค้าเตอร์จะเป็นเยี่ยงนี้ค่ะหลังตู้ปลาใหญ่ๆ
ห้องทางด้านซ้ายมือจะเป็นห้องที่ล้างหน้าและตัดไหมนะคะ ส่วนห้องด้านซ้ายก็คือห้องเขียงค่ะ =[]=
เมื่อเดินมาถึงห้องล้างหน้า ก็ทำการล้างหน้าตามคะแนะนำที่แปะอยู่บนพนังด้านหน้าเลยค่ะ
เมื่อล้างหน้าเสร็จเรียบร้อยก็ออกมานั่งรอด้านนอกค่ะรอเวลา ประมาณ 15 นาทีก็ได้เข้าห้องเขียงค่ะ
พนักงานก็ให้เราขึ้นไปนอนรอบนเตียงค่ะ พนักงานก็จะให้เราใส่หมวกคลุมผม และ ทำการคลุมผ้าสีเขียวๆ ให้เรา ซักพักเดียวเองค่ะ เมื่อพนักงานจัดแจง
อุปกรณ์ในการผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยคุณหมอก็เข้ามาค่ะ คุณหมอก็เอาไม้บรรทัดมาวัดที่จมูกเรา วัดค่อนข้างละเอียดพอสมควรเลยค่ะ ประมาณว่าความยาวของปลายจมูกถึงโคนจมูก ความกว้างของจมูก เมื่อได้ข้อมูลที่คุณหมอต้องการ ก็เริ่มฉีดยาชาค่ะ
ไคลแมกซ์มันอยู่ตรงนี้ค่ะ !!!!!!
เมื่อเริ่มฉีดยาชาเข็มแรกโดยเริ่มจากโคนจมูกก่อน ก็ยังพอทนได้ค่ะ พอเริ่มใกล้เข้ามาที่ปลายจมูกมากขึ้น !!! คุณพระ !!!! ทำไมมันเจ็บเยี่ยงนี้ !!!
สารภาพเลยค่ะ นี่คือการทำศัลยกรรมครั้งแรกของเรา เราน้ำตาไหลน้ำมูกไหล หมดเลย คุณหมอถามว่าเราเป็นภูมิแพ้หรือเปล่า เราบอกว่าใช่
คุณหมอเลยนำยามาฉีดให้เพื่อลดน้ำมูก ต้องบอกเลยว่ามันเจ็บจริงๆเมื่อเข้าใกล้จมูก เจ็บจนเรานอนขาสั่นอยู่บนเตียง น้ำตาไหลจนคุณหมอบอกว่าถ้าไม่ไหวเลิกทำได้นะ จะหยุดไหม ใจเราก็นึก มาถึงขนาดนี้แล้ว ไฟติ้งงงงงง!!!!!! จึงพูดไปว่า ทำต่อค่ะคุณหมอ คุณหมอก็บอกเราว่า เจ็บนิดนึงนะ ตอนฉีดที่ปลายจมูก พี่ๆผู้ช่วย ก็ให้กำลังใจเราดีมากๆค่ะ พยายามพูดคุยกับเราตลอดเวลา ที่ข้างๆ เมื่อฉีดยาชาครบหมดทุกจุด คุณหมอก็ไปนำซิลิโคลนมาเหลา
ส่วนเราเหรอคะ ? นอนขาสั่นอยู่บนเตียงประมาณ 15 นาทีได้ พี่ผู้ช่วยก็ชวนเราคุยตลอด จนเราลืมความเจ็บไป เมื่อพร้อม คุณหมอก็ทำการผ่าตัดค่ะ
ใช้เวลาประมาณ30-45 นาทีตั้งแต่เริ่มฉีดยาชานะคะ ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปแล้ว และแล้วฉันก็มีดั้งใหม่ !!!!
ภาพที่เห็นอาจแลดูปากเบี้ยวๆ ซิลิโคลนเบี้ยวๆนะคะ แต่เป็นผลมาจากยาชาค่ะ
จากนั้นก็ออกมานั่งพักด้านนอกรอรับยาค่ะ พนักงานได้ใส่หน้ากากให้ และ ได้ทำการอธิบายวิธีการดูแลรักษาแผล รวมไปถึงการปฏิบัติตัวในช่วงนี้
ก็มียาลดบวม และ ยาแก้อักเสบ และ เอกสารที่จะบอกถึงการปฏิบัติตัวในช่วง 1 สัปดาห์แรก เมื่อครบ 7 วันจะต้องทำการตัดไหมค่ะ
และแล้วก็จ่ายเงินค่ะ เราไม่มีบัตรเครดิตใดๆ ก็จ่ายเงินสด เป็นค่าทำจมูก 15000 บาท และ ค่ายาชาอีก 400 บาทค่ะ พอดีคุณหมอทำเราเป็นเคสสุดท้ายพอดีก็ออกมาพูดคุยกันซักพักเลยขออนุญาต แชะๆภาพเป็นที่ระทึกใจกับคุณหมออาทค่ะ
ก็ต้องรอเวลา 7 วันในการไปพบคุณหมออีกครั้งเพื่อดูแผล และ ตัดไหม ระหว่างนั้นเราก็ต้องดูแลตัวเองตามเอกสารที่พนักงานให้มา
ต่อไปนี้จะเป็นภาพภายใน 1 อาทิตย์นี้นะคะ
มาเริ่มที่วันแรกกันเลยค่ะ
วันที่ 1
ในวันแรกก็อาจจะเจ็บหน่อยค่ะ ระบมๆ หน่วงๆนิดๆเหมือนเอาอะไรมาทับไว้ที่หน้า เนื่องจากห้าแผลโดนน้ำในช่วงนี้เราจึง ล้างแค่เป็นบางส่วนค่ะแล้วใช้สำลีชุบน้ำเพื่อล้างโฟมล้างหน้าออก อ้อเวลานานห้ามนอนตะแคงนะคะ ต้องนอนหงายตลอด
วันที่ 2
ในวันที่สองจะเห็นว่ารอยช้ำที่โคนจมูกเริ่มจางลงแล้วค่ะ แต่ว่า ที่บริเวณแก้มและใต้ตานั้นบวมจนตาเหลือนิดเดียวเอง คือตื่นมาวันนี้รู้สึกเลยว่าอะไรมันคับๆที่ดวงตารู้สึกเหมือนมันบวมๆ ส่วนความเจ็บที่จมูกยังรู้สึกเจ็บๆหน่วงๆอยู่นิดหน่อยค่ะ
วันที่ 3
วันที่ 3 รู้สึกว่ารอบช้ำที่โคนจมูกเริ่มหายไปแล้ว และ สามารถแกะพลาสเตอร์ที่ประครองซิลิโคลนให้เป็นทรงอยู่ออกได้แล้ว พอได้เห็นจมูกตัวเองก็รู้สึกประว่า นี่เลย!!!!!!! ดั้งใหม่ที่ใฝ่ฝัน !!!!!!!!! ตอนนี้ก็ยังรู้สึกบวมๆ ตึงๆที่แก้มและใต้ตาอยู่ค่ะ แต่รอยบวมเริ่มหายแล้ว วันนี้เราสังเกตจมูกตัวเองมากขึ้น และ เริ่มรู้สึกว่าเอ๊ะ มันเบี้ยวๆหรือเปล่าจากแสงที่ตกกระทบจมูก เราเลยโทรไปถามทางคลินิก ทางคลินิกแจ้งว่ายังไม่หายบวมสนิท จริงๆแล้วไม่เบี้ยวแต่มันเกิดจากการที่มีการยุบบวม ไม่เท่ากันจึงทำให้เหมือนดูเบี้ยว เราก็อ่อ...เหรอคะ ..... โอเค งันดูวันถัดไป
วันที่ 5 (วันที่ 4 แอบเหนื่อยค่ะเลยนอนก่อน)
ในวันนี้เราก็เริ่มรู้สึกว่าที่บวมนั้นลดน้อยลง ยังเหลือที่ส่วนโคนอีกเล็กน้อยที่ยังรู้สึกเจ็บๆอยู่ เพื่อนๆเริ่มทักว่า เห้ย!!! เริ่มยุบละดูสวยขึ้น เข้ากับหน้าดี ดูเปรี้ยวขึ้น เราก็โอเคเลยตอนแรกอยากได้ใบหน้าให้ตัวเองออกมาหวานๆ แต่พื้นเพหนังหน้าเราไม่หวาน พอทำจมูกมาเลยคมมากขึ้น เราก็พอใจนะที่ออกมาได้ดูดีเกินคาด 5555
ปอ.ลุย. เมื่อครบ 1 อาทิตย์ และ รูปที่แต่งหน้าอยู่ในคอมเม้นท์ นะคะ ขอบคุณค่ะ