“ณเดชน์” เมิน! แฉใช้เส้นเรียนจบเกียรตินิยม ยัน ม.ดังไม่เอาชื่อมาเสี่ยง


   “ณเดชน์” ยันไม่บั่นทอนจิตใจ เรียนจบปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับ 2 แต่กลับโดนแฉเส้นใหญ่ใช้ความเป็นดาราได้รับอภิสิทธิ์เหนือ นศ. คนอื่น ยอมรับได้เพื่อนดีช่วยเหลือตนจนทำให้เรียนจบ 4 ปี เชื่อมหาวิทยาลัยไม่เอาชื่อมาเสี่ยงจนใช้เกณฑ์ตัดสินสองมาตรฐาน
      
        เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับดารานักแสดงในวงการบันเทิงสำหรับพระเอกหนุ่ม “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ที่แม้คิวงานจะรัดตัว แต่ก็ยังเจียดเวลาไปเรียนอย่างสม่ำเสมอ จนตอนนี้เรียนจบปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ มหาวิทยาลัยรังสิต ภายในเวลา 4 ปี แถมยังคว้าเกียรตินิยมอันดับ 2 ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.31 และจะทำการรับปริญญาบัตรจบการศึกษาในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ปีหน้า เมื่อแฟนคลับชื่นชมยินดีกับความสำเร็จของพระเอกหนุ่มได้ไม่นาน ก็มีบุคคลปริศนาออกมาแฉว่าณเดชน์ไม่ค่อยเข้าคลาสเรียน การบ้าน รายงาน ก็อาศัยเพื่อนทำให้ แถมยังได้รับอภิสิทธิ์เข้าสอบสายเป็นชั่วโมงอีกต่างหาก ซัดมหาวิทยาลัยดังสองมาตรฐาน เห็นว่าเป็นคนดังจึงช่วยเหลือเต็มที่ เพื่อจะได้เกิดเป็นกระแส จนคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ออกมาชี้แจงเหตุผลทั้งหมดว่าทางมหาวิทยาลัยไม่มีส่วนช่วยเหลือนักศึกษาให้เรียนจบแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะพระเอกดังเป็นคนเรียนเก่งอยู่แล้วต่างหาก ล่าสุด ได้มีโอกาสเจอตัวหนุ่มณเดชน์ที่มาร่วมกิจกรรม “Rising Sun Showcase Fan Meeting” ณ ลานเมกาพลาซา ศูนย์การค้าเมกาบางนา เจ้าตัวเลยขอชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว
      
        “สำหรับเรื่องฟีดแบ็กการเรียน จริงๆ ก็ได้ทราบข่าวมาแล้วตรงนี้ไม่ได้คิดอะไรครับ จริงๆ เรารู้ว่าเราทำงานยังไง เกียรตินิยมผมได้อับดับ 2 ได้เกรด 3.31 ผมต้องบอกเลยว่าเราก็พยายามทำให้เต็มที่ที่สุดแล้วนะ อยากจะจบ 4 ปี และไม่ได้หวังว่าจะได้เกียรตินิยม แต่เมื่อได้เราก็ต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ ตอนเรียนเราได้เพื่อน ได้อาจารย์ที่คอยช่วยเหลือด้วย ช่วยได้ค่อนข้างเยอะมาก เวลาตามงานต่างๆ การจับเราเข้ากลุ่ม มันเป็นผลพลอยได้จากการที่แต่ละคนช่วยกัน รวมทั้งเราเองก็พยายามแบ่งเวลาเป็นสัดส่วนไปมหาลัยทุกๆ ครั้งที่มีงานจำเป็นหรืองานสำคัญ บางทีชนกับละครก็ไปช่วงเช้าบ้าง ช่วงบ่ายบ้าง คือพยายามจะไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะไปได้”
      
        “ข่าวที่ออกมาสำหรับผมไม่บั่นทอนจิตใจครับ ผมดีใจมากกว่าที่จบ 4 ปี มันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผมทำให้ตัวเราและทำให้ครอบครัวตัวเองด้วย (โดนแฉว่าเรียนจบเร็ว เพราะเราเป็นดารา จะได้โปรโมตมหาวิทยาลัย) ผมว่าทางมหาวิทยาลัยไม่น่าจะเอาเข้ามาเสี่ยงกับผมหรอกครับ ผมเป็นเหมือนแค่นักศึกษาคนหนึ่งเท่านั้นเองผมเองก็ทุ่มเทกับเรื่องเรียนมากพอสมควร คือบางทีตื่นเช้าๆ ไปเรียนก็ไปครับ คือแม่จะคอยปลุกตลอด ใครที่เป็นเพื่อนก็จะรู้ตลอดว่าผมไปเรียนบ่อยแค่ไหน ถ้าเกิดว่าคุยกันรู้เรื่อง สมมติว่ามีงานตอนบ่ายก็ไปเรียนตอนเช้า และก็อีกอาทิตย์หนึ่งก็ย้ายงานไปตอนเช้าและมาเรียนตอนบ่ายแทน ก็พยายามไม่ให้มันกระทบกัน เราจัดคิวค่อนข้างดีทีเดียวครับ”
      
        เมินเมาท์มหาวิทยาลัยใช้สองมาตรฐาน ขอบคุณคณบดีที่ช่วยออกโรงชี้แจงแทนตนว่าไม่ได้รับอภิสิทธิ์ใดๆ
       “ไม่รู้จะพูดอะไรดีครับ ก็ปล่อยๆ ไปดีกว่าครับ ไม่ได้คิดอะไรมาก และก็ไม่ได้เครียดด้วย ทุกคนก็บอกว่าไม่ต้องคิดมาก ผมไม่ได้คุยกับผู้ใหญ่แต่ละคนเลยนะครับ อันนี้คือจะคุยกับเพื่อนมากกว่า และก็ได้ข่าวว่าทางผู้ใหญ่ได้ออกมา ก็ขอขอบคุณมากครับผม ที่เป็นกำลังใจให้ ผมให้ความสำคัญกับเรื่องของการเรียนเสมอเพราะการเรียนมันก็เหมือนกับการรับผิดชอบของคนๆ หนึ่งเหมือนกัน เราก็แบ่งเวลาให้เป็น ผมทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยค่อนข้างจะคูณสองเลยแหละ เพราะฉะนั้นต้องอดทนมากเหมือนกัน กับการที่จะผ่านมาได้ ช่วงปี 1 ปี 2 ผมลงค่อนข้างเต็มมากๆ ปี 3 ปี 4 มันเลยมีช่วงเวลาที่เราค่อนข้างจะได้ผ่อนคลายตัวเอง และอีกอย่างหนึ่งนิเทศศาสตร์มันค่อนข้างเป็นสาขาวิชาที่ปฏิบัติซะส่วนใหญ่ ไม่ใช่การที่จะนั่งอยู่ในคลาสและจดโน้ต ฉะนั้นผมจะเน้นเรื่องการออกกองกับการทำงานนอกสถานที่มากกว่าครับผม ภาพที่ออกมาก็จะไม่ค่อยได้เห็นผมอยู่ที่มหาวิทยาลัยสักเท่าไหร่”
      
        “การที่ผมทำงานด้านนี้และมาเรียนเกี่ยวกับสายนี้มันทำให้ผมเข้าใจอะไรได้มากขึ้น มันก็สนับสนุนกันทั้งสองอย่างทั้งเรื่องเรียนเรื่องงาน มันค่อนข้างที่จะเข้าใจง่ายกับรายละเอียดโปรดักชั่นต่างๆ เพราะว่าเราก็ทำงานอยู่ตรงนี้เนอะ กองโฆษณาเอย กองหนังก็ผ่านมาแล้ว กองละครก็อยู่ประจำ มันเลยทำให้เนื้อหาและวิธีการทำงานซึมอยู่ในหัวสมองเร็ว และอธิบายออกมาได้ง่ายและละเอียด เป็นเพราะว่าเราปฏิบัติมากกว่าคนอื่นหรือเปล่า เลยทำให้ได้เกียรตินิยมจริงๆ แล้ว เพื่อนๆ หลายคนก็ได้เกรดดี และได้เกียรตินิยมค่อนข้างเยอะนะครับ คือเขาก็เวียนปฏิบัติ ไปออกกองทำงานต่างๆ ก็มีความรู้กันมากๆ ค่อนข้างเยอะ มีคนเก่งกว่าผมเยอะมากๆ แต่เขาแค่ไม่ได้อยู่ในตรงนี้ ไม่ได้อยู่ในที่ที่คนจะรู้จักเฉยๆ”





ข่าวจาก  :  ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9570000105707
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่