สวัสดีฮะทุกคน
ปอร์เช่ ปอ (
Porsche Por) นะจ๊ะ
กลับมากับกระทู้ใหม่ ไม่รู้ว่าจะเตะตา ต้องใจใครๆ หรือเปล่า แต่อยากมาแนะนำและชวนเพื่อนๆ สวยไปด้วยกัน
อ่ะๆ ให้ดูความแซ่บเป็นน้ำจิ้มก่อนว่าด้วยงบประมาณเท่านั้น ปอสามารถแต่งออกมาเป็นแบบไหนได้บ้าง
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่ากระทู้นี้มีสปอนเซอร์สนับสนุนด้านงบประมาณที่ใช้ซื้อเครื่องสำอางทั้งหมด นั่นคือ BeeTalk
แต่เดี๋ยวก่อน!! อย่าเพิ่งกด X ปิดไป (ใจเย็นนน T^T) เพราะตัวเนื้อหาและของที่เลือกมาใช้ ปอเป็นคนเลือกและคิดรูปแบบด้วยตัวเองทั้งหมด โดยไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับทางแบรนด์เครื่องสำอางที่เลือกมา รวมทั้งทาง BeeTalk จ้าาา
หลายคนคงสงสัย เอ๊ะ!! กระทู้เครื่องสำอางแล้วเกี่ยวอะไรกับ BeeTalk ล่ะ? เออ... นั่นสิ มันเกี่ยวไรกัน?? เดี๋ยวตอนท้ายมาบอกให้รู้กัน
กระทู้นี้ปอจะมาแนะนำของถูกและดี ในงบแค่ 1,000 บาท!! มีเศษเกินมานิดๆ หน่อย แต่บางอย่างสามารถตัดออกได้ เดี๋ยวลองดูว่าปอจะแนะนำยังไงเนอะ แล้วเอาของเหล่านั้นมาสร้างสรรค์เป็นลุคแต่งหน้าสุดเก๋ถึง 3 ลุคที่แตกต่างกัน พร้อม How to ให้ด้วย
มาดูโฉมหน้าของสิ่งรังสรรค์ความงามให้เรากันก่อนดีกว่า
ปอได้มาทั้งหมด 7 ชิ้น พยายามเลือกเต็มที่ในสิ่งที่คิดว่าดีและถูกที่สุดเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ
ปอซื้อของใน Tops Market นะ แต่สามารถหาได้ตาม Boots, Watsons หรือร้านอื่นๆ ซึ่งราคาอาจจะถูกหรือแพงกว่ากันบ้างแตกต่างกันไป แต่คงไม่หนีๆ กันเท่าไร งบหมดไป 1,269 บาท!!! ยังอยู่ในหลักพันนะ 555+ ได้มา 7 ชิ้นปอถือว่ามันไม่ได้แพงมากเมื่อหารเฉลี่ยต่อชิ้น แต่ถ้าใครยังมองว่ามันแพงไปอยู่ เดี๋ยวปอมีวิธีเลือกและตัดเครื่องสำอางบางชิ้นออกด้วย!!!
เอาล่ะ เดี๋ยวปอมารีวิวเล็กๆ น้อยๆ สำหรับแต่ละชิ้น ว่ามันดียังไง ทำไมปอถึงเลือกมา และอะไรจำเป็น อะไรไม่จำเป็นมากพอจะตัดทิ้งได้ แต่ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อตามปอก็ได้นะ แต่ปอต้องการไกด์ให้รู้คร่าวๆ ว่าถ้างบจำกัด ควรลงทุนกับอะไรบ้าง
L’OREAL Mat Magigue All-In-One
เริ่มด้วยงานสร้างผิว ถ้าคุณอยากประหยัดงบ แต่ยังคงต้องการผิวที่ดูเนียนสวยอยู่ ปอแนะนำให้ลงทุนกับแป้งผสมรองพื้นแทนรองพื้น/บีบีครีมและแป้งฝุ่นไปเลย เพราะจะช่วยให้ประหยัดงบลงได้เยอะ แล้วยังสะดวก ใช้ง่าย รวบรัด แถมยังไม่หนักหน้าอีกด้วย แป้งตัวนี้จะเหมาะกับคนผิวมันมากกว่า (ปอผิวมัน) ตอนใช้จะให้ลุคแมตต์ๆ แต่เอาจริงๆ มันไม่ค่อยคุมมันเท่าไรหรอก ใช้ไปสักพักหน้าก็มันขึ้นแล้ว แต่เนื้อแป้งถือว่าดีนะ เนียนละเอียดดี ปกปิดได้นิดหน่อย ไม่มากนัก
แต่ถ้าใครบอกว่า หน้าฉันต้องการการปกปิดที่มากกว่าแค่แป้งผสมรองพื้นย่ะ! ปอแนะนำให้เพิ่มเงินอีกนิดลงทุนกับรองพื้นหรือคอนซีลเลอร์ถูกและดีสักตัวกับแป้งฝุ่นแทน งบอาจจะเพิ่มขึ้นหน่อย แต่ในด้านการใช้งานก็คุ้มไม่ต่างกัน
ราคา: 299 บาท
จำเป็น!
Essence Silky Touch Blush
แก้มเป็นอีกสิ่งที่ถือว่าสำคัญพอสมควร แต่สามารถใช้อย่างอื่นมาทดแทนได้! นั่นคือลิปสติก แต่มันอาจจะไม่ค่อยทนมากสำหรับคนผิวมันเนื่องจากลิปสติกเนื้อจะค่อนข้างครีม และอาจทำให้เกิดสิวได้ แต่ถ้าจะซื้อบลัชออนพยายามเลือกสีที่ใช้ได้ค่อนข้างหลากหลาย (สีพีช/อมส้มหรือสีชมพู) ที่ปอเลือกตัวนี้มาเพราะราคามันไม่แพง เมื่อเทียบกับอีกแบรนด์ที่ราคาใกล้เคียงกันอย่าง Maybelline ปอว่าตัวนี้ปัดแล้วเห็นสีมากกว่า แถมเนื้อยังไม่เป็นฝุ่นมากด้วย ปัดแล้วไม่ค่อยฟุ้งเป็นฝุ่นไปเสียหมด
ราคา: 145 บาท
ไม่จำเป็นนัก สามารถใช้อย่างอื่นทดแทนได้ (แต่มีติดไว้สักตลับก็ดีนะ)
Wet n Wild Eye Shadow Palette x8
อายแชโดว์คือสิ่งที่เสกสีสันเพิ่มเสน่ห์ให้ดวงตาคู่สวยของเรา แบรนด์นี้น่าจะเป็นที่รู้จักกันดี เพราะตั้งแต่เข้าไทยมาอย่างเป็นทางการ ยอดขายก็ถล่มทลาย ของหมดเชลฟ์บ่อยมาก! แน่นอนว่าที่เลือกมา เพราะมันถูกและดีจริงๆ เนื้อแน่น สีชัด แถมยังได้สีสันที่หลากหลายด้วยเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในเรทราคาใกล้เคียงกัน อันนี้ได้ถึง 8 สี (มันมีแบบ 5 และ 3 สีด้วย แต่แบบนี้คุ้มสุดเมื่อเทียบราคา 555+) จริงๆ ปออยากได้อีกเฉดหนึ่งนะ ที่เป็นสีเอิร์ธโทน ธรรมชาติๆ แต่ของมันหมด เลยเอาพาเลตนี้มาแทน ซึ่งสามารถใช้ได้เช่นกัน แต่ถ้าสามารถหาอายแชโดว์ที่เป็นสีเอิร์ธโทน สีโทนน้ำตาลๆ ปอแนะนำแบบนั้นมากกว่านะ อาจจะเป็นแบรนด์อื่นๆ ก็ได้ เพราะมันสามารถใช้ได้ครอบคลุมและหลากหลายคุณประโยชน์มากกว่า โดยเฉพาะพาเลตที่มีสีน้ำตาลเนื้อแมตต์ สามารถเอามาใช้ได้ทั้งเขียนคิ้วและสร้างรูปหน้า (ไล้ดั้ง คอนทัวร์เบาๆ) และแนะนำว่าเวลาซื้ออายแชโดว์เลือกที่มีสีดำมาด้วย เพราะมันสามารถใช้เป็นไลเนอร์แบบฝุ่นก็ได้ หรือจะใช้แปรงจุ่มน้ำหมาดๆ แล้วแตะเนื้อขึ้นมาทำเป็นลิควิดไลเนอร์ก็ได้เช่นกัน หลากหลายประโยชน์ คุ้ม!! แถมช่วยให้ประหยัดขึ้นอีก
ราคา: 299 บาท
จำเป็น!
Mistine 3D Brows Secret
เพราะคิ้วคือมงกุฎของหน้า!! วลีเด็ดที่ใช้นิยามความสำคัญของคิ้ว มันคือเรื่องจริงนะ คิ้วสำคัญมากจริงๆ คิ้วเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน อารมณ์เปลี่ยนได้เหมือนกันนะ ถ้าถามว่าซื้อตัวนี้มาแล้วมันดีไหม? ดีนะ ตัวดินสอสีชัดมาก เขียนติดง่ายด้วย ที่เกลี่ยให้นวลๆ ก็ถือว่าโอเค แต่ตัวมาสคาร่า ส่วนตัวปอไม่ค่อยปลื้มเท่าที่ควร เพราะว่าเนื้อมันค่อนข้างเหนียว ปัดยาก! แต่โดยรวมถือว่าคุ้มนะกับราคาเท่านี้ ได้ครบทุกอย่างเลย ทั้งนี้ทั้งนั้น... ปอพูดไว้แล้วว่าสามารถใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเนื้อแมตต์เขียนคิ้วแทนได้ (ปอใช้ประจำ!! ปอว่ามันเนียนและเป็นธรรมชาติกว่าการใช้ดินสอเขียนคิ้ว) ส่วนมาสคาร่าคิ้วจริงๆ มันไม่ค่อยจำเป็นเท่าไรหรอก ถ้าผมคุณไม่ได้สีอ่อนจนต้องใช้มาสคาร่าปัดเปลี่ยนสีคิ้ว ถ้าจะปัดเพื่อให้ขนมันเรียงเส้นและอยู่ทรงมากขึ้น สามารถใช้มาสคาร่าปัดขนตาปัดแทนได้ เดี๋ยวปอจะอธิบายวิธีในรีวิวมาสคาร่า
ราคา: 139 บาท
ไม่จำเป็นนัก สามารถใช้อย่างอื่นทดแทนได้
Maybelline Hyper Cure Volume Express
สำหรับปอ งานขนตาเป็นเรื่องสำคัญนะ สำคัญมากด้วย มันสามารถทำให้ตาเราดูคมโตขึ้นได้ เปลี่ยนรูปตาได้เลยบางที (ในกรณีติดขนตาปลอม) แต่เจ้าตัวช่วยตัวนี้ก็ใช่ว่าไม่สำคัญ ปอว่าแต่งตาแล้วไม่มีขนตามันดูแปลกๆ ทำไมถึงเลือก Maybelline ต้องบอกเลยว่าชีวิตนี้ยอมสิโรราบให้กับมาสคาร่าแบรนด์นี้จริงๆ ปอมีหลายตัวมาก และมันก็ดีทุกตัว ส่วนเจ้าตัวนี้ ก็เป็นมาสคาร่าสุดโด่งดัง ตัวนี้ดังสุดแล้วมั้งของแบรนด์อ่ะ ถูกและโคตรดี ปัดแล้วหนา ยาว เรียงเส้นดีต่างหาก ขนตาล่างหล่อมแหล่มๆ ปัดทีนี่ดูดกดำขึ้นมาเลย ปลื้มมม!! แต่ปอไม่ชอบอย่างเดียวคือหัวแปรง มันใหญ่ไปหน่อย ปัดลำบาก ปอชอบมาสคาร่าที่หัวแปรงเล็กๆ หน่อย ปัดง่ายดี แต่ตัวนี้อ่ะ แนะนำให้ลงทุนจริงๆ ส่วนที่ปอเกริ่นไว้ก่อนหน้าว่าจะใช้ปัดคิ้วอย่างไร วิธีคือใช้หัวแปรงซับกับประดาษทิชชูให้เหลือเนื้อมาสคาร่าที่ติดแปรงอยู่เล็กน้อย แล้วก็ปัดขนคิ้วตามปกติ แต่วิธีนี้สามารถใช้ได้เฉพาะกับคนผมดำหรือผมสีเข้มๆ เท่านั้น แล้วเพิ่มเติมทริกการใช้มาสคาร่าเพิ่มเติม คือมันสามารถใช้เป็นอายไลเนอร์ได้ด้วย!! โดยใช้แปรงหัวตัดหรือแปรงไลเนอร์แตะเนื้อมาสคาร่าแล้วก็วาดลงไปที่ขอบตาโล้ดดด
ราคา: 149 บาท
จำเป็น!
Mistine So… Black Liquid Eyeliner
สำหรับบางคน การกรีดอายไลเนอร์ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ถึงแม้จะไม่แต่งตาใดๆ เลยก็ขอไลเนอร์ไว้สักเส้นกันตาย ปอแนะนำอายไลเนอร์ของมีสทีนนะ ไม่ใช่เฉพาะตัวนี้ แต่ทั้ง Mistine Super Black (สำหรับคนหนังตามัน) และ Mistine Maxi Black (สำหรับคนหนังตาแห้ง) ก็ดีเหมือนกันหมด แต่ปอเลือกตัวนี้มาเพราะ 2 ตัวนั้นมีอยู่แล้ว ตัวนี้ให้เส้นไลเนอร์ที่ดำและแมตต์สนิท! ไลเนอร์ตัวอื่นๆ อาจจะมีเงาเล็กน้อย แต่ตัวนี้ด้านไปเลย ถือว่าดีมาก!! แถมไลเนอร์แบรนด์นี้ยังติดทนด้วย แต่อย่างที่ปอไว้ตอนต้น ไลเนอร์เราสามารถใช้อายแชโดว์สีดำหรือสีน้ำตาล รือ มาสคาร่าเขียนแทนได้
ราคา: 139 บาท
ไม่จำเป็นนัก สามารถใช้อย่างอื่นทดแทนได้
Wet n Wild Lipstick
แป้งไม่ทา หน้าไม่แต่ง ของปากเด่นไว้ก่อน!!! ดังนั้นลิปสติกจึงสำคัญมาก ตาไม่ได้แต่งยังหาแว่นกันแดดมาสวมได้ ขอแค่ปากเด่นก็เจิดจรัสได้แล้ว ลิปสติกแบรนด์ดังนี้ ที่ไม่น่าจะไม่มีใครไม่รู้จัก ของถูกและดีสิ่งนี้ เนื้อลิปลื่น ปาดง่าย แถมสียังชัดมากอีกต่างหาก การเลือกสีลิปสติก ก็เลือกสีเข้มนิดๆ เพราะมันสามารถประยุกต์ได้มากกว่า ทั้งทาอ่อนๆ ให้สีดูอ่อนลงหรือจะจัดเต็มก็ได้สีเข้มเก๋ๆ แต่สีที่ปอได้มา ดูในแท่งมันค่อนข้างเข้ม แต่ทาจริงๆ สีไม่เข้มเท่าไรเลย ลิปสติกนอกจากจะใช้ทาปากแล้ว อย่างที่บอกมันสามารถใช้เป็นครีมบลัชได้ด้วย แต่ต้องค่อยๆ ฝึกใช้นิดหนึ่ง เพราะเนื้อสีมันค่อนข้างเข้มข้น
ราคา: 99 บาท
จำเป็น!
ลองคิดราคาใหม่ เอาเฉพาะสิ่งที่จำเป็นที่ปอแนะนำว่าควรจะต้องมีดู เหลือเท่าไร... เหลือไม่ถึงพัน!!! เหลือแค่
846 บาท เองแก!!! ถ้างบเหลือก็ซื้อพวกที่ไม่ค่อยจำเป็นเสริมเอาทีหลัง เก๋กู๊ดอ่ะ ชีวิตดี กระเป๋าไม่แฟ่บ!
เอาล่ะๆ เดี๋ยวจะคิดว่าของแค่นี้จะทำให้สวยเด้งได้จริงป่าว แล้วจะสวยได้แค่ไหน จะได้แค่ลุคเดิมๆ หรือเปล่า งั้นปอจัดมาฝาก 3 ลุคที่โพสต์เป็นน้ำจิ้มไว้ตอนต้น พร้อมฮาวทูให้ด้วย ลองดูแล้วนำไปประยุกต์ให้ได้เลย (จริงๆ สามารถทำได้หลากหลายมากกว่านี้อีก แต่ปอทำมาให้ดูคร่าวๆ ว่าของแค่นี้ก็สวยแซ่บได้ไม่แพ้กัน!)
ยืนยันของที่ใช้ เท่านี้จริงๆ จ้า ลองดูเอานะว่าแต่ละลุคใช้ตัวไหนทำอะไรบ้าง
แต่ก่อนอื่น ชมสภาพหนังหน้าสดของปอไปก่อนนะ 555+ เดี๋ยวมาต่อส่วนของ
HOW TO ในคอมเม้นต์ จ้า มันยาวเกิน ><
[SR] Mini Review & HOW TO >> สร้างลุคสวยๆ (3 ลุค) ด้วยของถูกและดี งบแค่ 1,000!!! (คือดีงามมม~)
กลับมากับกระทู้ใหม่ ไม่รู้ว่าจะเตะตา ต้องใจใครๆ หรือเปล่า แต่อยากมาแนะนำและชวนเพื่อนๆ สวยไปด้วยกัน
อ่ะๆ ให้ดูความแซ่บเป็นน้ำจิ้มก่อนว่าด้วยงบประมาณเท่านั้น ปอสามารถแต่งออกมาเป็นแบบไหนได้บ้าง
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่ากระทู้นี้มีสปอนเซอร์สนับสนุนด้านงบประมาณที่ใช้ซื้อเครื่องสำอางทั้งหมด นั่นคือ BeeTalk
แต่เดี๋ยวก่อน!! อย่าเพิ่งกด X ปิดไป (ใจเย็นนน T^T) เพราะตัวเนื้อหาและของที่เลือกมาใช้ ปอเป็นคนเลือกและคิดรูปแบบด้วยตัวเองทั้งหมด โดยไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับทางแบรนด์เครื่องสำอางที่เลือกมา รวมทั้งทาง BeeTalk จ้าาา
หลายคนคงสงสัย เอ๊ะ!! กระทู้เครื่องสำอางแล้วเกี่ยวอะไรกับ BeeTalk ล่ะ? เออ... นั่นสิ มันเกี่ยวไรกัน?? เดี๋ยวตอนท้ายมาบอกให้รู้กัน
กระทู้นี้ปอจะมาแนะนำของถูกและดี ในงบแค่ 1,000 บาท!! มีเศษเกินมานิดๆ หน่อย แต่บางอย่างสามารถตัดออกได้ เดี๋ยวลองดูว่าปอจะแนะนำยังไงเนอะ แล้วเอาของเหล่านั้นมาสร้างสรรค์เป็นลุคแต่งหน้าสุดเก๋ถึง 3 ลุคที่แตกต่างกัน พร้อม How to ให้ด้วย
มาดูโฉมหน้าของสิ่งรังสรรค์ความงามให้เรากันก่อนดีกว่า
ปอได้มาทั้งหมด 7 ชิ้น พยายามเลือกเต็มที่ในสิ่งที่คิดว่าดีและถูกที่สุดเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ
ปอซื้อของใน Tops Market นะ แต่สามารถหาได้ตาม Boots, Watsons หรือร้านอื่นๆ ซึ่งราคาอาจจะถูกหรือแพงกว่ากันบ้างแตกต่างกันไป แต่คงไม่หนีๆ กันเท่าไร งบหมดไป 1,269 บาท!!! ยังอยู่ในหลักพันนะ 555+ ได้มา 7 ชิ้นปอถือว่ามันไม่ได้แพงมากเมื่อหารเฉลี่ยต่อชิ้น แต่ถ้าใครยังมองว่ามันแพงไปอยู่ เดี๋ยวปอมีวิธีเลือกและตัดเครื่องสำอางบางชิ้นออกด้วย!!!
เอาล่ะ เดี๋ยวปอมารีวิวเล็กๆ น้อยๆ สำหรับแต่ละชิ้น ว่ามันดียังไง ทำไมปอถึงเลือกมา และอะไรจำเป็น อะไรไม่จำเป็นมากพอจะตัดทิ้งได้ แต่ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อตามปอก็ได้นะ แต่ปอต้องการไกด์ให้รู้คร่าวๆ ว่าถ้างบจำกัด ควรลงทุนกับอะไรบ้าง
L’OREAL Mat Magigue All-In-One
เริ่มด้วยงานสร้างผิว ถ้าคุณอยากประหยัดงบ แต่ยังคงต้องการผิวที่ดูเนียนสวยอยู่ ปอแนะนำให้ลงทุนกับแป้งผสมรองพื้นแทนรองพื้น/บีบีครีมและแป้งฝุ่นไปเลย เพราะจะช่วยให้ประหยัดงบลงได้เยอะ แล้วยังสะดวก ใช้ง่าย รวบรัด แถมยังไม่หนักหน้าอีกด้วย แป้งตัวนี้จะเหมาะกับคนผิวมันมากกว่า (ปอผิวมัน) ตอนใช้จะให้ลุคแมตต์ๆ แต่เอาจริงๆ มันไม่ค่อยคุมมันเท่าไรหรอก ใช้ไปสักพักหน้าก็มันขึ้นแล้ว แต่เนื้อแป้งถือว่าดีนะ เนียนละเอียดดี ปกปิดได้นิดหน่อย ไม่มากนัก
แต่ถ้าใครบอกว่า หน้าฉันต้องการการปกปิดที่มากกว่าแค่แป้งผสมรองพื้นย่ะ! ปอแนะนำให้เพิ่มเงินอีกนิดลงทุนกับรองพื้นหรือคอนซีลเลอร์ถูกและดีสักตัวกับแป้งฝุ่นแทน งบอาจจะเพิ่มขึ้นหน่อย แต่ในด้านการใช้งานก็คุ้มไม่ต่างกัน
ราคา: 299 บาท
จำเป็น!
Essence Silky Touch Blush
แก้มเป็นอีกสิ่งที่ถือว่าสำคัญพอสมควร แต่สามารถใช้อย่างอื่นมาทดแทนได้! นั่นคือลิปสติก แต่มันอาจจะไม่ค่อยทนมากสำหรับคนผิวมันเนื่องจากลิปสติกเนื้อจะค่อนข้างครีม และอาจทำให้เกิดสิวได้ แต่ถ้าจะซื้อบลัชออนพยายามเลือกสีที่ใช้ได้ค่อนข้างหลากหลาย (สีพีช/อมส้มหรือสีชมพู) ที่ปอเลือกตัวนี้มาเพราะราคามันไม่แพง เมื่อเทียบกับอีกแบรนด์ที่ราคาใกล้เคียงกันอย่าง Maybelline ปอว่าตัวนี้ปัดแล้วเห็นสีมากกว่า แถมเนื้อยังไม่เป็นฝุ่นมากด้วย ปัดแล้วไม่ค่อยฟุ้งเป็นฝุ่นไปเสียหมด
ราคา: 145 บาท
ไม่จำเป็นนัก สามารถใช้อย่างอื่นทดแทนได้ (แต่มีติดไว้สักตลับก็ดีนะ)
Wet n Wild Eye Shadow Palette x8
อายแชโดว์คือสิ่งที่เสกสีสันเพิ่มเสน่ห์ให้ดวงตาคู่สวยของเรา แบรนด์นี้น่าจะเป็นที่รู้จักกันดี เพราะตั้งแต่เข้าไทยมาอย่างเป็นทางการ ยอดขายก็ถล่มทลาย ของหมดเชลฟ์บ่อยมาก! แน่นอนว่าที่เลือกมา เพราะมันถูกและดีจริงๆ เนื้อแน่น สีชัด แถมยังได้สีสันที่หลากหลายด้วยเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในเรทราคาใกล้เคียงกัน อันนี้ได้ถึง 8 สี (มันมีแบบ 5 และ 3 สีด้วย แต่แบบนี้คุ้มสุดเมื่อเทียบราคา 555+) จริงๆ ปออยากได้อีกเฉดหนึ่งนะ ที่เป็นสีเอิร์ธโทน ธรรมชาติๆ แต่ของมันหมด เลยเอาพาเลตนี้มาแทน ซึ่งสามารถใช้ได้เช่นกัน แต่ถ้าสามารถหาอายแชโดว์ที่เป็นสีเอิร์ธโทน สีโทนน้ำตาลๆ ปอแนะนำแบบนั้นมากกว่านะ อาจจะเป็นแบรนด์อื่นๆ ก็ได้ เพราะมันสามารถใช้ได้ครอบคลุมและหลากหลายคุณประโยชน์มากกว่า โดยเฉพาะพาเลตที่มีสีน้ำตาลเนื้อแมตต์ สามารถเอามาใช้ได้ทั้งเขียนคิ้วและสร้างรูปหน้า (ไล้ดั้ง คอนทัวร์เบาๆ) และแนะนำว่าเวลาซื้ออายแชโดว์เลือกที่มีสีดำมาด้วย เพราะมันสามารถใช้เป็นไลเนอร์แบบฝุ่นก็ได้ หรือจะใช้แปรงจุ่มน้ำหมาดๆ แล้วแตะเนื้อขึ้นมาทำเป็นลิควิดไลเนอร์ก็ได้เช่นกัน หลากหลายประโยชน์ คุ้ม!! แถมช่วยให้ประหยัดขึ้นอีก
ราคา: 299 บาท
จำเป็น!
Mistine 3D Brows Secret
เพราะคิ้วคือมงกุฎของหน้า!! วลีเด็ดที่ใช้นิยามความสำคัญของคิ้ว มันคือเรื่องจริงนะ คิ้วสำคัญมากจริงๆ คิ้วเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน อารมณ์เปลี่ยนได้เหมือนกันนะ ถ้าถามว่าซื้อตัวนี้มาแล้วมันดีไหม? ดีนะ ตัวดินสอสีชัดมาก เขียนติดง่ายด้วย ที่เกลี่ยให้นวลๆ ก็ถือว่าโอเค แต่ตัวมาสคาร่า ส่วนตัวปอไม่ค่อยปลื้มเท่าที่ควร เพราะว่าเนื้อมันค่อนข้างเหนียว ปัดยาก! แต่โดยรวมถือว่าคุ้มนะกับราคาเท่านี้ ได้ครบทุกอย่างเลย ทั้งนี้ทั้งนั้น... ปอพูดไว้แล้วว่าสามารถใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเนื้อแมตต์เขียนคิ้วแทนได้ (ปอใช้ประจำ!! ปอว่ามันเนียนและเป็นธรรมชาติกว่าการใช้ดินสอเขียนคิ้ว) ส่วนมาสคาร่าคิ้วจริงๆ มันไม่ค่อยจำเป็นเท่าไรหรอก ถ้าผมคุณไม่ได้สีอ่อนจนต้องใช้มาสคาร่าปัดเปลี่ยนสีคิ้ว ถ้าจะปัดเพื่อให้ขนมันเรียงเส้นและอยู่ทรงมากขึ้น สามารถใช้มาสคาร่าปัดขนตาปัดแทนได้ เดี๋ยวปอจะอธิบายวิธีในรีวิวมาสคาร่า
ราคา: 139 บาท
ไม่จำเป็นนัก สามารถใช้อย่างอื่นทดแทนได้
Maybelline Hyper Cure Volume Express
สำหรับปอ งานขนตาเป็นเรื่องสำคัญนะ สำคัญมากด้วย มันสามารถทำให้ตาเราดูคมโตขึ้นได้ เปลี่ยนรูปตาได้เลยบางที (ในกรณีติดขนตาปลอม) แต่เจ้าตัวช่วยตัวนี้ก็ใช่ว่าไม่สำคัญ ปอว่าแต่งตาแล้วไม่มีขนตามันดูแปลกๆ ทำไมถึงเลือก Maybelline ต้องบอกเลยว่าชีวิตนี้ยอมสิโรราบให้กับมาสคาร่าแบรนด์นี้จริงๆ ปอมีหลายตัวมาก และมันก็ดีทุกตัว ส่วนเจ้าตัวนี้ ก็เป็นมาสคาร่าสุดโด่งดัง ตัวนี้ดังสุดแล้วมั้งของแบรนด์อ่ะ ถูกและโคตรดี ปัดแล้วหนา ยาว เรียงเส้นดีต่างหาก ขนตาล่างหล่อมแหล่มๆ ปัดทีนี่ดูดกดำขึ้นมาเลย ปลื้มมม!! แต่ปอไม่ชอบอย่างเดียวคือหัวแปรง มันใหญ่ไปหน่อย ปัดลำบาก ปอชอบมาสคาร่าที่หัวแปรงเล็กๆ หน่อย ปัดง่ายดี แต่ตัวนี้อ่ะ แนะนำให้ลงทุนจริงๆ ส่วนที่ปอเกริ่นไว้ก่อนหน้าว่าจะใช้ปัดคิ้วอย่างไร วิธีคือใช้หัวแปรงซับกับประดาษทิชชูให้เหลือเนื้อมาสคาร่าที่ติดแปรงอยู่เล็กน้อย แล้วก็ปัดขนคิ้วตามปกติ แต่วิธีนี้สามารถใช้ได้เฉพาะกับคนผมดำหรือผมสีเข้มๆ เท่านั้น แล้วเพิ่มเติมทริกการใช้มาสคาร่าเพิ่มเติม คือมันสามารถใช้เป็นอายไลเนอร์ได้ด้วย!! โดยใช้แปรงหัวตัดหรือแปรงไลเนอร์แตะเนื้อมาสคาร่าแล้วก็วาดลงไปที่ขอบตาโล้ดดด
ราคา: 149 บาท
จำเป็น!
Mistine So… Black Liquid Eyeliner
สำหรับบางคน การกรีดอายไลเนอร์ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ถึงแม้จะไม่แต่งตาใดๆ เลยก็ขอไลเนอร์ไว้สักเส้นกันตาย ปอแนะนำอายไลเนอร์ของมีสทีนนะ ไม่ใช่เฉพาะตัวนี้ แต่ทั้ง Mistine Super Black (สำหรับคนหนังตามัน) และ Mistine Maxi Black (สำหรับคนหนังตาแห้ง) ก็ดีเหมือนกันหมด แต่ปอเลือกตัวนี้มาเพราะ 2 ตัวนั้นมีอยู่แล้ว ตัวนี้ให้เส้นไลเนอร์ที่ดำและแมตต์สนิท! ไลเนอร์ตัวอื่นๆ อาจจะมีเงาเล็กน้อย แต่ตัวนี้ด้านไปเลย ถือว่าดีมาก!! แถมไลเนอร์แบรนด์นี้ยังติดทนด้วย แต่อย่างที่ปอไว้ตอนต้น ไลเนอร์เราสามารถใช้อายแชโดว์สีดำหรือสีน้ำตาล รือ มาสคาร่าเขียนแทนได้
ราคา: 139 บาท
ไม่จำเป็นนัก สามารถใช้อย่างอื่นทดแทนได้
Wet n Wild Lipstick
แป้งไม่ทา หน้าไม่แต่ง ของปากเด่นไว้ก่อน!!! ดังนั้นลิปสติกจึงสำคัญมาก ตาไม่ได้แต่งยังหาแว่นกันแดดมาสวมได้ ขอแค่ปากเด่นก็เจิดจรัสได้แล้ว ลิปสติกแบรนด์ดังนี้ ที่ไม่น่าจะไม่มีใครไม่รู้จัก ของถูกและดีสิ่งนี้ เนื้อลิปลื่น ปาดง่าย แถมสียังชัดมากอีกต่างหาก การเลือกสีลิปสติก ก็เลือกสีเข้มนิดๆ เพราะมันสามารถประยุกต์ได้มากกว่า ทั้งทาอ่อนๆ ให้สีดูอ่อนลงหรือจะจัดเต็มก็ได้สีเข้มเก๋ๆ แต่สีที่ปอได้มา ดูในแท่งมันค่อนข้างเข้ม แต่ทาจริงๆ สีไม่เข้มเท่าไรเลย ลิปสติกนอกจากจะใช้ทาปากแล้ว อย่างที่บอกมันสามารถใช้เป็นครีมบลัชได้ด้วย แต่ต้องค่อยๆ ฝึกใช้นิดหนึ่ง เพราะเนื้อสีมันค่อนข้างเข้มข้น
ราคา: 99 บาท
จำเป็น!
ลองคิดราคาใหม่ เอาเฉพาะสิ่งที่จำเป็นที่ปอแนะนำว่าควรจะต้องมีดู เหลือเท่าไร... เหลือไม่ถึงพัน!!! เหลือแค่ 846 บาท เองแก!!! ถ้างบเหลือก็ซื้อพวกที่ไม่ค่อยจำเป็นเสริมเอาทีหลัง เก๋กู๊ดอ่ะ ชีวิตดี กระเป๋าไม่แฟ่บ!
เอาล่ะๆ เดี๋ยวจะคิดว่าของแค่นี้จะทำให้สวยเด้งได้จริงป่าว แล้วจะสวยได้แค่ไหน จะได้แค่ลุคเดิมๆ หรือเปล่า งั้นปอจัดมาฝาก 3 ลุคที่โพสต์เป็นน้ำจิ้มไว้ตอนต้น พร้อมฮาวทูให้ด้วย ลองดูแล้วนำไปประยุกต์ให้ได้เลย (จริงๆ สามารถทำได้หลากหลายมากกว่านี้อีก แต่ปอทำมาให้ดูคร่าวๆ ว่าของแค่นี้ก็สวยแซ่บได้ไม่แพ้กัน!)
ยืนยันของที่ใช้ เท่านี้จริงๆ จ้า ลองดูเอานะว่าแต่ละลุคใช้ตัวไหนทำอะไรบ้าง
แต่ก่อนอื่น ชมสภาพหนังหน้าสดของปอไปก่อนนะ 555+ เดี๋ยวมาต่อส่วนของ HOW TO ในคอมเม้นต์ จ้า มันยาวเกิน ><