กระทู้นี้อาจมีประโยชน์สำหรับ พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ มือใหม่ (มือเก๋าคงรู้กันหมดแล้ว) หรือ คนที่กำลังริเริ่มธุรกิจ บ้างนะครับ
ปัญหาแรกๆ ของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในการเปิด Page ขายสินค้า เลยก็คือ "KEYWORD" ที่จะใช้ในการขายสินค้านั่นเอง โดยเฉพาะหากสินค้านั้นสามารถเรียกได้หลายๆชื่อ เช่น ขาย กล้องวงจรปิด บางคนก็เรียกว่า กล้องวงจรปิด บางคนก็เรียกว่า CCTV ถ้าอยากรู้ว่าคำไหน HOT หรือเป็นที่นิยมกว่ากันในโลกออนไลน์ Google Trends ช่วยท่านได้ Google Trends จะเป็นการวิเคราะห์สถิติ คำค้นหาและเปรียบเทียบระหว่างคีย์เวิร์ด โดยจะเปรียบเทียบระดับความสนใจของแต่ละคีย์เวิร์ดให้โดยละเอียดว่าบนโลกออนไลน์นั้น คีย์เวิร์ดไหน ที่ผู้ใช้ Internet ให้ความสนใจมากกว่ากัน เราก็เลือกใช้คีย์เวิร์ดนั้นเป็นคีย์เวิร์ดหลักในการทำตลาดของเรา
ทีนี้เราจะรู้ได้ไงว่าการเวิเคราะห์ดังกล่าว ชัวร์ หรือ มั่วนิ่ม ก็ลองพิสูจน์ง่ายๆ กับเรื่องที่เรารู้ผลลัพธ์อยู่แล้ว และ เรื่องที่ทุกๆคนส่วนใหญ่รู้ดีอยู่แล้วง่ายๆเลยก็เรื่องบันเทิง เรื่องดารา ยกตัวอย่างช่วงนี้ผมสนใจ ณเดชน์ กับ ญาญ่า ( แอบติดละครและเป็นแฟนคู่นี้ อิอิ) แล้วอยากรู้ว่าดาราสองคนนี้บนโลกออนไลน์ ใคร HOT กว่ากัน ผมก็สามารถรู้ได้เพียง 5 วินาที โดยทำดังนี้
1.เข้าหน้า Google trends โดยพิม URL โดยตรงหรือถ้าเข้าไม่ถูกก็เข้าจาก Google แล้วพิมพ์ค้นห้าคำว่า Trends ลงไปก็ได้เช่นกัน
2.ตรงช่องด้านบนที่เหมือน Google พิมพ์ คีย์เวิร์ดที่ต้องการเปรียบเทียบระดับความสนใจลงไป คั่นด้วยเครื่องหมายคอมมา แล้วกด ค้นหา
3.
เราก็จะได้คำตอบทันทีว่า ณเดชน์ กับ ญาญ่า ใคร HOT กว่ากัน ดังรูป สามารถวิเคราะห์ได้ว่า ก่อนปี 2010 สองคนนี้ยังเป็นวุ้นกันอยู่คือมีความสนใจบ้างแล้วแต่ยังไม่ HOT ในโลกออกนไลน์ มา HOT เปรี้ยงเกิดเป็นเทรนด์ในปี 2010 ซึ่งเป็นปีที่ละคร ดวงใจอัคนี ออกอากาศนั่นเอง และ โด่งดังเป็นดาวค้างฟ้ามาจนถึงปัจจุบัน โดยค่าเฉลี่ยความ HOT จนถึงปัจจุบันของสองคีย์เวิร์ดนี้ก็ เท่ากันเป๊ะทั้งคู่คือ 13 ( แหม่ สมกับเป็นดาราคู่ขวัญที่สมกันยังกะกิ่งทองใบหยกจริง อันนี้นอกเรื่องแระ แหะๆ) นั่นก็คือถ้าสินค้าของคุณมีสองชื่อเรียก คือ ณเดชน์ หรือ ญาญ่า ใช้ชื่อไหนในโลกออนไลน์ก็ได้ ค่าเท่ากัน หรือไม่ก็ต้องใช้ทั้งสองชื่อไปเลย เพราะ สองเชื่อนี้เขาคู่กัน เอ้ยยย มีน้ำหนักเท่ากัน อิอิ เผื่อบางทีลูกค้าค้นห้าสินค้ามักจะใช้สองคำคู่กัน เช่น จะค้นหา ณเดช ก็ คีย์ ณเดช ญาญ่า จะค้นหา ญาญ่า ก็คีย์ ณเดช ญาญ่า แพ็คคู่เลยเป็นต้น งงมะ 555+
ข้อสังเกต
1. ทำไมค้นคำว่า ณเดช ไม่ใช้ว่า ณเดชน์ เพราะ ณเดช เป็น Subset ของ ณเดชน์ จะให้ผลที่ครอบคลุมถูกต้องมากกว่านั่นเอง ส่วน ญาญ่า เป็นคำเฉพาะอยู่แล้ว คงไม่มีใครพิมพ์ว่า ยาย่า อย่างนี้เป็นต้น
2. กรณีคีเวิร์ดนั้น เป็นคำทั่วๆไปที่ไม่ใช่คำชี้เฉพาะ เช่น มีดาราชื่อ นก เปิ้ล แอน ไก่ ปลา แมว อันนี้ Google Trends จะบอกว่าดาราเหล่านี้ HOT กว่า ณเดชน์ ญาญ่า ซะอย่างนั้น ซึ่งจริงๆแล้ว ไม่ใช่นะครับ เพียงแต่มันเป็นคำสามัญที่มีการค้นกันมากเท่านั้นเอง ไม่ได้เกี่ยวกับวงการบันเทิง เพราะฉะนั้นก่อนให้ Google trends วิเคราะห์ คีย์เวิร์ดให้ ต้องใช้ไหวพริบใรการเลือกคำนิดส์นึงนะครับ เดี๋ยวจะได้ผลผิดๆไป เช่น หากจะ เอาณเดชน์ ญาญ่า เปรียบเทียบ กับแอน ทองประสม ก็อาจเลือกคีย์เวิด แอน ทองประสม แทน แอน จึงจะได้ผลที่ถูกต้อง เป็นต้น
4. สามารถเพิ่มคีย์เวิร์ดได้มากกว่า 2 นะครับ สูงสุดได้ถึง 5 เลยมั้งไม่แน่ใจลองหาๆดู อย่างสมมติ เรารู้แล้วว่า ณเดชน์ กับ ญาญ่า HOT เท่าๆกันเลย ทีนี้หากลองเปรียบเทียบกับคีย์เวิร์ดอื่นๆในสินค้าเราที่มีชื่อเรียกได้อีก เช่น มาริโอ้ ก็เพิ่ม มาริโอ้ลงไปจะได้ผลดังรูป
ก็จะได้ผลว่า มาริโอ้ ชื่อนี้ เกิดก่อน ณเดชน์ ญาญ่า โดยเริ่มเป็นที่สนใจในปี 2550 หรือ 2007 ซึ่งเป็นปีที่ภาพยนตร์รักแห่งสยามประเทศ อย่าง รักแห่งสยาม ออกฉายนั่นเอง ซึ่งก็ตรงกับความเป็นจริง และ มาริโอ้มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นดาวค้างฟ้ามาจนถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับ ณเดชน์ ญาญ่า แต่อยู่ในระดับความสนใจต่ำกว่าเล็กน้อย แต่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดเพราะเกิดก่อนนะคร๊าบบบ
5. ตัวอย่างที่น่าสนใจที่สุด และ น่าจะยืนยันความถูกต้องแม่นยำของ Google Trends ได้ดีที่สุดเลยคือ ดาราคนต่อไป ผู้มีฉายาว่า ซุปตาร์สายฟ้าแลบ แปล๊บๆ ใส่หมวกแก๊บมาเดินกุ๊บกั๊บ เย้ยย ไม่ใช่ละ เจมส์จิ นั่นเอง สมมติสินค้าเราเกิดมีชื่อใหม่เรียกได้กว่า เจมส์จิ ขึ้นมา เราก็แค่เพิ่มคำว่าเจมส์จิ ลงไปเปรียบเทียบกับอีกสามชื่อ ก่อนหน้า จะได้ความว่า
เจมส์จิ เป็นซุปตาร์สายฟ้าแล๊บ ตรงตามฉายาของเขา นั่นคือ เกิดในปี 2556 ซึ่งมีซีรีย์ สุภาพบุรุษจุฑาทเพ ตอน คุณชายพุฒิพัฒ หรือ คุณชายหมอออกอากาศ ชื่อนี้ได้รับความสนใจจากชาวโลกออนไลน์ในระดับสูงปรี๊ด เป็น Pike เลยในปีนั้น เรียกว่าใครๆก็อยากรู้ว่า เจมส์จิ คือใคร มาจากไหน อะไรยังไง แต่พอสนองความอยากรู้เสร็จก็ลดลงปรีด เลยในปีเดียวกัน จนปัจจุบันระดับต่ำกว่าคีย์เวิร์ด มาริโอ้ และ อยู่ในกราฟที่ดิ่งลง จะเห็นว่าความสนใจของชาว Net ต่อคีย์เวิร์ดสินค้าชื่อ เจมส์จิ เป็นแบบสายฟ้าแล๊บจริงๆ คือแว๊บเดียว แล้วซาไปอย่างรวดเร็ว เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับพ่อค้าแม่ค้า ที่อาจใช้การวิเคราะห์ตรองนี้ในการสร้างโอกาสขายสินค้า หรือ วิเคราะห์ Trends ในการทำตลาดของตัวเองต่อไป
กระทู้นี้ต้องขออภัยที่พาดพุง เอ้ยย พิง (ไม่มีใครตบให้ก็เล่นเองนี่ละวะ ) ดารา แต่เนื่องด้วยเป็นตัวอย่างสินค้าที่คนทั่วไปมีข้อมูลมากที่สุดและสามารถยกตัวอย่างให้เห็นได้ชัดเจน ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อพ่อค้า แม่ค้า มนุษย์เงินเดือนที่กำลังหารายได้เสริม โดยการเปิดตลาดออนไลน์ ที่ยังงุนๆงงๆอยู่ว่าจะขายอะไรยังไง อะไร HOT อะไร HIT ก็ลองใช้ Google Trends ช่วยท่านได้ โดยเฉพาะในการวิเคราห์คีย์เวิร์ดสำหรับทำ SEO เพื่อให้เว็บขายสินค้าของท่านติดคำค้นหาของ Google หรือ หา คีย์เวิร์ดเพื่อลงโฆษณากับ Google Adwords เป็นต้น
ท้ายที่สุด Google Trends ถึงจะวิเคราห์ข้อมูลได้ละเอียดยิบ แต่ก็เป็นข้อมูลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเท่านั้นนะครับ ขณะที่สิ่งสำคัญที่สุดของการเป็นพ่อค้าแม่ขายคือการคาดการ Trends ในอนาคตล่วงหน้าต่างหากว่าอะไรจะ HOT อะไรจะ HIT ซึ่งถ้าหากคาดการณ์ได้ถูกต้อง ความรุ่งเรืองก็อยู่แค่เอื้อมแล้วล่ะคร๊าบบบบบบบบบบ ซึ่งอันนี้ก็คงอยู่ที่กึ๋นใครกึ๋นมัน สอนกันไมไ่ด้ แม้แต่ Google ก็บอกให้ไม่ได้นะเออ
จบ.
การใช้ Google Trends อยากรู้ว่า ใคร อะไร เทรนด์ไหน HOT ที่สุด ณ เวลานี้ แค่ 5 วินาที
ปัญหาแรกๆ ของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในการเปิด Page ขายสินค้า เลยก็คือ "KEYWORD" ที่จะใช้ในการขายสินค้านั่นเอง โดยเฉพาะหากสินค้านั้นสามารถเรียกได้หลายๆชื่อ เช่น ขาย กล้องวงจรปิด บางคนก็เรียกว่า กล้องวงจรปิด บางคนก็เรียกว่า CCTV ถ้าอยากรู้ว่าคำไหน HOT หรือเป็นที่นิยมกว่ากันในโลกออนไลน์ Google Trends ช่วยท่านได้ Google Trends จะเป็นการวิเคราะห์สถิติ คำค้นหาและเปรียบเทียบระหว่างคีย์เวิร์ด โดยจะเปรียบเทียบระดับความสนใจของแต่ละคีย์เวิร์ดให้โดยละเอียดว่าบนโลกออนไลน์นั้น คีย์เวิร์ดไหน ที่ผู้ใช้ Internet ให้ความสนใจมากกว่ากัน เราก็เลือกใช้คีย์เวิร์ดนั้นเป็นคีย์เวิร์ดหลักในการทำตลาดของเรา
ทีนี้เราจะรู้ได้ไงว่าการเวิเคราะห์ดังกล่าว ชัวร์ หรือ มั่วนิ่ม ก็ลองพิสูจน์ง่ายๆ กับเรื่องที่เรารู้ผลลัพธ์อยู่แล้ว และ เรื่องที่ทุกๆคนส่วนใหญ่รู้ดีอยู่แล้วง่ายๆเลยก็เรื่องบันเทิง เรื่องดารา ยกตัวอย่างช่วงนี้ผมสนใจ ณเดชน์ กับ ญาญ่า ( แอบติดละครและเป็นแฟนคู่นี้ อิอิ) แล้วอยากรู้ว่าดาราสองคนนี้บนโลกออนไลน์ ใคร HOT กว่ากัน ผมก็สามารถรู้ได้เพียง 5 วินาที โดยทำดังนี้
1.เข้าหน้า Google trends โดยพิม URL โดยตรงหรือถ้าเข้าไม่ถูกก็เข้าจาก Google แล้วพิมพ์ค้นห้าคำว่า Trends ลงไปก็ได้เช่นกัน
2.ตรงช่องด้านบนที่เหมือน Google พิมพ์ คีย์เวิร์ดที่ต้องการเปรียบเทียบระดับความสนใจลงไป คั่นด้วยเครื่องหมายคอมมา แล้วกด ค้นหา
3.
เราก็จะได้คำตอบทันทีว่า ณเดชน์ กับ ญาญ่า ใคร HOT กว่ากัน ดังรูป สามารถวิเคราะห์ได้ว่า ก่อนปี 2010 สองคนนี้ยังเป็นวุ้นกันอยู่คือมีความสนใจบ้างแล้วแต่ยังไม่ HOT ในโลกออกนไลน์ มา HOT เปรี้ยงเกิดเป็นเทรนด์ในปี 2010 ซึ่งเป็นปีที่ละคร ดวงใจอัคนี ออกอากาศนั่นเอง และ โด่งดังเป็นดาวค้างฟ้ามาจนถึงปัจจุบัน โดยค่าเฉลี่ยความ HOT จนถึงปัจจุบันของสองคีย์เวิร์ดนี้ก็ เท่ากันเป๊ะทั้งคู่คือ 13 ( แหม่ สมกับเป็นดาราคู่ขวัญที่สมกันยังกะกิ่งทองใบหยกจริง อันนี้นอกเรื่องแระ แหะๆ) นั่นก็คือถ้าสินค้าของคุณมีสองชื่อเรียก คือ ณเดชน์ หรือ ญาญ่า ใช้ชื่อไหนในโลกออนไลน์ก็ได้ ค่าเท่ากัน หรือไม่ก็ต้องใช้ทั้งสองชื่อไปเลย เพราะ สองเชื่อนี้เขาคู่กัน เอ้ยยย มีน้ำหนักเท่ากัน อิอิ เผื่อบางทีลูกค้าค้นห้าสินค้ามักจะใช้สองคำคู่กัน เช่น จะค้นหา ณเดช ก็ คีย์ ณเดช ญาญ่า จะค้นหา ญาญ่า ก็คีย์ ณเดช ญาญ่า แพ็คคู่เลยเป็นต้น งงมะ 555+
ข้อสังเกต
1. ทำไมค้นคำว่า ณเดช ไม่ใช้ว่า ณเดชน์ เพราะ ณเดช เป็น Subset ของ ณเดชน์ จะให้ผลที่ครอบคลุมถูกต้องมากกว่านั่นเอง ส่วน ญาญ่า เป็นคำเฉพาะอยู่แล้ว คงไม่มีใครพิมพ์ว่า ยาย่า อย่างนี้เป็นต้น
2. กรณีคีเวิร์ดนั้น เป็นคำทั่วๆไปที่ไม่ใช่คำชี้เฉพาะ เช่น มีดาราชื่อ นก เปิ้ล แอน ไก่ ปลา แมว อันนี้ Google Trends จะบอกว่าดาราเหล่านี้ HOT กว่า ณเดชน์ ญาญ่า ซะอย่างนั้น ซึ่งจริงๆแล้ว ไม่ใช่นะครับ เพียงแต่มันเป็นคำสามัญที่มีการค้นกันมากเท่านั้นเอง ไม่ได้เกี่ยวกับวงการบันเทิง เพราะฉะนั้นก่อนให้ Google trends วิเคราะห์ คีย์เวิร์ดให้ ต้องใช้ไหวพริบใรการเลือกคำนิดส์นึงนะครับ เดี๋ยวจะได้ผลผิดๆไป เช่น หากจะ เอาณเดชน์ ญาญ่า เปรียบเทียบ กับแอน ทองประสม ก็อาจเลือกคีย์เวิด แอน ทองประสม แทน แอน จึงจะได้ผลที่ถูกต้อง เป็นต้น
4. สามารถเพิ่มคีย์เวิร์ดได้มากกว่า 2 นะครับ สูงสุดได้ถึง 5 เลยมั้งไม่แน่ใจลองหาๆดู อย่างสมมติ เรารู้แล้วว่า ณเดชน์ กับ ญาญ่า HOT เท่าๆกันเลย ทีนี้หากลองเปรียบเทียบกับคีย์เวิร์ดอื่นๆในสินค้าเราที่มีชื่อเรียกได้อีก เช่น มาริโอ้ ก็เพิ่ม มาริโอ้ลงไปจะได้ผลดังรูป
ก็จะได้ผลว่า มาริโอ้ ชื่อนี้ เกิดก่อน ณเดชน์ ญาญ่า โดยเริ่มเป็นที่สนใจในปี 2550 หรือ 2007 ซึ่งเป็นปีที่ภาพยนตร์รักแห่งสยามประเทศ อย่าง รักแห่งสยาม ออกฉายนั่นเอง ซึ่งก็ตรงกับความเป็นจริง และ มาริโอ้มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นดาวค้างฟ้ามาจนถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับ ณเดชน์ ญาญ่า แต่อยู่ในระดับความสนใจต่ำกว่าเล็กน้อย แต่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดเพราะเกิดก่อนนะคร๊าบบบ
5. ตัวอย่างที่น่าสนใจที่สุด และ น่าจะยืนยันความถูกต้องแม่นยำของ Google Trends ได้ดีที่สุดเลยคือ ดาราคนต่อไป ผู้มีฉายาว่า ซุปตาร์สายฟ้าแลบ แปล๊บๆ ใส่หมวกแก๊บมาเดินกุ๊บกั๊บ เย้ยย ไม่ใช่ละ เจมส์จิ นั่นเอง สมมติสินค้าเราเกิดมีชื่อใหม่เรียกได้กว่า เจมส์จิ ขึ้นมา เราก็แค่เพิ่มคำว่าเจมส์จิ ลงไปเปรียบเทียบกับอีกสามชื่อ ก่อนหน้า จะได้ความว่า
เจมส์จิ เป็นซุปตาร์สายฟ้าแล๊บ ตรงตามฉายาของเขา นั่นคือ เกิดในปี 2556 ซึ่งมีซีรีย์ สุภาพบุรุษจุฑาทเพ ตอน คุณชายพุฒิพัฒ หรือ คุณชายหมอออกอากาศ ชื่อนี้ได้รับความสนใจจากชาวโลกออนไลน์ในระดับสูงปรี๊ด เป็น Pike เลยในปีนั้น เรียกว่าใครๆก็อยากรู้ว่า เจมส์จิ คือใคร มาจากไหน อะไรยังไง แต่พอสนองความอยากรู้เสร็จก็ลดลงปรีด เลยในปีเดียวกัน จนปัจจุบันระดับต่ำกว่าคีย์เวิร์ด มาริโอ้ และ อยู่ในกราฟที่ดิ่งลง จะเห็นว่าความสนใจของชาว Net ต่อคีย์เวิร์ดสินค้าชื่อ เจมส์จิ เป็นแบบสายฟ้าแล๊บจริงๆ คือแว๊บเดียว แล้วซาไปอย่างรวดเร็ว เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับพ่อค้าแม่ค้า ที่อาจใช้การวิเคราะห์ตรองนี้ในการสร้างโอกาสขายสินค้า หรือ วิเคราะห์ Trends ในการทำตลาดของตัวเองต่อไป
กระทู้นี้ต้องขออภัยที่พาดพุง เอ้ยย พิง (ไม่มีใครตบให้ก็เล่นเองนี่ละวะ ) ดารา แต่เนื่องด้วยเป็นตัวอย่างสินค้าที่คนทั่วไปมีข้อมูลมากที่สุดและสามารถยกตัวอย่างให้เห็นได้ชัดเจน ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อพ่อค้า แม่ค้า มนุษย์เงินเดือนที่กำลังหารายได้เสริม โดยการเปิดตลาดออนไลน์ ที่ยังงุนๆงงๆอยู่ว่าจะขายอะไรยังไง อะไร HOT อะไร HIT ก็ลองใช้ Google Trends ช่วยท่านได้ โดยเฉพาะในการวิเคราห์คีย์เวิร์ดสำหรับทำ SEO เพื่อให้เว็บขายสินค้าของท่านติดคำค้นหาของ Google หรือ หา คีย์เวิร์ดเพื่อลงโฆษณากับ Google Adwords เป็นต้น
ท้ายที่สุด Google Trends ถึงจะวิเคราห์ข้อมูลได้ละเอียดยิบ แต่ก็เป็นข้อมูลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเท่านั้นนะครับ ขณะที่สิ่งสำคัญที่สุดของการเป็นพ่อค้าแม่ขายคือการคาดการ Trends ในอนาคตล่วงหน้าต่างหากว่าอะไรจะ HOT อะไรจะ HIT ซึ่งถ้าหากคาดการณ์ได้ถูกต้อง ความรุ่งเรืองก็อยู่แค่เอื้อมแล้วล่ะคร๊าบบบบบบบบบบ ซึ่งอันนี้ก็คงอยู่ที่กึ๋นใครกึ๋นมัน สอนกันไมไ่ด้ แม้แต่ Google ก็บอกให้ไม่ได้นะเออ
จบ.