ประสบการณ์ ปั่นจักรยานเกือบตาย !!
สวัสดีครับ ผมมีเรื่องมาเล่าให้ฟังเป็นอุทาหรณ์ ให้กับ "นักปั่นมือใหม่ไฟแรง" ทั้งหลาย
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดกับตัวผมได้ไม่นาน เรื่องมีอยู่ว่า
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ และใช้จักยานเป็นภาหนะในการเดินทางจากบ้านไปยังหอพัก ซึ่งระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร โดยจะปั่นไปกลับบ้านอาทิตละครั้ง และออกทริปกับเพื่อนๆบ้างเป็นบางโอกาส
ผมก็ทำแบบนี้อยู่เป็นประจำ เป็นเวลาประมาณ 7เดือน ปั่นรวมๆเกือบ 2000 กิโลแล้ว
จากช่วงที่เริ่ม ปั่นแรกๆ ความเร็วเฉลี่ย(av) อยู่ที่ 18 กิโลเมตร/ชั่วโมง (km/h)
จากนั้นก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จน ปัจจุบัน ปั่น อยู่ที่ av 27-30 โดยไม่เหนื่อยมาก (ผมขับจักรยาน ไฮบริค)
สุขภาพร่างกายก็เริ่มแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆน้ำหนักตัวก็ลดลงไปประมาณ 5 kg ได้กำไร2เด้ง ไม่เสียค่ารถ แถมยังได้สุขภาพดีอีกด้วย ^^"
เข้าประเด็นเลยดีกว่า กับเรื่องที่ทำให้ผมเกือบไม่รอด
วันนั้นเป็นวันศุกร์ ผมก็ปั่นจากหอกลับบ้านปกติ แต่กลับดึกไปหน่อยประมาณ 4ทุ่ม ผมปั่นด้วย av 27 ตามปกติ ปั่นมาได้ครึ่งทางแล้วไม่รู้สึกเหนื่อยอะไรมาก และพอดีข้างหน้ามี 4แยกไฟแดง ผมมองเห็นว่าไฟเขียวมันกำลังจะหมดเพื่อให้ทัน ผมจึงตัดสินใจ อัด 45 km/hr ยาวเลยจนหลุดแยก แต่พอหลุดมาผมก็ไม่ได้ลดความเร็วแล้วต้องปั่นขึ้นสะพานอีก สะพานทั้งชันและยาว หลังจากขึ้นมาได้ ผมเริ่มรู้สึกเหนื่อยแต่ผมก็ไม่ได้หยุดพัก แต่ทว่าทางข้างหน้ามีโครงการทำรถไฟฟ้าอยู่ ซึ่งมันต้องปิดถนน บังคับให้คนที่ขับมอไซต้องลงอุโมงซึ่งผมก็ต้องลงด้วย (จริงๆผมไม่อยากลงแต่เพราะเคยไม่ลงแล้วไปเจอเครื่องจักรใหญ่กำลังทำงานอยู่ต้องยกรถเดินเลอะปูนไปหมด) และแล้วผมก็ลงอุโมงไปทั้งๆที่เริ่มเหนื่อยแล้ว แล้วเวลาลงอุโมง ถนนมันจะเป็นเลนแคบๆรถใหญ่จะแซงไม่ได้ ด้วยความเกรงใจผมก็ต้องทำความเร็วสม่ำเสมอ อยู่ที่ 45-50 ขึ้นสะพานมาก็เหนื่อยแล้ว แล้วไปอัดลงอุโมงอีก
พอถึงทางขึ้นอุโมงผมเริ่มเหนื่อยมากแล้ว+รถหลังก็มาผมก็ยิ่งเกรงใจมาก ผมก็อัดขึ้นไปไม่หยุดเหลือประมาน25 ตอนขึ้น (รวมแล้วอัดต่อเนื่องเกือบ3กิโล)
พอหลุดเสร็จ โอโห!! หน้าผมเริ่มมืดอยู่บนจักรยาน หยิบน้ำขึ้นมากินแต่กลื่นไม่ลง(ซึ่งจริงๆไม่ควรแต่ไม่รู้ตอนนั้นทำทำไม- -") เลยบ้วนทิ้ง สักพักคลื่นไส้จะอวก หายใจเข้าแต่เหมือนอากาศมันไม่เข้าเลย ผมว่าผมไม่ไหวละ เลยจอดป้ายรถเมล์ (ซึ่งไม่มีคนเลย) จอดได้แปปเดียวสติเริ่มหาย รู้สึกเหมือนจะตาย เพราะหายใจไม่เข้า เริ่มเห็นภาพซ้อนและค่อยๆมืดลง เหมือนจะหลับ ผมกลั่นใจไม่หลับ พอตั้งสติได้ ผมลองขึ้นปั่นใหม่ ไปได้นิดเดียวตะคิวเริ่มกินขาลามขึ้นมาเอว (คาดว่า เกิดจากการขาด ออคซิเจน)
ผมรีบจอดเลย พิงรถกะเสาไฟเลย
ตั้งสติ มืดก็มืดตัวคนเดียวน่ากลัวมากครับ
โชคดีมีTaxi มาพอดีเลยโบกขอเอาจักรยานขึ้น โดยถอด2ล้อวางเบาะหลัง แล้วกลับบ้านเลย พอถึงบ้านอาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆแต่ปวดหัวมาก แต่พอวันรุ่งขึ้นก็หายไป.
น่ากลัวมากครับประสบการณ์นี้ โดนทีเดียวเข็ดมากเลยครับ แต่ผมก็ไม่เลิกปั่นนะครับ แต่จะไม่หักโหมมากเกินไปอีกและ
อยากจะฝากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ อย่าหักโหมกับการออกกำลังกายมากนักอย่าคิดว่าตัวเองแน่ นะครับ ให้รู้ขีดจำกัดของร่างกายตัวเองดีกว่า
"เพราะสุขภาพดีก็ตายได้นะครับถ้าหักโหม"!! ฝากกันด้วยครับ
ประสบการณ์ ปั่นจักรยานเกือบตาย !!
สวัสดีครับ ผมมีเรื่องมาเล่าให้ฟังเป็นอุทาหรณ์ ให้กับ "นักปั่นมือใหม่ไฟแรง" ทั้งหลาย
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดกับตัวผมได้ไม่นาน เรื่องมีอยู่ว่า
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ และใช้จักยานเป็นภาหนะในการเดินทางจากบ้านไปยังหอพัก ซึ่งระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร โดยจะปั่นไปกลับบ้านอาทิตละครั้ง และออกทริปกับเพื่อนๆบ้างเป็นบางโอกาส
ผมก็ทำแบบนี้อยู่เป็นประจำ เป็นเวลาประมาณ 7เดือน ปั่นรวมๆเกือบ 2000 กิโลแล้ว
จากช่วงที่เริ่ม ปั่นแรกๆ ความเร็วเฉลี่ย(av) อยู่ที่ 18 กิโลเมตร/ชั่วโมง (km/h)
จากนั้นก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จน ปัจจุบัน ปั่น อยู่ที่ av 27-30 โดยไม่เหนื่อยมาก (ผมขับจักรยาน ไฮบริค)
สุขภาพร่างกายก็เริ่มแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆน้ำหนักตัวก็ลดลงไปประมาณ 5 kg ได้กำไร2เด้ง ไม่เสียค่ารถ แถมยังได้สุขภาพดีอีกด้วย ^^"
เข้าประเด็นเลยดีกว่า กับเรื่องที่ทำให้ผมเกือบไม่รอด
วันนั้นเป็นวันศุกร์ ผมก็ปั่นจากหอกลับบ้านปกติ แต่กลับดึกไปหน่อยประมาณ 4ทุ่ม ผมปั่นด้วย av 27 ตามปกติ ปั่นมาได้ครึ่งทางแล้วไม่รู้สึกเหนื่อยอะไรมาก และพอดีข้างหน้ามี 4แยกไฟแดง ผมมองเห็นว่าไฟเขียวมันกำลังจะหมดเพื่อให้ทัน ผมจึงตัดสินใจ อัด 45 km/hr ยาวเลยจนหลุดแยก แต่พอหลุดมาผมก็ไม่ได้ลดความเร็วแล้วต้องปั่นขึ้นสะพานอีก สะพานทั้งชันและยาว หลังจากขึ้นมาได้ ผมเริ่มรู้สึกเหนื่อยแต่ผมก็ไม่ได้หยุดพัก แต่ทว่าทางข้างหน้ามีโครงการทำรถไฟฟ้าอยู่ ซึ่งมันต้องปิดถนน บังคับให้คนที่ขับมอไซต้องลงอุโมงซึ่งผมก็ต้องลงด้วย (จริงๆผมไม่อยากลงแต่เพราะเคยไม่ลงแล้วไปเจอเครื่องจักรใหญ่กำลังทำงานอยู่ต้องยกรถเดินเลอะปูนไปหมด) และแล้วผมก็ลงอุโมงไปทั้งๆที่เริ่มเหนื่อยแล้ว แล้วเวลาลงอุโมง ถนนมันจะเป็นเลนแคบๆรถใหญ่จะแซงไม่ได้ ด้วยความเกรงใจผมก็ต้องทำความเร็วสม่ำเสมอ อยู่ที่ 45-50 ขึ้นสะพานมาก็เหนื่อยแล้ว แล้วไปอัดลงอุโมงอีก
พอถึงทางขึ้นอุโมงผมเริ่มเหนื่อยมากแล้ว+รถหลังก็มาผมก็ยิ่งเกรงใจมาก ผมก็อัดขึ้นไปไม่หยุดเหลือประมาน25 ตอนขึ้น (รวมแล้วอัดต่อเนื่องเกือบ3กิโล)
พอหลุดเสร็จ โอโห!! หน้าผมเริ่มมืดอยู่บนจักรยาน หยิบน้ำขึ้นมากินแต่กลื่นไม่ลง(ซึ่งจริงๆไม่ควรแต่ไม่รู้ตอนนั้นทำทำไม- -") เลยบ้วนทิ้ง สักพักคลื่นไส้จะอวก หายใจเข้าแต่เหมือนอากาศมันไม่เข้าเลย ผมว่าผมไม่ไหวละ เลยจอดป้ายรถเมล์ (ซึ่งไม่มีคนเลย) จอดได้แปปเดียวสติเริ่มหาย รู้สึกเหมือนจะตาย เพราะหายใจไม่เข้า เริ่มเห็นภาพซ้อนและค่อยๆมืดลง เหมือนจะหลับ ผมกลั่นใจไม่หลับ พอตั้งสติได้ ผมลองขึ้นปั่นใหม่ ไปได้นิดเดียวตะคิวเริ่มกินขาลามขึ้นมาเอว (คาดว่า เกิดจากการขาด ออคซิเจน)
ผมรีบจอดเลย พิงรถกะเสาไฟเลย
ตั้งสติ มืดก็มืดตัวคนเดียวน่ากลัวมากครับ
โชคดีมีTaxi มาพอดีเลยโบกขอเอาจักรยานขึ้น โดยถอด2ล้อวางเบาะหลัง แล้วกลับบ้านเลย พอถึงบ้านอาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆแต่ปวดหัวมาก แต่พอวันรุ่งขึ้นก็หายไป.
น่ากลัวมากครับประสบการณ์นี้ โดนทีเดียวเข็ดมากเลยครับ แต่ผมก็ไม่เลิกปั่นนะครับ แต่จะไม่หักโหมมากเกินไปอีกและ
อยากจะฝากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ อย่าหักโหมกับการออกกำลังกายมากนักอย่าคิดว่าตัวเองแน่ นะครับ ให้รู้ขีดจำกัดของร่างกายตัวเองดีกว่า
"เพราะสุขภาพดีก็ตายได้นะครับถ้าหักโหม"!! ฝากกันด้วยครับ