วันนี้เริ่มว่างอีกครั้งหลังจากที่เคยเขียนกระทู้เรื่องหุ้น TAPAC ไว้ก่อนหน้านี้ครับ
http://ppantip.com/topic/32487583
มุมมองสำหรับผมแล้ว การลงทุนในหุ้น Tapac ไม่ใช่ว่าจะต้องใช้ศาสตร์ เพียงอย่างเดียวครับ บางทีมันต้องมีศิลป์ด้วยในตัว ดังนั้นมันจึงทำให้ผมเกิดคำถามขึ้นมามากมายเพื่อที่จะให้ตกผลึกแก่ตัวเอง เพื่อที่จะตอบคำถามให้ได้ว่าจะอยู่หรือไปดีสำหรับหุ้นตัวนี้
ตอนนี้รายได้รวม 9 เดือน อยู่ที่ประมาณ 470 ล้านบาทนะครับ ลองดูกันว่า รายได้อีก 3 เดือนสุดท้ายจะเป็นเท่าไร ซึ่ง Tapac เคยทำไว้ได้ดีในปี 2012 อยู่ที่ 574 ล้านบาทครับ
ผมว่าการมองหุ้น ถ้าเราจะมองแค่ค่า P/E, P/B อะไรพวกนี้มันมองแค่ตัวเลขพื้นฐานไปครับ ใครๆก็มองได้ เลยไตร่ตรองออกมาดังนี้ครับ
-บจ. ออก warrant มาเพื่อให้คนแปลงนะครับ ราคาตัวแม่ต้องมีแก๊ปให้ทำกำไร นะครับ คนถึงจะซื้อลูกมาแปลง ดังนั้นผมยังมั่นใจครับ ไม่ว่าด้วยเล่ห์กลอันใด ราคาแม่ต้องสูงกว่าตัวลูกบวกกับเงินที่จะต้องใช้แปลงหุ้นครับ ลองๆบวกลูกกับราคาแปลงแล้วเปรียบเทียบดูนะครับ
ถ้ามีการแปลงเกิดขึ้น บจ.จะได้เงินลงทุนเพื่อขยายกิจการ พอกิจการขยาย ยอดขายเพิ่มขึ้น กำไรเยอะขึ้นตามสัดส่วน ตัวหารเยอะขึ้นก็ไม่มีปัญหา เราต้องตั้งคำถามครับว่าเขายังต้องการเงินลงทุนอีกหรือไม่
* ถ้าต้องการ ก็วกกับมาที่เดิมว่าราคาหุ้นจะไปในทิศทางใด และจะทำให้กิจการต้องดีขึ้นในอนาคตหรือไม่ *
-คนแห่ขายที่ 3 บาท แต่ราคาไม่ลงเพราะอะไร? เห็นไหมครับว่ามีการรับอยู่ ถ้าบอก p/e เท่านี้ราคาต้องเท่านี้ แล้วหุ้นบางตัว p/e เป็นร้อยยังมีเลยครับ สมมุติ ราคาเหมาะสมให้ pe ปรกติอยู่ที่ 3-3.50 แล้วต้องขายที่ราคานั้นไหมครับ ราคานี้คือราคาที่เหมาะสมหรือเป็นราคามูลค่าพื้นฐานของมันมิใช่หรือ ถ้าเราคิดว่าเขาจะดีขึ้นในอนาคต เราควรเก็บไว้สิครับ แต่ถ้าไม่โตแล้วราคาก็ไม่มีทางต่ำไปกว่านี้แน่นอนครับ ตามเทคนิคเขาเรียกว่าแนวรับครับผม ส่วนตัวผมมั่นใจว่ากิจการเติบโตแน่นอน ผมเลยยังไม่ขายเพราะราคานี้คือ
* แนวราคารับที่สำคัญครับ ไม่ใช่ราคาขาย *
-ทุกต้นปีประมาณเดือนมกราคม จะมีปันผลรอบใหญ่นะครับ ปรกติปันผลปีละ 2 ครั้งอยู่แล้วครับสำหรับหุ้นตัวนี้ สค. กับ มค. ครับ ปรกติปันเดือน ม.ค. จะปันผลครั้งใหญ่ครับ มค 2014 จ่าย 10 ตังค์ มค 2013 กับ 2012 จ่าย 18 ตังค์ เรามารอดูครับว่า มค. 2015 จะจ่ายเท่าไร
*หุ้นราคานี้มีปันผลต่อเนื่องแบบนี้ยังคุ้มไหมครับสำหรับผมที่จะถือรอ*
-เป็นที่ทราบกันดีนะครับว่า ธรรมมาภิบาลของเจ้าของ และ ผู้บริหารมีความโปร่งใสให้ข้อมูลแก่นักลงทุนได้ดี
*น้อย บจ. ครับที่จะมีความจริงใจและตั้งใจตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นแบบนี้นะครับ*
-สุดท้ายเลยนะครับ คุณลองเปรียบเทียบดูรายชื่อผู้ถือหุ้นที่อัพเดทล่าสุด 10/9/2014 ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรครับ จะเห็นได้ว่าคนลงทุนจริงๆเขายังถือเหนียวแน่น ดังเช่นที่เห็นกันว่าไม่ค่อยมีแรงขายออกมาครับเพราะเขาคงเข้าใจว่าผลตอบแทนหุ้นเป็นเช่นไร
******แล้วลองศึกษาดูนะครับว่าผู้ถือหุ้นหน้าใหม่ๆที่เข้ามาถือเป็นใครกันบ้างแล้วเขาสามารถเกื้อหนุนธุรกิจกันได้ไหม อันนี้ก็สำคัญมากเช่นกันนะครับ อิอิ แล้วจะหาว่าเม่าไม่เตือน ******
*ที่ขายๆกัน 2-3 วันนี้ เป็นแรงขายจากคนเล่นสั้น เก็งกำไรผลประกอบการที่รู้ๆกันอยู่แล้วครับ หวังกำไรในส่วนราคา แต่ไม่ได้ตั้งใจถือยาวจริงครับ* วันใดหมดแรงขาย เพราะตอนนี้คนแห่ขายกันก็ยังไม่ลง วันนั้นผมมั่นใจครับว่าถ้าหุ้นเป็นที่เข้าใจของนักลงทุนระยะยาว 6-12 เดือนขึ้นไป วันนั้นราคาไม่มีทางต่ำลงแน่นอน
คิดตัวเลขเป็นสมการ บางทีมันอึดอัดไปสำหรับผม
****การลงทุนบางทีใช้ศาสตร์อย่างเดียวไม่ได้ครับสำหรับผม มันต้องมีศิลป์ไปด้วยในตัว****
ไม่งั้นเหรียญเขาจะมี 2 ด้านเหรอครับ? 1+1 อาจจะไม่ได้ 2 เสมอไปครับ
ขอบคุณนะครับที่เข้ามาอ่านและรับฟังเกี่ยวกับหุ้น Tapac เผื่อมุมมองของคนบางคนอาจจะเปลี่ยนไป เมื่อได้อ่านกระทู้นี้ครับ
TAPAC and my passionate
http://ppantip.com/topic/32487583
มุมมองสำหรับผมแล้ว การลงทุนในหุ้น Tapac ไม่ใช่ว่าจะต้องใช้ศาสตร์ เพียงอย่างเดียวครับ บางทีมันต้องมีศิลป์ด้วยในตัว ดังนั้นมันจึงทำให้ผมเกิดคำถามขึ้นมามากมายเพื่อที่จะให้ตกผลึกแก่ตัวเอง เพื่อที่จะตอบคำถามให้ได้ว่าจะอยู่หรือไปดีสำหรับหุ้นตัวนี้
ตอนนี้รายได้รวม 9 เดือน อยู่ที่ประมาณ 470 ล้านบาทนะครับ ลองดูกันว่า รายได้อีก 3 เดือนสุดท้ายจะเป็นเท่าไร ซึ่ง Tapac เคยทำไว้ได้ดีในปี 2012 อยู่ที่ 574 ล้านบาทครับ
ผมว่าการมองหุ้น ถ้าเราจะมองแค่ค่า P/E, P/B อะไรพวกนี้มันมองแค่ตัวเลขพื้นฐานไปครับ ใครๆก็มองได้ เลยไตร่ตรองออกมาดังนี้ครับ
-บจ. ออก warrant มาเพื่อให้คนแปลงนะครับ ราคาตัวแม่ต้องมีแก๊ปให้ทำกำไร นะครับ คนถึงจะซื้อลูกมาแปลง ดังนั้นผมยังมั่นใจครับ ไม่ว่าด้วยเล่ห์กลอันใด ราคาแม่ต้องสูงกว่าตัวลูกบวกกับเงินที่จะต้องใช้แปลงหุ้นครับ ลองๆบวกลูกกับราคาแปลงแล้วเปรียบเทียบดูนะครับ
ถ้ามีการแปลงเกิดขึ้น บจ.จะได้เงินลงทุนเพื่อขยายกิจการ พอกิจการขยาย ยอดขายเพิ่มขึ้น กำไรเยอะขึ้นตามสัดส่วน ตัวหารเยอะขึ้นก็ไม่มีปัญหา เราต้องตั้งคำถามครับว่าเขายังต้องการเงินลงทุนอีกหรือไม่
* ถ้าต้องการ ก็วกกับมาที่เดิมว่าราคาหุ้นจะไปในทิศทางใด และจะทำให้กิจการต้องดีขึ้นในอนาคตหรือไม่ *
-คนแห่ขายที่ 3 บาท แต่ราคาไม่ลงเพราะอะไร? เห็นไหมครับว่ามีการรับอยู่ ถ้าบอก p/e เท่านี้ราคาต้องเท่านี้ แล้วหุ้นบางตัว p/e เป็นร้อยยังมีเลยครับ สมมุติ ราคาเหมาะสมให้ pe ปรกติอยู่ที่ 3-3.50 แล้วต้องขายที่ราคานั้นไหมครับ ราคานี้คือราคาที่เหมาะสมหรือเป็นราคามูลค่าพื้นฐานของมันมิใช่หรือ ถ้าเราคิดว่าเขาจะดีขึ้นในอนาคต เราควรเก็บไว้สิครับ แต่ถ้าไม่โตแล้วราคาก็ไม่มีทางต่ำไปกว่านี้แน่นอนครับ ตามเทคนิคเขาเรียกว่าแนวรับครับผม ส่วนตัวผมมั่นใจว่ากิจการเติบโตแน่นอน ผมเลยยังไม่ขายเพราะราคานี้คือ
* แนวราคารับที่สำคัญครับ ไม่ใช่ราคาขาย *
-ทุกต้นปีประมาณเดือนมกราคม จะมีปันผลรอบใหญ่นะครับ ปรกติปันผลปีละ 2 ครั้งอยู่แล้วครับสำหรับหุ้นตัวนี้ สค. กับ มค. ครับ ปรกติปันเดือน ม.ค. จะปันผลครั้งใหญ่ครับ มค 2014 จ่าย 10 ตังค์ มค 2013 กับ 2012 จ่าย 18 ตังค์ เรามารอดูครับว่า มค. 2015 จะจ่ายเท่าไร
*หุ้นราคานี้มีปันผลต่อเนื่องแบบนี้ยังคุ้มไหมครับสำหรับผมที่จะถือรอ*
-เป็นที่ทราบกันดีนะครับว่า ธรรมมาภิบาลของเจ้าของ และ ผู้บริหารมีความโปร่งใสให้ข้อมูลแก่นักลงทุนได้ดี
*น้อย บจ. ครับที่จะมีความจริงใจและตั้งใจตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นแบบนี้นะครับ*
-สุดท้ายเลยนะครับ คุณลองเปรียบเทียบดูรายชื่อผู้ถือหุ้นที่อัพเดทล่าสุด 10/9/2014 ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรครับ จะเห็นได้ว่าคนลงทุนจริงๆเขายังถือเหนียวแน่น ดังเช่นที่เห็นกันว่าไม่ค่อยมีแรงขายออกมาครับเพราะเขาคงเข้าใจว่าผลตอบแทนหุ้นเป็นเช่นไร
******แล้วลองศึกษาดูนะครับว่าผู้ถือหุ้นหน้าใหม่ๆที่เข้ามาถือเป็นใครกันบ้างแล้วเขาสามารถเกื้อหนุนธุรกิจกันได้ไหม อันนี้ก็สำคัญมากเช่นกันนะครับ อิอิ แล้วจะหาว่าเม่าไม่เตือน ******
*ที่ขายๆกัน 2-3 วันนี้ เป็นแรงขายจากคนเล่นสั้น เก็งกำไรผลประกอบการที่รู้ๆกันอยู่แล้วครับ หวังกำไรในส่วนราคา แต่ไม่ได้ตั้งใจถือยาวจริงครับ* วันใดหมดแรงขาย เพราะตอนนี้คนแห่ขายกันก็ยังไม่ลง วันนั้นผมมั่นใจครับว่าถ้าหุ้นเป็นที่เข้าใจของนักลงทุนระยะยาว 6-12 เดือนขึ้นไป วันนั้นราคาไม่มีทางต่ำลงแน่นอน
คิดตัวเลขเป็นสมการ บางทีมันอึดอัดไปสำหรับผม
****การลงทุนบางทีใช้ศาสตร์อย่างเดียวไม่ได้ครับสำหรับผม มันต้องมีศิลป์ไปด้วยในตัว****
ไม่งั้นเหรียญเขาจะมี 2 ด้านเหรอครับ? 1+1 อาจจะไม่ได้ 2 เสมอไปครับ
ขอบคุณนะครับที่เข้ามาอ่านและรับฟังเกี่ยวกับหุ้น Tapac เผื่อมุมมองของคนบางคนอาจจะเปลี่ยนไป เมื่อได้อ่านกระทู้นี้ครับ