ทุกๆวันคือวันหยุด นั่นคือความฝันของผม
(นี่เป็นเพียงประสบการณ์และความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะครับ หวังว่าจะพอมีประโยชน์บ้างนะครับ)
ผมมีเป้าหมายตั้งแต่เด็กๆ
ว่าโตมาอยากจะมีชีวิต ให้เหมือนช่วงปิดเทอม เพราะทุกๆวันคือวันหยุด
ช่วงปิดเทอมเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากๆ ได้เที่ยว ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
จะตื่นกี่โมง จะนอนกี่โมงก็ได้ มีเวลาหาอะไรทำใหม่ๆเสมอ มีอิสระ และ มีอะไรดีๆอีกมาก
แต่สิ่งที่ขาดในช่วงชีวิตวัยเรียนก็คือเงิน ผมเริ่มคิดจริงจังตั้งแต่เข้าเรียนมหาลัย เพราะรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว
เล่าชีวิตการทำงานให้ฟังพอฟังแล้ว ชีวิตแบบนี้ไม่ใช่ในแบบที่ฝันไว้เลย ทำให้ผมไม่เคยหยุดคิดเลยว่า ชีวิตต่อไปจะเป็นยังไง
เราจะเป็นแบบพี่เค้ามั้ย แล้วจะเป็นไปได้มั้ยที่ชีวิตจะเป็นไปในแบบที่เราฝันไว้
ชีวิตที่เป็นเหมือนตอน ปิดเทอม และเราก็ต้องมีเงิน!!
จะทำยังไงดี?
ตั้งแต่เข้ามหาลัย หนังสือที่ผมอ่านไม่ใช่แค่ตำราเรียน แต่เป็นหนังสือของนักธุรกิจใหญ่
หนังสือเกี่ยวกับความสำเร็จ หนังสือเกี่ยวกับการเงิน และช่วงเรียนผมก็ ทำงานPart time
ทำธุรกิจเล็กๆ ทำให้ผมได้มีโอกาสได้เจอคนมากขึ้น ได้คำแนะนำดีๆ ได้เห็น ได้รู้
ได้ประสบการณ์ที่มากขึ้น นอกเหนือจากในมหาลัย ประสบการณ์ต่างๆทำให้รู้ว่า
จริงๆแล้วทุกๆคนต้องการสิ่งเดียวกัน นั่นคือ ความสุข!!!
แล้วอะไรหละที่จะทำให้ตัวเรามีความสุข คำตอบที่ได้จากการอ่านหนังสือธรรมะคือ
"ความสมดุล" ความสมดุลเป็นคำตอบสำหรับผมนะ
ไม่น่าเชื่อนะครับว่า สิ่งที่ตามหามาตลอด จะง่ายขนาดนนี้
ฟังดูง่ายครับ แต่ทำให้ได้สมดุลไม่ง่ายเลย ชีวิตคนเรามีขึ้นมีลง
สิ่งที่ผมทำได้คือ ออกแบบงานของตัวเอง วางแผนงาน ให้เหมาะสมกับ
ตัวเรามากที่สุด
เพราะจากประสบการณ์ อะไรที่มากเกินมันก็ไม่มีความสุข
เหนื่อยกาย น้อยไปก็ไม่มีความสุข เหนื่อยใจ
อะไรที่มันพอดีๆ มันสนุกและมีความสุขกว่ามาก
เพราะถ้าเรา
มีเวลางาน มีเวลาพัก มีเวลาเที่ยว มีอิสระ(จากงานจริงๆ)**
ไม่มากไม่น้อยเกินไป ช่วงเวลาความสุขของเราก็จะมีตลอดเวลา
ทำงานก็มีความสุขได้เงินธุรกิจเติบโต เวลาพักก็พักได้เต็มที่
เวลาเที่ยวก็ไร้กังวล
ผมใช้เวลาศึกษา ลองผิดลองถูก มาตั้งแต่
อายุ19 ปัจจุบัน 24 ทั้งหมด 5 ปี
ปัจจุบัน ผมกับแฟน มีธุรกิจขายปลีก-ขายส่ง
ส่งสินค้าให้ตามร้านกาแฟ และตัวแทนจำหน่ายในหลายจังหวัด
เราไม่มีหน้าร้าน สินค้าที่ลูกค้าสั่งซื้อจะเป็นแบบจัดส่งเท่านั้น
เพราะถ้าเรามีหน้าร้านในวันนี้ เวลาในส่วนของงานก็จะมากเกินไปทำให้
ไม่มีความสุข ซึ้งในอนาคตเรามีหน้าร้านแน่นอน แต่จะก็ค่อยเป็นค่อยไป
ค่อยๆปรับสมดุลทีละนิดๆ เท่านี้สำหรับตัวผมเอง
ก็มีความสุขมากๆแล้ว เพราะทุกๆวันคือวันหยุดของผม ^^
ผมกับแฟนตั้งแต่ปรับสมดุลเรื่องงานได้ก็ทะเลาะกันน้อยลงมาก หรือ
แทบไม่ทะเลาะกันเลย รักกันมากขึ้นเห็นใจกันมากขึ้น ดูแลกันมากขึ้น
แฟนผมก็จะมีเวลาทำอาหารให้กิน ดูแลเอาใจใส่มากขึ้น เพราะเรามีเวลาให้กันมากขึ้น
ความเครียดในเรื่องอื่นๆน้อยลง ทำให้อารมณ์ดี ^^
หวังว่าจะมีประโยชน์บ้างนะครับ
เพราะปัจจุบันนี้คนต้องการความร่ำรวยกันมากเหลือเกิน
อวดรวย บ้าของแพงๆ รีบเร่ง เคร่งเครียด กันมากพอสมควร
จนลืมไปว่าความสุขนั้นหาได้ไม่ยากเลย เพราะที่ทุกคนพยายามทำทั้งหมด
ก็คือทำเพื่อให้ตัวเองมีความสุข แต่ในหลายๆครั้งกลับทำให้ทุกข์มากกว่าสุขอีก
และที่สำคัญ ผมชอบประโยคของ คุณต๊อบเถ้าแก่น้อยมากๆที่ว่า
"ประสบการณ์ของคนไม่ได้วัดที่อายุ แต่วัดที่ว่าใครได้เจออะไรมามากกว่ากัน"
เพราะอายุไม่ได้บอกความสำเร็จ ^^
ทุกๆวันคือวันหยุด นั่นคือความฝันของผม
(นี่เป็นเพียงประสบการณ์และความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะครับ หวังว่าจะพอมีประโยชน์บ้างนะครับ)
ผมมีเป้าหมายตั้งแต่เด็กๆ
ว่าโตมาอยากจะมีชีวิต ให้เหมือนช่วงปิดเทอม เพราะทุกๆวันคือวันหยุด
ช่วงปิดเทอมเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากๆ ได้เที่ยว ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
จะตื่นกี่โมง จะนอนกี่โมงก็ได้ มีเวลาหาอะไรทำใหม่ๆเสมอ มีอิสระ และ มีอะไรดีๆอีกมาก
แต่สิ่งที่ขาดในช่วงชีวิตวัยเรียนก็คือเงิน ผมเริ่มคิดจริงจังตั้งแต่เข้าเรียนมหาลัย เพราะรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว
เล่าชีวิตการทำงานให้ฟังพอฟังแล้ว ชีวิตแบบนี้ไม่ใช่ในแบบที่ฝันไว้เลย ทำให้ผมไม่เคยหยุดคิดเลยว่า ชีวิตต่อไปจะเป็นยังไง
เราจะเป็นแบบพี่เค้ามั้ย แล้วจะเป็นไปได้มั้ยที่ชีวิตจะเป็นไปในแบบที่เราฝันไว้
ชีวิตที่เป็นเหมือนตอน ปิดเทอม และเราก็ต้องมีเงิน!!
จะทำยังไงดี?
ตั้งแต่เข้ามหาลัย หนังสือที่ผมอ่านไม่ใช่แค่ตำราเรียน แต่เป็นหนังสือของนักธุรกิจใหญ่
หนังสือเกี่ยวกับความสำเร็จ หนังสือเกี่ยวกับการเงิน และช่วงเรียนผมก็ ทำงานPart time
ทำธุรกิจเล็กๆ ทำให้ผมได้มีโอกาสได้เจอคนมากขึ้น ได้คำแนะนำดีๆ ได้เห็น ได้รู้
ได้ประสบการณ์ที่มากขึ้น นอกเหนือจากในมหาลัย ประสบการณ์ต่างๆทำให้รู้ว่า
จริงๆแล้วทุกๆคนต้องการสิ่งเดียวกัน นั่นคือ ความสุข!!!
แล้วอะไรหละที่จะทำให้ตัวเรามีความสุข คำตอบที่ได้จากการอ่านหนังสือธรรมะคือ
"ความสมดุล" ความสมดุลเป็นคำตอบสำหรับผมนะ
ไม่น่าเชื่อนะครับว่า สิ่งที่ตามหามาตลอด จะง่ายขนาดนนี้
ฟังดูง่ายครับ แต่ทำให้ได้สมดุลไม่ง่ายเลย ชีวิตคนเรามีขึ้นมีลง
สิ่งที่ผมทำได้คือ ออกแบบงานของตัวเอง วางแผนงาน ให้เหมาะสมกับ
ตัวเรามากที่สุด
เพราะจากประสบการณ์ อะไรที่มากเกินมันก็ไม่มีความสุข
เหนื่อยกาย น้อยไปก็ไม่มีความสุข เหนื่อยใจ
อะไรที่มันพอดีๆ มันสนุกและมีความสุขกว่ามาก
เพราะถ้าเรา
มีเวลางาน มีเวลาพัก มีเวลาเที่ยว มีอิสระ(จากงานจริงๆ)**
ไม่มากไม่น้อยเกินไป ช่วงเวลาความสุขของเราก็จะมีตลอดเวลา
ทำงานก็มีความสุขได้เงินธุรกิจเติบโต เวลาพักก็พักได้เต็มที่
เวลาเที่ยวก็ไร้กังวล
ผมใช้เวลาศึกษา ลองผิดลองถูก มาตั้งแต่
อายุ19 ปัจจุบัน 24 ทั้งหมด 5 ปี
ปัจจุบัน ผมกับแฟน มีธุรกิจขายปลีก-ขายส่ง
ส่งสินค้าให้ตามร้านกาแฟ และตัวแทนจำหน่ายในหลายจังหวัด
เราไม่มีหน้าร้าน สินค้าที่ลูกค้าสั่งซื้อจะเป็นแบบจัดส่งเท่านั้น
เพราะถ้าเรามีหน้าร้านในวันนี้ เวลาในส่วนของงานก็จะมากเกินไปทำให้
ไม่มีความสุข ซึ้งในอนาคตเรามีหน้าร้านแน่นอน แต่จะก็ค่อยเป็นค่อยไป
ค่อยๆปรับสมดุลทีละนิดๆ เท่านี้สำหรับตัวผมเอง
ก็มีความสุขมากๆแล้ว เพราะทุกๆวันคือวันหยุดของผม ^^
ผมกับแฟนตั้งแต่ปรับสมดุลเรื่องงานได้ก็ทะเลาะกันน้อยลงมาก หรือ
แทบไม่ทะเลาะกันเลย รักกันมากขึ้นเห็นใจกันมากขึ้น ดูแลกันมากขึ้น
แฟนผมก็จะมีเวลาทำอาหารให้กิน ดูแลเอาใจใส่มากขึ้น เพราะเรามีเวลาให้กันมากขึ้น
ความเครียดในเรื่องอื่นๆน้อยลง ทำให้อารมณ์ดี ^^
หวังว่าจะมีประโยชน์บ้างนะครับ
เพราะปัจจุบันนี้คนต้องการความร่ำรวยกันมากเหลือเกิน
อวดรวย บ้าของแพงๆ รีบเร่ง เคร่งเครียด กันมากพอสมควร
จนลืมไปว่าความสุขนั้นหาได้ไม่ยากเลย เพราะที่ทุกคนพยายามทำทั้งหมด
ก็คือทำเพื่อให้ตัวเองมีความสุข แต่ในหลายๆครั้งกลับทำให้ทุกข์มากกว่าสุขอีก
และที่สำคัญ ผมชอบประโยคของ คุณต๊อบเถ้าแก่น้อยมากๆที่ว่า
"ประสบการณ์ของคนไม่ได้วัดที่อายุ แต่วัดที่ว่าใครได้เจออะไรมามากกว่ากัน"
เพราะอายุไม่ได้บอกความสำเร็จ ^^