หลังจากเก็บอมพะนำความชอกช้ำอยู่เพียงลำพัง เมื่อสติ๊กเกอร์ไลน์ที่วาดได้วางจำหน่าย
แต่ยอดไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้ ก็เลยรออยู่ว่า จะมีใครเป็นเหมือนเรามั้ยหนอ
หรือคนอื่นเค้ามียอดขายกันพุ่งแรง แซงทางโค้ง ร่ำรวยกันไปหมดแล้ว
หรือยังไง..
จนในที่สุด ก็ได้อ่านกระทู้ของคุณ nonarav
http://ppantip.com/topic/32568194
ที่ได้มาเปิดเผยความสำเร็จแบบหมดเปลือก ชนิดที่ว่า..
โอ้ว.. ถ้ามันจะต้องทุ่มเทกันขนาดนี้ล่ะก็
ถึงว่าซิ.. ทำไมสติ๊กเกอร์ของชั้น ถึงได้มียอดขายแบบ เบี้ยน้อย หอยน้อย ขนาดเน๊..
ก็เอาล่ะนะ .. ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ .. เมื่อเหรียญยอมมี 2 ด้านเสมอ
ขอยอมเป็นนางมารร้าย เปิดเผยอีกด้านของความฝันอันสวยหรู สำหรับใครต่อใคร
ที่ตื่นเช้ามา มีรัศมีดาวกระจายรอบกำปั้น ว่าชั้นจะต้องทำสติ๊กเกอร์ Line สักชุดให้จงได้!!
(แต่ไม่ได้เริ่มสักที หรือเริ่มไปครึ่งๆ กลางๆ แล้ว)
จงตั้งสติใหม่อีกสักรอบ แล้วศึกษาข้อมูลกันดีๆ อีกสักหน่อยค่ะ
เมื่ออ่านข้อมูลจากผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้ว
ก็ไตร่ตรองจากผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จด้วยก็ได้
จะได้ลองตัดสินใจกันดูให้ดี ว่าควรจะ Go on.. เพื่อตามความฝัน
หรือ Go off.. เพื่อเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า
ก่อนอื่น ขอออกตัวแรงเหมือนกัน ว่าไม่ได้เป็นนักวาดมืออาชีพค่ะ
เป็นคนที่พอจะวาดการ์ตูนเล่นได้ (วาดใส่กระดาษ) ชอบวาดขาว-ดำ
อีกตะหาก ไม่ชอบลงสี ..ปัจจุบันรับงานฟรีแลนด์ ทำพวกออกแบบ
หน้าโฆษณาในแมกกาซีน แบนเนอร์ในอินเตอร์เน็ต รับออกแบบโลโก้
นามบัตร นู่นนี่นั่น เอฟเวอรี่ติง จิงเกอร์เบล ที่เกี่ยวกับตัวอักษร
โดยใช้โปรแกรม illust เป็นหลักค่ะ
จุดเริ่มต้นของความคิดที่จะส่ง Line Sticker ขายกะเค้ามั่ง
มาจากเพื่อนสนิทค่ะ พอดีเพื่อนเลี้ยงแมว 2 ตัว ซึ่งมีแฟนเพจ มี IG เป็นของตัวเอง
เลยโทรมาจีบๆ ให้วาด 2 ตัวนี้ให้หน่อย อยากขายใน Line บ้าง
ไอ้เราก็ อืมม.. (เริ่มมองเห็นช่องทางการตลาด เพราะท่านแมว มีเพจ มี IG
ยอด Follow ก็ไม่ธรรมดา น่าสนใจนะ)
เพื่อนถามว่าจะให้จ้างเป็นเงินก้อน หรือจะแชร์กันก็ได้นะ
ไอ้เราก็ อืมม.. (มันต้องขายได้แน่ๆ มีเพจ มี IG ยอด Follow ขนาดนี้)
ขอเป็นแชร์ละกัน.. (แว่บแรกนี่ ความ งก ล้วนๆ กะกินยาวๆ จะเอาเงินก้อนทำไม)
ตอนแรกยังแซวกลับไปด้วย ว่าถ้าขายไม่ได้เลย จะลักพาตัวแมวไปถ่วงน้ำ 55555
(ไม่ได้โทษฝีมือตัวเองเล้ยยยย)
แต่จริงๆ แล้ว มันมีแว่บที่ 2 ที่ตัดสินใจรับงานนี้ค่ะ
ตรงนี้อาจ ดราม่า หน่อย ข้ามไปก็ได้นะคะ
สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลเพื่อประกอบการทำสติ๊กเกอร์อย่างเดียว
********** ข้ามไปอ่านตรง (เอาล่ะ) ได้เลยนะคะ **********
คือถ้าเป็นคนอื่น ต่อให้เป็นเพื่อนสนิทกัน คงต้องมีสัญญาทางธุรกิจบ้าง
เพราะเราก็ทำงานแลกเงินอ่ะเน๊อะ ไม่ได้อยู่องค์กรการกุศล
แต่จุดที่สำคัญ ที่ทำให้รับงานนี้ง่ายๆ เป็นเพราะที่มาของเจ้า 2 ตัวนี้มากกว่าค่ะ
ใครไม่สนิทคงเดาไม่ออก ว่าคนเลี้ยงแมวสวยๆ 2 ตัวนี้ คงมีฐานะดี มีชาติตระกูล
ที่วาดสติ๊กเกอร์ขาย คงขายขำๆ ไม่ได้กะเอารายได้อะไรหรอก บลา บลา บลา
.. ถ้าก่อนหน้านี้ อาจจะใช่ค่ะ เพื่อนคนนี้ เป็นผู้หญิงตัวคนเดียว
ทำงานเก่ง ผ่อนคอนโดเอง ผ่อนรถเอง ทำงานเก็บเงินส่งเลี้ยงพ่อที่ตจว.
ก่อนหน้านี้ เธอเลี้ยงแมวเปอร์เซียสวยๆ 3 ตัว เลี้ยงมานานมาก
เลี้ยงเหมือนลูก ชีวิตมีแต่งาน กับแมว เลี้ยงเจ้า 3 ตัวนั้นมา 10 ปีกว่าๆเห็นจะได้
เพื่อนเล่าให้ฟังว่า วันนึง ไปหาพ่อที่ตจว. ไปไหวพระ เจ้าอาวาดที่รู้จักกัน
ยกลูกแมววัดให้ตัวนึง กำลังน่ารัก รู้สึกจะแมว 3 สีมั๊งถ้าจำไม่ผิด
หลวงพ่อบอก เลี้ยงแล้วดี เจริญรุ่งเรือง.. เพื่อนเป็นคนรักแมวอยู่แล้ว
รับกลับมาโลด .. มาอยู่กับพี่ๆเปอร์เซีย 3 ตัว เล่นกันสนุกสนาน
....
ผ่านไปไม่นาน.. แมวเริ่มป่วย ทีละตัว ทีละตัว...
เพื่อนรีบพาไปหาหมอ ตรวจไปตรวจมา แมวติด "หัด" ทุกตัว
ชีวิตเหมือนสายฟ้าฟาด.. ใครเลี้ยงแมวจะรู้ ว่าถ้าเป็นโรคนี้ จบ...
เริ่มที่เจ้าลูกแมวตาย จากนั้น ที่เหลือ ก็ทะยอยกันตาย
โดยช่วงที่พาไปหาหมอ ไปอยู่กับหมอ แทบจะไปนอนที่คลีนิคหมอ
ไหนจะค่ารักษา ไหนจะสภาพจิตใจ หมดแรงทำอะไรต่ออะไร
ช่วงเวลาไม่ถึง 2 เดือน แมวที่เลี้ยงมา 10 กว่าปี ยิ่งกว่าลูก
3 ตัว ตายหมด ไม่เหลือสักตัว...
ไม่อยากจะคิดสภาพ.. ว่าเพื่อนเป็นยังไงบ้างตอนนั้น
เลยตัดบทถามว่า แล้วตอนนี้เป็นไง เจ้า 2 ตัวนี้ มาจากไหน
เพื่อนเลยเล่าต่อว่า ช่วงที่ไปๆ มาๆ คลีนิค ไปทีไร
ก็ไปร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนบ้า ไปทุกวัน ไปตั้งแต่คลีนิคยังไม่เปิด
และอยู่ดึกจนหมอแทบจะต้องลากออกมาจากกรงพักแมว
สุดท้าย ด้วยความที่หมอเป็นคนใจดีมาก และคงสงสารเพื่อนมากๆ
หมอเลยยกลูกแมวให้ 2 ตัว เพราะหมอก็มีแมวอยู่หลายตัว
... และนี่ก็เป็นที่มาของเจ้า 2 ตัวนี้ และเป็นที่มาของสติ๊กเกอร์ไลน์
Jacob & Bella cats
ซึ่งจริงๆแล้ว กะว่าเอานะ.. ถ้าสติ๊กเกอร์ขายได้ดีๆ คงช่วยเพื่อนได้เยอะ
อืมมม.....เหรอ แล้วเป็นไงล่ะ??? 5555 ไม่ได้ช่วยอัลไล..
******************
เอาล่ะ
กลับมาที่เรื่องสติ๊กเกอร์กันเถอะ 5555 แถ-ออกทะเลไปซะไกล
เมื่อรับงานมาแล้ว สิ่งที่ต้องมีให้กับงานสุดๆ และสุดๆ คือ "เวลา" ค่ะ
บอกเลยว่า การทำสติ๊กเกอร์ มันไม่ง่ายจริงๆ เพราะการวาดในกระดาษ
กับการวาดในคอมฯ ต่างกันเยอะ.. ตอนนั้นที่ทำ แทบไม่ได้ึศึกษาข้อมูลอะไร
ไม่ได้ดูเลยว่าคนอื่นเค้าทำกันยังไง เค้าใช้โปรแกรมอะไรกันบ้าง
ลงทุนซื้อ "เมาส์ปากกา" มาด้วย เอ้ออ... 1,500 บาท สบายใจ..
และแล้วการเริ่มต้น วาดการ์ตูน ด้วย illust แบบที่ไม่เคยทำมาก่อน ก็กลายเป็นงานหิน
เพราะเพื่อนบอกว่า อยากได้ลายเส้นแบบสวยๆ (นั่น! ทำฟรีแล้วยังเรื่องมากอีก)
เลือกลายเส้น ลองผิดลองถูกอยู่นานค่ะ แต่ที่พลาดคือ
ไม่ได้มีการคิดกลุ่มเป้าหมาย หรือคาแรคเตอร์อะไรอย่างเค้าเลย
อาศัยดูรูปเจ้า 2 ตัวนี้จากเพจ แล้วก็วาดแบบดิบๆ ในคอมเล้ย ไม่มีร่างแบบ
คิดว่าแมวสามารถทำท่าไหนได้บ้างก็วาดเล้ย ใจคิดแค่ว่า 40 ตัว
40 ตัว 40 ตัว.. วาดๆไปเถอะ เอาให้ครบก็พอ..
**ขอเน้นอุปกรณ์การทำงานหน่อย สำหรับคนที่ไม่เคยใช้เมาส์ปากกา
และคิดว่า จะเหมือนกับการวาดด้วยดินสอและกระดาษ
มันไม่ใช่เลย... มันไม่ใช่เลยยย.... มันยากมาก บร๊ะเจ้า! (หรือดิชั้นอาจจะยากคนเดียว)**
สุดท้ายก็ต้องมาใช้เมาส์อยู่ดี จิ้มลาก จิ้มลาก ทีละจุด ทีละเส้น ทุลักทุเลมาก
เรื่องลงสีไม่ต้องพูดถึง ดูตัวอย่างใน YouTube สดๆ ดูเดี๋ยวนั้น ทำเดี๋ยวนั้น
ไม่มีการวางแผน (มันเป็นการสร้างงานอาร์ทแบบ ครู-พัก-ลัก-จำมั่กๆ 555)
ถามว่า ส่วนตัว.. ทุ่มเทมั้ย ทุ่มเทมากค่ะ .. จากสิ่งที่ไม่ถนัด
ค่อยๆทำ ค่อยๆแต่งเติม ส่งให้เพื่อนคอมเม้นท์มาเป็นระยะๆ ผอมไป อ้วนไป
ทำท่าอะไร ดูไม่ออกฯลฯ ก็แก้กันไป..
แต่ถามว่า มีข้อผิดพลาดเยอะมั้ย.. ก็ตอบว่าเยอะมากค่ะ
บางตัว คิดถึงแค่คาแรคเตอร์ของแมวเค้า แต่ไม่ได้คิดถึงว่า
คนซื้อจะเอาไปใช้ทำอะไร 5555 เช่นตัวนี้
เพราะอย่างเราเอง ถ้าจะเสียเงิน 30 บาท ซื้อสติ๊กเกอร์สักชุด
ก็อยากได้แบบใช้ได้ในชีวิตประจำวันทุกตัว เพื่อความคุ้ม
ถ้าเห็นตัวไหนไม่ได้ใช้แน่ๆ ก็อาจจะไม่ได้ซื้อ (งกน่ะ เรื่องของเรื่อง)
รวบรัดตัดความ.. กว่าสติ๊กเกอร์จะได้ออกขายนานมาก
ตอนแรกลุ้นแล้วว่าจะโดนปฎิเสธกลับรึเปล่า เพราะมีตัวนึง
Jacob แอบซัดเบียร์กระป๋องเหลือๆ ที่เพื่อนแม่มันวางทิ้งไว้
ไม่ได้อ่านละเอียดในกฎ กติกา ว่าห้ามมีภาพที่ไม่ดีกับเยาวชน
ห้ามมีสิ่งมอมเมา เวงกำ
หรือภาพนี้ ที่ Bella แต่งหน้าเลียนแบบ เสือดาว
เอ่ออ.. ใครมันจะเอาไปใช่ในชีวิตประจำวันฟระ 55555
แต่แล้วก็ได้ออนไลน์ขายจนได้...
จากนั้น เพื่อนจะคอยรายงานความเคลื่อนไหวตลอด
วันแรกที่ออกขาย ก็คงเป็นเหมือนกันทุกคน หลอกล่อ เพื่อน ญาติ
คนรู้จัก คนที่ทำงาน โอยยย.. เกณฑ์กันมาซื้อเพี๊ยบ
ลงในแฟนเพจ คนกด Like หลายร้อย ลงใน IG คนก็มากด Like เกือบพัน
กรี๊ดกร๊าดดด....
ใจคิดว่า โอ้ย..สิ้นเดือน ยอดถล่มทลายแน่ คนกด Like เยอะขนาดนี้
ดีใจน้ำตาจะไหล คนที่โหลดไป ก็มาโพสต์โชว์ ว่าโหลดแล้วนะ
เรางี้.. ตัวลอยแทบจะบินได้ เวลาใครชมว่าสติ๊กเกอร์แมวน่ารัก
ญาติๆ ทั้งหลาย ก็กดส่งกันใหญ่ โหลดแล้วนะจ๊ะ
ใครโหลดไม่เป็นก็ถาม โหลดยังไง ทำยังไง บลา บลา บลา
แต่... ใกล้จะครบ 1 เดือน ยอดเริ่มนิ่ง... และลดลงๆๆๆๆๆ
และแล้ว พอครบ 1 เดือน กดยอดสรุปกันดูแล้ว
แท่น.. แทน.. แท๊นนนนนนน
ยอดแชร์รวมที่ได้ 9 พันเยนต้นๆ..
"ไม่ถึง 10,000 เยน" กดเบิกเงินไม่ได้จ้าาาาาาาาา
อืมมม.. และแล้วเราก็เป็น 1 ในจำนวน 44% กว่า ที่ยอดโหลดไม่ถึง 10,000 เยน
ถามว่า อกหักมั้ย.. ก็แหง๋แหละค่ะ ใครทำ ใครก็หวังแหละ จริงป่ะ
แต่ก็ไม่แย่มากนะคะ มันได้ประสบการณ์จริงๆ อ่ะแหละ
ได้บทเรียน ได้อะไรหลายๆ อย่าง และที่สำคัญ มันก็เป็นผลงานของเรา
ซึ่งในวันนี้... ก็เลยอยากจะมาแชร์เหรียญอีกด้านนึง ให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ
ที่กำลังริเริ่มจะทำสติ๊กเกอร์บ้าง ไม่ว่าจะได้แรงบัลดาลใจมาจากไหน
อยากให้ลองชั่ง ตวง กับแรงบัลดาลดับ ดูด้วยค่ะ .. ว่าสิ่งที่กำลังจะทำ คุ้มมั้ย..
ข้อแนะนำ 2-3 ข้อ ที่อาจจะช่วยให้หยุดคิด และทำให้ดีกว่าที่เราทำค่ะ
(เพราะตอนเราทำ เราอาจไม่ได้คิด หรือคิดน้อยไป 55555)
1. อย่าจ้างคนอื่นทำ ถ้าคุณยังไม่มีแผนการตลาดที่ชัดเจน
เพราะเงินที่คุณเสียไปแล้วกับการจ้าง อาจได้ผลตอบแทนที่คาดเดาไม่ได้
ข้อนี้..เราไม่ได้จ้างค่ะ แต่แชร์สิ่งที่น้องที่รู้จัก แอบมาถาม
น้อง - พี่จ้างคนวาดเท่าไหร่ หนูจ้าง 45,000.-
พี่ - เฮ้ย.. พี่วาดเอง วาดให้เพื่อน ฟรี!
น้อง - เงิบ..
พี่ - แล้วสติ๊กเกอร์ขายหรือยัง
น้อง - ยังเลยส่งไปรีวิวนานหลายเดือนแล้ว
พี่ - เงิบ..
คือ ตอนนี้ตลาดขาย Line Sticker โตเร็วมาก.. ถ้าคุณเป็น โนบอดี้ ที่ไม่มีสื่อ ไม่มีเพจ
คุณอาจต้องเปลี่ยนวัตถุประสงค์จากการค้ากำไร เป็น
"ความพอใจที่ได้มีสติ๊กเกอร์เป็นของตัวเอง"
เพราะถ้าคุณมุ่งหวังกำไรเพียงอย่างเดียว บอกเลยว่า จุดนี้อาจยากมาก
เข้าไปดูจำนวนสติ๊กเกอร์ที่ให้คนส่งไปขายกันเองได้เลยค่ะ ตอนนี้ยอดทะลุหมื่นสองแล้ว
มีใครนั่งกดเลื่อนไปทีละหน้า จากหน้า 1 ไปถึงหน้าสุดท้ายบ้าง พูดดดดด!!!
เต็มที่ เลื่อนไปประมาณ 7 - 8 หน้า และเลือกซื้อสติ๊กเกอร์ที่ชอบไปสัก 5-6 ชุด
ก็จบละ ปิด.. ตาลาย หรือไม่ก็เริ่มรู้สึกเสียดายตังค์
ดังนั้น ถ้าคุณไม่มีแหล่งกระจาย บอกต่อ กลุ่มเป้าหมายของสติ๊กเกอร์ที่ชัดเจน
หรือแผนการตลาดที่แน่นอน หยุดคิดใหม่ก่อนค่ะ
เพราะสติ๊กเกอร์ที่เข้าไปใหม่ ไม่ได้มาอยู่หน้าแรกๆนะคะ ไม่ได้เรียงตามอักษร มันรันตามยอดโหลด
เพราะฉะนั้น ยิ่งอยู่อันดับหลังๆ ยอดโหลดก็จะยิ่งน้อยลงไปอีก เพราะคนก็จะยิ่งเห็นน้อยลงเรื่อยๆ
ไม่ว่าสติ๊กเกอร์คุณจะสวยเด่น เลอค่าแค่ไหน ถ้าไม่มีแผนทำให้คนเห็นง่ายๆ ไม่มีแผนโปรโมท
เตรียมฝันสลายได้เลยค่ะ
2. วางเป้าหมายให้ชัดเจน อย่างที่คุณ nonarav ทำนั้น ถูกต้องทุกประการค่ะ
อย่าทำอะไรแบบตามกระแส คิดแค่ว่า ตัวเองวาดรูปได้ ขอลองสักตั้ง ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไร
ถึง Line จะมีการแชร์รายได้ 50-50 แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะได้ยอดโหลดถล่มทลายนะคะ
อย่าลืมว่า 44% เป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลยนะคะ สำหรับคนที่มียอดโหลด ไม่ถึง 10,000 เยน
แล้วคิดดูว่า เมื่อเงินไม่ถึง 10,000 เยน ตั้งแต่เดือนแรก .. เดือนต่อๆไป คิดว่าจะได้มากกว่านี้?
.. ก็อาจต้องขยันทำการตลาดเพิ่ม อะไรเพิ่ม โดยถามตัวเองก่อนค่ะ ว่ามีอะไรอยู่ในหัวบ้าง
มีเวลาทำมั้ย มีกำลังใจทำรึเปล่า ในเมื่อยอดที่ควรจะพุ้งตั้งแต่เดือนแรก ดับไปแล้ว
ญาติโก โหติกา ลุง ป้า น้า อา เพื่อนสมัยประถม มัธยม มหา'ลัย โดนบังคับซื้อไปหมดแล้ว
ตอนนี้จะขายใครล่ะ.. จะบิ้วยอดยังไงต่อ? คิดค่ะ คิดให้รอบคอบ
เมื่อการวาดการ์ตูนส่งขาย Line Sticker ทำชั้นอกหักดัง "เปร๊าะ" แต่ยังไม่ตายจ๊ะ.. เลยขอแชร์ (หน่อยละกาน)
แต่ยอดไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้ ก็เลยรออยู่ว่า จะมีใครเป็นเหมือนเรามั้ยหนอ
หรือคนอื่นเค้ามียอดขายกันพุ่งแรง แซงทางโค้ง ร่ำรวยกันไปหมดแล้ว
หรือยังไง..
จนในที่สุด ก็ได้อ่านกระทู้ของคุณ nonarav
http://ppantip.com/topic/32568194
ที่ได้มาเปิดเผยความสำเร็จแบบหมดเปลือก ชนิดที่ว่า..
โอ้ว.. ถ้ามันจะต้องทุ่มเทกันขนาดนี้ล่ะก็
ถึงว่าซิ.. ทำไมสติ๊กเกอร์ของชั้น ถึงได้มียอดขายแบบ เบี้ยน้อย หอยน้อย ขนาดเน๊..
ก็เอาล่ะนะ .. ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ .. เมื่อเหรียญยอมมี 2 ด้านเสมอ
ขอยอมเป็นนางมารร้าย เปิดเผยอีกด้านของความฝันอันสวยหรู สำหรับใครต่อใคร
ที่ตื่นเช้ามา มีรัศมีดาวกระจายรอบกำปั้น ว่าชั้นจะต้องทำสติ๊กเกอร์ Line สักชุดให้จงได้!!
(แต่ไม่ได้เริ่มสักที หรือเริ่มไปครึ่งๆ กลางๆ แล้ว)
จงตั้งสติใหม่อีกสักรอบ แล้วศึกษาข้อมูลกันดีๆ อีกสักหน่อยค่ะ
เมื่ออ่านข้อมูลจากผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้ว
ก็ไตร่ตรองจากผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จด้วยก็ได้
จะได้ลองตัดสินใจกันดูให้ดี ว่าควรจะ Go on.. เพื่อตามความฝัน
หรือ Go off.. เพื่อเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า
ก่อนอื่น ขอออกตัวแรงเหมือนกัน ว่าไม่ได้เป็นนักวาดมืออาชีพค่ะ
เป็นคนที่พอจะวาดการ์ตูนเล่นได้ (วาดใส่กระดาษ) ชอบวาดขาว-ดำ
อีกตะหาก ไม่ชอบลงสี ..ปัจจุบันรับงานฟรีแลนด์ ทำพวกออกแบบ
หน้าโฆษณาในแมกกาซีน แบนเนอร์ในอินเตอร์เน็ต รับออกแบบโลโก้
นามบัตร นู่นนี่นั่น เอฟเวอรี่ติง จิงเกอร์เบล ที่เกี่ยวกับตัวอักษร
โดยใช้โปรแกรม illust เป็นหลักค่ะ
จุดเริ่มต้นของความคิดที่จะส่ง Line Sticker ขายกะเค้ามั่ง
มาจากเพื่อนสนิทค่ะ พอดีเพื่อนเลี้ยงแมว 2 ตัว ซึ่งมีแฟนเพจ มี IG เป็นของตัวเอง
เลยโทรมาจีบๆ ให้วาด 2 ตัวนี้ให้หน่อย อยากขายใน Line บ้าง
ไอ้เราก็ อืมม.. (เริ่มมองเห็นช่องทางการตลาด เพราะท่านแมว มีเพจ มี IG
ยอด Follow ก็ไม่ธรรมดา น่าสนใจนะ)
เพื่อนถามว่าจะให้จ้างเป็นเงินก้อน หรือจะแชร์กันก็ได้นะ
ไอ้เราก็ อืมม.. (มันต้องขายได้แน่ๆ มีเพจ มี IG ยอด Follow ขนาดนี้)
ขอเป็นแชร์ละกัน.. (แว่บแรกนี่ ความ งก ล้วนๆ กะกินยาวๆ จะเอาเงินก้อนทำไม)
ตอนแรกยังแซวกลับไปด้วย ว่าถ้าขายไม่ได้เลย จะลักพาตัวแมวไปถ่วงน้ำ 55555
(ไม่ได้โทษฝีมือตัวเองเล้ยยยย)
แต่จริงๆ แล้ว มันมีแว่บที่ 2 ที่ตัดสินใจรับงานนี้ค่ะ
ตรงนี้อาจ ดราม่า หน่อย ข้ามไปก็ได้นะคะ
สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลเพื่อประกอบการทำสติ๊กเกอร์อย่างเดียว
********** ข้ามไปอ่านตรง (เอาล่ะ) ได้เลยนะคะ **********
คือถ้าเป็นคนอื่น ต่อให้เป็นเพื่อนสนิทกัน คงต้องมีสัญญาทางธุรกิจบ้าง
เพราะเราก็ทำงานแลกเงินอ่ะเน๊อะ ไม่ได้อยู่องค์กรการกุศล
แต่จุดที่สำคัญ ที่ทำให้รับงานนี้ง่ายๆ เป็นเพราะที่มาของเจ้า 2 ตัวนี้มากกว่าค่ะ
ใครไม่สนิทคงเดาไม่ออก ว่าคนเลี้ยงแมวสวยๆ 2 ตัวนี้ คงมีฐานะดี มีชาติตระกูล
ที่วาดสติ๊กเกอร์ขาย คงขายขำๆ ไม่ได้กะเอารายได้อะไรหรอก บลา บลา บลา
.. ถ้าก่อนหน้านี้ อาจจะใช่ค่ะ เพื่อนคนนี้ เป็นผู้หญิงตัวคนเดียว
ทำงานเก่ง ผ่อนคอนโดเอง ผ่อนรถเอง ทำงานเก็บเงินส่งเลี้ยงพ่อที่ตจว.
ก่อนหน้านี้ เธอเลี้ยงแมวเปอร์เซียสวยๆ 3 ตัว เลี้ยงมานานมาก
เลี้ยงเหมือนลูก ชีวิตมีแต่งาน กับแมว เลี้ยงเจ้า 3 ตัวนั้นมา 10 ปีกว่าๆเห็นจะได้
เพื่อนเล่าให้ฟังว่า วันนึง ไปหาพ่อที่ตจว. ไปไหวพระ เจ้าอาวาดที่รู้จักกัน
ยกลูกแมววัดให้ตัวนึง กำลังน่ารัก รู้สึกจะแมว 3 สีมั๊งถ้าจำไม่ผิด
หลวงพ่อบอก เลี้ยงแล้วดี เจริญรุ่งเรือง.. เพื่อนเป็นคนรักแมวอยู่แล้ว
รับกลับมาโลด .. มาอยู่กับพี่ๆเปอร์เซีย 3 ตัว เล่นกันสนุกสนาน
....
ผ่านไปไม่นาน.. แมวเริ่มป่วย ทีละตัว ทีละตัว...
เพื่อนรีบพาไปหาหมอ ตรวจไปตรวจมา แมวติด "หัด" ทุกตัว
ชีวิตเหมือนสายฟ้าฟาด.. ใครเลี้ยงแมวจะรู้ ว่าถ้าเป็นโรคนี้ จบ...
เริ่มที่เจ้าลูกแมวตาย จากนั้น ที่เหลือ ก็ทะยอยกันตาย
โดยช่วงที่พาไปหาหมอ ไปอยู่กับหมอ แทบจะไปนอนที่คลีนิคหมอ
ไหนจะค่ารักษา ไหนจะสภาพจิตใจ หมดแรงทำอะไรต่ออะไร
ช่วงเวลาไม่ถึง 2 เดือน แมวที่เลี้ยงมา 10 กว่าปี ยิ่งกว่าลูก
3 ตัว ตายหมด ไม่เหลือสักตัว...
ไม่อยากจะคิดสภาพ.. ว่าเพื่อนเป็นยังไงบ้างตอนนั้น
เลยตัดบทถามว่า แล้วตอนนี้เป็นไง เจ้า 2 ตัวนี้ มาจากไหน
เพื่อนเลยเล่าต่อว่า ช่วงที่ไปๆ มาๆ คลีนิค ไปทีไร
ก็ไปร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนบ้า ไปทุกวัน ไปตั้งแต่คลีนิคยังไม่เปิด
และอยู่ดึกจนหมอแทบจะต้องลากออกมาจากกรงพักแมว
สุดท้าย ด้วยความที่หมอเป็นคนใจดีมาก และคงสงสารเพื่อนมากๆ
หมอเลยยกลูกแมวให้ 2 ตัว เพราะหมอก็มีแมวอยู่หลายตัว
... และนี่ก็เป็นที่มาของเจ้า 2 ตัวนี้ และเป็นที่มาของสติ๊กเกอร์ไลน์
Jacob & Bella cats
ซึ่งจริงๆแล้ว กะว่าเอานะ.. ถ้าสติ๊กเกอร์ขายได้ดีๆ คงช่วยเพื่อนได้เยอะ
อืมมม.....เหรอ แล้วเป็นไงล่ะ??? 5555 ไม่ได้ช่วยอัลไล..
******************
เอาล่ะ
กลับมาที่เรื่องสติ๊กเกอร์กันเถอะ 5555 แถ-ออกทะเลไปซะไกล
เมื่อรับงานมาแล้ว สิ่งที่ต้องมีให้กับงานสุดๆ และสุดๆ คือ "เวลา" ค่ะ
บอกเลยว่า การทำสติ๊กเกอร์ มันไม่ง่ายจริงๆ เพราะการวาดในกระดาษ
กับการวาดในคอมฯ ต่างกันเยอะ.. ตอนนั้นที่ทำ แทบไม่ได้ึศึกษาข้อมูลอะไร
ไม่ได้ดูเลยว่าคนอื่นเค้าทำกันยังไง เค้าใช้โปรแกรมอะไรกันบ้าง
ลงทุนซื้อ "เมาส์ปากกา" มาด้วย เอ้ออ... 1,500 บาท สบายใจ..
และแล้วการเริ่มต้น วาดการ์ตูน ด้วย illust แบบที่ไม่เคยทำมาก่อน ก็กลายเป็นงานหิน
เพราะเพื่อนบอกว่า อยากได้ลายเส้นแบบสวยๆ (นั่น! ทำฟรีแล้วยังเรื่องมากอีก)
เลือกลายเส้น ลองผิดลองถูกอยู่นานค่ะ แต่ที่พลาดคือ
ไม่ได้มีการคิดกลุ่มเป้าหมาย หรือคาแรคเตอร์อะไรอย่างเค้าเลย
อาศัยดูรูปเจ้า 2 ตัวนี้จากเพจ แล้วก็วาดแบบดิบๆ ในคอมเล้ย ไม่มีร่างแบบ
คิดว่าแมวสามารถทำท่าไหนได้บ้างก็วาดเล้ย ใจคิดแค่ว่า 40 ตัว
40 ตัว 40 ตัว.. วาดๆไปเถอะ เอาให้ครบก็พอ..
**ขอเน้นอุปกรณ์การทำงานหน่อย สำหรับคนที่ไม่เคยใช้เมาส์ปากกา
และคิดว่า จะเหมือนกับการวาดด้วยดินสอและกระดาษ
มันไม่ใช่เลย... มันไม่ใช่เลยยย.... มันยากมาก บร๊ะเจ้า! (หรือดิชั้นอาจจะยากคนเดียว)**
สุดท้ายก็ต้องมาใช้เมาส์อยู่ดี จิ้มลาก จิ้มลาก ทีละจุด ทีละเส้น ทุลักทุเลมาก
เรื่องลงสีไม่ต้องพูดถึง ดูตัวอย่างใน YouTube สดๆ ดูเดี๋ยวนั้น ทำเดี๋ยวนั้น
ไม่มีการวางแผน (มันเป็นการสร้างงานอาร์ทแบบ ครู-พัก-ลัก-จำมั่กๆ 555)
ถามว่า ส่วนตัว.. ทุ่มเทมั้ย ทุ่มเทมากค่ะ .. จากสิ่งที่ไม่ถนัด
ค่อยๆทำ ค่อยๆแต่งเติม ส่งให้เพื่อนคอมเม้นท์มาเป็นระยะๆ ผอมไป อ้วนไป
ทำท่าอะไร ดูไม่ออกฯลฯ ก็แก้กันไป..
แต่ถามว่า มีข้อผิดพลาดเยอะมั้ย.. ก็ตอบว่าเยอะมากค่ะ
บางตัว คิดถึงแค่คาแรคเตอร์ของแมวเค้า แต่ไม่ได้คิดถึงว่า
คนซื้อจะเอาไปใช้ทำอะไร 5555 เช่นตัวนี้
เพราะอย่างเราเอง ถ้าจะเสียเงิน 30 บาท ซื้อสติ๊กเกอร์สักชุด
ก็อยากได้แบบใช้ได้ในชีวิตประจำวันทุกตัว เพื่อความคุ้ม
ถ้าเห็นตัวไหนไม่ได้ใช้แน่ๆ ก็อาจจะไม่ได้ซื้อ (งกน่ะ เรื่องของเรื่อง)
รวบรัดตัดความ.. กว่าสติ๊กเกอร์จะได้ออกขายนานมาก
ตอนแรกลุ้นแล้วว่าจะโดนปฎิเสธกลับรึเปล่า เพราะมีตัวนึง
Jacob แอบซัดเบียร์กระป๋องเหลือๆ ที่เพื่อนแม่มันวางทิ้งไว้
ไม่ได้อ่านละเอียดในกฎ กติกา ว่าห้ามมีภาพที่ไม่ดีกับเยาวชน
ห้ามมีสิ่งมอมเมา เวงกำ
หรือภาพนี้ ที่ Bella แต่งหน้าเลียนแบบ เสือดาว
เอ่ออ.. ใครมันจะเอาไปใช่ในชีวิตประจำวันฟระ 55555
แต่แล้วก็ได้ออนไลน์ขายจนได้...
จากนั้น เพื่อนจะคอยรายงานความเคลื่อนไหวตลอด
วันแรกที่ออกขาย ก็คงเป็นเหมือนกันทุกคน หลอกล่อ เพื่อน ญาติ
คนรู้จัก คนที่ทำงาน โอยยย.. เกณฑ์กันมาซื้อเพี๊ยบ
ลงในแฟนเพจ คนกด Like หลายร้อย ลงใน IG คนก็มากด Like เกือบพัน
กรี๊ดกร๊าดดด....
ใจคิดว่า โอ้ย..สิ้นเดือน ยอดถล่มทลายแน่ คนกด Like เยอะขนาดนี้
ดีใจน้ำตาจะไหล คนที่โหลดไป ก็มาโพสต์โชว์ ว่าโหลดแล้วนะ
เรางี้.. ตัวลอยแทบจะบินได้ เวลาใครชมว่าสติ๊กเกอร์แมวน่ารัก
ญาติๆ ทั้งหลาย ก็กดส่งกันใหญ่ โหลดแล้วนะจ๊ะ
ใครโหลดไม่เป็นก็ถาม โหลดยังไง ทำยังไง บลา บลา บลา
แต่... ใกล้จะครบ 1 เดือน ยอดเริ่มนิ่ง... และลดลงๆๆๆๆๆ
และแล้ว พอครบ 1 เดือน กดยอดสรุปกันดูแล้ว
แท่น.. แทน.. แท๊นนนนนนน
ยอดแชร์รวมที่ได้ 9 พันเยนต้นๆ..
"ไม่ถึง 10,000 เยน" กดเบิกเงินไม่ได้จ้าาาาาาาาา
อืมมม.. และแล้วเราก็เป็น 1 ในจำนวน 44% กว่า ที่ยอดโหลดไม่ถึง 10,000 เยน
ถามว่า อกหักมั้ย.. ก็แหง๋แหละค่ะ ใครทำ ใครก็หวังแหละ จริงป่ะ
แต่ก็ไม่แย่มากนะคะ มันได้ประสบการณ์จริงๆ อ่ะแหละ
ได้บทเรียน ได้อะไรหลายๆ อย่าง และที่สำคัญ มันก็เป็นผลงานของเรา
ซึ่งในวันนี้... ก็เลยอยากจะมาแชร์เหรียญอีกด้านนึง ให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ
ที่กำลังริเริ่มจะทำสติ๊กเกอร์บ้าง ไม่ว่าจะได้แรงบัลดาลใจมาจากไหน
อยากให้ลองชั่ง ตวง กับแรงบัลดาลดับ ดูด้วยค่ะ .. ว่าสิ่งที่กำลังจะทำ คุ้มมั้ย..
ข้อแนะนำ 2-3 ข้อ ที่อาจจะช่วยให้หยุดคิด และทำให้ดีกว่าที่เราทำค่ะ
(เพราะตอนเราทำ เราอาจไม่ได้คิด หรือคิดน้อยไป 55555)
1. อย่าจ้างคนอื่นทำ ถ้าคุณยังไม่มีแผนการตลาดที่ชัดเจน
เพราะเงินที่คุณเสียไปแล้วกับการจ้าง อาจได้ผลตอบแทนที่คาดเดาไม่ได้
ข้อนี้..เราไม่ได้จ้างค่ะ แต่แชร์สิ่งที่น้องที่รู้จัก แอบมาถาม
น้อง - พี่จ้างคนวาดเท่าไหร่ หนูจ้าง 45,000.-
พี่ - เฮ้ย.. พี่วาดเอง วาดให้เพื่อน ฟรี!
น้อง - เงิบ..
พี่ - แล้วสติ๊กเกอร์ขายหรือยัง
น้อง - ยังเลยส่งไปรีวิวนานหลายเดือนแล้ว
พี่ - เงิบ..
คือ ตอนนี้ตลาดขาย Line Sticker โตเร็วมาก.. ถ้าคุณเป็น โนบอดี้ ที่ไม่มีสื่อ ไม่มีเพจ
คุณอาจต้องเปลี่ยนวัตถุประสงค์จากการค้ากำไร เป็น
"ความพอใจที่ได้มีสติ๊กเกอร์เป็นของตัวเอง"
เพราะถ้าคุณมุ่งหวังกำไรเพียงอย่างเดียว บอกเลยว่า จุดนี้อาจยากมาก
เข้าไปดูจำนวนสติ๊กเกอร์ที่ให้คนส่งไปขายกันเองได้เลยค่ะ ตอนนี้ยอดทะลุหมื่นสองแล้ว
มีใครนั่งกดเลื่อนไปทีละหน้า จากหน้า 1 ไปถึงหน้าสุดท้ายบ้าง พูดดดดด!!!
เต็มที่ เลื่อนไปประมาณ 7 - 8 หน้า และเลือกซื้อสติ๊กเกอร์ที่ชอบไปสัก 5-6 ชุด
ก็จบละ ปิด.. ตาลาย หรือไม่ก็เริ่มรู้สึกเสียดายตังค์
ดังนั้น ถ้าคุณไม่มีแหล่งกระจาย บอกต่อ กลุ่มเป้าหมายของสติ๊กเกอร์ที่ชัดเจน
หรือแผนการตลาดที่แน่นอน หยุดคิดใหม่ก่อนค่ะ
เพราะสติ๊กเกอร์ที่เข้าไปใหม่ ไม่ได้มาอยู่หน้าแรกๆนะคะ ไม่ได้เรียงตามอักษร มันรันตามยอดโหลด
เพราะฉะนั้น ยิ่งอยู่อันดับหลังๆ ยอดโหลดก็จะยิ่งน้อยลงไปอีก เพราะคนก็จะยิ่งเห็นน้อยลงเรื่อยๆ
ไม่ว่าสติ๊กเกอร์คุณจะสวยเด่น เลอค่าแค่ไหน ถ้าไม่มีแผนทำให้คนเห็นง่ายๆ ไม่มีแผนโปรโมท
เตรียมฝันสลายได้เลยค่ะ
2. วางเป้าหมายให้ชัดเจน อย่างที่คุณ nonarav ทำนั้น ถูกต้องทุกประการค่ะ
อย่าทำอะไรแบบตามกระแส คิดแค่ว่า ตัวเองวาดรูปได้ ขอลองสักตั้ง ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไร
ถึง Line จะมีการแชร์รายได้ 50-50 แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะได้ยอดโหลดถล่มทลายนะคะ
อย่าลืมว่า 44% เป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลยนะคะ สำหรับคนที่มียอดโหลด ไม่ถึง 10,000 เยน
แล้วคิดดูว่า เมื่อเงินไม่ถึง 10,000 เยน ตั้งแต่เดือนแรก .. เดือนต่อๆไป คิดว่าจะได้มากกว่านี้?
.. ก็อาจต้องขยันทำการตลาดเพิ่ม อะไรเพิ่ม โดยถามตัวเองก่อนค่ะ ว่ามีอะไรอยู่ในหัวบ้าง
มีเวลาทำมั้ย มีกำลังใจทำรึเปล่า ในเมื่อยอดที่ควรจะพุ้งตั้งแต่เดือนแรก ดับไปแล้ว
ญาติโก โหติกา ลุง ป้า น้า อา เพื่อนสมัยประถม มัธยม มหา'ลัย โดนบังคับซื้อไปหมดแล้ว
ตอนนี้จะขายใครล่ะ.. จะบิ้วยอดยังไงต่อ? คิดค่ะ คิดให้รอบคอบ