สรรพคุณเกินจริงหรือไม่ ของ BIOS LIFE "ไบออสไลฟ์" ของ ยูนิซิตี้ (UNICITY)

สวัสดีครับผมเป็นสมาชิกใหม่ ผมมีข้อของใจที่อยากรู้มากๆ เกี่ยวกับ ไบออสไลฟ์ ของ ยูนิซิตี้

     ผมต้องเท้าความก่อนว่า น้องในที่ทำงานผมคนนึงมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน เข้างานสายบ่อยๆ OTไม่สน จ้องหาแต่โอกาสที่จะลางาน วันนึงผมกับเพื่อนเลยเข้าไปถาม ว่าช่วงนี้เป็นอะไรทำไมไม่สนใจงาน เขาก็พยายามตอบแบบเลี่ยงๆว่า มีโปรเจ็คอยู่ เกี่ยวกับธุระกิจ ผมก็ถามว่าทำธุระกิจเกี่ยวกับอะไร เขาก็ตอบว่ายังไม่บอกตอนนี้ "รอให้ผมประสบความสำเร็จก่อน"

     ซึ่งจริงๆแล้วผมก็พอรู้มาอยู่บ้างว่าเขาทำอะไรอยู่ เพราะได้ยินเพื่อนๆร่วมงานเขาบ่นกันได้อาทิตย์นึงแล้ว ว่าทำเกี่ยวกับขายตรง ธุระกิจหาเครือข่ายอะไรทำนองนี้ ซึ่งจริงๆผมไม่อยากจะยุ่งเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวเขา แต่ด้วยการพูดการจากที่เปลี่ยนไป อารมณ์ที่ร้อนและหงุดหงิดขึ้น ทำให้ผมมีปัญหาที่จะร่วมงานกัน

     หลังจากวันแรกที่ลองเข้าไปคุยแล้ว ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนผมเลยลองเข้าไปถามใหม่ เริ่มจากการชวนคุยก่อน จนเขาเริ่มเปิดใจและรู้สึกว่าเราไม่ได้ดูถูกนะที่เขาทำขายตรง หรือธุระกิจเครือข่ายอะไรแบบนี้ เพราะจริงๆก็มีคนที่ทำแล้วประสบความสำเร็จและรวยตั้งเยอะแยะไป

     เขาก็เริ่มเล่าว่า ผมทำยูนิซิตี้ มันไม่ใช่ขายตรงนะพี่ มันเป็นธุระกิจเลย มีการอบรม สอนวิธีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ การชักชวนคนอื่นให้เข้ามาเป็นลูกข่ายในสายของเรา (น้องเขาใช้คำว่า ชวนให้ร่วมลงทุนทำธุระกิจร่วมกัน) ซึ่งจะไม่เน้นขายผลิตภัณฑ์ เพราะจะได้เปอร์เซ็นน้อยและช้ากว่าจะรวย สอนให้มีความคิดทะเยอทะยาน ให้คิดถึงอนาคตว่าถ้าทำงานอยู่แบบนี้ไม่มีทางรวย ทำงานให้คนอื่นเขารวย หรือต่อให้เก็บเงินได้และออกจากงานไปทำธุระกิจ เมื่อไหร่จะได้ใช้เงิน อายุ 50 หรือ 60? สอนให้คิดว่าคนที่ทำงานอยู่ทุกวันนี้คิดผิด ถ้าออกมาทำธุระกิจนี้ ตั้งแต่วันนี้ก็จะรวยวันนี้ และสอนให้เชื่อมั่นในตัวสิ้นค้าว่ามันดีวิเศษมากจริงๆ ซึ่งอันนี้แหละที่ผมฟังแล้วตกใจ เลยมาตั้งกระทู้หาคนรู้จริงช่วยกรุณาให้ความรู้ผมหน่อยครับ

     โดยน้องเขาบอกว่ามีขั้นตอนการกิน BIOS LIFE C ดังนี้
     1. ไปตรวจเลือด เพื่อวัดน้ำตาล กับคลอเรสเตอรอลก่อน (ใช้เป็นหลักฐานในการคืนสิ้นค้า ถ้ากินครบ2เดือนหรือ60วันแล้วไม่ลดลง)
     2. กินทุกวันตามคำแนะนำข้างกล่อง (ถ้าไม่ได้กินทุกวันจริงๆบริษัทสามารถตรวจได้) จนครบ2เดือนหรือ60วันพร้อมเก็บซองเอาไว้ ไปตรวจเลือดอีกครั้ง น้ำตาลกับคลอเรสเตอรอลจะลดลง (ถ้าไม่ลดคืนเงิน)
     3. กินต่อไปอีก 4-5 เดือน ก็เลิกกินยาหมอได้เลย

     น้องเขาโฆษณาว่า.....คนที่เป็นโรคเบาหวานกิน BIOS LIFE C ร่วมกับยาหมอ พอกินครบ 2เดือน คนที่ป่วยเบาหวานสามารถจะกินหวานกินขนมแบบไม่ต้องกลัวตายยังไงก็ได้ รับรองน้ำตาลไม่มีขึ้น!!!!! และถ้ากินต่ออีกเป็นเวลา 4-5 เดือนก็สามารถใช้แทนยาที่หมอจ่ายให้คนไข้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานได้ แบบทนแทนได้เลย คือเลิกกินยาของหมอแล้วกินอันนี้แทน.......จริงหรอ????

     ในระหว่างที่น้องเขาเล่า ผมได้ถามแบบเชิงประชดว่า ถ้าคนเป็นโรคเบาหวานกินอันนี้ครบ2เดือนแล้วปั๊ป กินหวานยังไงก็ได้เลยหรอ? ไม่ต้องคุมอาหารเลยหรอ? ไม่ต้องดูแลตัวเองเลยหรอ? คือทำเหมือนคนปกติที่ไม่เป็นโรคอะไรเลยหรอ? อยากกินอะไรก็กิน กินทุเรียนวันล่ะ10ลูก ไอติมอีก10กล่อง กินน้ำอัดลมอีก10ขวด ก็ไม่ต้องกลัวช็อคเลยใช่ไหม? (ผมคิดในใจ ผมปกติไม่เป็นโรคอะไรไม่อ้วนด้วย ยังไม่กล้ากินที่พูดมาเลย แต่มันยังยืนยันการันตีว่าได้อีก!) และเพื่อนผมก็แซวอีกว่าอย่างงี้ก็กินน้ำตาลวันละโลได้สบายเลยสิ น้องเขามองหน้าเพื่อนผมแล้วบอกผมว่า หมอที่เอาโปรดักส์นี้มาแชร์เขาพูดมาแบบนี้ เขาเป็นถึงระดับหมอจะโกหกทำไม ถ้าพวกพี่ไม่เชื่อก็ลองดู ผมชอบจริงๆเลยไอ้พวกไม่เชื่ออะไรง่ายๆเนี่ย บริษัทเขาบอกเลยว่าอยากจะเจอคนแบบนี้อีกสัก10คน เคยมีคนลองมาแล้ว ไปตรวจ7คลีนิคผลคือ น้ำตาลไม่ขึ้นตรงกันหมดทั้ง7คลีนิค หวังจะจับผิดบริษัท พี่ไม่เชื่อก็ลองเลยครับ

     ซึ่งน้องเขาจะย่ำอยู่ตลอดเวลาเลยว่า มีหมอที่อยู่บริษัทนี้ แม่ของหมอเขาเป็นโรคเบาหวาน แล้วเขากินมาได้ผลแบบนี้เลยมาแชร์โปรดักส์นี้ว่ามันดีมาก กินแทนยาได้เลย ไม่อันตรายด้วย เพราะกินยาไปนานๆไตจะพัง แต่อันนี้ปลอดภัยเพราะสกัดมาจากธรรมชาติ

     ผมใช้เวลานั่งคุยกับน้องเป็นชั่วโมงๆ ผมเชื่อที่น้องเขาพูดมาทั่งหมดนะ แต่ไม่เชื่ออยู่อย่างเดียวคือ สรรพคุณที่ว่ามันวิเศษขนาดนั้นจริงหรอ แล้วหมอที่บริษัทนี้ได้อบรมพนักงานมาแบบนี้จริงๆหรอ แล้วถ้าสมมุติ น้องเขาไปขายสินค้าอันนี้กับคนที่เป็นโรคเบาหวาน ซึ่งฟังโฆษณาแล้วเกิดเชื่อขึ้นมาจะอันตรายไหมครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่