ผมได้ตัดสินใจไปเรียนต่อเอกประวัติศาสตร์ ที่ ม.ราม (ผมอายุ 30 แล้ว ไม่อยากไปสอบ GAT PAT หรอกนะ ขี้เกียจไปนั่งติวให้อายเด็ก) หลังจากผมสอบ E-Testing ไปแล้ว 6 วิชา (อารยธรรมตะวันตก / อารยธรรมตะวันออก / รัฐศาสตร์ทั่วไป / ความรู้คู่คุณธรรม / ภาษาอังกฤษ เล่ม 1 / พื้นฐานวัฒนธรรมไทย ) ได้ A ไป 3 วิชา B+ 1 วิชา B 1 วิชา และ S 1 วิชา ยังเหลือวิชาสอบข้อเขียน 3 วิชา (ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกสมัยใหม่ / วิธีการทางประวัติศาสตร์เบื้องต้น และ ประวัติศาสตร์ไทย 1) แต่ผมมีข้อสังเกตดังนี้จากการดูบอร์ดประกาศคะแนนตามคณะ
1. วิชาหลายๆวิชา เช่น ภาษาอังกฤษ 1 / อารยธรรมตะวันออก / อารยธรรมโลก ข้อสอบมันไม่ได้ยากอะไรเลย มันเป็นความรู้สมัย ม.ปลายล้วนๆ ทำไมถึงยังปรากฎชื่อคนตกยาวเหยียดขนาดนี้ สำหรับคนที่มาเรียนตอนอายุอย่างผม หรือมากกว่า ผมไม่ตำหนิ เพราะ มันก็ลืมๆ ไปก็เยอะแล้ว แต่พวกเด็กๆ เพิ่งจบ ม.6 มาตกวิชาแบบนี้ ผมมองว่าสมควรพิจารณาตัวเองได้แล้วว่า ตัวเองผิดพลาดตรงไหน วิชาเหล่านี้ ผมไม่ต้องอาศัยชีทรามด้วยซ้ำ ใช้แค่ความรู้สะสม A ก็ไม่ได้ยากอะไร
2. ข้อสอบถามไม่ยาก เช่น ผมยกตัวอย่างในวิชา POL1100 (รัฐศาสตร์เบื้องต้น) เขาถามเรื่องความรู้รอบตัว เช่น อิรัก / รัสเซีย-ยูเครน / อัฟกานิสถาน แล้วเด็กหลายคนตอบไม่ได้ แสดงว่า ความรู้รอบตัวของเด็กไทย มันใช้ไม่ได้ พอตอบไม่ได้ ก็ต้องอาศัยชีทราม แล้วมันจะเอาความรู้ที่ไหนมาต่อยอด เมื่อต้องสอบข้อสอบอัตนัย (ผมชอบข้อสอบอัตนัยนะ เพราะผมสอบกลางภาควิชา HIS4601 (ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออก) ข้อสอบถามข้อเดียว ผมเขียนไปเกือบ 3 หน้า และก็ได้คะแนนดีด้วย เพราะผมมีความรู้รอบตัวด้วย และเอาพวกนี้มาต่อยอด เพราะ ข้อสอบอัตนัยต้องอาศัย ความรู้ที่ต่อยอดจากการเรียนด้วย)
3. ข้อสอบ E-Testing หลายๆคนกลัว เพราะเขาคิดว่ามันยาก ผมไม่เห็นว่ามันยากตรงไหน แค่อ่านหนังสือ และ หาความรู้รอบตัวเยอะๆ ข้อสอบมันไม่ได้ยากแบบนั้น ผมรู้สึกเสียดายเงิน 70 บาท ต่อ วิชา สำหรับบางคน มาสอบ แล้วก็สอบตก มันหมายถึงคุณต้องหาความรู้มากกว่านี้ อย่างมีคนหลายคนโวยว่า ข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษ ทั้ง ENG1001 / ENG1002 / ENG2001 / ENG2002 มันยาก มันไม่ได้ยาก เพราะมันเป็นพื้นฐานของเด็ก ม.ปลายด้วยซ้ำ โดยเฉพาะ ENG 2001 และ 2002 เป็น Unseen reading แค่จับใจความให้ได้ และหาให้ได้ว่าคนเขียนต้องการอะไร แค่นั้นคุณก็ผ่านแล้ว
ผมวิพากย์ข้อสอบ E-testing ตามที่ผมไปสอบ ข้อสอบสำหรับผม มันไม่ยาก ชีทรามมันไม่จำเป็นหรอกครับ อ่านหนังสือตำราของราม ผมว่าผ่านได้เกือบทุกวิชาแหละ และเป็นนักศึกษาต้องหาความรู้เพิ่ม ม.ราม จบยาก เพราะคุณไม่รู้จักต่อยอดความรู้ที่คุณได้มาจากการเรียน
(ม.ราม) (เรื่องการสอบ) ข้อสอบวิชาพื้นฐานของราม ก็ไม่ได้ยาก ไฉนเลย มีคนตกมากมาย
1. วิชาหลายๆวิชา เช่น ภาษาอังกฤษ 1 / อารยธรรมตะวันออก / อารยธรรมโลก ข้อสอบมันไม่ได้ยากอะไรเลย มันเป็นความรู้สมัย ม.ปลายล้วนๆ ทำไมถึงยังปรากฎชื่อคนตกยาวเหยียดขนาดนี้ สำหรับคนที่มาเรียนตอนอายุอย่างผม หรือมากกว่า ผมไม่ตำหนิ เพราะ มันก็ลืมๆ ไปก็เยอะแล้ว แต่พวกเด็กๆ เพิ่งจบ ม.6 มาตกวิชาแบบนี้ ผมมองว่าสมควรพิจารณาตัวเองได้แล้วว่า ตัวเองผิดพลาดตรงไหน วิชาเหล่านี้ ผมไม่ต้องอาศัยชีทรามด้วยซ้ำ ใช้แค่ความรู้สะสม A ก็ไม่ได้ยากอะไร
2. ข้อสอบถามไม่ยาก เช่น ผมยกตัวอย่างในวิชา POL1100 (รัฐศาสตร์เบื้องต้น) เขาถามเรื่องความรู้รอบตัว เช่น อิรัก / รัสเซีย-ยูเครน / อัฟกานิสถาน แล้วเด็กหลายคนตอบไม่ได้ แสดงว่า ความรู้รอบตัวของเด็กไทย มันใช้ไม่ได้ พอตอบไม่ได้ ก็ต้องอาศัยชีทราม แล้วมันจะเอาความรู้ที่ไหนมาต่อยอด เมื่อต้องสอบข้อสอบอัตนัย (ผมชอบข้อสอบอัตนัยนะ เพราะผมสอบกลางภาควิชา HIS4601 (ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออก) ข้อสอบถามข้อเดียว ผมเขียนไปเกือบ 3 หน้า และก็ได้คะแนนดีด้วย เพราะผมมีความรู้รอบตัวด้วย และเอาพวกนี้มาต่อยอด เพราะ ข้อสอบอัตนัยต้องอาศัย ความรู้ที่ต่อยอดจากการเรียนด้วย)
3. ข้อสอบ E-Testing หลายๆคนกลัว เพราะเขาคิดว่ามันยาก ผมไม่เห็นว่ามันยากตรงไหน แค่อ่านหนังสือ และ หาความรู้รอบตัวเยอะๆ ข้อสอบมันไม่ได้ยากแบบนั้น ผมรู้สึกเสียดายเงิน 70 บาท ต่อ วิชา สำหรับบางคน มาสอบ แล้วก็สอบตก มันหมายถึงคุณต้องหาความรู้มากกว่านี้ อย่างมีคนหลายคนโวยว่า ข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษ ทั้ง ENG1001 / ENG1002 / ENG2001 / ENG2002 มันยาก มันไม่ได้ยาก เพราะมันเป็นพื้นฐานของเด็ก ม.ปลายด้วยซ้ำ โดยเฉพาะ ENG 2001 และ 2002 เป็น Unseen reading แค่จับใจความให้ได้ และหาให้ได้ว่าคนเขียนต้องการอะไร แค่นั้นคุณก็ผ่านแล้ว
ผมวิพากย์ข้อสอบ E-testing ตามที่ผมไปสอบ ข้อสอบสำหรับผม มันไม่ยาก ชีทรามมันไม่จำเป็นหรอกครับ อ่านหนังสือตำราของราม ผมว่าผ่านได้เกือบทุกวิชาแหละ และเป็นนักศึกษาต้องหาความรู้เพิ่ม ม.ราม จบยาก เพราะคุณไม่รู้จักต่อยอดความรู้ที่คุณได้มาจากการเรียน