ยูเครนเตรียมให้อำนาจฝ่ายนิยมรัสเซียมากขึ้น

ประธานาธิบดียูเครนประกาศจะออกกฎหมายเพิ่มอำนาจแก่กองกำลังฝ่ายนิยมรัสเซียทางภาคตะวันออกของประเทศมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเปิดเผยด้วยว่า กองทัพรัสเซียที่ลักลอบเข้ามาปฏิบัติการในยูเครนนั้น ได้ถอนกำลังออกไปแล้ว

สำนักข่าวอัลจาซีรารายงานว่า นายเปโตร โปโรเชนโก ประธานาธิบดียูเครน แถลงว่าเขาจะออกกฎหมายที่เพิ่มอำนาจการบริหารจัดการและการปกครองตนเองที่มากขึ้น แก่กองกำลังฝ่ายนิยมรัสเซียทางภาคตะวันออกของประเทศ เพื่อเป็นขั้นตอนหนึ่งในการยุติการสู้รบระหว่างกองทัพยูเครนและกองกำลังดังกล่าวที่ดำเนินมายาวนานเกือบ 5 เดือน

นายโปโรเชนโกกล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ยูเครนจะยังคงเป็นประเทศเอกราชที่มีอำนาจอธิปไตยโดยสมบูรณ์ ภายใต้แผนสันติภาพรอบใหม่ที่มีการตกลงกัน ณ กรุงมินสก์ ประเทศเบลารุส เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดียูเครนยืนยันว่า พื้นที่ทางภาคตะวันออกของประเทศที่ถูกยึดครองโดยกองกำลังฝ่ายนิยมรัสเซีย ซึ่งได้แก่ โดเนตสค์และลูอานสค์นั้นจะได้รับสถานะพิเศษ

ทั้งนี้ นายโปโรเชนโกไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของกฎหมายดังกล่าวที่อ้างว่าจะเพิ่มอำนาจให้กับกองกำลังฝ่ายนิยมรัสเซีย อย่างไรก็ตาม แผนสันติภาพฉบับที่ได้มีการพูดถึงกันก่อนหน้านี้แต่ไม่ถูกบังคับใช้จริง มีข้อกำหนดต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น รัฐบาลยูเครนต้องปกป้องการใช้ภาษารัสเซียในประเทศ ต้องมีการตรวจด่านเข้าออกร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลกลางและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และนักการเมืองท้องถิ่นจะมีสิทธิให้การยอมรับผู้ว่าการในระดับภูมิภาค ซึ่งมาจากการแต่งตั้งของรัฐบาลกลางหรือไม่ก็ได้ เป็นต้น

การออกมาประกาศว่าจะให้สถานะพิเศษแก่กองกำลังฝ่ายนิยมรัสเซีย นับเป็นท่าทีที่ประนีประนอมมากขึ้นของฝ่ายรัฐบาลยูเครน หลังจากที่มีรายงานว่ากองทัพรัสเซียที่บุกรุกเข้ามาในดินแดนยูเครนเพื่อช่วยเหลือกองกำลังฝ่ายนิยมรัสเซียนั้น ได้ถอนทัพออกไปแล้ว นายโปโรเชนโกเปิดเผยว่า ขณะนี้ทหารจากกองทัพรัสเซียได้ถอนกำลังข้ามชายแดนกลับเข้าไปในรัสเซียแล้วกว่าร้อยละ 70 ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีที่จะนำไปสู่สันติภาพในอนาคต

ด้านกองทัพยูเครนออกมาเปิดเผยว่า ยังคงพบการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงในพื้นที่อย่างน้อย 6 ครั้งตลอดคืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงเริ่มมีผลบังคับใช้ มีหทารยูเครนเสียชีวิตจากการสู้รบไป 5 ราย

การต่อสู้ระหว่างกองทัพยูเครนและกองกำลังฝ่ายนิยมรัสเซียทางภาคตะวันออกของประเทศเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากกองกำลังดังกล่าวต้องการแยกตัวเป็นเอกราชจากยูเครน เช่นเดียวกับดินแดนไครเมียที่มีการทำประชามตืแยกตัวออกจากยูเครนและเข้าร่วมกับรัสเซียในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ จากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติระบุว่า ปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตจากการสู้รบรอบนี้แล้วอย่างน้อย 2,600 ราย และอพยพออกจากพื้นที่สู้รบอีกกว่า 1 ล้านคน

ที่มา : voicetv
11 กันยายน 2557 เวลา 09:21 น.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่