รองศาสตราจารย์สุกรี เห็นว่า ภาระทั้งสองตำแหน่งส่งผลกระทบต่อมหาวิทยาลัย และแสดงถึงความไม่เป็นธรรม พร้อมยืนยันจะสวมปี๊ปจนถึงที่สุด
เช่นเดียวกับกลุ่มคณาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดลจำนวนหนึ่ง ที่ออกแถลงการณ์คัดค้าน โดยให้เหตุผลของความลักลั่นระหว่างสองตำแหน่ง ที่ทำงานคนละฐานคิดกัน ส่วนพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยที่มีข้อบังคับห้ามอธิการบดีดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น นักกฎหมายเห็นว่า คงไม่มีผลอะไร เพราะรัฐธรรมนูญอยู่ในลำดับที่สูงกว่า
สำหรับศาสตราจารย์รัชตะ ยังเป็นประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ต่อมาได้รับโปรดเกล้าฯเป็น สนช. ก่อนลาออกเพื่อร่วมรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ 1 ขณะเดียวกันยังพบว่า อธิการบดีสถาบันการศึกษาทั้ง 9 แห่งยังรับตำแหน่งเป็นสนช.ด้วยเช่นกัน ทั้ง ศาสตราจารย์นายแพทย์ภิรมย์ กมลรัตนกุล จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศาสตราจารย์สมคิด เลิศไพฑูรย์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นี่ยังไม่นับรวมถึง นักวิชาการหลายคนที่เข้าร่วมในบทบาทอื่น
ผมก็ทำได้เฉพาะตัวคนเดียวแล้วก็ทำได้แค่นี้ส่วนอธิการบดีจะลาออกหรือไม่ออก ก็เป็นเรื่องของเขา ส่วนเขาจะทำอย่างไรต่อไป สังคมก็เป็นผู้รับผิดชอบ"
"ผมคนเดียวพูดแทนไม่ได้ และจะคลุมปี๊บต่อไปจนกว่าปี๊บจะพังหรือตำแหน่งจะพังก่อน ผมทำคนเดียวไม่ได้เรียกร้องคนอื่น คุณอย่าเอาผมเหมารวมว่าคณบดีคนอื่นๆ จะคิดเหมือนผม ยืนยันผมคิดของผมคนเดียว ผมทำของผมคนเดียว ไม่เกี่ยวกับคนอื่น นักเรียนนักศึกษาที่นี่ก็ไม่เกี่ยว ผมเป็นคนบ้านนอกคนหนึ่งที่เห็นว่าสามัญสำนึกของ คนในสถาบันอันสูงส่งต้องมี"
"ผมไม่รู้ว่าการเมืองของคุณแปลว่าอะไรนะแต่ว่าเมื่อผมทำงานเต็มเวลาเจ้านายผมก็ต้องทำงานเต็มเวลาแล้วเจ้านายผมทำงานพาร์ทไทม์แล้วปล่อยให้ผมทำงานเต็มเวลาก็ไม่แฟร์"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1410336327
http://news.voicetv.co.th/democracycrisis/117217.html
ถ้ามีสามัญสำนึกต้องออก!!
คลิป "สุกรี" เอาปี๊บคลุมหัว อับอายอธิการ ม.มหิดล ควบ 2 ตำแหน่ง - เรียกร้องสามัญสำนึก
เช่นเดียวกับกลุ่มคณาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดลจำนวนหนึ่ง ที่ออกแถลงการณ์คัดค้าน โดยให้เหตุผลของความลักลั่นระหว่างสองตำแหน่ง ที่ทำงานคนละฐานคิดกัน ส่วนพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยที่มีข้อบังคับห้ามอธิการบดีดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น นักกฎหมายเห็นว่า คงไม่มีผลอะไร เพราะรัฐธรรมนูญอยู่ในลำดับที่สูงกว่า
สำหรับศาสตราจารย์รัชตะ ยังเป็นประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ต่อมาได้รับโปรดเกล้าฯเป็น สนช. ก่อนลาออกเพื่อร่วมรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ 1 ขณะเดียวกันยังพบว่า อธิการบดีสถาบันการศึกษาทั้ง 9 แห่งยังรับตำแหน่งเป็นสนช.ด้วยเช่นกัน ทั้ง ศาสตราจารย์นายแพทย์ภิรมย์ กมลรัตนกุล จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศาสตราจารย์สมคิด เลิศไพฑูรย์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นี่ยังไม่นับรวมถึง นักวิชาการหลายคนที่เข้าร่วมในบทบาทอื่น
ผมก็ทำได้เฉพาะตัวคนเดียวแล้วก็ทำได้แค่นี้ส่วนอธิการบดีจะลาออกหรือไม่ออก ก็เป็นเรื่องของเขา ส่วนเขาจะทำอย่างไรต่อไป สังคมก็เป็นผู้รับผิดชอบ"
"ผมคนเดียวพูดแทนไม่ได้ และจะคลุมปี๊บต่อไปจนกว่าปี๊บจะพังหรือตำแหน่งจะพังก่อน ผมทำคนเดียวไม่ได้เรียกร้องคนอื่น คุณอย่าเอาผมเหมารวมว่าคณบดีคนอื่นๆ จะคิดเหมือนผม ยืนยันผมคิดของผมคนเดียว ผมทำของผมคนเดียว ไม่เกี่ยวกับคนอื่น นักเรียนนักศึกษาที่นี่ก็ไม่เกี่ยว ผมเป็นคนบ้านนอกคนหนึ่งที่เห็นว่าสามัญสำนึกของ คนในสถาบันอันสูงส่งต้องมี"
"ผมไม่รู้ว่าการเมืองของคุณแปลว่าอะไรนะแต่ว่าเมื่อผมทำงานเต็มเวลาเจ้านายผมก็ต้องทำงานเต็มเวลาแล้วเจ้านายผมทำงานพาร์ทไทม์แล้วปล่อยให้ผมทำงานเต็มเวลาก็ไม่แฟร์"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1410336327
http://news.voicetv.co.th/democracycrisis/117217.html
ถ้ามีสามัญสำนึกต้องออก!!