สวัสดีคะเพื่อนๆ  

ช่วงนี้มีเวลาเลยอยากรีวิวที่ต่างๆที่เคยไปมาแล้วประทับใจค่ะ  เมื่อช่วงต้นเมษายนที่ผ่านมาจขกทได้มาพักที่ Komaya Ryokan ซึ่งอยู่ติดริมทะเลสาบ Kawaguchiko และประทับใจกับวิวฟูจิซังที่เห็นมากๆค่ะ  จริงๆเป็นทริปเน้นซากุระกับฟูจิซังแต่ช่วงที่เราไปที่พัก ดอกซากุระยังไม่บานหมดค่ะคาดว่าอีกสักสี่ห้าวันคงจะบาน เรากะพลาดไปเสียดายมากๆเลยค่ะ  คิดไว้ว่าจะต้องมาที่นี่ใหม่อีกครั้งแน่ๆค่ะ  (แต่เราก้อโชคดีได้เจอซากุระ full broom ที่ Showa Kinen Park ที่เมืองTachikawa ซึ่งเป็นปาร์คใหญ่ค่ะไม่ไกลจากโตเกียว อย่างน้อย mission เราก้อ complete ค่ะ  นอกเรื่องไปนิดค่ะ)
  
กลับมาต่อที่เรียวกังที่พักนะคะ  เราจองมาจากเวปที่ใช้กันทั่วไปค่ะที่สามารถ cancel ได้โดยไม่หักค่าห้องภายในระยะเวลาที่กำหนดคะ (ไม่แน่ใจว่าระบุชื่อเวปได้หรือเปล่าค่ะ) โดยระบุตอน search ว่า Fujikawaguchiko  ทริปนี้เรากะเพื่อนอยากพักริมทะเลสาบค่ะแต่เรามีงบไม่เยอะเลยไปไม่ถึง Sunnide Resort ค่ะ ราคารวมอาหารเช้า 12,960 เยน หารสาม ก้อตกคนละ 4,320 เยน ค่ะ  

ที่นี่ไม่มีห้องน้ำในตัวค่ะจะเป็น share  ห้องอาบน้ำกับห้องน้ำ ค่ะ  แต่ห้องน้ำมีหลายห้องนะคะแบ่งชายหญิง  จขกทไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะเพราะตอนแรกไม่ได้กะจะรีวิว ห้องอาบน้ำที่นี่แปลกดีค่ะคือเค้าจะให้เราลงเวลาที่จะมาอาบน้ำเช่น ทุ่มถึงสองทุ่ม และให้อาบได้แค่ตอนเย็นนะคะ  ตอนเช้าห้ามอาบน้ำค่ะ  อิอิ  เค้าจะให้ใช้ห้องอาบน้ำห้องพักละ 1 ชั่วโมง เราก้อแบ่งเวลากะเพื่อนอาบกันคนละ 20 นาทีค่ะ  ถึงจะเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำรวมและเก่าหน่อยแต่ก้อสะอาดมากคะ  

อ้อเวลาจองห้องพักต้องบอกใน request นะคะว่าขอห้องเห็นวิวฟูจิซัง เพราะเราสังเกตว่าที่นี่ไม่ใหญ่มากห้องที่หันหน้าเข้าฟูจิซังมีไม่เยอะมากค่ะ  เจ้าของเป็นคุณลุงคุณป้า  เห็นอยู่สองคนเท่านั้นค่ะในเรียวกัง ขยันกันมากๆเลยค่ะ

การเดินทาง:  เดินทางมาสะดวกค่ะนั่งบัสจาก Shinjuku มาลงที่ สถานีรถไฟ Kawaguchiko และจากสถานีรถไฟ เราขึ้นรถ Retro bus สายที่มาทางทะเลสาบ Kawaguchikoนะคะ (รายละเอียดการเดินทางมาที่ สถานีKawaguchiko คงมีหลายท่านรีวิวไว้แล้วนะคะ ขอข้ามไปนะคะ)  ขึ้น Retro bus มาลงที่เบอร์ 17 ป้าย Music Forest ค่ะ  หรือบอกคนขับไว้ตอนขึ้นรถก้อได้ค่ะว่าจะลงป้ายนี้แล้วเดินเลียบลงมาทางทะเลสาบไม่ไกลนักจะเจอที่พักค่ะ
เรามาถึงค่อนข้างเย็นมากๆแล้วค่ะเพราะช่วงบ่ายเราไปแวะเที่ยว Chureito Pagoda หรือเจดีย์แดง มาก่อนค่ะ (ควรเอากระเป๋าลากใบเล็กหรือ backpack มานะคะเพราะถ้าจะฝากกระเป๋าที่สถานี locker ที่ใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่มีน้อยค่ะ แต่ lockerสำหรับกระเป๋าใบเล็กๆเห็นว่างเยอะค่ะ  พอดีพักบ้านเพื่อนในโตเกียวเลยเอาใบเล็กมาใช้เที่ยวที่นี่ค่ะ)

เขียนมายาวแล้วแล้ว มาดูรูปบรรยากาศโดยรอบที่พักกันนะคะ  จขกทใช้กล้องคอมแพคธรรมดากะสมาร์ทโฟน รูปอาจไม่สวยขออภัยนะคะ

หน้าที่พัก พระอาทิตย์ตกแล้วค่ะ


เคาเตอร์เชคอินค่ะ


บริเวณภายในค่ะ




นกฮูกน่ารักดีค่ะ


ห้องนอนป็นที่นอนแบบญี่ปุ่นค่ะ   มีทีวีมีแอร์ฮีทเตอร์ มีชาและคุ้กกี้ให้ทานค่ะแต่ก้อไม่ได้ถ่ายรูปห้องมาเช่นกันค่ะ

เพื่อนจขกทปลุกพวกเราตอนตีห้าค่ะ นางเอาแต่พูดว่าสวยๆๆๆ  จขกทกับเพื่อนอีกคนที่ไม่เคยตื่นเช้ามากๆเลยถึงกับเด้งลุกจากที่นอนมาดูวิวเลยค่ะ  แล้วก้อรีบออกไปถ่ายรูปข้างนอกโดยเร็วก่อนที่เมฆหมอกและแสงอาทิตย์แรงๆจะมา  จากที่พักก้อเดินไปเรื่อยๆจะเป็นทิวต้นซากุระที่กะลังตูม มีบานบางต้น  แล้วก้อเดินกันไปจนถึง Sunnide Resort ค่ะ  อากาศตอนเช้ายังหนาวมากๆนะคะแม้จะเป็นช่วงต้นเดือนเมษายนถ่ายรูปจนมือแข็งเลยค่ะ

วิวจากห้องนอนค่ะ ถ่ายตอนสายหน่อยหลังจากออกไปถ่ายรูปแล้วกลับมาทานอาหารเช้าค่ะ  (สังเกตดีๆจขกทลืมเปิดหน้าต่างค่ะรูปเลยติกระจกน่ะคะ)


วิวฟูจิซังสักนิดหน่อยนะคะ จริงๆถ่ายไว้เยอะมากค่ะเอาให้คุ้ม 555  




เริ่มเดินใกล้ Sunnide Resortแล้วค่ะ


วิวหน้า Sunnide Resort ค่ะจะเห็นฟูจิแบบไม่มีอะไรบัง


เจอซากุระบานนิดหน่อยค่ะ


ทางเดินริมทะเลสาบต้นซากุระข้างทางที่ยังไม่บานค่ะ  ถ้ามาช่วงFull bloom จะดีมากๆเลยนะคะ








แถมด้วยวิวฟูจิซังจากห้องอาหารและอาหารเช้าค่ะ  (ถ่ายมาบางส่วนค่ะยังมีไข่ดาว แฮม ข้าว และ ซุปค่ะ)




สรุปเราว่าที่พักก้อใช้ได้นะคะ ถ้าเทียบกับLocation คือจะมาพักเพื่อตื่นมาถ่ายรูปฟูจิซังตอนเช้าตรู่เพราะ Retro bus กว่าจะเข้ามาถึงจุดนี้แดดก้อแรงมากแล้วค่ะ แล้วที่นี่ก้อทำเลดีสำหรับหน้าซากุระกับใบไม้เปลี่ยนสีด้วยค่ะ  เผื่อเป็นoption ให้เพื่อนๆได้ค่ะ  ขอบคุณค่ะที่ติดตามรีวิวนะคะ