http://aramajapan.com/aramaoriginal/idol-industry-expose-arama-japan-interviews-former-idol-keekihime/7546/
เราได้พูดคุยกับ เคคิฮิเมะ อตีตสมาชิกวงไอดอล Tone Jewel เกี่ยวกับประสบการณ์และทัศนะของเธอเกี่ยวกับวงการไอดอลจากมุมมองของชาวตะวันตก
แนะนำตัวหน่อย
เคคิฮิเมะค่ะ อายุ 19 ปี เป็นชาวออสเตรีย 100% คุณคงไม่รู้จักฉันแต่ฉันเคยเป็นไอดอลในญี่ปุ่นจริงๆอยู่ช่วงหนึ่ง ฉันได้ทำสามอัลบั้มกับหนึ่งซิงเกิล และก็มีงานอินดี้จำนวนหนึ่ง การเข้าวงการของฉันเริ่มตอนฉันอายุ 15 ฉันสมัครออดิชั่นออนไลน์ของ Victor Entertainment พวกเขาสนใจและอยากเจอฉัน ตอนนั้นฉันมีแผนจะไปญี่ปุ่นอยู่แล้ว พวกเขาเลยนัดเจอฉันที่สำนักงาน มีการสัมภาษณ์และอัดเดโมเทป เพราะฉันไม่มีเดโมเทปของตัวเอง
ตอนนั้นฉันอยู่ในญี่ปุ่น 3 เดือน ในวันสุดท้าย พวกเขาถามว่าอยากจะร่วมวงไอดอลกับคนญี่ปุ่นมั้ย ฉันตื่นเต้นดีใจมาก พวกเขาบอกว่าให้ฉันกลับไปญีปุ่นในฤดูหนาวปีนั้นแล้วจะอัดเพลงกัน ฉันได้อัดแค่เพลงอินดี้ของโทโฮโปรเจ็กท์สองเพลง แต่นั่นทำให้ฉันได้พบกับสมาชิกรุ่นแรกของ Tone Jewel ริโกะ คายามะ และคานะ ซากุระ เราเริ่มอัดเพลงต่างๆสำหรับอัลบั้มแรกด้วยกัน ผึกร้องฝึกเต้นกันมากมาย เรื่องมันเริ่มต้นแบบนี้เอง
ตอนนี้คุณไม่ได้เป็นไอดอลแล้วใช่ไหม ทำไมคุณถึงออกจากค่าย แล้วอะไรที่ยากลำบากที่สุดในการออกจากค่าย
ฤดูหนาวปีที่แล้ว หัวหน้าวงคือ คานะ ซากุระ ออกจากวงไปด้วยเหตุผลเกี่ยวกับครอบครัว ฉันกับสมาชิกรุ่นที่สอง ซานะ ทากิมุระ คิดจะเป็น Tone Jewel กันต่อไป ทางค่ายก็เริ่มรับสมัครสมาชิกใหม่ แต่ระหว่างที่พักวงหลังการจากไปของคานะนั้น ฉันได้รับการติดต่อจากสำนักตรวจคนเข้าเมืองว่าฉันจะแสดงใน live house อีกไม่ได้แล้ว ที่ผ่านมาฉันได้รับการผ่อนผันเนื่องจากด้วยวีซ่านักแสดงคุณสามารถแสดงในที่ทั่วๆไปได้แต่จะแสดงใน live house ไม่ได้ คงเพราะกรณีอะไรบางอย่างที่เคยเกิดขึ้นถึงได้มีกฎงี่เง่านี่ขึ้นมา ปัญหาคือเกือบทุกวันเราจะมีแสดง 1ถึง 3 งาน และ 90% แสดงใน live house
ถ้าฉันแสดงได้ไม่กี่งานในแต่ละเดือน มันก็รู้สึกไม่เหมือนเป็นสมาชิกจริงๆแล้ว ก็เลยคิดว่าออกดีกว่าและไปทำงานทีวีแทน ครึ่งปีที่ฉันทำงานกับค่ายอย่างหนักเพื่อหางานแสดงหรือนางแบบ อะไรก็ได้ งานก็ไปได้ดี แต่หลังจากครึ่งปีผ่านไป ทางค่ายก็มาบอกว่าทำงานกับฉันอีกไม่ได้แล้ว
ฉันจะย่อให้สั้นที่สุดแล้วกันนะ เรื่องของเรื่องคือชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่เกลียดฉันต้องการทำลายชีวิตฉัน (ซึ่งนี่เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นกับนักร้องชาวต่างชาติ) เขาประสบความสำเร็จในการหลอกค่าย ยุยงให้ค่ายไล่ฉันออก ฟังแล้วไม่น่าเชื่อแต่มันจริง ฉันพยายามหาทางอยู่ญี่ปุ่นต่อแต่มันเป็นไปไม่ได้ ฉันเลยกลับออสเตรีย
เผยวงการไอดอลญี่ปุ่น
เราได้พูดคุยกับ เคคิฮิเมะ อตีตสมาชิกวงไอดอล Tone Jewel เกี่ยวกับประสบการณ์และทัศนะของเธอเกี่ยวกับวงการไอดอลจากมุมมองของชาวตะวันตก
แนะนำตัวหน่อย
เคคิฮิเมะค่ะ อายุ 19 ปี เป็นชาวออสเตรีย 100% คุณคงไม่รู้จักฉันแต่ฉันเคยเป็นไอดอลในญี่ปุ่นจริงๆอยู่ช่วงหนึ่ง ฉันได้ทำสามอัลบั้มกับหนึ่งซิงเกิล และก็มีงานอินดี้จำนวนหนึ่ง การเข้าวงการของฉันเริ่มตอนฉันอายุ 15 ฉันสมัครออดิชั่นออนไลน์ของ Victor Entertainment พวกเขาสนใจและอยากเจอฉัน ตอนนั้นฉันมีแผนจะไปญี่ปุ่นอยู่แล้ว พวกเขาเลยนัดเจอฉันที่สำนักงาน มีการสัมภาษณ์และอัดเดโมเทป เพราะฉันไม่มีเดโมเทปของตัวเอง
ตอนนั้นฉันอยู่ในญี่ปุ่น 3 เดือน ในวันสุดท้าย พวกเขาถามว่าอยากจะร่วมวงไอดอลกับคนญี่ปุ่นมั้ย ฉันตื่นเต้นดีใจมาก พวกเขาบอกว่าให้ฉันกลับไปญีปุ่นในฤดูหนาวปีนั้นแล้วจะอัดเพลงกัน ฉันได้อัดแค่เพลงอินดี้ของโทโฮโปรเจ็กท์สองเพลง แต่นั่นทำให้ฉันได้พบกับสมาชิกรุ่นแรกของ Tone Jewel ริโกะ คายามะ และคานะ ซากุระ เราเริ่มอัดเพลงต่างๆสำหรับอัลบั้มแรกด้วยกัน ผึกร้องฝึกเต้นกันมากมาย เรื่องมันเริ่มต้นแบบนี้เอง
ตอนนี้คุณไม่ได้เป็นไอดอลแล้วใช่ไหม ทำไมคุณถึงออกจากค่าย แล้วอะไรที่ยากลำบากที่สุดในการออกจากค่าย
ฤดูหนาวปีที่แล้ว หัวหน้าวงคือ คานะ ซากุระ ออกจากวงไปด้วยเหตุผลเกี่ยวกับครอบครัว ฉันกับสมาชิกรุ่นที่สอง ซานะ ทากิมุระ คิดจะเป็น Tone Jewel กันต่อไป ทางค่ายก็เริ่มรับสมัครสมาชิกใหม่ แต่ระหว่างที่พักวงหลังการจากไปของคานะนั้น ฉันได้รับการติดต่อจากสำนักตรวจคนเข้าเมืองว่าฉันจะแสดงใน live house อีกไม่ได้แล้ว ที่ผ่านมาฉันได้รับการผ่อนผันเนื่องจากด้วยวีซ่านักแสดงคุณสามารถแสดงในที่ทั่วๆไปได้แต่จะแสดงใน live house ไม่ได้ คงเพราะกรณีอะไรบางอย่างที่เคยเกิดขึ้นถึงได้มีกฎงี่เง่านี่ขึ้นมา ปัญหาคือเกือบทุกวันเราจะมีแสดง 1ถึง 3 งาน และ 90% แสดงใน live house
ถ้าฉันแสดงได้ไม่กี่งานในแต่ละเดือน มันก็รู้สึกไม่เหมือนเป็นสมาชิกจริงๆแล้ว ก็เลยคิดว่าออกดีกว่าและไปทำงานทีวีแทน ครึ่งปีที่ฉันทำงานกับค่ายอย่างหนักเพื่อหางานแสดงหรือนางแบบ อะไรก็ได้ งานก็ไปได้ดี แต่หลังจากครึ่งปีผ่านไป ทางค่ายก็มาบอกว่าทำงานกับฉันอีกไม่ได้แล้ว
ฉันจะย่อให้สั้นที่สุดแล้วกันนะ เรื่องของเรื่องคือชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่เกลียดฉันต้องการทำลายชีวิตฉัน (ซึ่งนี่เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นกับนักร้องชาวต่างชาติ) เขาประสบความสำเร็จในการหลอกค่าย ยุยงให้ค่ายไล่ฉันออก ฟังแล้วไม่น่าเชื่อแต่มันจริง ฉันพยายามหาทางอยู่ญี่ปุ่นต่อแต่มันเป็นไปไม่ได้ ฉันเลยกลับออสเตรีย