เรื่องนี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2557 เวลา 00.25 ใช้บริการแท๊กซี่ สนามบินสุวรรณภูมิ
หลังจากที่ขึ้นtaxi ที่สุวรรณภูมิ คนขับก็ขับตามปกติ ส่วนผมก็คุยโทรศัพท์ มองออกนอกหน้าต่างบ้างตามปกติ
เมื่อถึงทางออกมอเตอร์เวย์ ผมก็เหลือบเห็น คนขับรถเอาผ้าปิดตรงจอมิเตอร์.
ผมก็ถามว่า คุณเปิดมิเตอร์ไหม ? คนขับตอบภาษาไทยผมฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่พอจับใจความได้ว่า ไม่ต้องใช้มิเตอร์ แต่ผมโต้ และบอกว่าไม่ได้ คุณต้องเปิดมิเตอร์ เถียงกันจนคนขับยอมเปิด
เมื่อถึงบ้านผม ซึ่งอยู่ สุขุมวิท ซ 39 ค่ามิเตอร์ 85 บาท + 50 ค่าเซอร์วิตชาร์จ จาก สนามบิน เป็นเงิน 135 บาท ผมให้คนขับ 150 บาท แต่คนขับอธิบายบางอย่าง ผมฟังไม่รู้เรื่อง เพียงแต่ได้ยินว่า มาจาก สนามบินสุวรรณภูมิ และ ได้เปิดมิเตอร์ช้า
ผม จึงตอบว่าคุณควรเปิดมิเตอร์ ตั้งแต่สนามบิน คนขับบอกว่าลืม เราโต้กันสักพัก ผมจึงเสนอให้อีก 40 บาท คนขับไม่ยอมคงขอเพิ่ม และตอบในสิ่งที่ผมไม่เข้าใจ
ผมคิดว่าผมจบ แต่คนขับแท๊กซี่ไม่ยอม คนขับขอ ticket ที่ทางสนามบินให้ลูกค้า ผมไม่ให้เพราะใบนั้น ทางสนามบินให้ลูกค้าเก็บไว้ คนขับบอกจะไม่กลับจนกว่าจะได้ใบ ticket ( ซึ่งใบนี้จะเป็นใบที่มีข้อมูลคนขับ ผู้โดยสารสามารถ complain การใช้บริการ แท้กซี่ สุวรรณภูมิได้)
ผมบอกว่า ไม่เป็นไรคุณไม่กลับ ผมจะโทรหาศูนย์บริการลูกค้า ซึ่งเบอร์โทรอยู่ใน ticket 02-142-9199 ระหว่างที่ผมโทร เค้าก็เอามือถือถ่ายรูปผม เหมือนจะข่มขู่ผม หลังจากนั้นโอเปอเรเตอร์ก็ รับสาย ผมอธิบายเหตุการณ์ เป็นภาษาอังกฤษ เค้าไม่ค่อยเข้าใจ ผมจึงใช้ภาษาไทยซึ่งผมพูดได้ งูๆปลาๆมาก. เจ้าหน้าที่พูดบางอย่าง ซึ่งผมเดาว่าขอคุยกับคนขับ ผมจึงยื่นมือถือผมให้คนขับ
และคนขับก็ขอ ticket ผม ในขณะที่คุยกับเจ้าหน้าที่ ผมให้ไป หลังจากคุยเสร็จ คนขับก็คืนมือถือให้ผม แต่ ไม่ยอมคืน ticket ให้ผม ผมขอคืน คนขับก็ไม่ยอมบอกจะคืนทีหลัง ผมไม่ยอม ผมบอกต้องคืนผม ผมจึงกลับไปคุยต่อกับเจ้าหน้าที่และบอกว่า คนขับรถไม่ยอมคืน ticket ให้ เจ้าหน้าที่พูดบางอย่าง ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ จึงเอามือถือยืนให้ คนขับ เจ้าหน้าที่พุดกับคนขับ แล้ว คนขับรถก็ยอมคืนticket ให้ผม
ผมถามเจ้าหน้าที่ว่า ผมต้องทำอย่างไรต่อ เค้าพูดแต่ผมไม่เข้าใจเลย ผมจึงบอกว่า ไม่เป็นไรครับ จบหล่ะแล้วผมก็วางหู ผมก็ถ่ายรูปคนขับ และทะเบียนรถ และคนขับก็ให้ นามบัตรกับผมพร้อมกับขอเงินเพิ่มอีก 50 บาท
ผมถามว่า ทำไมผมต้องให้เพิ่ม อีก50 บาท ??! เค้าตอบว่าเค้าหิวข้าว!
ผมตอบเค้าว่า คุณไม่ยอมเปิดมิเตอร์ และก่อนหน้านี้ ผมก็ยอมเพิ่มให้คุณ 40 บาท ผมบอกเค้าว่า คุณไม่ใจดี ปกติผมให้แท๊กซี่เยอะกว่าครั้ง ถ้าคนขับรถใจดี ( เพราะที่อเมริกา เค้าถูกฝึกว่าต้องให้ ทิปตลอด) คนขับรถไม่ตอบ ผมบอกว่า เราจบกัน. จากนั่นรปภ.ตึกก็มา. ผมอธิบายงูๆ ปลาๆ และก็บอกว่าจบแล้ว คนขับจึงขับรถออกไป
His name is:Veerapon Chanafang นาย วีรพล ชาวนาฟาง
His license plate is: ท ศ-8192V-8192
น่าเสียเดียที่ taxiบางกลุ่มยังไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองให้สังคมน่าอยู่ขึ้น เมืองไทยเป็นเมืองที่สวยงาม เพื่อนๆผมรักเมืองไทยและมาเที่ยวประจำ แต่ประสบการณ์ คนต่างชาติกับ taxi ต้องโดนทุกราย บางรายโดนจนเป็นเรื่องปกติ ถ้ามาเมืองไทย
สันดาน Taxi โดนซะบ้าง !!!
หลังจากที่ขึ้นtaxi ที่สุวรรณภูมิ คนขับก็ขับตามปกติ ส่วนผมก็คุยโทรศัพท์ มองออกนอกหน้าต่างบ้างตามปกติ
เมื่อถึงทางออกมอเตอร์เวย์ ผมก็เหลือบเห็น คนขับรถเอาผ้าปิดตรงจอมิเตอร์.
ผมก็ถามว่า คุณเปิดมิเตอร์ไหม ? คนขับตอบภาษาไทยผมฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่พอจับใจความได้ว่า ไม่ต้องใช้มิเตอร์ แต่ผมโต้ และบอกว่าไม่ได้ คุณต้องเปิดมิเตอร์ เถียงกันจนคนขับยอมเปิด
เมื่อถึงบ้านผม ซึ่งอยู่ สุขุมวิท ซ 39 ค่ามิเตอร์ 85 บาท + 50 ค่าเซอร์วิตชาร์จ จาก สนามบิน เป็นเงิน 135 บาท ผมให้คนขับ 150 บาท แต่คนขับอธิบายบางอย่าง ผมฟังไม่รู้เรื่อง เพียงแต่ได้ยินว่า มาจาก สนามบินสุวรรณภูมิ และ ได้เปิดมิเตอร์ช้า
ผม จึงตอบว่าคุณควรเปิดมิเตอร์ ตั้งแต่สนามบิน คนขับบอกว่าลืม เราโต้กันสักพัก ผมจึงเสนอให้อีก 40 บาท คนขับไม่ยอมคงขอเพิ่ม และตอบในสิ่งที่ผมไม่เข้าใจ
ผมคิดว่าผมจบ แต่คนขับแท๊กซี่ไม่ยอม คนขับขอ ticket ที่ทางสนามบินให้ลูกค้า ผมไม่ให้เพราะใบนั้น ทางสนามบินให้ลูกค้าเก็บไว้ คนขับบอกจะไม่กลับจนกว่าจะได้ใบ ticket ( ซึ่งใบนี้จะเป็นใบที่มีข้อมูลคนขับ ผู้โดยสารสามารถ complain การใช้บริการ แท้กซี่ สุวรรณภูมิได้)
ผมบอกว่า ไม่เป็นไรคุณไม่กลับ ผมจะโทรหาศูนย์บริการลูกค้า ซึ่งเบอร์โทรอยู่ใน ticket 02-142-9199 ระหว่างที่ผมโทร เค้าก็เอามือถือถ่ายรูปผม เหมือนจะข่มขู่ผม หลังจากนั้นโอเปอเรเตอร์ก็ รับสาย ผมอธิบายเหตุการณ์ เป็นภาษาอังกฤษ เค้าไม่ค่อยเข้าใจ ผมจึงใช้ภาษาไทยซึ่งผมพูดได้ งูๆปลาๆมาก. เจ้าหน้าที่พูดบางอย่าง ซึ่งผมเดาว่าขอคุยกับคนขับ ผมจึงยื่นมือถือผมให้คนขับ
และคนขับก็ขอ ticket ผม ในขณะที่คุยกับเจ้าหน้าที่ ผมให้ไป หลังจากคุยเสร็จ คนขับก็คืนมือถือให้ผม แต่ ไม่ยอมคืน ticket ให้ผม ผมขอคืน คนขับก็ไม่ยอมบอกจะคืนทีหลัง ผมไม่ยอม ผมบอกต้องคืนผม ผมจึงกลับไปคุยต่อกับเจ้าหน้าที่และบอกว่า คนขับรถไม่ยอมคืน ticket ให้ เจ้าหน้าที่พูดบางอย่าง ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ จึงเอามือถือยืนให้ คนขับ เจ้าหน้าที่พุดกับคนขับ แล้ว คนขับรถก็ยอมคืนticket ให้ผม
ผมถามเจ้าหน้าที่ว่า ผมต้องทำอย่างไรต่อ เค้าพูดแต่ผมไม่เข้าใจเลย ผมจึงบอกว่า ไม่เป็นไรครับ จบหล่ะแล้วผมก็วางหู ผมก็ถ่ายรูปคนขับ และทะเบียนรถ และคนขับก็ให้ นามบัตรกับผมพร้อมกับขอเงินเพิ่มอีก 50 บาท
ผมถามว่า ทำไมผมต้องให้เพิ่ม อีก50 บาท ??! เค้าตอบว่าเค้าหิวข้าว!
ผมตอบเค้าว่า คุณไม่ยอมเปิดมิเตอร์ และก่อนหน้านี้ ผมก็ยอมเพิ่มให้คุณ 40 บาท ผมบอกเค้าว่า คุณไม่ใจดี ปกติผมให้แท๊กซี่เยอะกว่าครั้ง ถ้าคนขับรถใจดี ( เพราะที่อเมริกา เค้าถูกฝึกว่าต้องให้ ทิปตลอด) คนขับรถไม่ตอบ ผมบอกว่า เราจบกัน. จากนั่นรปภ.ตึกก็มา. ผมอธิบายงูๆ ปลาๆ และก็บอกว่าจบแล้ว คนขับจึงขับรถออกไป
His name is:Veerapon Chanafang นาย วีรพล ชาวนาฟาง
His license plate is: ท ศ-8192V-8192
น่าเสียเดียที่ taxiบางกลุ่มยังไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองให้สังคมน่าอยู่ขึ้น เมืองไทยเป็นเมืองที่สวยงาม เพื่อนๆผมรักเมืองไทยและมาเที่ยวประจำ แต่ประสบการณ์ คนต่างชาติกับ taxi ต้องโดนทุกราย บางรายโดนจนเป็นเรื่องปกติ ถ้ามาเมืองไทย